และแล้วว.....เราก็ได้ไปสัมผัสการล่องเรือที่ "T A M C O C"

เช้านี้ที่ตัวเมืองฮานอย...เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งของอีกวัน ที่สดชื่น
เรามานั่งรอรถ เพื่อจะไปที่...ฮาลองเบย์....
เราจองทัวร์ ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว เช้านี้เราเลยมารอรถ เขานัดเวลา 8.00 น.
ก่อนเดินทางไปยังสถานีต่อไป เราก็ได้เห็นบรรยากาศตอนเช้า
ของเมือง ฮานอยด้วย (บอกได้คำเดียว....อากาศเย็นๆ นิด)

เมื่อเวลาผ่านไป 8.30 น. เขาก็ยังไม่มารับเรา รอต่อไป .... (ตกใจอ่ะดิ 555) สักพักเจ้าของทัวร์ก็มา


แต่แล้วเป้าหมายของเราก็ต้องเปลี่ยนเป็น.......Ninh Binh แทน อันเนื่องมาจากช่วงที่เราไปนั้นมันมีพายุเข้า
และวันนี้ที่อ่าว ฮาลองเบย์พายุเข้าอย่างแรงเขาบอกนะ (แอบตกใจนิดๆ แต่เราเข้าใจในความเป็นธรรมชาตินะ...)
" T A M C O C" ที่ ninh binh จึงเป็นตัวเลือกของพวกเราแทน
รอไม่นานก็มีรถมารับไปยังเมือง Ninh Binh เราจะไปล่องเรือกันที่ Tam Coc เย้ๆๆๆๆ

ระหว่างทางเจอวิวสวยๆ ระหว่างทาง (อาจจะเป็นเพราะไม่เคยเจอมาก่อนรึป่าวนะ 555)
บนรถก็จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากันหลายๆ คนครับ จากหลายๆ ประเทศนะ เป็นอีกบรรยากาศ
เราใช้เวลาเดินทางมา Ninh Binh (เป็นเมืองเก่าก่อน ฮานอยนะ) สักสามชั่วโมงได้
ที่แรกที่เราได้มาเยือนคือวัดเก่าครับ สวยเลยครัช ก็เพราะเป็นวัดที่เก่าแก่มากๆ ความสวยงามเลยออกมาให้เห็น

จะเห็นความเป็นเวียดนามเลยล่ะ




เมื่อชมความเก่าแก่ของวัดนี้แล้ว ใช้เวลาเดินเท้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอกับ
วัดเลฮวาน (Le Dynastic Temple) อยู่ใกล้ๆ กันเลยครับ
ระหว่างทางเดินก็จะเป็นบ้านเรือนแบบเวียดนามเลย
ทางเข้าวัดเลฮวาน.......





เราก็ใช้เวลาสักพัก เพื่อเดินดูวัด พร้อมกับถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ครับ

หลังจากชมความงามของวัดแล้ว เราก็เดินต่อมาอีกสัก 200 เมตรครับ เพื่อไปจุดนัดพบกับ
เพื่อนคนอื่นๆ ที่มารถคันเดียวกัน โดยระหว่างทางฝนก็ยังตกปอยๆ อยู่ครัช บรรยากาศก็จะมีสีเขียว
มีภูเขาล้อมรอบ ระหว่างทางเดินที่โล่งๆๆ มาก เมื่อข้ามสะพานมาก็เจอกับเพื่อนคนอื่นๆ

คนนำเที่ยวบอกว่าเนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้การล่องเรืออาจจะเป็นอันตรายมากๆ เขาจึงเสนอทางเลือกอื่นๆ
แต่นักท่องเที่ยวส่วนมากในรถบอก....ว่าต้องการไปล่องเรือ Tam Coc (เสียงข้างมากนะ 555)
หลังจากนั้นเราก็พักรับประทานอาหารกลางวันกัน กินเเบบบุฟเฟ่ต์เลยนะ
อาหารบอกเลยเวียดนามๆ เลยครัช ผักเป็นหลัก (ผมจัดสองรอบครับ ด้วยความโหยหิว เห้ย !!!! ด้วยความหิวนะ)
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ....ทุกคนก็ไปล่องเรือกันครับ
ฝันก็ยังตกตลอดเลยครับ คือก็จะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งนะครับ (จะเป็นหวัดไหมนี่ 555)
ถึงเเล้วครับที่ล่องเรือของพวกเรา โอ้ยยยยยย เห็นภาพ ภาพเเรกอดใจไม่ได้ที่จะถ่ายรูป
คือหายหมดเลย ความหิว (เพิ่งกินมาเมื่อกี้เลย 555) อาการกลัวฝน ผมยอมลงทุน
ยืนกลางสายฝน เพื่อถ่ายรูปนะ 555555


