ลากกระเป๋าเดินคนเดียวกับรถไฟในยุโรป [ 0.1; ก่อนออกไปผจญภัย ] >
http://ppantip.com/topic/31333601
ลากกระเป๋าเดินคนเดียวกับรถไฟในยุโรป [ 1.1; วันสุข_Stonehenge / Poohsticks Bridge ] >
http://ppantip.com/topic/31496843
สวัสดีครับลอนดอน (ถึงแล้ว Heathrow Airport) ผมทักทายลอนดอนในใจทันทีที่นำตัวเองออกมาจากเครื่องบิน พร้อมกับเดินไปเขียนเอกสารขาเข้าประเทศเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง คนเยอะมากครับ แถวค่อยๆเคลื่อนไป จนในที่สุดก็ถึงคิวของผม ทางนั้นก็ถามผมทั่วไปครับว่ามาทำอะไร อยู่กี่วัน กลับวันไหน ไปไหนต่อ ไม่มีอะไรมากครับ ผ่านไปอย่างง่ายดาย (พนักงานยิ้มแย้ม ใจดีมากครับ)
หลังจากพบเจอกระเป๋าใบใหญ่แล้ว ก็รีบลากไปที่ทางออกด้วยความตื่นเต้นครับ หยิบหนังสือแนะนำขึ้นมาอ่านไปพลางเรื่องรถไฟเข้าเมืองครับ ผมตรงไปที่อันเดอร์กราวน์ทันที ก่อนทางเข้าจะมีตู้ขายอยู่ครับ ผมก็ลองกดโน่นนี่นั่นแต่ก้ยังงงๆ ครับ เสียเวลาลองกดสักพักใหญ่ครับ รู้สึกไม่โอเคเลยลองเดินไปต่อครับ ใช่เลย มีช่องขายตั๋วโดยคนอยู่ครับ ผมตรงดิ่งไปซื้อทันที บอกเอาตั๋วหนึ่งวันครับ เขาก็บอกราคามา 16กว่าปอนด์ ถ้ารอหลังเวลา 9.30am ราคาจะลดครึ่งราคานะครับ ตอนนั้นผมก็ไม่เอะใจอะไร เอามันเลยละกัน ไม่รอเวลาล่ะ อยากเจอโลกภายนอก 5555 เลยได้ตั๋วหนึ่งวันโซน 1-6 มาในราคา 16.XX ปอนด์ครับ ซึ่งมาคิดทีหลังไม่คุ้มเลย เพราะซื้อตั๋วเที่ยวเดียวจากสนามบินเข้าเมืองตอนนั้น 5.xx ปอนด์ แล้วไปซื้อตั๋วหนึ่งวันโซน 1-2 ในราคาประมาณ 7 ปอนด์ยังดีกว่าซะอีก เพราะวันนี้ผมอยู่แค่โซน 1-2 เท่านั้นเอง ^^
(ขอบคุณรูปภาพจากกูเกิลเซิร์จนะครับ)
แนะนำหากใครอยู่หลายวันซื้อเป็นบัตรเติมเงินดีที่สุดครับเรียกว่า Oyster Card ครับ เนื่องจากว่าการคิดเงินของการโดยสารที่นี่จะมีเวลาครับ ถ้าหากเป็าช่วงเวลาเร่งด่วน คือก่อน 9.30am และหลังจาก 5.30pm (อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ) ราคาจะแพงกว่าปกติครับ หากใช้ Oyster card ก้จะคำนวณราคาให้ถูกที่สุดครับ ซึ่งถ้าใช้Oyster card นี้หลายครั้งในแต่ละวัน เงินที่ถูกหักจากบัตรจะตัดไม่เกิน 7.xx ปอนด์ครับ ซึ่งก็มีค่าประมาณซื้อตั๋วรายวันเลยครับ ถ้าจำไม่ผิดถูกกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่ก็ดีตรงที่ว่าในวันนั้นเราเดินทางโดยใช้เงินไม่ถึง 7 ปอนด์ วันนั้นเราก้จะเสียเงินค่าเดินทางไปถูกกว่าซื้อตั๋วรายวันครับ ซึ่งบัตรหรือตั๋วรถไฟทุกแบบนั้นสามารถใช้ได้กับทั้ง Underground และรถบัสสีแดงที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของลอนดอนเลยครับ (Oyster card นั้น มีค่าบัตร 5 ปอนด์ นะครับ)
