[CR] เคล็ด(ไม่)ลับ 10 วัน เที่ยวอังกฤษและสกอตแลนด์ด้วยตัวเอง

หมายเหตุ : กระทู้รีวิวท่องเที่ยวนี้ (เดินทางช่วงเดือน พ.ย. ปี 2016) จัดทำขึ้นโดยน้องชายของข้าพเจ้า อันมีนามว่า "เพชร" (ต่อจากนี้คือข้อความของน้องชายทั้งหมดเน้อ)
เข้ามาดู


          
          ฮัลโหลลล ทุกคน นี่เป็นบทความแรกของเพชรเอง 5555 จะมาบอกวิธี เคล็ด(ไม่)ลับ และค่าใช้จ่ายต่างๆในทริป 10 วันอังกฤษ(England)และสกอตแลนด์(Scotland)ให้อ่านกัน บอกก่อนว่าเป็นทริปสบายเพราะมีผู้สูงอายุมาด้วย 2 คน พ่อแม่เราเอง 555  …เพชรจะเล่าตามลำดับเวลา อาจมีคำหยาบปะปนบ้าง ตามอารมณ์คนเขียน 5555
มาเริ่มกันเลย
          ทริปนี้มากับครอบครัวครับ นั่ง Emirates สายการบินแขก แด็กกระจาย บนเครื่อง Airbus 380 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก บริษัทแอร์บัส เก็บมาได้แค่นี้ เพราะง่วงมาก 5555 อีห่า กูนอนลูกเดียว  





          
          หลังจากบินมา 16 ชม. รวมต่อเครื่องที่ Dubai, UAE ก็ถึง Heathrow Airport, England แดนผู้ดีในเวลา 7 โมงเช้า ลงมาแบบงงๆง่วงๆสไตล์เพชรเวิรล์ด อารมณ์ประมาณว่านี่กูเสีย 25,000 บาท ไปแล้วหรอ 55555  เดินมาถึง Migration บ้านเขา บ้านเราเรียกตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) คนก็เยอะตามคาด ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที  ข้อแนะนำ ควรเผื่อเวลาต่อเครื่องอย่างน้อย 2 ชม 30 นาที เผื่อเครื่องเลทจะได้ไม่ต้องติดเจ็ทวิ่งไป transit เครื่อง และ ควรจองตั๋วก่อนอย่าง 2 เดือนขึ้นไป ราคาจะถูกเนอะ




          
          จากสนามบินเพชรก็จ้าง TAXI พี่คนไทย นามว่าพี่ปู ผู้หญิงสายเฮ้ว เสียดายไม่มีรูป แต่กูมีวีดีโอ 5555
รายละเอียดติดต่อตามภาพ หญิงปูขับรถตู้ Volkswagen มารับ สะดวกมากกับกระเป๋าใหญ่ 4 ใบ และ อมนุษย์ 4 คน จาก airport ไปโรงแรมที่ St.Pancras ในราคา 65 ปอนด์(ประมาณ2,990บาท) นั่ง local taxi โดนอย่างต่ำ 80 ปอนด์(ประมาณ3,680บาท) แน่นอน เพราะเคยนั่งแล้วไกลพอกันโดนไป 95 ปอนด์ เกือบได้นอนใต้สะพาน 555 …. บอกว่ามาจากน้องเพชรได้ครับ เผื่อได้ลด แต่ดูทรงแล้วน่าจะถูก charge เพิ่ม เพราะกูกวนตีนเขาไว้เยอะ 5555




          จุ๊บๆวันที่ 1  เข้าที่พักเวลาประมาณ 12.00 น. พักที่โรงแรมเล็กๆชื่อ United Lodge Hotel เป็นห้องพัก 4 คน
ของครบ มีครัวให้ ไม่ใหญ่มาก กำลังดีเหมาะสมกับราคาคืนละ 5,700 บาท และพนักงานบริการดีมากๆครับ    




