เนื่องจากภาพประกอบไฟล์ใหญ่แต่ไม่มีเวลาย่อ เพื่อน ๆ ที่อยากดูภาพแบบเต็ม ๆ เข้าไปดูที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ
http://karanatravelgear.blogspot.com/2013/11/karana-1-1-2.html
เรื่องโดย joop py joop
ในช่วงเทศกาล long weekend ทำให้สนามบินเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย พวกเรานัดกันเวลา 4.30 น. เพื่อที่จะเดินทางไปเวียตนาม ซึ่งก็จองตั๋วเครื่องบินช่วงโปรโมชั่น นานหลายเดือน ทริปครั้งนี้ใช้เวลา 5 วัน 4 คืน ก่อนเดินทางไปครั้งนี้ ขอทำการบ้านหาข้อมูลจาก www.ppantip.com (blueplanet) ที่ช่วยวางแผนการท่องเที่ยว ภาษา แผนที่ โดย ก๊อปๆๆ มาดู (เยอะไปเริ่มมึน)
ข้อแนะนำและเตรียมตัวก่อนไป :
- เนื่องจากช่วงที่เราเป็นช่วงเข้าพรรษา ฝนตกแน่ๆ โดนมากโดนน้อยแล้วแต่บุญพา สิ่งที่จำเป็นคือ เสื้อกันฝน ร่ม หมวก กางเกงขาสั้น รองเท้าสวมสบาย แบบนี้เข้าทางนะสิ พวกเราตัดสินใจหาซื้อเสื้อกันฝน+กระเป๋ากันน้ำซะเลย ซื้อทั้งทีให้ได้ของดีมีคุณภาพกันดีกว่า
- ที่พัก มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าให้ดีเลือกทำเลย่าน Old Quarter ถนน Ma may เพราะใกล้แหล่งช็อปปิ้ง สามารถเดินไปทะเลสาบได้ไม่ยาก ส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กัน คือ เป็นโรงแรม 2- 3 ดาว มีลักษณะเป็นห้องแถวสูง ไม่มีลิฟท์ ห้องพักจะมีชั้นละ 3 - 4 ห้อง มีบริการอาหารเช้า (ไข่ดาว แฮม ข้าวผัด ผลไม้) มีอินเตอร์เน็ต มีรถรับจากสนามบินฟรี ถ้าพักอย่างน้อย 3 คืน และจะมีทัวร์ขายแบบ one day trip ขายด้วย พวกเราจองที่พัก 4 คืน (ได้รถมารับที่สนามบินเท่านั้น) ตอนจองขอให้คุยเรื่องราคาว่ารวมค่าบริการและภาษีหรือยัง มีรถรับหรือส่งมั้ย ราคาประมาณ 10 – 25 USD (บวก Vat ประมาณ 10%) ส่วนใหญ่โรงแรมจะรับเงินเป็นดอลล่าห์ ถ้าไม่มั่นใจให้ e-mail ไปสอบถามแล้วจองเลยก็ได้ หรือว่าจะไปถึงแล้วค่อยสอบถามก็ยังได้ แต่พวกเราไปหลายคนขอจองให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า
สมาชิกในทริปนี้มี 6 คน เมื่อพร้อมกันแล้วเตรียมตัวขึ้นเครื่องเวลา 6.45 น. ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เพียงไม่นานเครื่องลงจอดสนามบิน Noi bai
ลงจากเครื่องได้ผ่าน ตม. รับกระเป๋า แล้วมองหารถมารับ พร้อมกับเอาเงิน USD ที่แลกมาตั้งแต่เมือง
ไทย แลกเป็นเงินดองภายในสนามบินนั้นแหละ โห..มายก๊อด ถือเงินเป็นล้าน...ดอง (200,000 ดอง = 300 บาท)
ลองสอบถามเส้นทางเดินทางและแผนที่เมืองฮานอยจาก Information เพราะแผนที่จะช่วยเราในการเดินเที่ยวได้มากเลย เค้ามีน้อยมากอาจจะให้เพียง 1 – 2 ใบเท่านั้น
