ใครเคยเจอบ้างคะ...เราขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ
วันนี้ เอารถไปเข้าอู่ซ่อมรถที่นึงมาแถวบ้าน ไม่บอกนะชื่ออู่อะไร..บอกอาการเค้าไปว่ารถเรากินแก๊สมากกว่าปกติค่ะ รอบเครื่องสูง
ได้อธิบายให้อู่ฟังค่ะ ว่าเพิ่งปรับจูนแก๊สมาที่อู่เดิมไม่หายเลยอยากเปลี่ยนอุ่ใหม่ดู และเล่าเหตุการณ์เดิมให้ฟังดังนี้ เบื้องต้นขอบอกรถเราเป็น Accord ปี 08 เครื่อง 2.4 ติดแก๊ส LPG มา 2ปี ครึ่ง เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ ตอนเดือนก.ย. ประมาณต้นเดือน รถไดร์ทสตาร์ทเสียอู่แรกซ่อมไดร์ทแล้ว ปรากฏมีอาการตามมาหลังซ่อมคือ รอบเครื่องสูงเข้าเกียร์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งวิ่งปื้ดเลย ต้องคอยเหยียบเบรคไว้ เวลาจะเข้าเกียร์ต้องเหยียบเบรคไว้เดี๋ยวรถจะกระตุกเหมือนจะพรุ่งๆ และ อย่างอาการกินแก๊ส จากปกติเติมถังโดนัทขนาด 60 กก เต็มเติม 600 บ. วิ่งได้ 350 กม. หลังซ่อมเติมเต็มถังวิ่งได้ 200 กม.
หลังจากนั้น อีก 1 สัปดาห์ เอาเข้าแก้ไขที่อู่แรก ไปปรับจูนแก๊สและอาการรอบเครื่อง รอบเครื่องดีขึ้นมาแต่ยังไม่ปกติเหมือนเก่ายังสูงอยู่ประมาณ 900 -1200 อาการกินแก๊สเต็มถังวิ่งได้ 250 กม. ซึ่งก็ถือว่ายังไม่ปกติ
เลยคิดว่าอู่แรกนี้ไม่น่าไหวละ เลยคิดหาอุ่ที่สอง เลยไปอีก อู่แถวบ้านเหมือนเดิม ไม่อยากไปไกล เล่าอาการทั้งหมดให้อู่ฟังละ เราก็นึกว่าจะคงดีดูละ ให้นั่งคอยที่ห้องลูกค้าได้สัก 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างนั้นเดินไปดูรถบ้างว่าเค้าทำไรให้บ้าง เค้าก็เช็คโน่นนี่ให้รวมถึงถอดหัวเทียนดุด้วย เราก็นั้งคอย จนเค้ามาบอกว่า รถเรา หม้อลมเบรครั่ว
เข้าไปนั่งฟังเฮียเจ้าของอู่มั้งนะอธิบายอย่างใจร่มๆๆ
เฮียเค้าอธิบายว่าหม้อลมเบรครั่วอันตราย ต้องรีบซ่อมขับรถเดี๋ยวจะเบรคไม่ได้ เบรคจะเข็มต้องรีบซ่อมก่อนนะ เราก็ฟังๆ แล้วตอบอย่างเดียวว่า "ค่ะ" แล้วเราก็ถามว่า อาการหม้อลมเบรครั่ว อาการเป็นอย่างไร เฮียตอบว่า เบรคไม่อยู่ จะแข็ง ๆ แล้วเด็กทดสอบรถแล้วกับเฮียว่า ตอนลองขับรถเหมือนได้ยินเสียงลม ออกจากแถวๆ นั้น
เราฟังแล้วก็เลย ตอบกลับว่า เอเราขับมาอาการเบรคแข็ง เบรคไม่อยู่ เบรคไม่ติด เบรคต้องย้ำไม่มีเลยค่ะ เบรคดีเสียด้วยอีกรถคันนี้เบรคนุ่ม ที่นี้เราก็ถามเฮียว่า
แล้วอาการกินแก๊สตรวจแล้วว่างัยบ้างคะ เฮียเลยบอกว่า อย่ามาห่วงกับเรื่องกินแก๊สเลย เอาที่ปลอดภัยดีกว่าคือ หม้อลมรั่วขับรถแล้วจะอันตราย
พอเราฟังแล้วจึงรู้คำตอบในใจแล้ว จึงถามเฮียว่า เฮียคะ ตรงไหนเรียกหม้อลม มันรั่วตรงไหน เค้าก็เลยให้ลูกน้องช่างที่ตรวจเช็คพามาที่รถ ที่นี้เฮียแกไม่ได้เดินตามมา เราก็เลยได้คุยกับช่าง 2 คน ชั่งชี้ให้ดูหม้อลมว่าอยู่ตรงไหน เราได้มีโอกาสอยู่กับช่าง 2 คน จึงถามชั่งว่าหม้อลมมันมีโอกาสเสียมากไหม เค้าบอกแล้วแต่ค่ะ
ทีนี้ก็เลยถุามช่างว่า แล้วอาการกินแก๊สและรอบเครื่องเช็คแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ช่างบอกว่ารอบเครื่องรถรุ่นนี้ตั้งไม่ได้เพราะเป็นระบบไฟฟ้า อาการกินแก๊สเกี่ยวข้องกับหม้อลมรั่วเพราะหม้อลม ต้องใช้ลมดันเข้าไปเครื่องยนต์ด้วยอาจจะทำให้กินแก๊ส ......55555 เราก็เลยสังเกตุดูว่าช่างได้ถอดหรือทำอะไรหรือเปล่าจึงรู้ว่ามันรั่ว ช่างไม่ได้ทำค่ะ
คิดว่าเราจะทำอย่างไรต่อคะ... ?????
