.
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ 1 ตุลาคม 2560 หวยออกจริงแท้แน่นอน และเป็นวันหวยเข้าใครบางคน และอาจฆ่าใครบางคน ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพยายามซ่อนตัวอยู่บนเตียงนอนแบบไม่คิดชีวิต เพื่อจะลืมเลือนโลกภายนอกอันโหดร้าย แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาอันแสนสั้นก็ตาม แต่หน้าประตูห้องนอนก็ถูกเคาะสนั่น ด้วยข้อมือแข็งแรงของเพื่อนสามคน ความจริงทั้งสามคนนี้อาจเคยไปเยี่ยมท่านก็ได้ ในยามหัวใจท่านสั่นไหว ไม่ว่าจะเป็นเพราะไข้พิษหรือไข้ใจ ทุรนทุรายร้อนนรก
นายเซ็ง
นายเบื่อ
นายนรก
สามสหายยิ้มแสนหวานใส่หน้าอย่างไม่ยอมความ ข้าพเจ้าส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ใครกันนะเสกสรรค์ปั้นแต่ง เทพนรกสามตัวนี้มา... แต่กว่าจะรู้ตัว ก็เดินออกมาจากห้องเสียแล้ว พร้อมด้วยลายแทงในมือ
1. จะไปหาน้องอ้อม ร้านปากซอย ความจริงควรไป ถ้าไม่ใช่เพิ่งนีกได้ว่าเธอมีลูกสองคนแล้ว ให้ตาย....ไม่อยากคิดเลย แต่ทำไมเพิ่งนึกได้ คนอะไรก็ไม่รู้ น้องอ้อมเป็นแม่ค้าที่สวยน่ารักมาก ๆ แต่ถูกเก็บตัวแล้ว ไม่นะ...อย่ามองแบบนั้น...ไม่ใช่อย่างที่คิด อะไรหลายอย่างไม่ใช่อย่างที่เราคิดเราเห็น
2. ไปสโมสร มีน้องน่ารักๆ เพียบ คุ้นเคยกันมานาน แต่เดินทางไกลเกินไป แม้ว่าจะคิดถึงน้องสโมสรใจแทบขาด แต่ก็ตัดใจ เดินไปปากซอยในระยะทางประมาณ ห้าร้อยเมตร ก่อนจะเดินกลับมาหน้าบ้านอย่างมึนงง ว่าเดินไปหาพระแสงของ้าว หรือขีปนาวุธอันใดฤา
ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมรอยยิ้มถากถาง Som water page (แปลว่า สมน้ำหน้า...) ของสหายสามคนเลย นายเบื่อ นายเซ็ง นายนรก....ปีศาจร้ายแสนน่ารักทั้งสามตนกำลังแยกเขี้ยวแสยะยิ้มด้วยความสะใจ และพร้อมจะอ้าแขนรับปีศาจตนอื่นมาร่วมด้วย ปีศาจที่กระโดดออกมาจากหัวใจคนเรา.... กับการเดินถอยหลังกับสู่อดีตของเหยื่อคนสำคัญ กลิ่นไอของกำมะถันฟุ้งกระจายไปในอากาศ กลิ่นของพวกปีศาจ แต่หลายครั้งก็อยากซึมซับกลิ่นไอนรกเข้าไปในจิตวิญญาณเหมือนกัน
