เด็กเกียตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง

เรื่องเล่าจากปากเด็กเกียตินิยม
.
.
เราจบมาด้วยเกียติเฉลี่ย 3.8 ค่ะ เราไม่ได้อยากได้หรอกนะคะ เวลาเรียนเราก็เเค่ทำให้ดีที่สุดแค่นั้นจริงๆ
เเต่อย่างเเรกที่ได้มาจากการเป็นเด็กเกียตินิยม คือ ความคาดหวังค่ะ
.
หวังว่าเราต้องเก่ง
หวังว่าเราต้องรู้ทุกเรื่อง
หวังว่าเราต้องได้ดีกว่าคนอื่น
.
เพื่อนร่วมงานก็หมั่นไส้ บอกว่าเด็กเกียตินิยมทำได้เเค่นี้เหรอ
เรา๔ุกแกล้งหลายอย่าง จากการเป็นเด็กเกียรติยม
.
จนเราเหนื่อย และพอเเล้ว เราจึงลาออกค่ะ
.
เราลาออกมาขายของที่ตลาดนัดเเห่งหนึ่ง ขายดีมาก ไม่ต้องแข่งกับใคร แข่งกับตัวเอง ขยันให้มากๆก็มีรายได้เดือนละ 60,000 - 70,000 บาท
เเต่ก็ยังมีเพื่อนหลายคนที่เห็นเราเเล้วเเอบนินทา หลายคนพูดว่าเด็กเกียติยม จบมามาเป็นแม่ค้า คิดได้เเค่นี้เหรอ

.
.
เราเเค่อยากบอกว่า ไม่ว่าคุณจะจบจากอะไร ได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ งานอะไรไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าการศึกษามันขัดเกลาจิตใจคุณได้มากน้อยเเค่ไหน ตอนนี้เรามีลูกแล้วคนนึง เราไม่ซีเรียสเลยว่าลูกจะได้คะเเนนเท่าไหร่ ขอเเค่เรียนแล้วมีความสุขก็พอ เพราะสังคมสมัยนี้ การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก สิ่งที่สำคัญไปกว่าการเรียนหนังสือ คือ การเรียนรู้ ตำรากับชีวิตจริงมันต่างกันกัน หลายๆมหาลัยผลิตนักศึกษาออกมา สอนแต่ทษฎี แต่ไม่ได้สอนวิธีคิดให้ลงมือทำจริงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คุณจบเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง
แต่คุณเขียน “เกียรตินิยม” ทุกแห่งในกระทู้ว่า “เกียตินิยม” “เกียติยม” หรือ “เกียรติยม”

เอกภาษาไทยหรือเปล่าคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่