ขอระบายหน่อยครับ ปัญหาเรื้อรังภายในใจ ที่ไม่เคยได้พูดกับใคร

สวัสดีครับ ผมอายุ 27 ปี สถานะปัจจุบัน ตกงาน อยู่กับทางบ้าน มีลงทุนไปขายของ 2 – 3 เดือน ตอนนี้หยุดแล้วกำลังหางานผมเป็นคนเตี้ยๆ ขาวๆ ลูกคนจีน ตอนเด็กๆผมชอบโดนเพื่อนรังแก กลัวคางคก กบ เพื่อนชอบเอามาไล่วิ่งหนีอ้อมโรงเรียน ปัจจุบันนี้ผมสูงไม่ถึง 160
            ตอนเด็กชอบแยกชิ้นส่วนพวกแมลงทั้งเป็น เตะคางคกแบบเต็มข้อ โยนลูกบอล(ประทัด)ใส่พวกคางคก กบ เขียดตะบาด
            เคยคิดจะฆ่าตัวตายครั้งแรกตอน  ม. 3 จะไปโดดตึกแต่ไม่กล้า(กลัวความสูง ทุเรศตัวเองมากๆ ฮ่าๆ)ด้วยความที่มีปมรู้สึกเหมือนพ่อแม่ไม่รัก ผลการเรียนก็ไม่ดี เป็นเด็กโง่ เด็กเกือบเอ๋อแม่แต่งงานช้า ญาติๆชอบพูดกันแบบนี้ แม่ผมรับราชการ พ่อขายของบนที่บ้านของยาย
             ยายผมมีลูก 7 คน แม่ผมคนรองสุดท้าย แม่ผมท่านแต่งงานช้าตอนปลายๆ อายุ 36
             บ้านที่แต่ก่อนผมจะมาอยู่แล้ว 3 ทุ่มกลับไปนอนบ้านตัวเอง มีญาติศัยอยู่ด้วย 3 คน ป้า 2 คน น้า 1 คน
             น้าเป็นครูบ้านนอก โรงเรียนที่เขาสอนอยู่กันดานมาก เขาเคยพาไปเล่นอยู่โรงเรียน ชอบพูดจาดูถูกผมตลอดทุกวัน และ เอาผมไปเปรียบกับน้อง และด่าผมโง่ เขาเป็นคนพูดจาอยู่บนฟ้า แต่อยู่กินกับทรัพย์สมบัติแม่ตัวเองไม่ไปไหน ฉลาดทุกเรื่อง แต่รู้ไม่จริงสักเรื่อง เสล่อรู้เดาชีวิตผมทุกอย่าง แกจะทำแบบนี้ๆใช่ไหม สรุปเดาไม่เคยถูกสักอย่าง สมญานามที่ผมตั้งให้เพื่อเป็นเกียรติ “ มหาปราญ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ เทพธิดาพยากรณ์ 1900 1900 04 ” เออรี่รีไทร์ ตัวเองออกมาก่อน มาอยู่บ้านแล้วขายสมบัติกิน คนนี้ทำให้ผมชอบขโมยเงินพ่อแม่ เพราะเขามักจะบอกผมว่าแม่แกรวยจะตาย รวยกว่าคนในบ้านนี้ทุกคน แล้วรอบตัวผมเป็นครอบครัวที่ญาติเยอะ ไปเจอพี่(ลูกของลุง อายุน้อยกว่าแม่ 4-5ปี)เขามีลูก บ้านเขาไม่รวยเท่าบ้านผมแต่เขามีเงินซื้อหุ่นพาวเวอร์เรนเจอร์ ประกอบร่างทุกตัว(ไดจูจิน)ให้ลูกได้ ของเล่นโชว์เต็มบ้าน ซึ่งต่างจากผมที่ไม่มี มีแต่พวกแถมกับกล่องขนม ผมเลยเริ่มขโมย ไม่มีมอไซต์อย่างเพื่อนเขา มีตอน ม.4 ทั้งๆที่บ้านมีมอไซต์ 2 คัน ของพ่อกับแม่และรถยนต์อีก 1 เข้ามหาลัยก็เลิกนิสัยขโมยเด็ดขาดแล้วครับ เริ่มคิดและควบคุมตวเองได้ระดับนึง
              ป้าคนแรกครูวัยเกษียณจากเมืองกรุง  ย้ายกลับมาอยู่บ้าน คนนี้ชอบเอาเรื่องผมไปเล่าให้แม่ค้าหน้าบ้านฟัง
              ป้าคนที่ 2 รับราชการ เป็นเมียน้อยเขา ชอบพูดดูถูกผม แล้วว่าผมโง่ สอบเลื่อนขั้น ย้ายที่ก็สอบไม่ได้ (ได้ยินจากป้าคนโตเขามาเล่าให้ฟัง แล้วนินทาให้ผมฟังว่าป้าคนนี้โง่จะตาย วิ่งฝากจนเหนื่อย) แต่ก่อนผมสนิทกับคนนี้มากแต่พอโตมา เขาชอบเข้ามาค้นห้องผม หาว่าของผมที่วางไว้ในห้องเป็นขยะเอาไปทิ้ง ชอบมาแอบส่องผมผ่านหน้าต่างช่วงกลางคืน พูดบอกว่าอย่ามายุ่งของๆผม เขาก็ไม่ฟังยังทำเหมือนเดิม ผมเลยเกลียดเขาไปเลย ติดการพนัน ไปเขมรทุกวัน ติดหนี้เขาจนเสียที่ให้แม่ผม แกจะมาช่วยเฝ้าหน้าร้านขายของ ของพ่อผมตอนเช้าให้ แต่ปรากฎว่ามารู้ทีหลังว่าแกขโมยเงินหน้าร้านเล็กๆน้อยๆตลอด จนผมเข้ามหาลัยก็เลิกขโมยเงินแล้ว เพราะไม่ค่อยได้ใช้อะไรเหมือนแต่ก่อนไม่มีก็อดเอา เริ่มคิดได้ แม่เริ่มใกล้เกษียณ เงินไปมหาลัยวันละ 200 ถือว่าเยอะพอสำหรับผม ข้าว 2 มื้อ เหลือเก็บ แต่ทำไมพ่อจะโกรธผมแล้วว่าถามว่า ขโมยเงินใช่ไหม

