[CR] [CR] Leh Ladakh ; Unexpected Journey [ทริปหมอๆขอลา(ดักห์)พักร้อน]

Module III : Find your destination.

Schedule   28th July 2017 – 5th Aug 2017

DAY 0 ; 28th July 2017 ;  I'm Here .. India Taj Mahaj, Agra fort

    ออกเดินทางจากประเทศไทยด้วยสายการบินไทย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ลัดเลาะข้ามหลายประเทศจนมาถึงชมพูทวีปอินเดีย โดยส่วนตัวไม่อยากเรียกวันนี้ว่าเป็น Day 1 สักเท่าไหร่  (เลยให้เป็น DAY 0 ละกัน) เพราะว่าอะไรอ่ะหรอ ก็นกกกกกกกกกกกกไงละ จะอะไรอีก เริ่มต้นจากพอลงจากเครื่องบินมา แพลนกันไว้ว่าจะไปทัชมาฮาลกัน แล้วจะไปกันยังไงละ คำตอบคือไม่รู้ เห็นเขาบอกว่าเดินลงมาก็ไปหาเอาแถวหน้าสนามบิน เราก็ไปหาตรงบริเวณหน้าสนามบิน


หมายเหตุ ; สนามบินนิวเดลี มีระบบรักษาความปลอดภัยที่นับว่ายอดเยี่ยมที่สุด มีทหารถือไวอาก้า เอ้ย ปืนอาก้า เตรียมสอยคุณได้ทุกเมื่อ แต่ก็ปลอดภัยมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นขอเตือนว่า อย่าออกจากสนามบินเด็ดขาด มิเช่นนั้นแล้วคุณจะกลับเข้ามาในสนามบินอีกไม่ได้ เฉกเช่นที่เพื่อนเดี่ยวอาสาออกไปนอกสนามบินเพื่อหารถให้เพื่อน แล้วก็กลับเข้ามาไม่ได้อีกจนเพื่อนออกไปข้างนอกนั่นแหละ น่าวงวารเป็นที่สุด
หมายเหตุ ; ถ้าคุณคิดว่าจะซื้อซิมใส่โทรศัพท์เพื่อไว้ใช้เล่นเน็ตหรืออะไรก็ตาม ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าที่แคว้นเมียร์นั้น ไม่สามารถใช้สัญญาณโทรศัพท์ได้ เพราะฉะนั้นเลิกหวังไปได้เลย  ถ้าจะโทรกลับไทยก็ให้โทรที่สนามบินนี่แหละ  ถามว่าที่เลห์มีอินเตอร์เน็ตไหม ก็ขอตอบว่ามีแหละ แต่มันช้ามาก บางทีอาจเล่นไม่ได้ด้วย จงทำใจให้สบาย คิดซะว่าหายไปจากโลกหายนอกสักระยะนึงก็แล้วกัน  ฮ่าๆ


แล้วเราก็ได้รถมาคันนึง  แต่ !!!!! คันเล็กเวอร์เมื่อเทียบกับคน 5 คน นั่งหน้า 1 คน นั่งหลัง 4 คน ผู้ชายล้วน ให้ตายสิ เส้นทางจากนิวเดลี ไปอัครา 222 กิโลเมตร คนขับใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมงในการเดินทาง นั่งอัดกันจนปวดไข่แบนไปหมด ปวดตูดชาไปหมดจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว (มันเห้มากจริงๆนะ แล้วนี่ทำไมบ่นจัง ฮ่าๆ)

ได้ลงจากรถสักที (ดีใจเหมือนเปิดฝากระทิงแดงแล้วใต้ฝาบอกว่าคุณติดคณะแพทย์ ฮ่าๆๆ ) ไปหาอาหารเช้ากินกันเถอะ มันต้องอร่อยมากแน่ๆ

อาหารอินเดียจานแรก โอ้วมายกอด รสชาติเป็นยังไง ขอเก็บไว้ให้ไปลองเองนะ  .......  


กว่าจะมาถึงอัคราก็ปาไปเกือบบ่ายโมงละ และคนขับรถที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้แต่น้อยของเราก็พาไปพบกับไกค์ท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้บอกไว้แม้แต่น้อย (นึกว่าคนขับจะพาไปเป็นซะอีก คือมัดมือชกให้เสียตังค์เพิ่มใช่ไหม =_=) คนขับที่พามาคือไม่รู้เส้นทางในอัคราเลย พีคไปอีกกกกกก  และพีคกว่านั้นคือ ทัชมาฮาล ปิดทุกวันศุกร์นะจ๊ะยูจ๋า  (โอ้ยยยยย กุมาทำมาย ทำไมยูไม่บอกไอก่อนนนนนน T^T)  เลยไปได้เพียงสวนหลังทัชมาฮาล ซึ่งก็มีค่าเข้าชมนะจ๊ะ

ช่วงนี้ผีเข้าสิงเพื่อน ... หน้าเพื่อนก็จะมืดๆหน่อย

ภาพถ่ายจากทางด้านหลังของทัชมาฮาล มีแม่น้ำกั้นอยู่  เหมือนเส้นบางๆที่กั้นอยู่ระหว่างเราทั้งสองคน  ...
Taj Mahal .. Touch Your Heart … มาตั้งไกล  แต่ได้แค่อยู่ใกล้เธอ ....