ทริปคร่าวๆ ที่วางแผนไว้ คือ
วันแรก เข้าที่พัก/ หาซื้อทัวร์/ เที่ยวในเมืองฮานอย ย่านตะวันออก ดูโชว์หุ่นกระบอกน้ำ พร้อมกับ shopping ถนนคนเดิน ที่มีเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
วันที่สอง Ninh Binh / tam coc ได้ shopping ที่ถนนคนเดินต่ออีก 1 รอบ
วันที่สาม Ha long bay
วันที่สี่ เที่ยวในเมืองฮานอย ย่านตะวันตก เก็บตกสถานที่เที่ยวให้ครบ ซื้อของฝากก่อนกลับ
วันที่ห้า เดินทางกลับ
รอ รอ รอ รถมารับ (พักหย่ายเลยทีเดียว) เริ่มหิวกันทั้งทีม สักพักรถมารับเป็นแบบรถแวนสำหรับ 7 คนและกระเป๋า เต็มรถพอดี รถขับเข้ามาในตัวเมืองฮานอย ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแดง
เข้าสู่ย่าน Old Quter มีซอกซอยเล็กๆ เสียงแตรจากรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ได้ยินกันอื้ออึง (แปลว่าเรามา
ถึงเวียดนามแล้วจริงๆ เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่ใช้รถมอเตอร์ไซด์เยอะมาก แล้วจะบีบแตรเป็นเรื่องปกติ) สักพักรถวนๆ พาเรามาถึงที่พัก
มาถึงที่พักแล้ว มีกลิ่นบุหรี่อยู่บ้าง มีน้ำให้ 2 ขวด (2 ขวด/ 4 คืน) นอกนั้นซื้อเอง มีโต๊ะคอมฯ ใช้ได้ป่าวไม่รู้ เพราะเราใช้มือถือเชื่อมต่อ Wifi ของโรงแรม โดยรวมถือว่าพอใช้ได้ เก็บของเสร็จ ล้างหน้าล้างตาสักพัก วางแผนเดินทางท่องเที่ยวกัน
ฮานอยจะมีแหล่งท่องเที่ยว 2 ฝั่ง คือ ฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก ที่พักของเราเป็นย่านเมืองเก่า หรือ Old Quarter ซึ่งเป็นแหล่งที่พัก ของช็อปปิ้ง และอาหารหลากหลาย ซึ่งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออก เราจึงวางแผนไว้ว่าจะเที่ยวฝั่งนี้ก่อน โชคดีที่โรงแรมมีแผนที่ให้ด้วย เจ้าหน้าที่เค้าก็ใจดีอธิบายเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยวให้อย่างดี ที่นี่มีทริป Ha long bay กับ Ninh Binh / tam coc เสนอให้ด้วย เราเลยสอบถามราคาเพื่อไปเปรียบเทียบกับเอเจนซี่อื่น ออกมาจากโรงแรมไม่เท่าไรเราเดินหาเฝอทานกันหน่อย เดินไม่ไกลจากที่พักลองร้านนี้แหละ ดูเมนูแล้วก็ชี้ๆ แต่แอบมองโต๊ะข้างๆ ชี้ๆ อีก ได้ก๋วยเตี๋ยวไก่แบบน้ำ และแห้ง ราคาชามละ 30K หรือ 30,000 ดอง ขอบอกเลยว่าแบบแห้งที่แอบชี้ตามโต๊ะข้างๆ อร่อยกว่าแบบน้ำนะ แล้วมีมะนาวลูกเล็กๆ กับซอสเผ็ดไรไม่รู้อีก อยากปรุงก็จะได้รสชาติไปอีกแบบ มื้อแรกหมดไป 200,000 ดอง
พออิ่มกันแล้ว เริ่มมาหาเอเจนชี่สำหรับเที่ยว Ha long bay กับ Ninh Binh / tam coc เป็นเอเจนซี่แถวๆ นั้น จากการสอบถามมี 3 ราคา ต่างกันที่อาหาร และเรือ/ รถรับ-ส่ง
