คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ฝนรินดินชุ่มหญ้าชื้น.......เคล้าเสียงสะอื้น
โผยแผ่วแว่วตามสายลม
ร้องร่ำคร่ำครวญระงม.....คราวทุกข์ระทม
ขื่นขมทอดถอนอาลัย
คลองธารทุ่งเขียวเรียวใบ.....พริ้วลมโบกไหว
ดวงใจกลับล้าโรยแรง
ท้องฟ้าตะวันอ่อนแสง.......ดวงกลมส้มแดง
ลับลาหล้าแล้วมืดมน
กว่าข้ามแรมคืนฝืนทน......ปีศาจแฝงตน
ครอบงำดำมืดทมิฬ
เสียงกรีดข่มขวัญให้ยิน.....เล็บเขี้ยวครูดหิน
ห้ามหืออื้ออึงถึงตาย
ตกอยู่ในห้วงฝันร้าย.........เฝ้ารอสูรย์ฉาย
ส่องพื้นปลุกฟื้นชีวา
หลังมือปาดป้ายน้ำตา......พร่ำเตือนตนว่า
อย่าท้ออย่าสิ้นแรงใจ
ลูกเอยขอสั่งความไว้........ หากแม่จากไป
สานต่อก่ออุดมการณ์
กาพย์ ก่อ สืบต่อ ไม่มีวันตาย
สวัสดีค่ะ
โผยแผ่วแว่วตามสายลม
ร้องร่ำคร่ำครวญระงม.....คราวทุกข์ระทม
ขื่นขมทอดถอนอาลัย
คลองธารทุ่งเขียวเรียวใบ.....พริ้วลมโบกไหว
ดวงใจกลับล้าโรยแรง
ท้องฟ้าตะวันอ่อนแสง.......ดวงกลมส้มแดง
ลับลาหล้าแล้วมืดมน
กว่าข้ามแรมคืนฝืนทน......ปีศาจแฝงตน
ครอบงำดำมืดทมิฬ
เสียงกรีดข่มขวัญให้ยิน.....เล็บเขี้ยวครูดหิน
ห้ามหืออื้ออึงถึงตาย
ตกอยู่ในห้วงฝันร้าย.........เฝ้ารอสูรย์ฉาย
ส่องพื้นปลุกฟื้นชีวา
หลังมือปาดป้ายน้ำตา......พร่ำเตือนตนว่า
อย่าท้ออย่าสิ้นแรงใจ
ลูกเอยขอสั่งความไว้........ หากแม่จากไป
สานต่อก่ออุดมการณ์
กาพย์ ก่อ สืบต่อ ไม่มีวันตาย
สวัสดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
...แอบ... เกาะ ...กาพย์...(...คน หลังเขา)
ผืนดินฉ่ำชื้นโลมหญ้า ไหลหลั่งคงคา
หล่อเลี้ยงผืนป่าพงไพร
ขุ่นข้นปนเปื้อนเลือนใส แหวกว่ายสุขใจ
มัจฉาเริงร่าซุกซน
จากต้นสายธารแห่งหน หล่อเลี้ยงผู้คน
สรรพสัตว์นาพันธ์พฤษ
ถาโถมไหวหวั่นครั่นครึก กราดเกรี้ยวอึกทึก
ผืนดินเนืองนองสุดตา
ยามใดทุกข์เข็ญเรียกหา ผ่านม่านน้ำตา
หาใครเหลือบแลกันเล่า
แต่ก่อนปู่เราเคราขาว เล่าไว้เคยกล่าว
คุ้งเหนือคุ้มใต้ปันเผื่อ
บัดนี้สิ้นแล้วรสเกลือ เค้าเค็มไม่เหลือ
ให้หวนระทดทิ่มแทง
คราใดสยิวแสยง มิอาจแสดง
เอ่ยถ้อยความใดให้สม
เห็นทีคงฝ่าโคลนตม ลุยย่ำอย่าล้ม
ยืนหยัดอยู่อย่างลำพัง
ยังมีหลงเหลือความหวัง บอกเล่ากันฟัง
อย่าหวั่นระทมขมใจ
รอวันเรืองรุ่งฟ้าใหม่ ลำธารรินใส
ได้พบวันใหม่อีกครา