เราลงเรือ เพื่อล่องเรือไปชมถ้ำ ชมธรรมชาติ สำหรับตัวผมแค่เห็นภาพข้างทางก็อิ่มล่ะ
นี่ครับผู้นำทางเรือเรา 55555 จะพายไหวไหมน้อ ผมตัวหนักนะ อิอิ


ระหว่างที่คุณพี่พายเรือออกพร้อมๆ คนอื่นๆ แต่ไปสักพัก ทำไมเรือเราอยู่สุดท้ายหว่าาาา
ลำแล้วลำเล่า พายผ่านเราไป........ 5555

แต่วิวสองข้างทางนี่สิ "ที่นี่ยังคงเป็นธรรมชาติเลย" เจอบ้าน เจอภูเขา เจออะไรๆ สีเขียวๆ




บรรยากาศแบบนี้เลยที่สดชื่น ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ แถวบ้านนอกผมก็เคยรับรู้บรรยากาศแบบนี้นะ
พอมาเจอที่นี่ทำให้ผมคิดถึงช่วงวัยเด็ก ตอนเด็กๆ เลย (แอบหวนคิดถึง 555) แต่นี่เหมือนกลับมาเติมพลัง
แต่อาจจะเป็นคนละที่ ส่วนตัวผทชอบบรรยากาศแบบนี้นะ เพราะสายฝนก็ตกลงมาประกอบฉาก เฉกเช่นในหนัง
ประหนึ่งว่าอยู่ในนิยายรัก ... (กูว่าซักจะเว่อร์ล่ะ 555)

ผมดูเวลา ด้วยความที่กังวลว่าคุณพี่พายเรือจะเหนื่อยรึป่าว....ตอนนี้ผมรั้งท้ายแล้ววววครัช
โดนเรือลำอื่นๆ แซงไปไกลเหลือเกิน.....


น้ำที่นี่ใสมาก ใสกว่าใจคนอีก (แฮ่ะ ว่าไปนั่น 55555)
ในที่สุดเรือลำอื่นๆ พายกลับมาแล้วแสดงว่าใกล้ถึงถ้ำแล้วสินะ
สักพัก ก็ถึงถ้ำแล้วครับ พี่เขาจะพาเราเข้าไปในถ้ำนั้น (ให้ตายเถอะ จะผ่านไปไงว่ะนั่น 5555)

ปากถ้ำก็กว้างๆ เน้อออออ (ประชด !!!!!)
ทุกอย่างทำได้ถ้าใจพร้อม อิอิ (ไม่พร้อมได้ไง ถ้าจะให้กลับก็คงมาไม่ถึงสินะ)

นี่ล่ะในถ้ำ....ประสบการณ์ อันล้ำค่าสำหรับเราเลยล่ะ ..... สุดยอดดดดด ทำได้แล้ว เย้ๆๆๆๆๆ
เราพายเรือลอดถ้ำ ไปสองถ้ำเลยครับ ในที่สุดก็เจอทางออก (ผมนี่โล่งเลยครับ 555)

หลังจากนั้นเราก็ต้องพายเรือกลับ...ด้วยความที่ผมรั้งท้ายขบวน 5555
มะพี่...!!!! ผมช่วย (นี่เข้าใจสำนวนไทยเลย...มือไม่พายอย่าเอาเท้าลาน้ำ...5555)
ผมช่วยพายเองครับ ฝนก็ตก...