ข้าพเจ้าเงยหน้ามองดวงอาทิตย์กลมโต กำลังเอียงแก้มลงสัมผัสยอดตึกสูง อารยธรรมสองส่วนกำลังกระซิบกระซาบกัน ยอดตึกเหมือนจะเอ่ยปากประท้วงพร้อมด้วยรอยยิ้มแห้งโหย....(จงใจใช้คำนี้) ...ก่อนยอมให้พระอาทิตย์ทิ้งร่างลงในอ้อมแขนของความมืด เสียงสำลักอารมณ์แว่วผ่านม่านเมฆ ไม่ว่าจะยินยอมพร้อมใจหรือไม่ก็ตาม บางครั้ง...บางคน...ก็ต้องยอมทำอะไรสักอย่าง แม้จะไม่รู้ว่า การทำอะไรสักอย่างนั้นจะส่งผลดีหรือผลเสียอย่างไร แต่คนเราบางครั้งก็จำเป็นต้องเสี่ยง และเดิมพัน ด้วยชีวิต หริอไม่ก็หัวใจ
หันมายิ้มให้กับตัวเองแบบเศร้าๆ (แม้ว่าความเศร้านั้นจะมีที่มาจากอะไรก็ช่างเถิด แต่พื้นที่หน้าบ้านยังเปิดอ้อมแขนกว้างราวกับ จะปลอบใจเชื้อเชิญ) น้องเบียร์จากตู้แช่ร้านข้างบ้านส่งเสียงหวานไหวใสสวย ด้วยน้ำเสียงชวนให้ใจสลาย
“คุณคะ.....ดื่มหนูสิคะ”
“หนูไม่สวย แต่หนูอร่อยนะคะ”
“ชิมหนูนะคะ”
ราวโดนมนตร์มาร...จะว่าไปแล้วข้าพเจ้าไม่เคยสนใจสวรรค์หรือนรก เพราะคิดง่ายดายว่า ถ้าสวรรค์มีจริงนรกก็ต้องมีจริง แต่สวรรค์น้อย ๆ ในตอนนี้มาจากขวดเบียร์เย็นหลากหลายนามขับขาน สายลมพัดเรื่อยเฉื่อยฉิวหวิวไหว หัวใจคล้ายปลิดปลิวลิ่วไปกับสายลม แสงตะวันลอดมาจากหมู่ตึกให้ความรู้สึกโหยหาและแสนเศร้า หมู่เมฆสั่งลากันอย่างอาลัย นกกาโบยบินกลับรัง เก็บความฝัน และความหวังบางอย่างติดปีกไปด้วย แต่สิ่งเหล่านั้นคือความสวยงามของชีวิตที่มีทั้งสุข สมหวัง ผิดหวัง หรือแม้แต่ไม่หวังอะไร
ประคองน้องเบียร์งามออกมาจากตู้แช่อันเย็นยะเยียบ คืนนี้เราจะอยู่ด้วยกันนะที่รัก พวกเธอไม่แม้จะเอ่ยปากทัดทาน เพราะพวกเธอเข้าใจถึงอ้อมแขนแสนหวานที่กำลังประคองพวกเธอไปหน้าบ้าน ซึ่งมีเก้าอี้สองสามตัว พร้อมจานที่บรรจุปลาช่อนทอด กลิ่นหอมหวนชวนใจขาด
บรรจุตัวเองลงบนเก้าอี้ เอ่ยปากชอโทษน้องเบียร์ ขณะใช้เครื่องมือเปิดฝาของน้องเบียร์อย่างอบอุ่นนุ่มนวล และมีมรรยาทอย่างควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเบียร์ เพียงมีน้ำใจให้กันก็ไม่ควรหักหาญน้ำใจ แม้ว่าเรากำลังจะดื่มพวกเธอทั้งเป็นก็ตาม
มองดวงอาทิตย์จูบลายอดตึกสูงเป็นครั้งสุดท้ายของวัน ทันใดนั้นเองความรู้สึกคล้ายบรรลุอะไรบางย่างพล้นเอ่อล้นปริ่มขึ้นมา ข้าพเจ้ามองเห็นตัวเองกำลังอาศัยอยู่ในจักรวาลของเปลือกนัท The universe in a nutshell พร้อมกับคำพูดพิศวง “จักรวาลมีหลายประวัติศาสตร์ แต่ละประวัติศาสตร์ถูกกำหนดด้วยนัทเล็กๆ”....ช่างมัน..เพียงตอนนี้ มองเห็นความตายและความเป็นของเวลาแห่งจินตภาพไหลรินเรื่อยเฉื่อยอย่างไม่รีบร้อน พร้อมรอยยิ้มอันเต็มไปด้วยปริศนา และเสียงร้อง
เมี้ยว.....
