++ หากคุณถูกหัวหน้าเข้าใจ และตัดสินคุณแบบผิดๆในแง่ลบ คุณจะทำอย่างไรคะ ? ++

ออกตัวก่อนว่านี่เป็นเรื่องของเพื่อนคนหนึ่งที่เราคอยช่วยเหลือเขามาตลอด เนื่องจากเขาไม่ค่อยทันคน จึงมักถูกคนรอบข้างเอาเปรียบอยู่เสมอๆ

เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนเราเรียนอยู่ปริญญาโท สาขาบัญชี และได้ทำงานแผนกบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งแถวหลักสี่ไปพร้อมกัน แต่ตลอดช่วงเวลาที่นางทำงานที่นี่เป็นปี มักจะถูกเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้งและเอาเปรียบอยู่เสมอ จากเพื่อนที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลในการไต่เต้าตำแหน่ง ในการให้ได้มาซึ่งการทำงานน้อย และเป็นที่รักของหัวหน้า ช่างนินทา ประจบเจ้านาย ยกตัวอย่างเช่น

- ตัวเองทำงานหาย แล้วมาโทษว่า ( ต่อไปนี้ขอสมมติชื่อแทนเพื่อนว่า บี เพื่อง่ายต่อการอธิบายนะคะ ) บียังไม่ส่งงานให้ หัวหน้าเลือกเชื่ออีกคนนึง บีก็ทำอะไรไม่ได้ ร้องไห้และได้แต่โทรมาระบาย
- ถูกเพื่อนร่วมงานแกล้งบ่อย โดยเริ่มต้นจากใช้งาน ทั้งที่ตำแหน่งเท่ากัน ยืมของแล้วไม่คืน ขอมานอนห้องแล้วเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่ง จิกผม ด่าต่อหน้าในออฟฟิศ จับกลุ่มเพื่อนนินทาบี แล้วบอยคอต
- ถูกยืมเงินแล้วไม่คืน
- ถูกเอาเปรียบเรื่องงานตลอด
- มักจะเป็นที่ระบายอารมณ์ของเพื่อนร่วมงานเสมอ

ยังมีอีกเยอะค่ะ แต่เล่าไม่หมด เกรงจะยาวไป

เพื่อนเราเองก็ไม่ได้ดี มีความนางเอกจนโดนหมั่นไส้และกลั่นแกล้งนะคะ
ต่อไปนี้เราขอเล่าพื้นฐานบีให้ฟัง
นางเป็นผู้หญิงอ้วนๆวัยก่อน 30 นิดๆ เติบโตและเรียนจบมาจากภาคใต้ สำเนียงพูดเลยจะสั้นๆ ห้วนๆ ครอบครัวนางดี สอนลูกมาดี มีความรับผิดชอบสูงมาก ไม่เคยมีเจตนาทำให้ใครเดือดร้อน หวังดีต่อผู้อื่นเสมอ มองโลกในแง่ดีมาก จนบางทีก็เกินไป เป็นคนซื่อสัตย์ จริงใจ แสดงออกตรงไปตรงมา ไม่มีนอกใน อะไรทั้งสิ้น โกหกไม่เป็นเลย ไม่ค่อยทันคน และเข้าใจคนอื่นเท่าไหร่ (แต่ขี้เป็นห่วงคนอื่นนะ มีอะไรที่นางช่วยคนอื่นได้นางจะรีบทำจริงจังราวกับเป็นธุระนางเอง ขี้สงสาร ) มองสิ่งต่างๆจากมุมของตัวเอง โลกไม่ค่อยกว้างนัก เก็บความรู้สึกไม่เก่ง อารมณ์ฟูมฟาย แพ้อารมณ์ตัวเอง ขี้ลืม เบื่อๆอยากๆง่าย เช่นเดี๋ยวก็หาเรื่องเปลี่ยนมือถือ ไปเที่ยวที่ใหม่ๆไรงี้ มีอยากอยากเด่น อยากเป็นที่สนใจ ได้รับการยอมรับ แต่เรียนรู้ช้า ปรับตัวช้า ( ตรงจุดนี้กระมัง ที่เราคิดว่า ทำให้คนหมั่นไส้ เราเองหากจะมองนางในสายตาของคนอื่นก็ยังอาจจะหมั่นไส้ได้ ในบางทีที่นางแสดงออกถึงความอยากเป็นผู้นำ แต่เรามองว่านางไม่มีศักยภาพพอ เพราะเรื่องอารมณ์ฟูมฟาย จนขาดความเป็นปรนัย และขาดเล่ห์กล ชั้นเชิงซิกแซกแทคติกในการวางกลยุทธ self-center พอประกอบกับ นางก็อ้วนๆ พูดเสียงสั้นๆ ใส่แว่น ชอบคิตตี้ ชอบสีชมพู มันเลยอาจจะดูน่าหมั่นไส้กระมัง )

