เพราะทุกข์นั้นแหละเราจึง แสวงหาปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม เพื่อพ้นทุกข์ พอๆ กันทั้งแต่วัยเด็ก ต่างกับคนในครอบครัวและคนอื่นๆ
แต่ทุกข์นั้นยิ่งเพิ่ม+บวกเพิ่ม ยิ่งรุนแรงกัดกินใจตามวันเวลาที่เจริญเติบโตขึ้น ก็ยิ่งขวนขวายแสวงเพื่อดับทุกข์ ยิ่งขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม.
เมื่อสุดทางถึงทางตัน เพราะรู้แล้วว่าปัญญาทางโลก ก็ช่วยไม่ได้แม้เรียนจบปริญญาก็เจอทางตัน จึงทิ้งทางโลกอย่างสิ้นเชิงเพียรทางธรรมอย่างเดียวอย่างยิ่งสละชีวิตได้ไปกับธรรมนั้น จึงเพิกความทุกข์ แม้ความสุขก็เพิกทิ้ง ด้วยสุขและทุกข์ต้องคู่กัน จะรั้งเก็บไว้อย่างหนึ่งย่อมไม่ได้.
ธรรมนั้นย่อมเกินประมาณได้ เมื่อปรากฏแล้ว ทางตันก็ยังคงอยู่แบบเดิม สภานการณ์ก็ยังบีบคั้นแบบเดิม แต่ทุกข์นั้นบรรเทา หวั่นไหวน้อยลง และไม่เป็นคนบ้าแน่ ดำเนินชีวิตไปตามลำดับ แม้มีทุกข์ก็ไม่ผิดเพี้ยนจนเกินไป ดำรงณ์อยู่ในดงแขวกหนามที่ทิ่มแทงก่อให้ทุกข์มากมหาศาลได้ด้วยวิบากกรรมที่เหลืออยู่ อย่างเป็นปกติ จนค่อยๆ พ้นไปตามลำดับให้เป็นปกติสุขได้ในภายหลัง ในชีวิตนี้(ขาตินี้ ไม่ต้องรอชาติต่อไป).
ขอบคุณความทุกข์ แม้ปัจจุบันเราไม่ทุกข์เช่นนั้นแล้ว
แต่ทุกข์นั้นยิ่งเพิ่ม+บวกเพิ่ม ยิ่งรุนแรงกัดกินใจตามวันเวลาที่เจริญเติบโตขึ้น ก็ยิ่งขวนขวายแสวงเพื่อดับทุกข์ ยิ่งขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม.
เมื่อสุดทางถึงทางตัน เพราะรู้แล้วว่าปัญญาทางโลก ก็ช่วยไม่ได้แม้เรียนจบปริญญาก็เจอทางตัน จึงทิ้งทางโลกอย่างสิ้นเชิงเพียรทางธรรมอย่างเดียวอย่างยิ่งสละชีวิตได้ไปกับธรรมนั้น จึงเพิกความทุกข์ แม้ความสุขก็เพิกทิ้ง ด้วยสุขและทุกข์ต้องคู่กัน จะรั้งเก็บไว้อย่างหนึ่งย่อมไม่ได้.
ธรรมนั้นย่อมเกินประมาณได้ เมื่อปรากฏแล้ว ทางตันก็ยังคงอยู่แบบเดิม สภานการณ์ก็ยังบีบคั้นแบบเดิม แต่ทุกข์นั้นบรรเทา หวั่นไหวน้อยลง และไม่เป็นคนบ้าแน่ ดำเนินชีวิตไปตามลำดับ แม้มีทุกข์ก็ไม่ผิดเพี้ยนจนเกินไป ดำรงณ์อยู่ในดงแขวกหนามที่ทิ่มแทงก่อให้ทุกข์มากมหาศาลได้ด้วยวิบากกรรมที่เหลืออยู่ อย่างเป็นปกติ จนค่อยๆ พ้นไปตามลำดับให้เป็นปกติสุขได้ในภายหลัง ในชีวิตนี้(ขาตินี้ ไม่ต้องรอชาติต่อไป).