         
          **การจะเดินทาง/เที่ยวใน London จะขาด 2 การ์ดนี้ไม่ได้เลย (สำหรับกู 555) คือ 1.SIM CARD 2. OYSTER CARD(บัตรเติมเงินค่าโดยสาร) เพราะเราต้องใช้อินเตอร์เน็ตแบบมากๆๆๆ ในการเปิดแผนที่ ผ่าน applications : ‘Citymapper’ และ ‘google map’ และแน่นอนเล่นโซเชียล 5555 ผนวกกับการเดินทางส่วนใหญ่จะต้องใช้บริการ Bus & Underground (รถไฟใต้ดิน เรียกอีกอย่างว่า tube/subway) ข้อแนะนำ SIM CARD ให้ใช้ของ three เพราะมีเน็ตไม่อั้นตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ส่วน OYSTER CARD สามารถซื้อที่ตู้ตามสถานีรถไฟหรือร้านขายของชำที่ขึ้นป้าย OYSTER สีฟ้าได้ โดย OYSTER CARD มีราคาใบละ 5 ปอนด์(230บาท) และยังต้อง Top up(เติมเงิน)อีก โดยจะมีแบบเติมวัน กับ เติมเงิน …ถ้า เติมวัน วันละ 6.50 ปอนด์(299บาท) zone 1-2 หากเราต้องการจะเน้นเที่ยว Landmarks ในเมือง ขึ้น-ลงสถานีรถไฟหรือป้ายรถบัสไหนก็ได้ตลอด 1 วัน แต่แนะนำให้ เติมเงิน ครับ เพราะต่อให้นั่งเป็น 20 เที่ยวใน 1 วันนั้น มันก็จะคิดแค่ 6.5 ปอนด์เท่ากัน เราก็เติมเงินทิ้งไว้เลยตามจำนวนวันที่เราจะใช้ เราก็จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาเติม OYSTER ทุกวันครับ ออกไปแว๊นได้เลยยย … เราสามารถขอดู zone ให้บริการตามสถานีหรือโบร์ชัวร์ตามร้านขายของชำได้ แต่ไม่ได้มีทุกร้าน


           


          
          หลังจากที่มีอินเตอร์เน็ตไม่อั้นจาก THREE และ  OYSTER CARD แบบเต็มวันแล้ว ก็ลุยดิ รอไรอะ! ช่วงที่ไป เป็น Autumn ย่าง Winter ของอังกฤษ ฟ้าก็จะมืดเร็วเป็นพิเศษ บ่าย 3 บ่าย 4 ก็เหมือน 2 ทุ่มแล้วอ่า 5555  ที่แรกที่ไปในเย็นวันแรกคือ Tower bridge of London เราก็เสิร์ชใน Citymapper แล้วมันก็จะขึ้นบอกว่า นั่งอะไรไปได้ ขึ้นรถตรงไหน ใช้เวลาและเสียค่าเดินทางเท่าไหร่  เพชรก็พาครอบครัวไปขึ้นรถบัสเลยจ่ะ ด้วยความที่อยากให้ป๊าม๊าเห็นบ้านเมืองในลอนดอน ตอนล่างของ The UK  





          
          หลังจาก Tower bridge of London เราก็ไม่ได้ไปไหนกันอีก เนื่องด้วยความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง+นั่งเครื่องเป็นเวลานาน+ความหิวโหย เราก็กลับห้องมาทำอาหารกิน โดยซื้ออาหารจากร้านขายของชำ และ Tesco ที่บ้านเราเรียก Lotus และเข้านอนอย่างรวดเร็ว  ข้อแนะนำ ควรนำซอส น้ำจิ้ม ที่ตัวเองชอบและมาม่ากึ่งสำเร็จรูปไปเผื่อไว้ ร้านขายเนื้อ ผักและวัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็น Tesco, Sainsbury’s, และ ร้านขายของชำข้างนอก ไม่ว่าจะพี่แขกหรือพี่จีนขาย ราคาก็พอๆกับในห้างและคุณภาพก็ไม่ต่างกันมาก แต่มีของให้เลือกน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ 2 supermarkets ข้างต้น  



     




          หลังจากชาร์จแบตเต็มที่ด้วยการนอนมาราธอน 10 ชม.ต่อเนื่องไม่มีพักตื่น …เดี๋ยวๆ พอพูดถึงชาร์จแบตแล้วนึกขึ้นได้  จะเสียบปลั๊กต้องมี ADAPTER นะจ๊ะ หัวปลั๊กไม่เหมือนกับประเทศไทยนะจ๊ะ อย่าลืมไปซื้อ ADAPTER ตามแผนกไฟฟ้าตามห้างสรรพสินค้า หรือ homepro ก็ได้จ่ะ