(แผนที่รถไฟลอนดอนก็ตามนี้ครับ มีแบ่งเขตชัดเจน 1-6 จากกูเกิลเหมือนเดิมครับ)
หลังจากซื้อตั๋วแล้วผมก็ไปที่ชานชะลารอรถไฟครับ ทำความเข้าใจกับแผนที่ สายรถไฟที่จะไปอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เข้าใจครับ ^^ ก็เลือกเดินไปตามสายรถไฟที่จะไปนะครับ มีป้ายบอกอย่างดิบดีเหนือศีรษะ >< (ผมเดินทางจาก Heathrow Airpoet Station ไป Gloucester Road Station เพื่อเข้าที่พักครับ ระหว่างทางก็เจอคนไทนมาเที่ยวกับครอบครัวพักใกล้ๆสถานีนี้เช่นกันครับ แต่ก็ลาจากกันแค่นั้น)
(สถานี Underground ก็ประมาณเกือบทุกสถานีครับ ไม่ได้สวยงามอะไรเลย อารมณ์แบบมีใช้มานานแล้วก็เก่าแก่ไปตามเวลา)
ผมเดินทางมาถึงที่พักในเวลา 10 เกือบ 11.00am ครับ เช็คอินก่อนเวลาได้สบายใจ พนักงานนน่ารักครับ ยิ้มแย้ม เป็นห้องห้าเตียงครับ ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี ^^ เปิดเข้าไปเจอคนนอนหลับอยู่คนนึงครับ แก่ๆหน่อย ผมจัดการล้างหน้าเก้บของเข้าที่ พักสักหน่อย ก่อนออกไปเดินเล่น ลอนดอน ครับ (จากสถานี Gloucester Road มายังโรงแรมที่พัก ผมใช้วิธีการเดินครับ อาศัยแผนที่ที่แคปจากหน้าจอมือถือ เดินตามถนนไปเรื่อยๆครับ อาศัยถามคนที่น่าไว้ใจจากหน้าสถานีก่อนว่าจะไปถนนนี้เดินไปทางไหนครับ ผมเลือกถามคนที่กวาดถนน กับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เดินอยู่แถวนั้นครับ เนื่องจากแถวนั้นมีคนที่เป็นเหมือนขอทานบ้านเราอยู่ ก็แอบกลัวนิดนึง เพราะเขาทำท่าจะเดินเข้ามา ดีที่มีเหมือนพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินมาพอดี)
อากาศถือว่าไม่เลวร้ายมากในช่วงฤดูร้อนครับ แดดแรง แต่มีลมครับ
(ภาพเมื่อมองจากประตูของที่พักครับ)
ออกจากที่พักกันเถอะ ! (บอกตัวเอง)
โผล่มาที่ Tower Hill Station จะพบป้ายทางออกบอกทางไปยัง Tower of London แต่ก่อนไปถึงนั้นเราจะได้พบกับ Sundial และ Trinity Square Gardens
* Sundial เป็นนาฬิกาแดดตั้งอยู่ที่สถานี Tower Hill สามารถมองเห็น Tower of London ในมุมกว้างได้จากจุดนี้ โดยมองข้ามถนนออกไป ซึ่งที่ฐานกลมของ sundial นั้นจะมีเรื่องราวของ London แสดงไว้เป็นช่วงเวลาตามวงไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ก่อตั้งลอนดอนใน AD ผ่านเรื่องราวต่างๆไม่ว่างจะเป็นสงคราม หรือการสร้างสิ่งปลูกสร้างมาจนถึงการสร้าง Thames Barrier 1975-1982