เรือลำอื่นๆ เขาถึงกันสักพักล่ะ 555 คนนำเที่ยวต้องมายืนรอเรือเรา อิอิ
(นี่เข้าใจความรู้สึกของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเลย อิอิ)
เราใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 3 ชั่วโมงนะครับ แต่สิ่งที่ได้มามันบอกไม่ถูกจริงๆครับ
ประสบการณ์เลยล่ะ....
เมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่รถบัสแล้ว (จริงๆ รอเรา 555) คนนำเที่ยวก็บอกว่าสภาพอากาศวันนี้ฝนตก
อาจจะไม่สะดวกและอาจจะงดกิจกรรมไปปั่นจักรยานชมเมือง (ซึ่งผมก็คงไม่ไปปั่นล่ะ ผมอิ่มกับกิจกรรมล่องเรือเมื่อกี้ล่ะ 555)
โดยคนส่วนใหญ่ในรถบอกไม่ไปปั่นจักรยานล่ะ เพราะฝนตกหนัก
ดังนั้นเราเลยมุ่งหน้ากลับกรุง ฮานอยเลยครับ ก็เวลาพอดีครับ สี่โมงครึ่งล่ะ


เราเดินทางมาถึงฮานอย ประมาณเกือบสามทุ่มล่ะครับ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ
หาร้านอาหารกินสิครัชชช รอไร.... 555
นี่เลยอาหารมื้อเย็นของเราวันนี้

หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นในเมืองสะหน่อย แต่ฝนก็ตกปอยๆ นะ
ตอนเช้าเห็นบรรยากาศยามเช้าที่นี่ ตอนดึกๆ ก็เห็นอีกบรรยากาศหนึ่ง .....

บรรยากาศแบบนี้....ก็สายฝนอีกล่ะมาเป็นพระเอกให้ฉากของวันนี้สมบูรณ์ ว่าไหม

ฉันจะเก็บเอาความรู้สึกดีๆ ของวันนี้ เพื่อนำมาเป็นพลังของวันพรุ่งนี้ให้เดินต่อไป...