                คิดจะฆ่าตัวตายครั้งที่ 2  ตอนม.5 ครั้งแรกมันไม่สำเร็จเพราะกลัวเลยไปเซิร์ดเน็ตยานอนหลับกินเยอะๆกดประสาทไม่ตื่นเป็นผักไปเลย ไปหลอกถามแม่ แต่แม่ไม่หาให้ พอดีกับช่วงนั้นผมรู้สึกดีกับเพื่อนในห้องคนนึง ผมเป็นคนวาดรูปพอใช้ได้ ช่วงนั้นฮิตเอาปากกาเขียนแขน เขามาให้ผมเขียนให้ คือก็ปลื้มตั้งแต่ ม.ต้นแล้วและครับ ม.ปลายได้อยู่ห้องเดียวกัน ปัจจุบันนี้เขาแต่งงานไปแล้วครับ ก็เลยอยากมีชีวิตต่อ หาเรื่องไปสนิทกับเขา แต่กว่าจะสนิทเล่นหัวกันได้ก็ ม.6
                ก็คือช่วงชีวิต ม.ปลายผมเป็นขี้ข้าเพื่อนคนนึงในห้อง งานมันไม่เคยทำเอง ต่อหน้าคนอื่นทำเหมือนผมเป็นเพื่อน  การเรียนผมก็ไม่ดี ยังจะมาแบกรับงาน 2 เท่า โดนข่มเหง ถ้าผมทำท่าทีไม่พอใจ มันจะดึงคอเสื้อกระชากแล้วพูดน้ำเสียงขำๆ “ เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งหรอ ” ครั้งนึงรู้เรื่องว่ามันบวชไปดูที่ทางกับวัดที่มันอยู่แล้วจิตนาการตลอดว่า ฆ่าแม่---งคาผ้าเหลืองจะสะใจขนาดไหน