หลังจากไกค์อธิบายถึงความเป็นมาของการสร้างทัชมาฮาล รวมถึงเพชรอันมีค่า (ยังกะเพชรซิลมาริล ในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์) จบลง เพื่อเป็นการปลอบใจ ไกค์ได้พาเราไปยังที่อีกแห่ง เรียกว่า “Baby Taj” ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันแทน
Baby Taj  .. hey Baby I love you.  

บางทีสถานที่ที่เราไปอาจจะไม่สำคัญ .. เท่ากับการได้ไปใครสักคนที่ “สำคัญ”

สถานที่ต่อไปเป็นอีกแลนด์มาร์คที่เราต้องไปกัน นั่นก็คือ agra fort หรือ ป้อมอัครา นั่นเอง นั่งรถมาไม่ไกลก็มาถึงยังป้อมอัครา ซึ่งในปัจจุบันเรายังไม่สามารถเข้าชมได้ทุกส่วนของป้อม เนื่องจากเหตุผลทางการเมืองและการทหารบางประการ
มาถึงแล้ว ป้อมอัครา ... ตูมหายไปไหนนนนนนนนน !!!
ทางเดิน  ...
The face men Thailand ..
เขาบอกว่ามันคือสถานที่เอาไว้ให้กษัตริย์คัดเลือกพระสนม หรือเอาไว้นัดเดทมั้ง จำไม่ได้แล้ว

และหลังจากที่เข้าชม agra fort เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็คงต้องถึงเวลาบอกลาเมืองอัคราและไกค์กิตติมศักดิ์ของเราเสียที
แต่การจากลานั้นย่อมมีราคา ซึ่งเป็นราคาพิเศษสมคำว่า “Don’t’ worry, You’re friends, you’re my guest” ในราคา 4000 รูปี (ลดแล้วจาก 6000 รูปี) หลังจากกลั้นน้ำตาแทบไม่ไหวในการจากลาครั้งนี้ ก็ต้องแทบร้องไห้อีกครั้งเมื่อต้องนั่งรถคันเดิมกลับนิวเดลี ซึ่งแค่คิดก้เจ็บก้นละ ...

ในที่สุดเราก็กลับมายังนิวเดลีได้สำเร็จ ระหว่างทางเฉียดตายเล็กน้อย เพราะคนขับเหมือนจะหลับในอยู่ตลอดเวลา และการขับด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. สำหรับวันนี้เราพักกันที่ hotel 37 delhi  
อ้าว ในห้องมีคนอินเดียด้วยหรอเนี่ย  ....
ทริปนี้ไม่มีผู้หญิงนะ มีแต่ชายฉกรรจ์  

คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์  ..


หมายเหตุ : สำหรับการมาเที่ยวทัชมาฮาลเองแบบ un-planned แบบนี้ขอแนะนำว่าไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง ควรจะหาข้อมูลไว้เป็นอย่างดี อย่างน้อยยูก็ควรจะรู้ว่าทัชมาฮาลมันปิดวันศุกกกกกกกกกกกกกกร์  แล้วต้องระวังทุกการกระทำด้วย เพราะอาจจะต้องเสียเงินเพิ่มโดยไม่จำเป็น เช่น สัมภาระที่ยูวางทิ้งไว้ แล้วมีแขกใจดีวิ่งมาช่วยยกให้ อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะหลังจากนั้นยูจะได้ยินคำว่า “ My Tip ?“ ทางที่ดีถ้าอยากไปทัชมาฮาลจริงๆอาจหาทัวน์มาจากไทยไว้แต่เนิ่นๆก็ได้
หมายเหตุ : คนอื่นที่มาแบบพวกเราอาจจะไม่ประสบปัญหาแบบพวกเราก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้คิดว่ามันไม่ดีนะ เรื่องที่เล่าไปมันอาจจะเกิดขึ้นกับเราแค่คนเดียวก็เป็นได้  หรือว่าแท้จริงๆแล้วคือกุโง่เองวะ?? =_=