แน่นอนว่าข้าพเจ้าไม่เคยสงสัยตัวเองเลยว่า จะไม่สงสัยว่า นั่นไม่ใช่เสียงร้องของแมว
แมว....ใช่แล้ว.....น้องแมวไทยลายขาวดำละเอียดยิบ เดินออกมาจากข้างซอกบ้านด้วยสีหน้าท่าทางอ่อนระโหย ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นเป็นหนึ่งในสี่ของน้องแมวที่มารดาแมวมาคลอดลูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แบบหาพ่อไม่ได้ เราไม่ได้เจอกันนับเดือนเพราะข้าพเจ้าต้องออกจากบ้านตีสี่กว่าไปทำงาน แต่ก็ไม่ลืมจะเตรียมน้ำและอาหารให้บรรดาน้องแมว รายรอบบ้านทั้งในบ้านและนอกบ้าน
เผลอไม่นาน โตกันแล้วนะ...
ถ้าท่านเป็นคนไม่ใจดำเกินไป ไม่โหดร้ายเกินไป ไม่ไร้ใจเกินไป ท่านคงเข้าใจความนัยของเสียงร้องอ้อน ราวกับโลกจะล่มสลาย ชิ้นปลาทอดงามแสน กำลังจะเข้าสู่หลุมดำของปาก มีอันเป็นชะงักเพราะเสียงอ้อนแมว ทางเลือกมีสองทางคือไม่สนใจเสียงแมว รีบส่งปลาช่อนแสนหวานเข้าปาก ขบเคี้ยวไปให้ถึงสุดขั้วของความอร่อย โดยไม่ไว้หน้าแมว
หรือ จะตัดใจสละเนื้อชิ้นงามด้วยหัวใจเจ็บร้าวรันทด ส่งเนื้องามให้น้องแมว
เมี้ยว
เสียงร้องใสแสนชวนสงสารดังมา ราวจะเป็นตัวเลือกสุดท้าย กว่าจะรู้ตัว เนื้อปลาช่อนทอดแสนหอมก็วางตรงหน้านองแมว และในทันใดนั้นเอง ช้าพเจ้าก็คล้ายบรรลุบางอย่างเมื่อเห็นน้องแมวกัดกิน ปลาช่อนย่าง ด้วยท่าทางอร่อยสุดแสน พร้อมส่งเสียงร้องในลำคอแบบว่าฟังแล้วแปลไม่ออกแต่เข้าใจ
กับเราเอาจเป็นเพียงเนื้อทอดแสนอร่อยชิ้นเดียว แต่กับน้องแมวราวเป็นทั้งชีวิตจิตวิญญาณ และในอึดใจต่อมา รายรอบตัวข้าพเจ้าก็มีน้องแมวมากมายมารายล้อมแบบไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน (อ้างถึงคำพูดของลุงคนหนึ่งที่เดินผ่านมา) แต่แมวทุกตัวที่มารายล้อมเป็นแมวที่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะทุกเช้าทุกเย็นต้องมาร้องขออาหารหน้าบ้านและหลังบ้าน คล้ายกับว่ากลายเป็น มนุษย์แมวไปไม่รู้ตัว
น่าแปลกคือ แมวพวกนี้ เหมือนรู้ว่า มีคนคุ้มครอง พวกเขา และเธอ พากันล้อมรอบด้วยท่าทางแสนสบาย ไม่เกรงใจหมาที่เคยจ้องไล่กัดเสมอ และน้องหมาที่เคยเห่ากระโชกไล่กัดแมวทุกครั้ง กลับสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวเหลือเกิน ปล่อยให้น้องแมวกรีดกรายย้ายเยื้องตามสบาย บางทีถึงกับนอนตีพุงด้วยท่าทางสบายใจสุดแสนริมถนน ไม่สนใจน้องหมาที่อยู่ไม่ห่าง ราวกับว่าหมาแมวเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ว่าเวลาใดความไล่กัดกัน เวลาใดควรสงบศึก
ปลาช่อนทอดจึงหายไปในท้องแมวมากกว่าท้องคน
อาหารพอไม่พอน้องแมวไม่เคยทะเลาะกัน แบ่งกันไปตามโอกาสมารยาทดี
