คือ เพิ่งย้ายมาอยูราชบุรีได้ประมาณเจ็ดเดือน บ้านที่ซื้อเป็นบ้านในหมู่บ้านจัดสรรค์ หลุดจำนองไว้กับธนาคารหลายปีแล้ว คือไม่ได้ซื้อโดยตรงจากโครงการค่ะ อยูมาซักประมาณเดือนที่สอง ในหมู่บ้านก็เกิดปัญหาไม่มีการเก็บขยะ พอไปถามเค้าบอกว่า
ค่าบ่อขยะขึ้นราคาเค้ารับไม่ได้ คนดูแลเลยยกเลิกไปประมาณ เดือนต่อมาก็บอกว่า จะกลับมาเก็บขยะอีก แล้วก็มาเก็บเงินค่าขยะเดือนละร้อย
ถัดมาอีกสองเดือน รถเก็บขยะก็ไม่มาอีก พอเข้าไปถามเค้าก็บอกค่าบ่อขยะขึ้นอีก เลยยกเลิกไป ครั้งนี้ทางโครงการมาเก็บถังขยะกลับหมด
ทางเราก็ไม่อยากเผาขยะเหมือนบ้านอื่น เลยไปถามว่าถ้าจะจ้างตนนอกมาจัดการเรื่องขยะของที่บ้าน เค้าก็บอกว่าได้เพราะไม่แน่ใจว่า
เค้าในที่นี้หมายถึงสำนักงานขายนะคะ เพราะเค้าบอกว่าสำนักงานขายกับคนดูแลไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องน้ำและขยะ เป็นธุรกิจของคนดูแล
ทางสำนักงานขายเองก็ไม่ทราบว่าคนที่ดูแล ซึ่งว่ากันว่าเป็นหลานเจ้าของโครงการเค้าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องการเก็บขยะ
ทางเราก็เลยไปจ้างคนมากจางข้างนอก (ไม่เป็นไรช่วยตัวเองดีกว่าเรา)
พอประมาณสองเดือนต่อมาก็มีป้ายมาติดหน้าโครงการ จะมีการเก็บค่าขยะ ค่าน้ำ ค่ารักษาปั๊มน้ำ ค่ามิเตอร์เป็นราคาที่ปรับขึ้น
แล้วบอกว่าถ้าไม่จ่ายจะมีการยกมิเตอร์ มีค่าต่อมิเตอร์ครั้งระร้อย ซึ่งแน่นอน มิเตอร์น้ำทางเราได้จ่ายไปแล้วตอนเข้ามาอยูเดือนแรก ราคามิเตอร์พันห้าร้อย
เพราะเดือนแรกที่มาอยู่เราเห็นมิเตอร์น้ำเสียไม่เดินเลยแจ้งไปทางโครงการ หลานเจ้าของก็มาพร้อมกับเรียกเก็บค่ามิเตอร์พันห้า บอกเป็นการขอใช้น้ำ
เค้าให้เหตุผลว่าถ้าเราจะจ่ายย้อนหลังค่าน้ำช่วงที่เรายังไม่ได้มาซื้อบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้ว จ่ายไปไหวหรอก เค้าเลยเห็นใจเรา
โดยการเรียกเก็บค่ามิเตอร์ใหม่พันห้าร้อยจะเป็นการดีกับเรามากกว่า อันนี้ก็เป็นข้อสงสัยอีกว่า ถ้าเรามาซื้อบ้านต่อเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายคั่งค้าง
ตรงนั้นด้วยหรือคะ แล้วค่าขยะ ซึ่งเราจ้างคนจากภายนอกมาแล้วตกลงกับเค้าเป็นปีไปแล้ว จะให้มาจ่ายกับโคลงการอีก เราว่ามันไม่แฟร์กับเรานะ เพราะ ตอนที่เค้าไม่เก็บขยะ เค้าเงียบไปเฉย ๆ ไปถามแล้วก็บอกแล้วแต่เรา พอนึกจะกลับมาก็จะมาเก็บเงิน ขึ้นค่าโน่นี่นั่น นี่แค่ไม่กี่เดือนที่มาอยูนะคะ
ยังเปรี่ยนนโยบายเป็นว่าเล่น
คำถามคือเราจะร้องเรียนไปที่ไหนได้บ้างคะ เป็นอยู่อย่างนี้ถ้าอีกสองเดือนเค้านึกจะขึ้นค่าอะไรอีกตามแตาใจเค้า หรือล้มเลิกอะไรอีกคนที่เดือนร้อนคือผู้บริโภคอย่างเรานะคะ คือเราคิดว่าถ้าหลานเจ้าขอกเค้าจัดการไม่ไหวเค้าควรโอนให้เทศบาลไปน่ะค่ะ ที่ บ้านในโครงการก็เห็นว่าขายไปหมดแล้ว
เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรค์มีสิทธิที่จะขึ้นราคารา ค่าน้ำค่า ค่าขยะ ค่าสิ่งสรรค์ต้าง ๆ โดยอ้างว่าเค้ามีสิทธิ ได้ด้วยเหรอคะ
ค่าบ่อขยะขึ้นราคาเค้ารับไม่ได้ คนดูแลเลยยกเลิกไปประมาณ เดือนต่อมาก็บอกว่า จะกลับมาเก็บขยะอีก แล้วก็มาเก็บเงินค่าขยะเดือนละร้อย
ถัดมาอีกสองเดือน รถเก็บขยะก็ไม่มาอีก พอเข้าไปถามเค้าก็บอกค่าบ่อขยะขึ้นอีก เลยยกเลิกไป ครั้งนี้ทางโครงการมาเก็บถังขยะกลับหมด
ทางเราก็ไม่อยากเผาขยะเหมือนบ้านอื่น เลยไปถามว่าถ้าจะจ้างตนนอกมาจัดการเรื่องขยะของที่บ้าน เค้าก็บอกว่าได้เพราะไม่แน่ใจว่า
เค้าในที่นี้หมายถึงสำนักงานขายนะคะ เพราะเค้าบอกว่าสำนักงานขายกับคนดูแลไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องน้ำและขยะ เป็นธุรกิจของคนดูแล
ทางสำนักงานขายเองก็ไม่ทราบว่าคนที่ดูแล ซึ่งว่ากันว่าเป็นหลานเจ้าของโครงการเค้าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องการเก็บขยะ
ทางเราก็เลยไปจ้างคนมากจางข้างนอก (ไม่เป็นไรช่วยตัวเองดีกว่าเรา)
พอประมาณสองเดือนต่อมาก็มีป้ายมาติดหน้าโครงการ จะมีการเก็บค่าขยะ ค่าน้ำ ค่ารักษาปั๊มน้ำ ค่ามิเตอร์เป็นราคาที่ปรับขึ้น
แล้วบอกว่าถ้าไม่จ่ายจะมีการยกมิเตอร์ มีค่าต่อมิเตอร์ครั้งระร้อย ซึ่งแน่นอน มิเตอร์น้ำทางเราได้จ่ายไปแล้วตอนเข้ามาอยูเดือนแรก ราคามิเตอร์พันห้าร้อย
เพราะเดือนแรกที่มาอยู่เราเห็นมิเตอร์น้ำเสียไม่เดินเลยแจ้งไปทางโครงการ หลานเจ้าของก็มาพร้อมกับเรียกเก็บค่ามิเตอร์พันห้า บอกเป็นการขอใช้น้ำ
เค้าให้เหตุผลว่าถ้าเราจะจ่ายย้อนหลังค่าน้ำช่วงที่เรายังไม่ได้มาซื้อบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้ว จ่ายไปไหวหรอก เค้าเลยเห็นใจเรา
โดยการเรียกเก็บค่ามิเตอร์ใหม่พันห้าร้อยจะเป็นการดีกับเรามากกว่า อันนี้ก็เป็นข้อสงสัยอีกว่า ถ้าเรามาซื้อบ้านต่อเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายคั่งค้าง
ตรงนั้นด้วยหรือคะ แล้วค่าขยะ ซึ่งเราจ้างคนจากภายนอกมาแล้วตกลงกับเค้าเป็นปีไปแล้ว จะให้มาจ่ายกับโคลงการอีก เราว่ามันไม่แฟร์กับเรานะ เพราะ ตอนที่เค้าไม่เก็บขยะ เค้าเงียบไปเฉย ๆ ไปถามแล้วก็บอกแล้วแต่เรา พอนึกจะกลับมาก็จะมาเก็บเงิน ขึ้นค่าโน่นี่นั่น นี่แค่ไม่กี่เดือนที่มาอยูนะคะ
ยังเปรี่ยนนโยบายเป็นว่าเล่น
คำถามคือเราจะร้องเรียนไปที่ไหนได้บ้างคะ เป็นอยู่อย่างนี้ถ้าอีกสองเดือนเค้านึกจะขึ้นค่าอะไรอีกตามแตาใจเค้า หรือล้มเลิกอะไรอีกคนที่เดือนร้อนคือผู้บริโภคอย่างเรานะคะ คือเราคิดว่าถ้าหลานเจ้าขอกเค้าจัดการไม่ไหวเค้าควรโอนให้เทศบาลไปน่ะค่ะ ที่ บ้านในโครงการก็เห็นว่าขายไปหมดแล้ว