ก็เลยเดินไปคุยกับเฮียที่ห้องออฟฟิศ แล้วบอกว่า เอางี้ค่ะ ตอนนี้ก็เย็นแล้ว 5 โมงกว่า ๆ แล้ว เราต้องใช้รถเรื่องหม้อลมที่เสนอราคามา 13,900 ค่าน้ำมันเบรค 150 ค่าแรง 900 รวม 14,950 บ.ที่จะไปเบิกจากศูนย์มาทำให้นั้นเอาไว้ก่อนนะคะ คิดค่าแรงตรวจเช็ควันนี้ก่อนเท่าไรค่ะ เฮียแกคิดมา 300 บ. ค่ะรีบขับรถกลับบ้านเลยเรา ขณะขับรถใจก็นึกมารักษาโรคนึงรักษาไม่ได้ กลับไปรักษาอีกโรคนึง ถ้าเช็คทั้งคันคงโรคเพียบค่ะ รถปี 08 ค่ะ ก็เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ที่นี้ก็คิดว่าเดี๋ยวขอเช็คข้อมูลหน่อยว่าอาการหม้อลมเสียเป็นยังงัย
กลับบ้านมาดูคลิปอาจารย์ท่านนี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=Sz9lBKpNZaE ช่วงเวลาพิมพ์นี้เพิ่งเปิดคลิปดูยังไม่ทดสอบแต่ดุจากที่ใช้รถทุกวันไม่มีอาการอย่างว่าเลยค่ะ ว่าหม้อลมเบรคจะรั่ว เดี๋ยววันหน้าจะค่อยเอารถไปตรวจเช็คอุ่อีกที..เซ็งจริง ๆ เวลาก็ไม่ค่อยมีค่ะ
ผุ้อ่านมีข้อแนะนำ และ ความคิดเห็นแบบไหนคะ
ใครเคยเจอ เอารถเข้าอู่ซ่อมปัญหานึง ซ่อมไม่ได้แต่แจ้งว่าเจอปัญหานึงต้องรีบซ่อม????
วันนี้ เอารถไปเข้าอู่ซ่อมรถที่นึงมาแถวบ้าน ไม่บอกนะชื่ออู่อะไร..บอกอาการเค้าไปว่ารถเรากินแก๊สมากกว่าปกติค่ะ รอบเครื่องสูง
ได้อธิบายให้อู่ฟังค่ะ ว่าเพิ่งปรับจูนแก๊สมาที่อู่เดิมไม่หายเลยอยากเปลี่ยนอุ่ใหม่ดู และเล่าเหตุการณ์เดิมให้ฟังดังนี้ เบื้องต้นขอบอกรถเราเป็น Accord ปี 08 เครื่อง 2.4 ติดแก๊ส LPG มา 2ปี ครึ่ง เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ ตอนเดือนก.ย. ประมาณต้นเดือน รถไดร์ทสตาร์ทเสียอู่แรกซ่อมไดร์ทแล้ว ปรากฏมีอาการตามมาหลังซ่อมคือ รอบเครื่องสูงเข้าเกียร์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งวิ่งปื้ดเลย ต้องคอยเหยียบเบรคไว้ เวลาจะเข้าเกียร์ต้องเหยียบเบรคไว้เดี๋ยวรถจะกระตุกเหมือนจะพรุ่งๆ และ อย่างอาการกินแก๊ส จากปกติเติมถังโดนัทขนาด 60 กก เต็มเติม 600 บ. วิ่งได้ 350 กม. หลังซ่อมเติมเต็มถังวิ่งได้ 200 กม.
