รัฐบาลต้องการให้คนมีลูกกันมากๆ แต่แรงจูงใจแค่นี้มันไม่พอหรอก

http://morning-news.bectero.com/economy/28-Sep-2017/111236


หากรัฐจูงใจแค่นี้  ไม่มีผลต่อการตัดสินใจอยากมีลูกกันหรอก  ทุกวันนี้ลำพังเอาตัวเองให้รอดยังยากเลย

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรแต่ละคน  มันมากกว่าที่จะเอามาลดหย่อนภาษีหลายเท่านัก

ทำไมข้าราชการที่ดูแลเรื่องนี้  ถึงคิดไม่ได้  ชอบทำงานแบบกั๊กๆ  ผลงานที่ผ่านมาแต่ละอย่าง ถึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จให้เห็นเป็นรูปธรรมสักเท่าไหร่

การใช้มาตรการทางภาษีมาจูงใจให้คนมีบุตร  นั่นหมายความว่า เป้าหมายคือกลุ่มคนชั้นกลาง ที่มีฐานภาษี 10-20%เท่านั้น  


ดังนั้นการจะจูงใจให้มีบุตรได้  ต้องได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับภาระค่าเลี้ยงดูที่สูงมากในปัจจุบัน  หากค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นไปตามนี้ ( ขอยกตัวอย่าง จขกท.คนนึงได้เคยลงไว้) เฉลี่ยประมาณ 5000 บาทต่อเดือนหรือ 60000 บาทต่อปี  ก็ควรได้สิทธิลดหย่อนทางภาษีให้ได้อย่างน้อยสักครึ่งหนึ่งของค่าเลี้ยงดูนะครับ



ข้อเสนอผมนะ  

1.  ลดหย่อนบุตรคนละอย่างน้อย 50000 บาท ไม่จำกัดจำนวน เพราะบางคนอาจจะไม่ได้มีภรรยาคนเดียวไปตลอดชีวิต  

2.  เพิ่มจำนวนบุตรได้สิทธิสวัสดิการข้าราชการ ที่ของเดิมจำกัดไว้ที่ 3 คน ให้เป็นไม่เกิน 5 คน  เพราะคนกลุ่มนี้แหล่ะที่จะสามารถพอมีกำลังเลี้ยงดูบุตรได้  โดยต้องเพิ่ม ค่าเล่าเรียนให้มากกว่าทุกวันนี้ ที่ต้องจ่ายเพิ่มจากที่เบิกได้จริง  แต่ถ้าไม่จำกัดจำนวนเลยก็จะเป็นภาระกับกองทุนมากเกินไป

3.  ได้รับบัตรสวัสดิการในการเลี้ยงดูบุตร เช่น ซื้อนม  แพมเพิส อุปกรณ์เลี้ยงลูก ในราคาที่รัฐอุดหนุน

หากรัฐต้องการให้คนมีบุตรได้ตามเป้าหมาย  ก็ต้องสร้างแรงจูงใจแบบที่ไม่อาจปฏิเสธได้  ไม่ใช่ทำแบบเหมือนไม่ได้ทำ อย่างที่คิดจะทำกันตอนนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่