สองชั่วโมงกว่า ที่เราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน คน หมา แมว ให้อะไรหลายอย่างเกินกว่าใครจะคาดคิด
สองชั่วโมงกว่าที่ข้าพเจ้านั่งดูชีวิตแมว โดยไม่สนใจใคร แม้หลายครั้งจะมีสาวๆ แต่งตัวสวยๆ เดินผ่านไป แต่เมินเสียเถอะ....เอาไว้วันหน้าก็แล้วกัน จะมอง ฮา และไม่บ่อยแน่กับการเป็นมนุษย์แมว ที่มีแมวรายล้อมแบบเหลือเชื่อ
ใครที่เลี้ยงแมว ถ้าปล่อยน้องแมวออกไปเดินอ้อยอิ่งเอ้อละเหยลอยชายกลางถนน บอกได้เลยว่า ต้องระวังครับ เพราะน้องหมาจะต่างจากน้องแมว น้องหมาจะรู้จักวิ่งหนีเมื่อรถวิ่งเข้าหา แต่น้องแมวจะยืนเฉยครับ เหมือนทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกคิดว่าบังเอิญ แต่ไม่ใช่ครับ จวนตัวน้องแมวจะยืนนิ่งแบบตายเป็นตาย เห็นกับตาหลายตัวเลย มีบางตัวต้องวิ่งออกไปโบกมือว่า รถจ๋า..อย่าทับน้องแมวเด้อ
ดังนั้น อัตราส่วน ที่น้องแมวโดนรถทับตาย มากกว่าน้องหมาแน่นอน
และอีกอย่าง น้องหมา วิ่งเร็วกว่าน้องแมว เห็นน้องหมาวิ่งไล่กัดน้องแมว ต้องรีบช่วยเหลือ อย่าคิดว่าน้องแมวจะวิ่งเอาตัวรอดได้ ไม่มีทางครับ หมาวิ่งเร็วกว่าแมว เห็นกับตามาแล้วหลายครั้ง ถ้าไม่เข้ากู้ภัย น้องแมวเปลี่ยนมิติแน่นอน
นายเบื่อ นายเซ็ง นายนรก...มองหน้า คล้ายจะบอกว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ
ช่างเถอะ
เพราะ...และสำคัญจริง ๆ ตัวนุ่มๆ ขนฟูๆ อุ่นๆ ร้องเหมียวๆ .....นั่นล่ะคือชีวิต
และไม่ว่าคนหรือแมว หรืออะไร.....ก็มีความหมายในแบบฉบับของตัวเอง
จบแล้วเดอครับ
เรื่องเล่า(เหล้า)ริมถนน.......ของคนรักแมว
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ 1 ตุลาคม 2560 หวยออกจริงแท้แน่นอน และเป็นวันหวยเข้าใครบางคน และอาจฆ่าใครบางคน ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพยายามซ่อนตัวอยู่บนเตียงนอนแบบไม่คิดชีวิต เพื่อจะลืมเลือนโลกภายนอกอันโหดร้าย แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาอันแสนสั้นก็ตาม แต่หน้าประตูห้องนอนก็ถูกเคาะสนั่น ด้วยข้อมือแข็งแรงของเพื่อนสามคน ความจริงทั้งสามคนนี้อาจเคยไปเยี่ยมท่านก็ได้ ในยามหัวใจท่านสั่นไหว ไม่ว่าจะเป็นเพราะไข้พิษหรือไข้ใจ ทุรนทุรายร้อนนรก
นายเซ็ง
นายเบื่อ
นายนรก
สามสหายยิ้มแสนหวานใส่หน้าอย่างไม่ยอมความ ข้าพเจ้าส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ใครกันนะเสกสรรค์ปั้นแต่ง เทพนรกสามตัวนี้มา... แต่กว่าจะรู้ตัว ก็เดินออกมาจากห้องเสียแล้ว พร้อมด้วยลายแทงในมือ