DAY 1  ; 29th July 2017 ; Stay with me to see Shanti Stupa , Sanskarmonatery ,TsemoGompa, Leh palace , Main bazar
หลังจากลงเครื่องตอนเช้าเสร็จ พวกเราติดต่อรถจากที่ guest house ให้มารับที่สนามบินไว้ล่วงหน้า คนขับรถได้พาเรามายังที่พักเพื่อเก็บของกันก่อน แล้วเจ้าของบ้านก็บอกว่าให้ไปนอนพักกันก่อน(แกมบังคับ)ตอนแรกก็งงว่าทำไมต้องให้นอนพักก่อน พอหัวถึงหมอนแค่นั้นแหละ รู้สึกอากาศมันเบาบาง หายใจเร็วกว่าปกติ แล้วก็เหนื่อยมาก เผลอหลับไปเกือบสองชั่วโมง
ถึงแล้วเลห์ลาดัก แล้วความรักล่ะ เมื่อไหร่จะพบ ..

นอนกันไปถึง สองชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทาง ซึ่งสถานที่แรกที่เราจะไปนั้นก็คือ
    Shanti Stupa ;  เป็นสถูปสีขาวซึ่งตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,500 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่บริเวณฐาน  สร้างโดยพระภิกษุชาวญี่ปุ่น (มาได้ไงไม่รู้เหมือนกัน)  เอาเป็นว่าไม่ต้องรู้ก็ได้มั้ง ตอนไปเราก็ไม่รู้หรอกมันคืออะไร ตามๆเขาไปงั้นแหละ 555  คือมันเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาถ่ายภาพมุมสูงแบบ Panorama  มาก  ถ้าอยากได้ภาพมุมกว้าง ขอแนะนำให้มาที่นี่ แล้วจะไม่ผิดหวัง  แต่บางทีภาพที่ได้ อาจจะไม่กว้างเท่าใบหน้าของเพื่อนคุณก็เป็นได้ ....

Sankar Monastery ;เป็นสถานที่ทำพิธีทางศาสนาประมาณนั้นมั้ง ข้างในจะมีรูปภาพที่เกี่ยวกับองค์ดาไลลามะ เราก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอก  เพราะไม่รู้จะถามใครอ่ะ (แล้วเมิงจะมารีวิวทำด๋อยไร)
ตูมตามสารภาพบาปทั้ง 7 ...

Leh palace ;ปราสาทแห่งเลห์สักพักคนขับรถก็พามาอีกที่ซึ่งไม่ไกลกันมาก เป็นสถานที่ที่ดูมีมนตร์ขัง แล้วก็ขังจริงๆ เรางงๆกับทางข้างในมาก บางที่ก็มืด มีหลายชั้นให้เดิน ก็โอเคนะ เหมือนเดินในเขาวงกตเล็กน้อย แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นปราสาทโบราณดี ควรมาสัมผัสบรรยากาศสักครั้ง
มีความยุโรปเบาๆ แต่อากาศนั้นร้อนไม่เบาเลย
นึกว่าถ่ายที่เกาหลี  ..


Main Bazar ; ตลาดนัดที่มิเคยหลับใหล แหล่งหาอาการของผู้อดอยากอย่างพวกเรา ที่จะขาดไปไม่ได้ในการซื้อแต่ละวันก็คือ น้ำผลไม้ เพราะอะไรอ่ะเหรอ ลองมาสัมผัสเองแล้วคุณจะรู้ว่าทำไม ฮ่าๆๆ สินค้าที่เป็นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือผ้า Pashmina เป็นผ้าที่ทำมาจากขนของแพะในแถบแคชเมียร์ บางร้านบอกว่า นี่นะต้องรอให้แพะเอาตัวไปถูตามกิ่งไม้ แล้วเราก็จะเดินตามไปเก็บขนที่ติดตามกิ่งไม้นั้นมาถักทอเป็นผ้านี้ (กรอกตาบนนิดหน่อย)ถ้าใครชอบก็สามารถเลือกซื้อกลับไปใช้หรือจะฝากคนที่เรารักก็ได้ (เพื่อนก็ซื้อกลับไปตั้ง 2 ผืนแน่ะ) ส่วนราคาก็ค่อนข้างแพงสักเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับเนื้อผ้าที่นุ่มน่าสัมผัสเล่นทั้งวันแล้วก็ถือว่าคุ้ม

สาวหล่อคนเดียวในทริป
ไม่รู้จะ ละมุนี  ตามนิยามของตูมไหม  คือตรูถ่ายภาพไม่เก่งไงเฟ้ย
ชื่อสินค้า:   Leh Ladakh, Delhi, India, Traveling, Backpack
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่