สามีเงินเดือนไม่มาก แต่อยากให้ออกจากงานประจำเพื่อมาเลี้ยงลูก

เรากับสามีอายุ 27 ปี แต่งงานมาแล้ว 2 ปี .. ตอนนี้มีลูกด้วยกันอายุ 6 เดือน
สามีอยากให้เราออกจากงานประจำมาเลี้ยงลูก ให้เวลาเต็มที่กับลูก เราเองก็สงสารลูกเพราะทุกวันนี้ไปรับส่งเช้าเย็นบ้านพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงก็เลี้ยงดีไม่เคยมีปัญหา แต่ความอบอุ่นสายสัมพันธ์แม่ลูกก็จะไม่ได้รับเต็มที่ ลูกก็สุขภาพไม่ค่อยดี เจ็บป่วยบ่อย (มีภูมิแพ้จากกรรมพันธุ์ทางเราเอง่ะ)
.
งานที่เราทำตอนนี้เป็งงานมั่นคง ทำงานมาแล้ว 2 ปี.. เงินเดือน 3หมื่นต้นๆ.. เลือนขั้น 1 ขั้นทุกปี ปีละเกือบ 2,000 บาท ณ ตอนนี้ อาจจะไม่มากมายแต่ก็เหลือพอไว้เก็บ เราจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างของลูก ค่านม ค่าเพิส ของเล่น เสื้อผ้า ฯลฯ  ของกินของใช้ในบ้าน และจะสมทบสามีในส่วนของค่าน้ำมันรถและค่าทางด่วน (เราทำงานกันคนละที่แต่ใช้รถคันเดียวกันไปทำงาน)
.
การที่จะออกจากงานประจำมันทำให้เรากังวลมากๆ สามีเป็นมนุษย์เงินเดือน รายได้ต่อเดือนพอๆ กับเรา.. ทุกวันนี้ สามีเป็นคนรับผิดชอบค่าเช่าบ้านซึ่งตกเดือนละ 8พัน ไปเต็มๆ ยังมีค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่ากับข้าว.. หักไปหักมา แกมีเงินเก็บแต่ละเดือนหลักพันต้นๆ..
.
สามีเราเป็นคนรักครอบครัว แกอยากทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว แกเป็นห่วงลูก อยากให้ลูกอยู่กับแม่เอง..และแกยอมจะหางานเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ แต่เรากลัวว่าถ้าให้สามีทำงานคนเดียว แกจะเหนื่อยและจะกลายเป็นทำงานเพิ่มเท่าตัวจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวและไม่มีเวลาพักผ่อนสำหรับตัวเอง..
.
เราไม่เคยเป็นแม่บ้านมาก่อน เรียนจบมาเราก็ทำงานเลย ค่อนข้างแอคทีฟเรื่องการทำงาน พบปะผู้คน แต่พอมีลูก เราเริ่มเหนื่อยกับการทำงานประจำที่จะต้องออกแต่เช้าและเจอหน้าลูกอีกทีก็เริ่มค่ำ หน้าที่ของภรรยาต่อสามีก็เริ่มลด เพราะต้องเอาเวลาไปทุ่มเทกับลูก เล่นกับลูกเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปตอนกลางวัน
.
ทุกวันนี้เรายังฝืนทนทำงานต่อ ก็เพื่อครอบครัว กลัวถ้าซักวันเราต้องออกจากงานประจำจริง ธุรกิจสามีไม่ประสบผลสำเร็จ หรือเดือดร้อนการเงิน อย่างน้อยเราก็ยังสามารถ Back up สามีได้... ตอนนี้ เงินเก็บเราจะมีมากกว่าสามี เราเก็บไว้ยามฉุกเฉินสำหรับครอบครัวด้วย
.
เราเข้าใจในความหวังดีของสามี แต่เราก็กังวลอนาคตว่าเค้าจะไม่สามารถ support การเงินสำหรับครอบครัวได้
.
เราควรออกจากบ้านเลี้ยงลูกเต็มที่ และค่อยเริ่มธุรกิจเล็กๆ ดีไหม? เพราะอีกใจก็ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องธุรกิจ เพราะไม่เคยทำมาก่อน หรือเราคิดมากกับชีวิตไป
ใครมีประสบการณ์คล้ายๆกัน มีคำแนะนำ หรือความเห็นอะไรบ้างคะ?
.
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับ คห. นะคะ
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
รายได้เป็นความมั่นคงในครอบครัว ออกจากงานขาดรายได้ เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดแล้ว และยิ่งทำให้สั่นคลอนยิ่งเพิ่มความเครียด ปัญหาสารพักอีกหลายอย่างตามมาไม่รู้จบ ค่าใช้จ่ายที่รอจ่ายอีกมากมายค่าเทอมต้องใช้เงินก้อนใหญ่. หากจะทำธุรกิจก็ดีแต่ก็ใช้เวลาเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 4
ผมไม่สนับสนุนให้ลาออกนะครับ  ออกมาแล้วหาเงินยากมากและจะอยู่ยากขึ้นด้วย
ตัวผมเองและภรรยาผ่านการค้าขายมาสารพัดอย่าง ในตอนนี้ไม่เดือดร้อนทั้งเรื่องเงินและเรื่องอาชีพแล้ว
แต่ผมก็ไม่สนับสนุนให้คนทำธุรกิจส่วนตัว  ถ้าไม่มีช่องทางจริงๆจะทำได้ยาก และไม่ค่อยจะเห็นเงินทำไปก็เครียดไป
อดทนทำงานกินเงินเดือนต่อไปดีกว่าครับ  อย่าลาออกมาเลยครับ เงินสำคัญกว่าเรื่องอื่นๆครับ
ความคิดเห็นที่ 6
คุณก็บอกเองว่าเงินเดือนสามีทุกวันนี้หักทุกอย่างเหลือหลักพัน
แล้วถ้าคุณไม่ทำงานรายได้ลด 30,000 แต่แฟนคุณรายจ่ายเพิ่ม
เพราะต้องรับผิดชอบในส่วนที่คุณเคยจ่าย รับผิดชอบคนเดียวทั้งหมด คิดว่ามันจะพอเหรอ?
แล้วที่คิดว่าจะมาทำธุรกิจส่วนตัว มันไม่ง่ายขนาดนั้นคุณต้องใช้เงินและเวลา
ทุกวันนี้เงินคือสิ่งขับเคลื่อนชีวิต ถ้าอยากให้ลูกมีคุณภาพที่ดีคุณต้องมีเงิน support เค้า
ตอนนี้แฟนคุณอาจจะมองแค่ว่าอยากให้เวลากับลูกอยากเลี้ยงลูกเอง
แต่เมื่อถึงเวลาแล้วการเงินมีปัญหา ชักหน้าไม่ถึงหลัง ครอบครัวจากเย็นก็จะเป็นร้อน
คุณไม่ได้ทิ้งลูกคุณก็ยังทำหน้าที่พ่อแม่ให้กับเค้าทุกวัน
ไม่จำเป็นต้องอยู่กับเค้า 24 ชั่วโมงหรอก ทำงานเก็บเงินไว้สร้างอนาตให้เค้าดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 8
เราเคยผ่านประสบการณ์คล้าย ๆ กับคุณคือต้องทำงาน ฝากลูกกับพี่เลี้ยงที่เปลี่ยนแทบจะทุกสองเดือน แต่เราต้องผ่อนบ้านและเลี้ยงแม่ด้วย อยากออกมาเลี้ยงลูกใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ เพราะภาระเยอะเหลือเกิน สุดท้ายก็ตัดสินใจทำงานต่อมาจนมาลาออกตอนอายุสี่สิบกว่า เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้คุณฟังเผื่อจะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ

เรื่องแรกคือการที่คุณกลัวว่าลูกจะไปติดนิสัยของพี่เลี้ยง ถ้าคุณดูแลเองใกล้ชิดตอนเย็นกับเสาร์อาทิตย์ เราว่าข้อนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะคุณจะเห็นทันทีที่ลูกมีพฤติกรรมแปลกๆ ที่ไม่ดีและแก้ได้ทันที และถึงคุณจะไม่ได้อยู่กับลูกตลอด 24 ชั่วโมงก็อย่ากลัวว่าลูกจะขาดความอบอุ่นถ้าคุณให้ความสนใจเค้าเต็มที่ในช่วงที่อยู่ด้วยกัน ลูกเราสองคนไม่มีใครติดพี่เลี้ยงเลยซักคน ติดแม่กันหมด

เรื่องที่สองคือรายได้ของครอบครัว ถ้าคุณเลิกทำงาน รายได้ในครอบครัวจะหายไปเลย 3 หมื่น หรือครึ่งนึงของครอบครัวเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้นับว่าเยอะ ถึงสามีคุณจะยอมทำงานมากขึ้นแต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะพอใช้กันสามคน ยิ่งอีกหน่อยลูกเรียนหนังสือจะยิ่งต้องใช้เงินอีกเยอะ เราว่าตรงนี้เป็นความเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงมากกว่า

ถ้าเราเป็นคุณเราจะตัดสินใจทำงานต่อ แต่เลือกทางนี้มันก็มีข้อเสียเหมือนกันแบบที่คุณคงรู้อยู่แล้วคือต้องแลกกับสุขภาพของตัวเอง เพราะเราไม่เคยได้นอนหลับเต็มตาเลยเป็นสิบๆ ปีช่วงลูกสองคนยังเล็ก และปัญหาสุขภาพก็เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เราต้องเลิกทำงานก่อนเกษียณ แต่ถ้าเรากลับไปได้เราก็ยังคงจะเลือกแบบนี้ เพราะการที่เราเลือกทำงานต่อทำให้เรามีเงินเก็บพอที่จะดูแลตัวเองได้ตอนแก่โดยไม่เป็นภาระกับเขา ซึ่งถือว่าเป็นการรับผิดชอบต่อลูกอีกแบบหนึ่งเหมือนกันนะเราว่า
ความคิดเห็นที่ 18
สามีคุณโลกสวยมากกกกก ตัวเองยังเอาแทบไม่รอดเลย นี่จะต้องแบกไว้อีก 3 ชีวิต จะไหวเหรอ
แค่ฝากเลี้ยงกับพี่เลี้ยง ไม่ถึงกับทำให้สายสัมพันธ์ กับลูกไม่ดีหรอกค่ะ
หลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ ก็พยายามใช้เวลากับเค้าเยอะๆ
พูดคุย หากิจกรรมทำร่วมกัน

เดี๋ยวลูกก็เริ่มเข้าโรงเรียนแล้ว ยิ่งต้องใช้เงินเยอะนะคะ ถ้าเงินของสามีเหลือแค่หลักพันต่อเดิอน จขกท. ทำงานต่อดีกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่