เรารู้จักบีที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นนางก็มักจะมีเรื่องเนืองๆ จากไอ้ความหมั่นไส้ของคนอื่นที่มีต่อนางนี่แหละ เช่น
- ไม่มีสิทธิออกเสียงอะไร
- โดนใช้งานแบบไม่ยุติธรรม
- โดนบอยคอต
- กระทั่งนัดดักตบ แต่อันนี้แค่นัดท้าทายไปมานะคะ ยังไม่ตบกันจริง
- โดนหลอกให้ไปสมัครงาน แต่ไม่มีงาน และจะเอาค่าสมัครราคาแพง
- โดนคนในเฟสหลอกว่าจะเอาตังไปแลกแต่ตังยังไม่โอนมา ขอยืมก่อน เดี๋ยวคืน .. หลายรอบ สุดท้าย ก็ไม่ได้คืน
- เคยลืม notebook ไว้บนรถเพื่อนของเพื่อน เพื่อนติดต่อมาว่าเดี๋ยวเค้าจะคืนให้ สุดท้าย โดนเชิด

เยอะอะค่ะ เล่าไม่หมด
เราก็รู้ว่านางค่อนข้างบุคลิกภาพอ่อนแอ ไม่ทันคน แต่นางเป็นแบบนี้จริงๆ ไม่รู้จะแนะให้ปรับยังไง มันคือ ความเชื่อ ทัศนคติ สไตล์การใช้ชีวิต ที่เรามองว่าก็ไม่ได้ผิดอะไร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
แต่ธรรมชาติของสังคมเอง ก็มักจะมีชนชั้นคนชนิดนี้อยู่เสมอ คนซื่อๆที่โดนเอาเปรียบจากคนรอบข้าง เราคงได้แต่ช่วยนางห่างๆ ( เพราะไลฟ์สไตล์ ความเชื่อ วิธีคิด ทัศนคติพวกเราไม่ตรงกันเลยน่ะค่ะ เราเลยไม่ค่อยอยู่เป็นเพื่อนข้างๆเค้า )

ทีนี้ เข้าเรื่องนะคะ

ปัญหาคือ
หัวหน้าเค้าเรียกบีเข้าไปคุย เรื่องที่สงสัยว่า บี อาจจะเป็น bipolar disorder เพราะดู ฟูมฟาย ร้องไห้ง่าย หัวเราะง่าย และบอกว่าบีดูไม่เป็นเพื่อนร่วมงานที่จริงใจ ทั้งที่นางไม่เคยไปสาย รับผิดชอบ ดี แค่อาจทำงานช้า เรียนรู้ช้าบ้าง
หากไม่ไปตรวจและรับการรักษา จะทำหนังสือเชิญออก

ทีนี้บีเครียด โทรมาปรึกษาเรา แล้วก็ไปตรวจ หมอบอกว่านางก็ปกติ เป็นคาแรคเตอร์ แบบนี้เอง แค่เป็นการปรับสภาพอารมณ์ เขียนใบรับรองให้สั้นมาก ชนิดว่าไปยื่นให้หัวหน้าดูก็ไม่บอกเลยว่าปกติ เหมือนแค่มาตรวจจริง
สรุปคือ ดูไม่ช่วยอะไรเลย

หากเป็นเพื่อน
จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดีคะ
ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เกี่ยวกับชีวิตบี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่