(ภาพที่ฐานครับ)
* Trinity Square Gardens เป็นสวนเล็กๆเพื่อแสดงความคิดถึงต่อนายทหารอะไรสักอย่างที่จากไปในสงครามโลกครั้งที่1 (ถูกหรือเปล่า 5555) ผมจำได้ว่าประมาณนี้ครับ โดยในสวนมักมีคู่รักมาเดินเล่นช้าๆ ไม่ก็นอนคุยกันครับ ท้านั่งตรึม ถ้าชอบแดดก็เชิญตามสบายเลยครับ ;j
(มองเห็น Port of London Authority Building ข้างๆสวนเลยครับ)
(มีคนเอาอะไรแบบนี้มาวางครับ)
เดินข้ามถนนมาก้จะพบกับหอคอยแห่งลอนดอน
*Tower of London เป็นพระราชวังหลวงที่ตั้งอยู่บนเนินริมแม่น้ำเทมส์ ผู้คนเยอะแยะเต็มลานกว้าง จาากรูปด้านบนสามารถซื้อตั๋วได้จากจุดจำหน่ายตั๋วด้านซ้ายมือ ราคา 20 ปอนด์ จากนั้นเดินตรงไปจะเจอประตุทางเข้าทางซ้ายมือ ส่วนด้านขวาของประตูทางเข้าเป็นร้านขายของที่ระลึกซึ่งสามารถเดินต่อไปยังท่าเรือ แม่น้ำเทมส์ได้อีกด้วย (วันนี้ไม่ได้เข้าไปชมเนื่องจากวันนี้ไม่ได้มาเที่ยวตามแผนที่วางไว้ ตามแผนวันนี้ไม่มีอะไรเข้าที่พัก นอน :j แต่พอเอาเข้าจริง เครื่องบินดันมาถึงแต่เช้าเลย วันนี้เลยถือโอกาสเดินชมอย่างเดียว ^^) ผมก็นั่งๆ เดินๆ มองดูผู้คนเดินไปมาเรรื่อยๆ แอบเอาดินสอขึ้นมาวาดรูปบนกระดาษที่ติดไปด้วยพลางๆ เพลินดีครับ เสียอย่างเดียวอากาศร้อนไปหน่อย
(มองจากที่นั่งใต้ต้นไม้)
(ทางเข้า หญ้าเขียวสาวยสะใจมาก <3)
เดินตามริมน้ำไปเรื่อยๆ
อีกฝากของแม่น้ำครับ
แท่แด้ ! เจอแล้ว Tower Bridge ตามป้ายไปเลยครับ
ตามไปเลย
* Tower Bridge เป็นสะพานเชื่อมผืนดินสองฝั่งของแม่น้ำเทมส์ ซึ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอีกอย่างของลอนดอน แต่ยังมีอีกสะพานหนึ่งที่คู่กัน (แต่ไม่ได้อยู่ใกล้กันนะครับ) ก็คือ London Bridge ครับ ซึ่งระหว่างที่เดินบนสะพานนี้นั้น มองลงไปจะเห็นเรือเล็ก ใหญ่สัญจรผ่านตลอด ก็ตามประสาแหละครับ เรือประเภทพาคนชมเมืองนั้นคนที่อยู่ในเรือมักส่งเสียงร้องทักทายกับคนบนสะพาน ผมมองว่าน่ารักดีนะครับ ถึงแม้ว่าไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนั้นก็ตาม ก็ได้แต่มองแล้วยิ้มและแอบขำในใจ >< นอกจากนั้นแล้วเราสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์มุมสูงได้บนด้านบนของสะพานด้วยนะครับ ที่เป็นเหมือนหอคอยอ่ะครับ 7.xx ปอนด์ครับ
(ทั้งคนทั้งรถ ก็เยอะแยะมากมาย)