ขอบคุณวันดีๆ วันนี้ที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับการเดินทางเพราะ....
" การเดินทาง...มันมีเสน่ห์ ตรงที่...เราไม่รู้ว่าจะเจออะไรนี่ล่ะ..."
ราตรีสวัส ฮานอย...
แบกเป้ท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม ตอนที่ 2 เยือนถิ่น...Tam Coc ฮาลองบก
เช้านี้ที่ตัวเมืองฮานอย...เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งของอีกวัน ที่สดชื่น
เรามานั่งรอรถ เพื่อจะไปที่...ฮาลองเบย์....
เราจองทัวร์ ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว เช้านี้เราเลยมารอรถ เขานัดเวลา 8.00 น.
ก่อนเดินทางไปยังสถานีต่อไป เราก็ได้เห็นบรรยากาศตอนเช้า
ของเมือง ฮานอยด้วย (บอกได้คำเดียว....อากาศเย็นๆ นิด)
เมื่อเวลาผ่านไป 8.30 น. เขาก็ยังไม่มารับเรา รอต่อไป .... (ตกใจอ่ะดิ 555) สักพักเจ้าของทัวร์ก็มา
แต่แล้วเป้าหมายของเราก็ต้องเปลี่ยนเป็น.......Ninh Binh แทน อันเนื่องมาจากช่วงที่เราไปนั้นมันมีพายุเข้า
และวันนี้ที่อ่าว ฮาลองเบย์พายุเข้าอย่างแรงเขาบอกนะ (แอบตกใจนิดๆ แต่เราเข้าใจในความเป็นธรรมชาตินะ...)
" T A M C O C" ที่ ninh binh จึงเป็นตัวเลือกของพวกเราแทน
รอไม่นานก็มีรถมารับไปยังเมือง Ninh Binh เราจะไปล่องเรือกันที่ Tam Coc เย้ๆๆๆๆ
ระหว่างทางเจอวิวสวยๆ ระหว่างทาง (อาจจะเป็นเพราะไม่เคยเจอมาก่อนรึป่าวนะ 555)
บนรถก็จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากันหลายๆ คนครับ จากหลายๆ ประเทศนะ เป็นอีกบรรยากาศ
เราใช้เวลาเดินทางมา Ninh Binh (เป็นเมืองเก่าก่อน ฮานอยนะ) สักสามชั่วโมงได้
ที่แรกที่เราได้มาเยือนคือวัดเก่าครับ สวยเลยครัช ก็เพราะเป็นวัดที่เก่าแก่มากๆ ความสวยงามเลยออกมาให้เห็น
จะเห็นความเป็นเวียดนามเลยล่ะ
เมื่อชมความเก่าแก่ของวัดนี้แล้ว ใช้เวลาเดินเท้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอกับ
วัดเลฮวาน (Le Dynastic Temple) อยู่ใกล้ๆ กันเลยครับ
ระหว่างทางเดินก็จะเป็นบ้านเรือนแบบเวียดนามเลย
ทางเข้าวัดเลฮวาน.......
เราก็ใช้เวลาสักพัก เพื่อเดินดูวัด พร้อมกับถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ครับ
หลังจากชมความงามของวัดแล้ว เราก็เดินต่อมาอีกสัก 200 เมตรครับ เพื่อไปจุดนัดพบกับ
เพื่อนคนอื่นๆ ที่มารถคันเดียวกัน โดยระหว่างทางฝนก็ยังตกปอยๆ อยู่ครัช บรรยากาศก็จะมีสีเขียว
มีภูเขาล้อมรอบ ระหว่างทางเดินที่โล่งๆๆ มาก เมื่อข้ามสะพานมาก็เจอกับเพื่อนคนอื่นๆ
คนนำเที่ยวบอกว่าเนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้การล่องเรืออาจจะเป็นอันตรายมากๆ เขาจึงเสนอทางเลือกอื่นๆ
แต่นักท่องเที่ยวส่วนมากในรถบอก....ว่าต้องการไปล่องเรือ Tam Coc (เสียงข้างมากนะ 555)
หลังจากนั้นเราก็พักรับประทานอาหารกลางวันกัน กินเเบบบุฟเฟ่ต์เลยนะ
อาหารบอกเลยเวียดนามๆ เลยครัช ผักเป็นหลัก (ผมจัดสองรอบครับ ด้วยความโหยหิว เห้ย !!!! ด้วยความหิวนะ)
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ....ทุกคนก็ไปล่องเรือกันครับ
ฝันก็ยังตกตลอดเลยครับ คือก็จะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งนะครับ (จะเป็นหวัดไหมนี่ 555)
ถึงเเล้วครับที่ล่องเรือของพวกเรา โอ้ยยยยยย เห็นภาพ ภาพเเรกอดใจไม่ได้ที่จะถ่ายรูป
คือหายหมดเลย ความหิว (เพิ่งกินมาเมื่อกี้เลย 555) อาการกลัวฝน ผมยอมลงทุน
ยืนกลางสายฝน เพื่อถ่ายรูปนะ 555555