                คิดจะฆ่าตัวตายครั้ง 3 ตอนผมขึ้นมหาลัย มันอิสระมากๆด้วยความที่เป็นคนขี้เกียจอยู่แล้ว ทำให้ไม่ไปเรียนการงานไม่ส่ง ก็โดนรีไทน์ออกมา วันนั้นเหนื่อยกับตัวเองมากกว่าจะได้นอนก็ตี 3 สะดุ้งตื่นมาอีกทีคือพ่อเตะ เราผวาตื่นมาก็เจอกับคำพูดไล่ให้ไปตาย โพสเฟสบุ๊คว่าไว้พบกันใหม่ หลังจากนั้นก็เดินออกจากบ้านไปเลยครับ จากบ้านผมไปสระน้ำเกือบ 4 โล ที่เลือกที่นี้เพราะมันเงียบไม่ค่อยมีคน สรุปเหนื่อยครับไปถึงนั่งลงข้างสระลมพัดเย็นๆ “ เออไม่อยากตายและ ” เดินกลับบ้าน เออคิดถึงก็ตลกดี ปัญญาอ่อน กลับมาถึงบ้านเปิดเฟสบุ๊คดู มีเพื่อน 1 คนมาคอมเม้นว่า “  555+ ” หลังจากนั้นก็กลายเป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์ใครเท่าไร พูดตามที่คิดมากขึ้น ซึ่งส่งผลเสียมากครับ ทำให้ก้าวร้าวกันคนในบ้านด้วย ยกเว้นกับแม่
วันนั้นมีหมาหลงเข้ามาในบ้าน(บ้านพ่อแม่ไม่ใช่บ้านที่อยู่กับญาติ) เป็นตัวที่ชอบไล่เห่าผม มันลอดช่องเล็กๆเข้ามาผมรีบเอาแผ่นกระเบื้องตราช้าง เลื่อนปิด มันออกไม่ได้ ผมไปหาของได้ไม้ไผ่ยาวประมาณแขนคนสูง 170 180 หักปลายออกนิดหน่อยเพราะรู้สึกว่าหัวมันเรียวไปกลัวปาแล้วปักเข้าเนื้อมัน จากนั้นก็ไล่ปาใส่มัน ทอสอบความแม่น ไล่จนเหนื่อย จนหมามันจะน่าจะเหนื่อยมากเริ่มหาที่ซ่อน ผมเลยปล่อยมันไป หลังจากนั้นมา 2-3 วันมันตาย เจ้าของ(เพื่อนบ้านระแวกนั้น)มาคุยกับพ่อว่ามันช้ำใน ทำให้รู้สึกอยากฆ่าอะไรขึ้นมา ด้วยความที่ผมเสพการ์ตูนสายกุโระด้วย ความรู้สึกมันมากขึ้น ช่วงนั้นตรงกับวันที่สารภาพรักกับเพื่อน ยิ่งแต่เจ้บปวด ความรู้สึกยิ่งแรง ตอนนั้นสู้กับตัวเองลำบากมากครับ ต้องกดไว้ มีอีก 4 เรื่องครับเล่าลงไม่ได้อาจเป็นอันตรายต่อตัวผม
                   แล้วสุดท้ายเหตุผลที่มาตั้งกระทู้นี้คือ มีลุงคนนึงอายุจะ 70 กว่าแล้ว เป็นเพื่อนป้าที่ติดการพนัน ผมมีหน้าที่เฝ้าร้านช่วงเช้า ก็จะเจอตานี้ตลอด มันจะมาพูด “ลูกแหง่ ลูกเจิ๊ยบ ๆ ” สลับไปมาใส่ผม ทำแบบนี้เฉพาะตอนร้านโล่งไม่มีลูกค้าอื่น เป็นปีแล้ว คนในบ้านหยามได้แต่ไอ้นี้คือใคร ชื่อมันผมยังไม่รู้จักเลย พึ่งรู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเพื่อนป้าเมื่อไม่อีกสัปดาห์นี้เอง ไปดูที่ทางมาเรียบร้อย คนเงียบไม่มีกล้องวงจรปิดสักตัว ผมจะลงมือตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแต่กดไว้ได้อยู่ วันนี้เผลอพูดเล่นกับพ่อแกด่าผมและปกป้องไอ้แก่นั้นว่า ว่ามันรู้จักผมทำไมมันจะพูดใส่แกไม่ได้ ก็แกเป็นอย่างนั้น รับความจริงไม่ได้หรอ แล้วว่าผมจิตไม่ปกติ ก็ใช่ไงผมไม่ปกติ

ขอบคุณที่รับฟังครับ เหนื่อยใจมากๆ สู้กับตัวเองทุกวัน เคยไปอ่านเจอว่า อย่าได้ทำมันจะมีครั้งต่อไปเรื่อยๆ

แก้คำผิดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่