(แต่ก็ได้แต่เดินๆ เดินไปให้สุดอีกฝั่งเลยนะครับ ใช้สายตาบันทึกภาพเก็บไว้ในความทรงจำให้มากที่สุดนะครับ เดินไปช้าๆให้เวลากับมัน ถึงแม้จะร้อน แต่มันก็โอเคครับ เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ ถึงกลางสะพานก็แวะพักใหญ่ๆสูดหายใจลึกๆเลยนะครับ ยิ่งใครชอบสีน้ำเงินคงถูกใจนัก เพราะโครงเหล็กต่างๆ เป็นสีฟ้า สีน้ำเงินสดใสมากครับ)
หลังจากเดินมาสุดที่อีกฝั่งของสะพานทาวน์เวอร์แล้ว เราก็ไปอีกสะพานหนึ่งที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่หูกันดีกว่าครับ London Bridge ระหว่างทางไปนั้นผมเลือกใช้วิธีเดินไปเรื่อยๆตามใจชอบนะครับ เพราะผมมองเห็นสะพานลอนดอนตั้งแต่อยู่บน Tower Bridge แล้วแหละครับ สำหรับทิศทางก็ลงสะพานแล้วขวาเลยครับ เดี๋ยวก็คงเจอ ^^ ไปเรื่อยๆกันครับ
ผมเลือกเดินไปยังถนนคู่ขนานกับแม่น้ำครับ ไม่ได้เดินเลียบแม่น้ำเทมส์ไป
เดินผ่านอนุเสารีย์ของใครสักคน ^^จำชื่อไม่ได้ วันนี้ผมไม่ได้สนใจตรงนี้หรอกครับ แต่ผมมาเจอในอีกวันที่ผมมาเดินอีกรอบ
คนเดินเยอะแยะครับ ไม่ต้องกลัวจะเหงา
เดินมาสักพักเจอรั่วเหล็กครับทางขวามือ เลยเดินเข้ามาดุใกล้ๆ นี่มันสวนนี่หน่า เดินไปอีกนิดครับ เจอทางเข้าผมก็เดินตรงเข้าไปเลยครับ เพราะผมชอบอะไรเขียวๆชมพูๆแบบนี้อยู่แล้ว แต่สวนนี่กลับเป้นแบบแห้งเหี่ยวครับ *^* ผมไม่แปลกใจหรอกนะครับ เพราะแดดแรงขนาดนี้ แต่ถึงจะแห้งแหล้งขนาดนี้ แต่คนนี่สิเต้มเลยครับ อารมณ์ประมาณพวกคนทำงานมานั่งคุยกันพร้อมแก้วกาแฟ บุหรี่ :j
เดินเข้าไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาบรรจบกับถนนเดินเท้าเลียบชายฝั่งแม่น้ำ เดินเลียบไปเรื่อยๆเลยครับให้หันหน้าเข้าหาสะพานลอนดอนนะครับ
มองย้อนกลับไปสะพานทาวเวอร์ซักหน่อย แอบเห็นหลังเรืออะไรสักอย่างนิดนึงใช่ป่ะครับทางฝั่งซ้ายมือของเราครับที่มีเหมือนสะพานเดินลงไปบังไว้อยู่ นั่นแหละครับเรือที่เคยใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง HMS Belfast
โถงของตึกทางซ้ายมือครับ Hays Galleria มีร้านขายของเล็กๆ กับร้านอาหารครับ เยอะแยะ
ผมมองแล้วยิ้มครับ เด็กๆน่ารักดี เล่นไม่ต้องอายใคร เด็กผมก็คงจะเป็นแบบนี้ แต่คงไม่เข้าขั้นนี้นะครับ :j
ชื่อทางเท้านี้ป่ะครับ -?- (แอบเห็นสะพานแล้ววววว)
โผล่ขึ้นมาผมเจอสิ่งนี้สิ่งแรกครับ แล้วก็รีบหันไปอีกทาง โอ้วววว สะพานลอนดอน ก่อนเดินไปสะพานลอนดอน ผมก็วกวนแถวตีนสะพานเข้ามาทางฝั่งแท่งสูงแหลมนี้ครับ นั่งๆ เดิน เหมือนเดิม แล้วก็ยังร้อนเหมือนเดิมครับ
เดินไปกันเลยครับ London Bridge