เราลงเรือ เพื่อล่องเรือไปชมถ้ำ ชมธรรมชาติ สำหรับตัวผมแค่เห็นภาพข้างทางก็อิ่มล่ะ
นี่ครับผู้นำทางเรือเรา 55555 จะพายไหวไหมน้อ ผมตัวหนักนะ อิอิ
ระหว่างที่คุณพี่พายเรือออกพร้อมๆ คนอื่นๆ แต่ไปสักพัก ทำไมเรือเราอยู่สุดท้ายหว่าาาา
ลำแล้วลำเล่า พายผ่านเราไป........ 5555
แต่วิวสองข้างทางนี่สิ "ที่นี่ยังคงเป็นธรรมชาติเลย" เจอบ้าน เจอภูเขา เจออะไรๆ สีเขียวๆ
บรรยากาศแบบนี้เลยที่สดชื่น ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ แถวบ้านนอกผมก็เคยรับรู้บรรยากาศแบบนี้นะ
พอมาเจอที่นี่ทำให้ผมคิดถึงช่วงวัยเด็ก ตอนเด็กๆ เลย (แอบหวนคิดถึง 555) แต่นี่เหมือนกลับมาเติมพลัง
แต่อาจจะเป็นคนละที่ ส่วนตัวผทชอบบรรยากาศแบบนี้นะ เพราะสายฝนก็ตกลงมาประกอบฉาก เฉกเช่นในหนัง
ประหนึ่งว่าอยู่ในนิยายรัก ... (กูว่าซักจะเว่อร์ล่ะ 555)
ผมดูเวลา ด้วยความที่กังวลว่าคุณพี่พายเรือจะเหนื่อยรึป่าว....ตอนนี้ผมรั้งท้ายแล้ววววครัช
โดนเรือลำอื่นๆ แซงไปไกลเหลือเกิน.....
น้ำที่นี่ใสมาก ใสกว่าใจคนอีก (แฮ่ะ ว่าไปนั่น 55555)
ในที่สุดเรือลำอื่นๆ พายกลับมาแล้วแสดงว่าใกล้ถึงถ้ำแล้วสินะ
สักพัก ก็ถึงถ้ำแล้วครับ พี่เขาจะพาเราเข้าไปในถ้ำนั้น (ให้ตายเถอะ จะผ่านไปไงว่ะนั่น 5555)
ปากถ้ำก็กว้างๆ เน้อออออ (ประชด !!!!!)
ทุกอย่างทำได้ถ้าใจพร้อม อิอิ (ไม่พร้อมได้ไง ถ้าจะให้กลับก็คงมาไม่ถึงสินะ)
นี่ล่ะในถ้ำ....ประสบการณ์ อันล้ำค่าสำหรับเราเลยล่ะ ..... สุดยอดดดดด ทำได้แล้ว เย้ๆๆๆๆๆ
เราพายเรือลอดถ้ำ ไปสองถ้ำเลยครับ ในที่สุดก็เจอทางออก (ผมนี่โล่งเลยครับ 555)
หลังจากนั้นเราก็ต้องพายเรือกลับ...ด้วยความที่ผมรั้งท้ายขบวน 5555
มะพี่...!!!! ผมช่วย (นี่เข้าใจสำนวนไทยเลย...มือไม่พายอย่าเอาเท้าลาน้ำ...5555)
ผมช่วยพายเองครับ ฝนก็ตก...
เรือลำอื่นๆ เขาถึงกันสักพักล่ะ 555 คนนำเที่ยวต้องมายืนรอเรือเรา อิอิ
(นี่เข้าใจความรู้สึกของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเลย อิอิ)
เราใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 3 ชั่วโมงนะครับ แต่สิ่งที่ได้มามันบอกไม่ถูกจริงๆครับ
ประสบการณ์เลยล่ะ....
เมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่รถบัสแล้ว (จริงๆ รอเรา 555) คนนำเที่ยวก็บอกว่าสภาพอากาศวันนี้ฝนตก
อาจจะไม่สะดวกและอาจจะงดกิจกรรมไปปั่นจักรยานชมเมือง (ซึ่งผมก็คงไม่ไปปั่นล่ะ ผมอิ่มกับกิจกรรมล่องเรือเมื่อกี้ล่ะ 555)
โดยคนส่วนใหญ่ในรถบอกไม่ไปปั่นจักรยานล่ะ เพราะฝนตกหนัก
ดังนั้นเราเลยมุ่งหน้ากลับกรุง ฮานอยเลยครับ ก็เวลาพอดีครับ สี่โมงครึ่งล่ะ
เราเดินทางมาถึงฮานอย ประมาณเกือบสามทุ่มล่ะครับ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ
หาร้านอาหารกินสิครัชชช รอไร.... 555
นี่เลยอาหารมื้อเย็นของเราวันนี้
หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นในเมืองสะหน่อย แต่ฝนก็ตกปอยๆ นะ
ตอนเช้าเห็นบรรยากาศยามเช้าที่นี่ ตอนดึกๆ ก็เห็นอีกบรรยากาศหนึ่ง .....
บรรยากาศแบบนี้....ก็สายฝนอีกล่ะมาเป็นพระเอกให้ฉากของวันนี้สมบูรณ์ ว่าไหม
ฉันจะเก็บเอาความรู้สึกดีๆ ของวันนี้ เพื่อนำมาเป็นพลังของวันพรุ่งนี้ให้เดินต่อไป...
ขอบคุณวันดีๆ วันนี้ที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับการเดินทางเพราะ....
" การเดินทาง...มันมีเสน่ห์ ตรงที่...เราไม่รู้ว่าจะเจออะไรนี่ล่ะ..."
ราตรีสวัส ฮานอย...