หลังจากนั้น อีก 1 สัปดาห์ เอาเข้าแก้ไขที่อู่แรก ไปปรับจูนแก๊สและอาการรอบเครื่อง รอบเครื่องดีขึ้นมาแต่ยังไม่ปกติเหมือนเก่ายังสูงอยู่ประมาณ 900 -1200 อาการกินแก๊สเต็มถังวิ่งได้ 250 กม. ซึ่งก็ถือว่ายังไม่ปกติ
เลยคิดว่าอู่แรกนี้ไม่น่าไหวละ เลยคิดหาอุ่ที่สอง เลยไปอีก อู่แถวบ้านเหมือนเดิม ไม่อยากไปไกล เล่าอาการทั้งหมดให้อู่ฟังละ เราก็นึกว่าจะคงดีดูละ ให้นั่งคอยที่ห้องลูกค้าได้สัก 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างนั้นเดินไปดูรถบ้างว่าเค้าทำไรให้บ้าง เค้าก็เช็คโน่นนี่ให้รวมถึงถอดหัวเทียนดุด้วย เราก็นั้งคอย จนเค้ามาบอกว่า รถเรา หม้อลมเบรครั่ว
เข้าไปนั่งฟังเฮียเจ้าของอู่มั้งนะอธิบายอย่างใจร่มๆๆ
เฮียเค้าอธิบายว่าหม้อลมเบรครั่วอันตราย ต้องรีบซ่อมขับรถเดี๋ยวจะเบรคไม่ได้ เบรคจะเข็มต้องรีบซ่อมก่อนนะ เราก็ฟังๆ แล้วตอบอย่างเดียวว่า "ค่ะ" แล้วเราก็ถามว่า อาการหม้อลมเบรครั่ว อาการเป็นอย่างไร เฮียตอบว่า เบรคไม่อยู่ จะแข็ง ๆ แล้วเด็กทดสอบรถแล้วกับเฮียว่า ตอนลองขับรถเหมือนได้ยินเสียงลม ออกจากแถวๆ นั้น
เราฟังแล้วก็เลย ตอบกลับว่า เอเราขับมาอาการเบรคแข็ง เบรคไม่อยู่ เบรคไม่ติด เบรคต้องย้ำไม่มีเลยค่ะ เบรคดีเสียด้วยอีกรถคันนี้เบรคนุ่ม ที่นี้เราก็ถามเฮียว่า
แล้วอาการกินแก๊สตรวจแล้วว่างัยบ้างคะ เฮียเลยบอกว่า อย่ามาห่วงกับเรื่องกินแก๊สเลย เอาที่ปลอดภัยดีกว่าคือ หม้อลมรั่วขับรถแล้วจะอันตราย
พอเราฟังแล้วจึงรู้คำตอบในใจแล้ว จึงถามเฮียว่า เฮียคะ ตรงไหนเรียกหม้อลม มันรั่วตรงไหน เค้าก็เลยให้ลูกน้องช่างที่ตรวจเช็คพามาที่รถ ที่นี้เฮียแกไม่ได้เดินตามมา เราก็เลยได้คุยกับช่าง 2 คน ชั่งชี้ให้ดูหม้อลมว่าอยู่ตรงไหน เราได้มีโอกาสอยู่กับช่าง 2 คน จึงถามชั่งว่าหม้อลมมันมีโอกาสเสียมากไหม เค้าบอกแล้วแต่ค่ะ
ทีนี้ก็เลยถุามช่างว่า แล้วอาการกินแก๊สและรอบเครื่องเช็คแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ช่างบอกว่ารอบเครื่องรถรุ่นนี้ตั้งไม่ได้เพราะเป็นระบบไฟฟ้า อาการกินแก๊สเกี่ยวข้องกับหม้อลมรั่วเพราะหม้อลม ต้องใช้ลมดันเข้าไปเครื่องยนต์ด้วยอาจจะทำให้กินแก๊ส ......55555 เราก็เลยสังเกตุดูว่าช่างได้ถอดหรือทำอะไรหรือเปล่าจึงรู้ว่ามันรั่ว ช่างไม่ได้ทำค่ะ
คิดว่าเราจะทำอย่างไรต่อคะ... ?????
ก็เลยเดินไปคุยกับเฮียที่ห้องออฟฟิศ แล้วบอกว่า เอางี้ค่ะ ตอนนี้ก็เย็นแล้ว 5 โมงกว่า ๆ แล้ว เราต้องใช้รถเรื่องหม้อลมที่เสนอราคามา 13,900 ค่าน้ำมันเบรค 150 ค่าแรง 900 รวม 14,950 บ.ที่จะไปเบิกจากศูนย์มาทำให้นั้นเอาไว้ก่อนนะคะ คิดค่าแรงตรวจเช็ควันนี้ก่อนเท่าไรค่ะ เฮียแกคิดมา 300 บ. ค่ะรีบขับรถกลับบ้านเลยเรา ขณะขับรถใจก็นึกมารักษาโรคนึงรักษาไม่ได้ กลับไปรักษาอีกโรคนึง ถ้าเช็คทั้งคันคงโรคเพียบค่ะ รถปี 08 ค่ะ ก็เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ที่นี้ก็คิดว่าเดี๋ยวขอเช็คข้อมูลหน่อยว่าอาการหม้อลมเสียเป็นยังงัย
กลับบ้านมาดูคลิปอาจารย์ท่านนี้ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Sz9lBKpNZaE ช่วงเวลาพิมพ์นี้เพิ่งเปิดคลิปดูยังไม่ทดสอบแต่ดุจากที่ใช้รถทุกวันไม่มีอาการอย่างว่าเลยค่ะ ว่าหม้อลมเบรคจะรั่ว เดี๋ยววันหน้าจะค่อยเอารถไปตรวจเช็คอุ่อีกที..เซ็งจริง ๆ เวลาก็ไม่ค่อยมีค่ะ
ผุ้อ่านมีข้อแนะนำ และ ความคิดเห็นแบบไหนคะ