1. จะไปหาน้องอ้อม ร้านปากซอย ความจริงควรไป ถ้าไม่ใช่เพิ่งนีกได้ว่าเธอมีลูกสองคนแล้ว ให้ตาย....ไม่อยากคิดเลย แต่ทำไมเพิ่งนึกได้ คนอะไรก็ไม่รู้ น้องอ้อมเป็นแม่ค้าที่สวยน่ารักมาก ๆ แต่ถูกเก็บตัวแล้ว ไม่นะ...อย่ามองแบบนั้น...ไม่ใช่อย่างที่คิด อะไรหลายอย่างไม่ใช่อย่างที่เราคิดเราเห็น
2. ไปสโมสร มีน้องน่ารักๆ เพียบ คุ้นเคยกันมานาน แต่เดินทางไกลเกินไป แม้ว่าจะคิดถึงน้องสโมสรใจแทบขาด แต่ก็ตัดใจ เดินไปปากซอยในระยะทางประมาณ ห้าร้อยเมตร ก่อนจะเดินกลับมาหน้าบ้านอย่างมึนงง ว่าเดินไปหาพระแสงของ้าว หรือขีปนาวุธอันใดฤา
ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมรอยยิ้มถากถาง Som water page (แปลว่า สมน้ำหน้า...) ของสหายสามคนเลย นายเบื่อ นายเซ็ง นายนรก....ปีศาจร้ายแสนน่ารักทั้งสามตนกำลังแยกเขี้ยวแสยะยิ้มด้วยความสะใจ และพร้อมจะอ้าแขนรับปีศาจตนอื่นมาร่วมด้วย ปีศาจที่กระโดดออกมาจากหัวใจคนเรา.... กับการเดินถอยหลังกับสู่อดีตของเหยื่อคนสำคัญ กลิ่นไอของกำมะถันฟุ้งกระจายไปในอากาศ กลิ่นของพวกปีศาจ แต่หลายครั้งก็อยากซึมซับกลิ่นไอนรกเข้าไปในจิตวิญญาณเหมือนกัน
ข้าพเจ้าเงยหน้ามองดวงอาทิตย์กลมโต กำลังเอียงแก้มลงสัมผัสยอดตึกสูง อารยธรรมสองส่วนกำลังกระซิบกระซาบกัน ยอดตึกเหมือนจะเอ่ยปากประท้วงพร้อมด้วยรอยยิ้มแห้งโหย....(จงใจใช้คำนี้) ...ก่อนยอมให้พระอาทิตย์ทิ้งร่างลงในอ้อมแขนของความมืด เสียงสำลักอารมณ์แว่วผ่านม่านเมฆ ไม่ว่าจะยินยอมพร้อมใจหรือไม่ก็ตาม บางครั้ง...บางคน...ก็ต้องยอมทำอะไรสักอย่าง แม้จะไม่รู้ว่า การทำอะไรสักอย่างนั้นจะส่งผลดีหรือผลเสียอย่างไร แต่คนเราบางครั้งก็จำเป็นต้องเสี่ยง และเดิมพัน ด้วยชีวิต หริอไม่ก็หัวใจ
หันมายิ้มให้กับตัวเองแบบเศร้าๆ (แม้ว่าความเศร้านั้นจะมีที่มาจากอะไรก็ช่างเถิด แต่พื้นที่หน้าบ้านยังเปิดอ้อมแขนกว้างราวกับ จะปลอบใจเชื้อเชิญ) น้องเบียร์จากตู้แช่ร้านข้างบ้านส่งเสียงหวานไหวใสสวย ด้วยน้ำเสียงชวนให้ใจสลาย
“คุณคะ.....ดื่มหนูสิคะ”
“หนูไม่สวย แต่หนูอร่อยนะคะ”
“ชิมหนูนะคะ”
ราวโดนมนตร์มาร...จะว่าไปแล้วข้าพเจ้าไม่เคยสนใจสวรรค์หรือนรก เพราะคิดง่ายดายว่า ถ้าสวรรค์มีจริงนรกก็ต้องมีจริง แต่สวรรค์น้อย ๆ ในตอนนี้มาจากขวดเบียร์เย็นหลากหลายนามขับขาน สายลมพัดเรื่อยเฉื่อยฉิวหวิวไหว หัวใจคล้ายปลิดปลิวลิ่วไปกับสายลม แสงตะวันลอดมาจากหมู่ตึกให้ความรู้สึกโหยหาและแสนเศร้า หมู่เมฆสั่งลากันอย่างอาลัย นกกาโบยบินกลับรัง เก็บความฝัน และความหวังบางอย่างติดปีกไปด้วย แต่สิ่งเหล่านั้นคือความสวยงามของชีวิตที่มีทั้งสุข สมหวัง ผิดหวัง หรือแม้แต่ไม่หวังอะไร