ต่อคอมเม้นท์ที่ 6
ลากกระเป๋าเดินคนเดียวกับรถไฟในยุโรป [ 1.0; London มาแล้วนะ ]
ลากกระเป๋าเดินคนเดียวกับรถไฟในยุโรป [ 1.1; วันสุข_Stonehenge / Poohsticks Bridge ] > http://ppantip.com/topic/31496843
สวัสดีครับลอนดอน (ถึงแล้ว Heathrow Airport) ผมทักทายลอนดอนในใจทันทีที่นำตัวเองออกมาจากเครื่องบิน พร้อมกับเดินไปเขียนเอกสารขาเข้าประเทศเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง คนเยอะมากครับ แถวค่อยๆเคลื่อนไป จนในที่สุดก็ถึงคิวของผม ทางนั้นก็ถามผมทั่วไปครับว่ามาทำอะไร อยู่กี่วัน กลับวันไหน ไปไหนต่อ ไม่มีอะไรมากครับ ผ่านไปอย่างง่ายดาย (พนักงานยิ้มแย้ม ใจดีมากครับ)
หลังจากพบเจอกระเป๋าใบใหญ่แล้ว ก็รีบลากไปที่ทางออกด้วยความตื่นเต้นครับ หยิบหนังสือแนะนำขึ้นมาอ่านไปพลางเรื่องรถไฟเข้าเมืองครับ ผมตรงไปที่อันเดอร์กราวน์ทันที ก่อนทางเข้าจะมีตู้ขายอยู่ครับ ผมก็ลองกดโน่นนี่นั่นแต่ก้ยังงงๆ ครับ เสียเวลาลองกดสักพักใหญ่ครับ รู้สึกไม่โอเคเลยลองเดินไปต่อครับ ใช่เลย มีช่องขายตั๋วโดยคนอยู่ครับ ผมตรงดิ่งไปซื้อทันที บอกเอาตั๋วหนึ่งวันครับ เขาก็บอกราคามา 16กว่าปอนด์ ถ้ารอหลังเวลา 9.30am ราคาจะลดครึ่งราคานะครับ ตอนนั้นผมก็ไม่เอะใจอะไร เอามันเลยละกัน ไม่รอเวลาล่ะ อยากเจอโลกภายนอก 5555 เลยได้ตั๋วหนึ่งวันโซน 1-6 มาในราคา 16.XX ปอนด์ครับ ซึ่งมาคิดทีหลังไม่คุ้มเลย เพราะซื้อตั๋วเที่ยวเดียวจากสนามบินเข้าเมืองตอนนั้น 5.xx ปอนด์ แล้วไปซื้อตั๋วหนึ่งวันโซน 1-2 ในราคาประมาณ 7 ปอนด์ยังดีกว่าซะอีก เพราะวันนี้ผมอยู่แค่โซน 1-2 เท่านั้นเอง ^^
(ขอบคุณรูปภาพจากกูเกิลเซิร์จนะครับ)
แนะนำหากใครอยู่หลายวันซื้อเป็นบัตรเติมเงินดีที่สุดครับเรียกว่า Oyster Card ครับ เนื่องจากว่าการคิดเงินของการโดยสารที่นี่จะมีเวลาครับ ถ้าหากเป็าช่วงเวลาเร่งด่วน คือก่อน 9.30am และหลังจาก 5.30pm (อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ) ราคาจะแพงกว่าปกติครับ หากใช้ Oyster card ก้จะคำนวณราคาให้ถูกที่สุดครับ ซึ่งถ้าใช้Oyster card นี้หลายครั้งในแต่ละวัน เงินที่ถูกหักจากบัตรจะตัดไม่เกิน 7.xx ปอนด์ครับ ซึ่งก็มีค่าประมาณซื้อตั๋วรายวันเลยครับ ถ้าจำไม่ผิดถูกกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่ก็ดีตรงที่ว่าในวันนั้นเราเดินทางโดยใช้เงินไม่ถึง 7 ปอนด์ วันนั้นเราก้จะเสียเงินค่าเดินทางไปถูกกว่าซื้อตั๋วรายวันครับ ซึ่งบัตรหรือตั๋วรถไฟทุกแบบนั้นสามารถใช้ได้กับทั้ง Underground และรถบัสสีแดงที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของลอนดอนเลยครับ (Oyster card นั้น มีค่าบัตร 5 ปอนด์ นะครับ)