ฮาลองบก/ Tom Coc ราคาประมาณ 20 - 25 USD/ คน รวมอาหาร ทัวร์นี้จะมีกิจกรรมขี่จักรยาน คิดเพิ่ม 5 USD ถ้าไม่ขี่ก็ไปนั่งกินข้าวเฉยๆ แล้วรอคนที่ขี่อีกประมาณ 30 - 45 นาที
ฮาลองเบย์ ประมาณ 20 – 30 US ทัวร์นี้จะไปเก็บเราเพิ่มอีก 5 USD ถ้าเราต้องการลงเรือเล็กหรือพายคายักชมเกาะ (ถ้าไม่ลงเรือเล็กก็ต้องรอเฉยๆ ประมาณครึ่ง ชม.) ทุกทริปสามารถต่อรองได้แล้วแต่ความสามารถนะ
จากการต่อรองพวกเราได้ 2 ที่ ในราคา 50 USD รวมกิจกรรมทุกอย่างครบพร้อมอาหารกลางวัน และไกด์จากที่เห็นในโบรชัวร์เห็นเรือสำเภากางใบอย่างสวย เจ้าหน้าที่เค้าบอกได้แน่ๆ (แอบดีใจลึกๆ คุ้ม)
ขอแนะนำว่าทุกทริปจะมีน้ำดื่มให้ 1 ขวดเท่านั้น ไม่รวมเครื่องดื่มมื้อกลางวัน อาจจะเตรียมซื้อก่อนเที่ยว เมื่อจองทริปแล้วเค้าจะให้ใบจอง ควรตรวจตรวจสอบให้ดีว่าทางบริษัทเขียนกิจกรรมให้ครบในใบจองด้วย และเก็บใบจองไว้ให้ดี เพราะตอนทัวร์มารับจะเช็คจากใบจอง
จองทริปเรียบร้อย ออกเที่ยวกันเลย เราใช้วิธีเดินๆ ตามแผนที่ เพราะแต่ละที่ไม่ได้ไกลเท่าไร เชื่อมต่อกันหมด
0. Old Quarter - แหล่งที่พักของพวกเรา
1. Ngoc Son Temple – วัดหง็อกเซิน (เนินหยก) นี้ อยู่บนเกาะกลาง Hoan Kiem Lake ( ทะเลสาบคืนดาบ)
2. Thap Rua (Tortoise Pagoda) - เป็นเจดีย์ทรงเต่ากลางทะเลสาบ ไม่สามารถข้ามไปชมได้
3. Water Puppet Theater - โชว์หุ่นกระบอกน้ำ
4. อนุสาวรีย์ LY THAI TO – กษิตริย์องค์แรกของราชวงศ์ Ly Dy Nasty
5. Hanoi Opera House - สร้างขึ้นปี 1911 เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส
6. Museum : Revolutionary, History, Geological - อยู่ด้านหลังของ Opera house เป็นพิพิธพันธ์แสดงของโบราณต่างๆ และประวัติศาสตร์เวียดนาม
8. St. Joseph Cathedral – โบสถ์คอทอลิกขนาดใหญ่ สวยงาม สร้างโดยฝรั่งเศส
พวกเราเดินต่อมาที่ทะเลสาบ ระหว่างทางมีบรรยากาศให้เห็นทั่วไป ทั้งจักรยาน คนหาบของ ร้านค้าต่างๆ
เดินไม่นานก็ถึงบริเวณทะเลสาบ บรรยากาศน่าเดินมาก แดดไม่แรง มีรถประจำทางวิ่งผ่านหลายสาย ทะเลสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบพักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงฮานอย โดยมีการสร้างเป็นสวนสาธารณะล้อมรอบ และมีชื่อเสียงของกรุงฮานอย
มีตำนานเล่าถึงทะเลสาบคืนดาบ ในการสร้างชาติเวียดนาม ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิเล เหล่ย แห่งราชวงศ์เล ได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่รุกราน ให้ออกไปจากเวียดนาม ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่จ้าวมังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ
จากนั้นเราเดินกลับมายังทะเลสาบ เพื่อมาโชว์หุ่นกระบอกน้ำ แต่เนื่องจากเป็นวันเสาร์ มีทัวร์ลงเยอะมาก กว่าจะได้ดูต้องเป็นรอบ 20.30 น. ทำให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแผนไว้ดูวันสุดท้าย (ถ้าใครต้องการดูโชว์แนะนำให้จองที่นั่งก่อนเดินเที่ยว) ระหว่างนั้นเลยต้องรอจนกว่าตลาดกลางคืนจะเปิด สามารถแวะช็อปของบริเวณใกล้ได้เลย เช่น หมวก กระเป๋า รองเท้า แนะนำให้ต่อรองประมาณ 60- 70% คนขายที่นี่สามารถพูดไทยได้ รับเงินได้ทั้งเงินไทย ดอง ดอลล่าห์ เริ่มค่ำลงมีร้านค้าตั้งโต๊ะขายอาหารมากมาย
18.30 น. พวกเราเริ่มออก ช็อปปิ้งตลาดกลางคืน มีของมากมาย ของกิน ของใช้ ของฝาก ราคาไม่แพง เพลิดเพลินกันเลย วันนี้พวกเราสำรวจของและราคาตลาดก่อน ไว้พรุ่งนี้หลังจากกลับจากเที่ยวแล้วจะมา ช็อปกันอีกรอบ
หลังจากนั้นก็แวะทานข้าว (จานละ 30,000 ดอง) หรือลองสักเบียร์เวียดนามดูสักขวด
ฮานอย เที่ยวเองได้ไม่ต้องง้อทัวร์
เรื่องโดย joop py joop
ในช่วงเทศกาล long weekend ทำให้สนามบินเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย พวกเรานัดกันเวลา 4.30 น. เพื่อที่จะเดินทางไปเวียตนาม ซึ่งก็จองตั๋วเครื่องบินช่วงโปรโมชั่น นานหลายเดือน ทริปครั้งนี้ใช้เวลา 5 วัน 4 คืน ก่อนเดินทางไปครั้งนี้ ขอทำการบ้านหาข้อมูลจาก www.ppantip.com (blueplanet) ที่ช่วยวางแผนการท่องเที่ยว ภาษา แผนที่ โดย ก๊อปๆๆ มาดู (เยอะไปเริ่มมึน)
ข้อแนะนำและเตรียมตัวก่อนไป :
- เนื่องจากช่วงที่เราเป็นช่วงเข้าพรรษา ฝนตกแน่ๆ โดนมากโดนน้อยแล้วแต่บุญพา สิ่งที่จำเป็นคือ เสื้อกันฝน ร่ม หมวก กางเกงขาสั้น รองเท้าสวมสบาย แบบนี้เข้าทางนะสิ พวกเราตัดสินใจหาซื้อเสื้อกันฝน+กระเป๋ากันน้ำซะเลย ซื้อทั้งทีให้ได้ของดีมีคุณภาพกันดีกว่า
- ที่พัก มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าให้ดีเลือกทำเลย่าน Old Quarter ถนน Ma may เพราะใกล้แหล่งช็อปปิ้ง สามารถเดินไปทะเลสาบได้ไม่ยาก ส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กัน คือ เป็นโรงแรม 2- 3 ดาว มีลักษณะเป็นห้องแถวสูง ไม่มีลิฟท์ ห้องพักจะมีชั้นละ 3 - 4 ห้อง มีบริการอาหารเช้า (ไข่ดาว แฮม ข้าวผัด ผลไม้) มีอินเตอร์เน็ต มีรถรับจากสนามบินฟรี ถ้าพักอย่างน้อย 3 คืน และจะมีทัวร์ขายแบบ one day trip ขายด้วย พวกเราจองที่พัก 4 คืน (ได้รถมารับที่สนามบินเท่านั้น) ตอนจองขอให้คุยเรื่องราคาว่ารวมค่าบริการและภาษีหรือยัง มีรถรับหรือส่งมั้ย ราคาประมาณ 10 – 25 USD (บวก Vat ประมาณ 10%) ส่วนใหญ่โรงแรมจะรับเงินเป็นดอลล่าห์ ถ้าไม่มั่นใจให้ e-mail ไปสอบถามแล้วจองเลยก็ได้ หรือว่าจะไปถึงแล้วค่อยสอบถามก็ยังได้ แต่พวกเราไปหลายคนขอจองให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า