ประคองน้องเบียร์งามออกมาจากตู้แช่อันเย็นยะเยียบ คืนนี้เราจะอยู่ด้วยกันนะที่รัก พวกเธอไม่แม้จะเอ่ยปากทัดทาน เพราะพวกเธอเข้าใจถึงอ้อมแขนแสนหวานที่กำลังประคองพวกเธอไปหน้าบ้าน ซึ่งมีเก้าอี้สองสามตัว พร้อมจานที่บรรจุปลาช่อนทอด กลิ่นหอมหวนชวนใจขาด
บรรจุตัวเองลงบนเก้าอี้ เอ่ยปากชอโทษน้องเบียร์ ขณะใช้เครื่องมือเปิดฝาของน้องเบียร์อย่างอบอุ่นนุ่มนวล และมีมรรยาทอย่างควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเบียร์ เพียงมีน้ำใจให้กันก็ไม่ควรหักหาญน้ำใจ แม้ว่าเรากำลังจะดื่มพวกเธอทั้งเป็นก็ตาม
มองดวงอาทิตย์จูบลายอดตึกสูงเป็นครั้งสุดท้ายของวัน ทันใดนั้นเองความรู้สึกคล้ายบรรลุอะไรบางย่างพล้นเอ่อล้นปริ่มขึ้นมา ข้าพเจ้ามองเห็นตัวเองกำลังอาศัยอยู่ในจักรวาลของเปลือกนัท The universe in a nutshell พร้อมกับคำพูดพิศวง “จักรวาลมีหลายประวัติศาสตร์ แต่ละประวัติศาสตร์ถูกกำหนดด้วยนัทเล็กๆ”....ช่างมัน..เพียงตอนนี้ มองเห็นความตายและความเป็นของเวลาแห่งจินตภาพไหลรินเรื่อยเฉื่อยอย่างไม่รีบร้อน พร้อมรอยยิ้มอันเต็มไปด้วยปริศนา และเสียงร้อง
เมี้ยว.....
แน่นอนว่าข้าพเจ้าไม่เคยสงสัยตัวเองเลยว่า จะไม่สงสัยว่า นั่นไม่ใช่เสียงร้องของแมว
แมว....ใช่แล้ว.....น้องแมวไทยลายขาวดำละเอียดยิบ เดินออกมาจากข้างซอกบ้านด้วยสีหน้าท่าทางอ่อนระโหย ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นเป็นหนึ่งในสี่ของน้องแมวที่มารดาแมวมาคลอดลูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แบบหาพ่อไม่ได้ เราไม่ได้เจอกันนับเดือนเพราะข้าพเจ้าต้องออกจากบ้านตีสี่กว่าไปทำงาน แต่ก็ไม่ลืมจะเตรียมน้ำและอาหารให้บรรดาน้องแมว รายรอบบ้านทั้งในบ้านและนอกบ้าน
เผลอไม่นาน โตกันแล้วนะ...
ถ้าท่านเป็นคนไม่ใจดำเกินไป ไม่โหดร้ายเกินไป ไม่ไร้ใจเกินไป ท่านคงเข้าใจความนัยของเสียงร้องอ้อน ราวกับโลกจะล่มสลาย ชิ้นปลาทอดงามแสน กำลังจะเข้าสู่หลุมดำของปาก มีอันเป็นชะงักเพราะเสียงอ้อนแมว ทางเลือกมีสองทางคือไม่สนใจเสียงแมว รีบส่งปลาช่อนแสนหวานเข้าปาก ขบเคี้ยวไปให้ถึงสุดขั้วของความอร่อย โดยไม่ไว้หน้าแมว
หรือ จะตัดใจสละเนื้อชิ้นงามด้วยหัวใจเจ็บร้าวรันทด ส่งเนื้องามให้น้องแมว
เมี้ยว
เสียงร้องใสแสนชวนสงสารดังมา ราวจะเป็นตัวเลือกสุดท้าย กว่าจะรู้ตัว เนื้อปลาช่อนทอดแสนหอมก็วางตรงหน้านองแมว และในทันใดนั้นเอง ช้าพเจ้าก็คล้ายบรรลุบางอย่างเมื่อเห็นน้องแมวกัดกิน ปลาช่อนย่าง ด้วยท่าทางอร่อยสุดแสน พร้อมส่งเสียงร้องในลำคอแบบว่าฟังแล้วแปลไม่ออกแต่เข้าใจ
