ตอนนี้กำลังเครียด เคยแต่อ่านในพันทิป แต่ไม่เคยตั้งกระทู้ คือแม่เราเป็นคนขี้อิจฉา ที่กล้าพูดแบบนี้เห็นมาแต่เด็ก นอกจากขี้อิจฉายังมีความสุขที่ได้เห็นคนอื่นที่ตัวเองไม่ชอบล่มจมด้วย แต่ที่หนักที่สุดคือเวลาเห็นใครได้ดีกว่าพยามแต่งเรื่องว่าที่ได้ดีเพราะแบบนั้นแบบนี้ (ซึ่งร้อยละเก้าสิบคือไม่จริง) และที่สำคัญแม่ชอบเปรียบเทียบมาก เราเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ค่ะ บ้านมีฐานะในอำเภอนั้นมากพอสมควร ตอนเด็กๆมีครอบครัวข้าราชการครอบครัวนึงย้ายเข้ามาอยู่เข้ามาอยู่ค่ะ ถือเป็นข้าราชการใหญ่ เค้าก็จ้างคนงานภายในบ้าน ซึ่งป้าซึ่งคนงงานบ้านนั้นเป็นคนที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านแม่เรา ต่อมาป้าแกก็ไปได้ผัวฝรั่งแก่ๆคนหนึ่งแล้วก็ทิ้งกลับประเทศไป พอมีลูก บ้านนี้เค้าก็รับเลี้ยงค่ะ ส่วนป้าคนนั้นแกก็ตามไปด้วย พอเราโตมาตอนพอรู้เรื่อง แม่เราก็ชอบด่าป้าคนนั้นว่าชีวิตกระจอกไรงี้ จำได้ว่าทุกวัน พอต่อมาป้าแกตาย แม่เราก็พูดอีกด่าว่าป่วยด้วยโรคไม่ดี คือสุดมาก แล้วตอนเด็กๆเราก็ซึมซับการดูถูกและวิธีคิดของแม่เรามาด้วยค่ะ แม่เราชอบเปรียบเทียบว่าลูกของป้าคนนี้
ต้องเป็นเด็กไม่ดี เค้าต้องไปเอาไว้สถานสงเคราะห์แน่นอน (ป้าไม่มีญาติค่ะ) เวลาผ่านไปแม่เราก็ชอบสอนวิธีคิดแปลกๆให้ เช่นตอนไปประกวดต่างๆพอเราไม่ชนะแม่เราก็ชอบแต่งว่าคนที่ชนะมันต้องมีอะไรไม่ดี ซึ่งตอนนั้นเราไม่ค่อยคิดอะไร เรามาคิดจริงๆตอนเราเข้ามหาลัยแล้วเข้ามหาลัยที่มืชื่อเสียงแต่ไม่ใช่คณะที่เราอยากได้จริงๆ แม่เราก็โม้ให้คนข้างบ้านฟังอีกว่าลูกชั้นต่อไปจะเป็นเจ้าคนนายคน ซึ่งหลังๆมาข้างบ้านนี่ไม่คุยกับเราเลย เพราะลูกเค้าสอบได้หมอ (แม่เราถึงขนาดเคยเล่าให้เราฟังว่าลูกข้างบ้านโกงข้อสอบ ซึ่งโตมาเราว่าไม่ใช่ละ) จนย้อนกลับมาล่าสุด เราสอบข้าราชการองค์กรหนึ่งและย้ายกลับมาทำงานที่อำเภอบ้านเราได้สำเร็จค่ะ และแล้วเราก็มาเจอลูกของป้าคนนั้น สอบเป็นข้าราชการชั้นอยู่ในฐานะเจ้านายเราได้และย้ายกลับมาทำงานบ้านเราเป็นนายเราค่ะ แม่เราพอรู้ก็ไล่ด่าตั้งแต่ว่ามันสอบเข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้เพราะใช้เส้นของคนที่รับเลี้ยงมัน และเรียนมหาลัยต่างประเทศสองใบ ซึ่งไปดูแล้วก็มหาลัยดีมาก (ที่ทำงานเค้าพูดให้ฟัง) แม่เราก็ด่าว่าเนี่ยที่เข้าได้เพราะมีเงิน (ซึ่งนั่นไม่จริง การเข้ามหาลัยระดับ World Ranking TOP20 นั้นไม่ใช่มีเงินแล้วจะได้เรียน) และเค้าหน้าตาสวย สูงหุ่นดีมากๆ สวยกว่านางเอกบางคนซะอีก แม่เราก็ไล่ด่าว่าแม่มันเตี้ยจะตายมันจะสูงขนาดนั้นได้ไง มันต้องฉีดยาที่เกาหลีให้สูง (ซึ่งมันไม่มี) ทำนั่นทำนี่มาที่เกาหลี ฯลฯ ตอนนั้นเองเราถึงได้ฉุกคิดว่าแม่เราคือชอบแต่งเติมเหตุผลและหาข้อด้อยของคนอื่น และมีทำให้เราชอบปลอบใจตัวเองด้วยวิธีนี้เช่นกัน แต่เจ้านายภายนอกมองดูคือถ้าไม่มีใครรู้ภูมิหลังก็นึกว่าเป็นลูกคุณหนูไฮโซสวยเก่งเลยค่ะ และกับเราแกก็ไม่ได้พูดไม่ได้ว่าอะไร ใจดีกับเราต่างหาก (แม้แม่เราจะเคยดูถูกแกตอนเด็กตรงๆก็ตาม) จนวันนึง แม่เราไปที่ทำงานเราเอาขนมเข้าไปฝาก ไปนั่งคุยกับพี่คนนึงซึ่งเป็นแม่บ้านของสำนักงานแล้วก็น้องธุรการ ก็ดันไปพูดด่านินทาเจ้านายเราแบบนี้กับแม่บ้านและน้องคนนั้น จนทุกคนในสำนักงานเค้าโกรธ ไปเล่าให้ฟัง หัวหน้าสูงสุดของสำนักงานเลยให้ไปแจ้งความไว้ค่ะ แม่เราก็ยังไปพูดที่โรงพักอีกว่ากูพูดเรื่องจริง (ทั้งที่มันเป็นเรื่องแต่งซะเกือบหมด) กูไม่ผิด จนสุดท้ายเราต้องร้องไห้เข้าไปขอโทษเจ้านายเราค่ะ เจ้านายเราก็ไม่ได้ว่าอะไร จนในที่สุดแม่เราก็สัญญาว่าจะไม่พูดอีก เลยจะถอนแจ้งความกันไป แต่กลับมาบ้านก็ยังพูดเหมือนเดิมแต่คราวนี้ไปด่าคนอื่นแทน เรากลัวแม่เราจะโดนอีกมีวิธีแก้อะไรมั้ยคะ ตอนนี้ไม่คุยกับแม่จะเดือนนึงละ เวลาทำงานก็ไม่กล้าสู้หน้าใครเลยค่ะ ปวดใจจริงๆทุกคนมองเราว่าแม่เรานิสัยไม่ดี แต่พาลมาเราด้วย แต่ก็ยังมีบางคนเข้าใจเราค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรกับเจ้านายก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ ใช้งานเราปกติ ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีกเลย ตอนนี้เรากำลังลางานอยู่กรุงเทพมาอยู่บ้านเพื่อนเพื่อทำใจหลายๆอย่าง กำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อไปดีคะ
แม่เราเป็นคนชอบแต่งเรื่องและชอบนินทาคนอื่นแก้ยังไงคะ