(แผนที่รถไฟลอนดอนก็ตามนี้ครับ มีแบ่งเขตชัดเจน 1-6 จากกูเกิลเหมือนเดิมครับ)
หลังจากซื้อตั๋วแล้วผมก็ไปที่ชานชะลารอรถไฟครับ ทำความเข้าใจกับแผนที่ สายรถไฟที่จะไปอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เข้าใจครับ ^^ ก็เลือกเดินไปตามสายรถไฟที่จะไปนะครับ มีป้ายบอกอย่างดิบดีเหนือศีรษะ >< (ผมเดินทางจาก Heathrow Airpoet Station ไป Gloucester Road Station เพื่อเข้าที่พักครับ ระหว่างทางก็เจอคนไทนมาเที่ยวกับครอบครัวพักใกล้ๆสถานีนี้เช่นกันครับ แต่ก็ลาจากกันแค่นั้น)
(สถานี Underground ก็ประมาณเกือบทุกสถานีครับ ไม่ได้สวยงามอะไรเลย อารมณ์แบบมีใช้มานานแล้วก็เก่าแก่ไปตามเวลา)
ผมเดินทางมาถึงที่พักในเวลา 10 เกือบ 11.00am ครับ เช็คอินก่อนเวลาได้สบายใจ พนักงานนน่ารักครับ ยิ้มแย้ม เป็นห้องห้าเตียงครับ ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี ^^ เปิดเข้าไปเจอคนนอนหลับอยู่คนนึงครับ แก่ๆหน่อย ผมจัดการล้างหน้าเก้บของเข้าที่ พักสักหน่อย ก่อนออกไปเดินเล่น ลอนดอน ครับ (จากสถานี Gloucester Road มายังโรงแรมที่พัก ผมใช้วิธีการเดินครับ อาศัยแผนที่ที่แคปจากหน้าจอมือถือ เดินตามถนนไปเรื่อยๆครับ อาศัยถามคนที่น่าไว้ใจจากหน้าสถานีก่อนว่าจะไปถนนนี้เดินไปทางไหนครับ ผมเลือกถามคนที่กวาดถนน กับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เดินอยู่แถวนั้นครับ เนื่องจากแถวนั้นมีคนที่เป็นเหมือนขอทานบ้านเราอยู่ ก็แอบกลัวนิดนึง เพราะเขาทำท่าจะเดินเข้ามา ดีที่มีเหมือนพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินมาพอดี)
อากาศถือว่าไม่เลวร้ายมากในช่วงฤดูร้อนครับ แดดแรง แต่มีลมครับ
(ภาพเมื่อมองจากประตูของที่พักครับ)
ออกจากที่พักกันเถอะ ! (บอกตัวเอง)
โผล่มาที่ Tower Hill Station จะพบป้ายทางออกบอกทางไปยัง Tower of London แต่ก่อนไปถึงนั้นเราจะได้พบกับ Sundial และ Trinity Square Gardens
* Sundial เป็นนาฬิกาแดดตั้งอยู่ที่สถานี Tower Hill สามารถมองเห็น Tower of London ในมุมกว้างได้จากจุดนี้ โดยมองข้ามถนนออกไป ซึ่งที่ฐานกลมของ sundial นั้นจะมีเรื่องราวของ London แสดงไว้เป็นช่วงเวลาตามวงไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ก่อตั้งลอนดอนใน AD ผ่านเรื่องราวต่างๆไม่ว่างจะเป็นสงคราม หรือการสร้างสิ่งปลูกสร้างมาจนถึงการสร้าง Thames Barrier 1975-1982