รูปจาก http-//g02.a.alicdn.com/kf/HTB1MOOJKFXXXXXaXpXXq6xXFXXXt/Lightning-font-b-adapter-b-font-font-b-plug-b-font-socket-GSM-abroad-versatile-power


… แล้วไงฮะ ก็เที่ยวต่อเลยสิฮะ


          จุ๊บๆวันที่ 2  ลุยๆ โปรแกรมไม่มีไรมาก เน้น Landmarks & Tourist Attractions ของ London ก็เดินกันจนขาลาก ดากเปียก เดี๋ยวๆ อากาศหนาว ไอสัส 5555 เพชรก็ลากขาป๊าม๊าตั้งแต่ 8.00-21.00 น. ไป London Bridge, Tower Bridge of London (again haha), Tower of London, Bigben + Palace of Westminster + London Eye,  Trafalgar Square, Oxford Street ตามลำดับ โดยนั่ง bus บ้าง underground บ้างตามระดับความขี้เกียจของป๊าม๊า



อันนี้สวนหน้าโรงแรม ก่อนจะไปขึ้น train ชื่อ Finsbury park ใบไม้ร่วงกำลังดี ผสมกับหน้าอันอปป้าของกูนี้ เลยจัดสักหน่อย 5555555


         ไป  London Bridge มา แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ข้ามมาดู Tower Bridge of London ตอนกลางวันเลยแล้วกันน 55555


นี่คือมุมทางเข้า เราชอบมุมนี้มาก เห็นแล้วต้องถ่ายอะ ใครอยากได้ภาพสวยๆไปลงโซเชียลของตัวเองก็จำมุมไปนะ 5555555



มีการยืนพิง กระจก 55555 สะท้อนความเท่ห์





เป็นรูปครอบครัวแค่ไม่กี่รูปในลอนดอน เพราะไม่ค่อยถ่ายกัน 555555   



          มาถึง Tower of London สถานที่ที่เราไม่เคยเข้าไปข้างในเลย เป็นปราสาทเก่าของราชินีอังกฤษ  ก็เลยเก็บภาพมาได้ไม่เยอะ
เหมาะสำหรับคนรักปราสาทครับ ซึ่งไม่ใช่กู 555555  




          ห้องน้ำ อยู่หลังจากที่ซื้อตั๋วเข้าและที่ซื้อของฝาก เดินผ่านปราสาทไปประมาณ 300 เมตร จากทางด้านหน้าปราสาทครับ

          ลาก่อยย  Tower Bridge of London ดูรูปเพิ่มเติมที่ ig: Petchsworld นะคะ โฆษณาแบบไม่แฝงอะไรทั้งนั้นค่ะ



          จากนั้นก็นั่ง บัส มายัง Big Ben เดนคนรักหอคอยนาฬิกา และ Palace of Westminster  ระหว่างทางก็แชะภาพสักหน่อย เก็บบรรยากาศชาวเมือง





          ถึงแล้ว  Big Ben  ไปถึงระฆังก็ตีดังพอดีเหมือนต้อนรับการมาของ Petchsworld 555555

     


          เดินฟังเพลง Ed Sheeran ใน London อากาศเย็นกำลังดี ลมตีเข้าหน้าเบาๆ โคตรพีค มีพี่ช่างกล้องเดินตามอีก เพราะกูสั่ง 5555  พี่กูเอง นั่นแหละ

    


          ห้องน้ำ ให้ไปเข้าที่โรงพยาบาล St. Thomas ฟรี ตั้งอยู่ปลายสะพานอีกฝั่ง คนละฝั่งกับ Big Ben ครับ


          “London Eye กูไม่อาย”  ในตำนาน ไม่ค่อยได้ถ่ายมากครับ ป๊าม๊าเดินไม่ไหว ขออนุญาตเอารูปเมื่อครั้งจบ
ปริญญาตรี มาให้ดูแทนละกัน



แบกชุดครุยไปถ่ายกัน ถ่ายยิ้มให้ทั่วโลกเลย 555


ชาวลอนดอน ขอ snapchat กูตลอดทางเลย คงนึกว่ากูบ้า 55555  กูยังนึกว่าตัวกูบ้าเลย 55555



***ต่อด้วย Trafalga Square (To be continued)***
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวต่างประเทศ อังกฤษและสกอตแลนด์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่