เคลื่อนกายออกมาจากซอก หวังเพียงอยากออก
มาพบหนทางวิถี
พบปะผู้คนมากมี ปนเปเหลือที่
ล้วนต่างศักดิ์ศรีนานา
บ้างมากศักดิ์ใหญ่บนบ่า ยศถาบรรดา
เราดูด้อยค่าหากเทียบ
อาภรณ์สวยหรูดูเนี๊ยบ ดีไซน์สุดเฉียบ
เรี่ยมแท้ประดับเพชรนิล
เครื่องหอมจรุงปรุงกลิ่น กลบมิดปลิดสิ้น
กลิ่นใดไม่อภิรมณ์
ผู้คนต่างชี้ชวนชม พันคอแสดส้ม
เฉิดฉันท์แพรพรรณไฉไล
ดูเพลินเลยเดินไถล ทางโน้นกลุ่มใหญ่
เร่ไปเทียบเคียงเอียงมอง
กลุ่มนี้แต่งกายดูหมอง กล้ามเนื้อโป่งพอง
ด้วยต้องใข้แรงกายา
ผิดจากเหล่าท่านนั้นหนา สดใสงามตา
ใคร่ได้ฝันไฝ่อยากเป็น
จึ่งเร่งลำบากเคี่ยวเข็ญ ทนยากลำเค็ญ
หวังยกคุณค่านานมา
หลุดพ้นห้วงอนาถา เนิ่นช้าราคา
จวบจนชราร่วงโรย
ยังมีผู้คนหิวโหย ปนคละร่ำรวย
อยู่ด้วยคู่กันสืบมา
ที่จนก็จนหนักหนา ที่รวยล้นฟ้า
ผู้ใดเป็นผู้กำหนด
สังคมพันเกี่ยวเลี้ยวลด หรือคนโป้ปด
ฉกฉวยเอาเปรียบแย่งชิง
เยี่ยงดั่งมีมารมาสิง ไขว่คว้าระวิง
ล้วนสิ้นทุกสิ่งถือครอง
ศีลธรรมจรรยามัวหมอง โอบเอื้อประคอง
เหือดหายมลายสิ้นลง
สังคมแห่งการลุ่มหลง เห็นแล้วนึกปลง
ไม่คล้ายสังคมบูรณา
ยังมีตาสีตาสา เหลื่อมล้ำนานา
หาทางเทียบเทียมไม่เจอ
เดินเที่ยวเทียวไปจนเผลอ มาเห็นพบเจอ
ก็ยังเหมือนเช่นเป็นมา
ไม่คิดอะไรหรอกหนา จึงจรจากลา
หันหลังคืนกลับพนาไพร...
...กาพย์...ชม(คน)เมือง... (...คน หลังเขา)
เคลื่อนกายออกมาจากซอก หวังเพียงอยากออก
มาพบหนทางวิถี
พบปะผู้คนมากมี ปนเปเหลือที่
ล้วนต่างศักดิ์ศรีนานา
บ้างมากศักดิ์ใหญ่บนบ่า ยศถาบรรดา
เราดูด้อยค่าหากเทียบ
อาภรณ์สวยหรูดูเนี๊ยบ ดีไซน์สุดเฉียบ
เรี่ยมแท้ประดับเพชรนิล
เครื่องหอมจรุงปรุงกลิ่น กลบมิดปลิดสิ้น
กลิ่นใดไม่อภิรมณ์
ผู้คนต่างชี้ชวนชม พันคอแสดส้ม
เฉิดฉันท์แพรพรรณไฉไล
ดูเพลินเลยเดินไถล ทางโน้นกลุ่มใหญ่
เร่ไปเทียบเคียงเอียงมอง
กลุ่มนี้แต่งกายดูหมอง กล้ามเนื้อโป่งพอง
ด้วยต้องใข้แรงกายา
ผิดจากเหล่าท่านนั้นหนา สดใสงามตา
ใคร่ได้ฝันไฝ่อยากเป็น
จึ่งเร่งลำบากเคี่ยวเข็ญ ทนยากลำเค็ญ
หวังยกคุณค่านานมา
หลุดพ้นห้วงอนาถา เนิ่นช้าราคา
จวบจนชราร่วงโรย
ยังมีผู้คนหิวโหย ปนคละร่ำรวย
อยู่ด้วยคู่กันสืบมา
ที่จนก็จนหนักหนา ที่รวยล้นฟ้า
ผู้ใดเป็นผู้กำหนด
สังคมพันเกี่ยวเลี้ยวลด หรือคนโป้ปด
ฉกฉวยเอาเปรียบแย่งชิง
เยี่ยงดั่งมีมารมาสิง ไขว่คว้าระวิง
ล้วนสิ้นทุกสิ่งถือครอง
ศีลธรรมจรรยามัวหมอง โอบเอื้อประคอง
เหือดหายมลายสิ้นลง
สังคมแห่งการลุ่มหลง เห็นแล้วนึกปลง
ไม่คล้ายสังคมบูรณา
ยังมีตาสีตาสา เหลื่อมล้ำนานา
หาทางเทียบเทียมไม่เจอ
เดินเที่ยวเทียวไปจนเผลอ มาเห็นพบเจอ
ก็ยังเหมือนเช่นเป็นมา
ไม่คิดอะไรหรอกหนา จึงจรจากลา
หันหลังคืนกลับพนาไพร...