(ภาพที่ฐานครับ)
* Trinity Square Gardens เป็นสวนเล็กๆเพื่อแสดงความคิดถึงต่อนายทหารอะไรสักอย่างที่จากไปในสงครามโลกครั้งที่1 (ถูกหรือเปล่า 5555) ผมจำได้ว่าประมาณนี้ครับ โดยในสวนมักมีคู่รักมาเดินเล่นช้าๆ ไม่ก็นอนคุยกันครับ ท้านั่งตรึม ถ้าชอบแดดก็เชิญตามสบายเลยครับ ;j
(มองเห็น Port of London Authority Building ข้างๆสวนเลยครับ)
(มีคนเอาอะไรแบบนี้มาวางครับ)
เดินข้ามถนนมาก้จะพบกับหอคอยแห่งลอนดอน
*Tower of London เป็นพระราชวังหลวงที่ตั้งอยู่บนเนินริมแม่น้ำเทมส์ ผู้คนเยอะแยะเต็มลานกว้าง จาากรูปด้านบนสามารถซื้อตั๋วได้จากจุดจำหน่ายตั๋วด้านซ้ายมือ ราคา 20 ปอนด์ จากนั้นเดินตรงไปจะเจอประตุทางเข้าทางซ้ายมือ ส่วนด้านขวาของประตูทางเข้าเป็นร้านขายของที่ระลึกซึ่งสามารถเดินต่อไปยังท่าเรือ แม่น้ำเทมส์ได้อีกด้วย (วันนี้ไม่ได้เข้าไปชมเนื่องจากวันนี้ไม่ได้มาเที่ยวตามแผนที่วางไว้ ตามแผนวันนี้ไม่มีอะไรเข้าที่พัก นอน :j แต่พอเอาเข้าจริง เครื่องบินดันมาถึงแต่เช้าเลย วันนี้เลยถือโอกาสเดินชมอย่างเดียว ^^) ผมก็นั่งๆ เดินๆ มองดูผู้คนเดินไปมาเรรื่อยๆ แอบเอาดินสอขึ้นมาวาดรูปบนกระดาษที่ติดไปด้วยพลางๆ เพลินดีครับ เสียอย่างเดียวอากาศร้อนไปหน่อย
(มองจากที่นั่งใต้ต้นไม้)
(ทางเข้า หญ้าเขียวสาวยสะใจมาก <3)
เดินตามริมน้ำไปเรื่อยๆ
อีกฝากของแม่น้ำครับ
แท่แด้ ! เจอแล้ว Tower Bridge ตามป้ายไปเลยครับ
ตามไปเลย
* Tower Bridge เป็นสะพานเชื่อมผืนดินสองฝั่งของแม่น้ำเทมส์ ซึ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอีกอย่างของลอนดอน แต่ยังมีอีกสะพานหนึ่งที่คู่กัน (แต่ไม่ได้อยู่ใกล้กันนะครับ) ก็คือ London Bridge ครับ ซึ่งระหว่างที่เดินบนสะพานนี้นั้น มองลงไปจะเห็นเรือเล็ก ใหญ่สัญจรผ่านตลอด ก็ตามประสาแหละครับ เรือประเภทพาคนชมเมืองนั้นคนที่อยู่ในเรือมักส่งเสียงร้องทักทายกับคนบนสะพาน ผมมองว่าน่ารักดีนะครับ ถึงแม้ว่าไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนั้นก็ตาม ก็ได้แต่มองแล้วยิ้มและแอบขำในใจ >< นอกจากนั้นแล้วเราสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์มุมสูงได้บนด้านบนของสะพานด้วยนะครับ ที่เป็นเหมือนหอคอยอ่ะครับ 7.xx ปอนด์ครับ
(ทั้งคนทั้งรถ ก็เยอะแยะมากมาย)