กับเราเอาจเป็นเพียงเนื้อทอดแสนอร่อยชิ้นเดียว แต่กับน้องแมวราวเป็นทั้งชีวิตจิตวิญญาณ และในอึดใจต่อมา รายรอบตัวข้าพเจ้าก็มีน้องแมวมากมายมารายล้อมแบบไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน (อ้างถึงคำพูดของลุงคนหนึ่งที่เดินผ่านมา) แต่แมวทุกตัวที่มารายล้อมเป็นแมวที่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะทุกเช้าทุกเย็นต้องมาร้องขออาหารหน้าบ้านและหลังบ้าน คล้ายกับว่ากลายเป็น มนุษย์แมวไปไม่รู้ตัว
น่าแปลกคือ แมวพวกนี้ เหมือนรู้ว่า มีคนคุ้มครอง พวกเขา และเธอ พากันล้อมรอบด้วยท่าทางแสนสบาย ไม่เกรงใจหมาที่เคยจ้องไล่กัดเสมอ และน้องหมาที่เคยเห่ากระโชกไล่กัดแมวทุกครั้ง กลับสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวเหลือเกิน ปล่อยให้น้องแมวกรีดกรายย้ายเยื้องตามสบาย บางทีถึงกับนอนตีพุงด้วยท่าทางสบายใจสุดแสนริมถนน ไม่สนใจน้องหมาที่อยู่ไม่ห่าง ราวกับว่าหมาแมวเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ว่าเวลาใดความไล่กัดกัน เวลาใดควรสงบศึก
ปลาช่อนทอดจึงหายไปในท้องแมวมากกว่าท้องคน
อาหารพอไม่พอน้องแมวไม่เคยทะเลาะกัน แบ่งกันไปตามโอกาสมารยาทดี
สองชั่วโมงกว่า ที่เราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน คน หมา แมว ให้อะไรหลายอย่างเกินกว่าใครจะคาดคิด
สองชั่วโมงกว่าที่ข้าพเจ้านั่งดูชีวิตแมว โดยไม่สนใจใคร แม้หลายครั้งจะมีสาวๆ แต่งตัวสวยๆ เดินผ่านไป แต่เมินเสียเถอะ....เอาไว้วันหน้าก็แล้วกัน จะมอง ฮา และไม่บ่อยแน่กับการเป็นมนุษย์แมว ที่มีแมวรายล้อมแบบเหลือเชื่อ
ใครที่เลี้ยงแมว ถ้าปล่อยน้องแมวออกไปเดินอ้อยอิ่งเอ้อละเหยลอยชายกลางถนน บอกได้เลยว่า ต้องระวังครับ เพราะน้องหมาจะต่างจากน้องแมว น้องหมาจะรู้จักวิ่งหนีเมื่อรถวิ่งเข้าหา แต่น้องแมวจะยืนเฉยครับ เหมือนทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกคิดว่าบังเอิญ แต่ไม่ใช่ครับ จวนตัวน้องแมวจะยืนนิ่งแบบตายเป็นตาย เห็นกับตาหลายตัวเลย มีบางตัวต้องวิ่งออกไปโบกมือว่า รถจ๋า..อย่าทับน้องแมวเด้อ
ดังนั้น อัตราส่วน ที่น้องแมวโดนรถทับตาย มากกว่าน้องหมาแน่นอน
และอีกอย่าง น้องหมา วิ่งเร็วกว่าน้องแมว เห็นน้องหมาวิ่งไล่กัดน้องแมว ต้องรีบช่วยเหลือ อย่าคิดว่าน้องแมวจะวิ่งเอาตัวรอดได้ ไม่มีทางครับ หมาวิ่งเร็วกว่าแมว เห็นกับตามาแล้วหลายครั้ง ถ้าไม่เข้ากู้ภัย น้องแมวเปลี่ยนมิติแน่นอน
นายเบื่อ นายเซ็ง นายนรก...มองหน้า คล้ายจะบอกว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ
ช่างเถอะ
เพราะ...และสำคัญจริง ๆ ตัวนุ่มๆ ขนฟูๆ อุ่นๆ ร้องเหมียวๆ .....นั่นล่ะคือชีวิต
และไม่ว่าคนหรือแมว หรืออะไร.....ก็มีความหมายในแบบฉบับของตัวเอง
จบแล้วเดอครับ