(แต่ก็ได้แต่เดินๆ เดินไปให้สุดอีกฝั่งเลยนะครับ ใช้สายตาบันทึกภาพเก็บไว้ในความทรงจำให้มากที่สุดนะครับ เดินไปช้าๆให้เวลากับมัน ถึงแม้จะร้อน แต่มันก็โอเคครับ เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ ถึงกลางสะพานก็แวะพักใหญ่ๆสูดหายใจลึกๆเลยนะครับ ยิ่งใครชอบสีน้ำเงินคงถูกใจนัก เพราะโครงเหล็กต่างๆ เป็นสีฟ้า สีน้ำเงินสดใสมากครับ)
หลังจากเดินมาสุดที่อีกฝั่งของสะพานทาวน์เวอร์แล้ว เราก็ไปอีกสะพานหนึ่งที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่หูกันดีกว่าครับ London Bridge ระหว่างทางไปนั้นผมเลือกใช้วิธีเดินไปเรื่อยๆตามใจชอบนะครับ เพราะผมมองเห็นสะพานลอนดอนตั้งแต่อยู่บน Tower Bridge แล้วแหละครับ สำหรับทิศทางก็ลงสะพานแล้วขวาเลยครับ เดี๋ยวก็คงเจอ ^^ ไปเรื่อยๆกันครับ
ผมเลือกเดินไปยังถนนคู่ขนานกับแม่น้ำครับ ไม่ได้เดินเลียบแม่น้ำเทมส์ไป
เดินผ่านอนุเสารีย์ของใครสักคน ^^จำชื่อไม่ได้ วันนี้ผมไม่ได้สนใจตรงนี้หรอกครับ แต่ผมมาเจอในอีกวันที่ผมมาเดินอีกรอบ
คนเดินเยอะแยะครับ ไม่ต้องกลัวจะเหงา
เดินมาสักพักเจอรั่วเหล็กครับทางขวามือ เลยเดินเข้ามาดุใกล้ๆ นี่มันสวนนี่หน่า เดินไปอีกนิดครับ เจอทางเข้าผมก็เดินตรงเข้าไปเลยครับ เพราะผมชอบอะไรเขียวๆชมพูๆแบบนี้อยู่แล้ว แต่สวนนี่กลับเป้นแบบแห้งเหี่ยวครับ *^* ผมไม่แปลกใจหรอกนะครับ เพราะแดดแรงขนาดนี้ แต่ถึงจะแห้งแหล้งขนาดนี้ แต่คนนี่สิเต้มเลยครับ อารมณ์ประมาณพวกคนทำงานมานั่งคุยกันพร้อมแก้วกาแฟ บุหรี่ :j
เดินเข้าไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาบรรจบกับถนนเดินเท้าเลียบชายฝั่งแม่น้ำ เดินเลียบไปเรื่อยๆเลยครับให้หันหน้าเข้าหาสะพานลอนดอนนะครับ
มองย้อนกลับไปสะพานทาวเวอร์ซักหน่อย แอบเห็นหลังเรืออะไรสักอย่างนิดนึงใช่ป่ะครับทางฝั่งซ้ายมือของเราครับที่มีเหมือนสะพานเดินลงไปบังไว้อยู่ นั่นแหละครับเรือที่เคยใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง HMS Belfast
โถงของตึกทางซ้ายมือครับ Hays Galleria มีร้านขายของเล็กๆ กับร้านอาหารครับ เยอะแยะ
ผมมองแล้วยิ้มครับ เด็กๆน่ารักดี เล่นไม่ต้องอายใคร เด็กผมก็คงจะเป็นแบบนี้ แต่คงไม่เข้าขั้นนี้นะครับ :j
ชื่อทางเท้านี้ป่ะครับ -?- (แอบเห็นสะพานแล้ววววว)
โผล่ขึ้นมาผมเจอสิ่งนี้สิ่งแรกครับ แล้วก็รีบหันไปอีกทาง โอ้วววว สะพานลอนดอน ก่อนเดินไปสะพานลอนดอน ผมก็วกวนแถวตีนสะพานเข้ามาทางฝั่งแท่งสูงแหลมนี้ครับ นั่งๆ เดิน เหมือนเดิม แล้วก็ยังร้อนเหมือนเดิมครับ
เดินไปกันเลยครับ London Bridge
ต่อคอมเม้นท์ที่ 6