สมาชิกในทริปนี้มี 6 คน เมื่อพร้อมกันแล้วเตรียมตัวขึ้นเครื่องเวลา 6.45 น. ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เพียงไม่นานเครื่องลงจอดสนามบิน Noi bai
ลงจากเครื่องได้ผ่าน ตม. รับกระเป๋า แล้วมองหารถมารับ พร้อมกับเอาเงิน USD ที่แลกมาตั้งแต่เมือง
ไทย แลกเป็นเงินดองภายในสนามบินนั้นแหละ โห..มายก๊อด ถือเงินเป็นล้าน...ดอง (200,000 ดอง = 300 บาท)
ลองสอบถามเส้นทางเดินทางและแผนที่เมืองฮานอยจาก Information เพราะแผนที่จะช่วยเราในการเดินเที่ยวได้มากเลย เค้ามีน้อยมากอาจจะให้เพียง 1 – 2 ใบเท่านั้น
ทริปคร่าวๆ ที่วางแผนไว้ คือ
วันแรก เข้าที่พัก/ หาซื้อทัวร์/ เที่ยวในเมืองฮานอย ย่านตะวันออก ดูโชว์หุ่นกระบอกน้ำ พร้อมกับ shopping ถนนคนเดิน ที่มีเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
วันที่สอง Ninh Binh / tam coc ได้ shopping ที่ถนนคนเดินต่ออีก 1 รอบ
วันที่สาม Ha long bay
วันที่สี่ เที่ยวในเมืองฮานอย ย่านตะวันตก เก็บตกสถานที่เที่ยวให้ครบ ซื้อของฝากก่อนกลับ
วันที่ห้า เดินทางกลับ
รอ รอ รอ รถมารับ (พักหย่ายเลยทีเดียว) เริ่มหิวกันทั้งทีม สักพักรถมารับเป็นแบบรถแวนสำหรับ 7 คนและกระเป๋า เต็มรถพอดี รถขับเข้ามาในตัวเมืองฮานอย ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแดง
เข้าสู่ย่าน Old Quter มีซอกซอยเล็กๆ เสียงแตรจากรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ได้ยินกันอื้ออึง (แปลว่าเรามา
ถึงเวียดนามแล้วจริงๆ เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่ใช้รถมอเตอร์ไซด์เยอะมาก แล้วจะบีบแตรเป็นเรื่องปกติ) สักพักรถวนๆ พาเรามาถึงที่พัก
มาถึงที่พักแล้ว มีกลิ่นบุหรี่อยู่บ้าง มีน้ำให้ 2 ขวด (2 ขวด/ 4 คืน) นอกนั้นซื้อเอง มีโต๊ะคอมฯ ใช้ได้ป่าวไม่รู้ เพราะเราใช้มือถือเชื่อมต่อ Wifi ของโรงแรม โดยรวมถือว่าพอใช้ได้ เก็บของเสร็จ ล้างหน้าล้างตาสักพัก วางแผนเดินทางท่องเที่ยวกัน
ฮานอยจะมีแหล่งท่องเที่ยว 2 ฝั่ง คือ ฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก ที่พักของเราเป็นย่านเมืองเก่า หรือ Old Quarter ซึ่งเป็นแหล่งที่พัก ของช็อปปิ้ง และอาหารหลากหลาย ซึ่งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออก เราจึงวางแผนไว้ว่าจะเที่ยวฝั่งนี้ก่อน โชคดีที่โรงแรมมีแผนที่ให้ด้วย เจ้าหน้าที่เค้าก็ใจดีอธิบายเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยวให้อย่างดี ที่นี่มีทริป Ha long bay กับ Ninh Binh / tam coc เสนอให้ด้วย เราเลยสอบถามราคาเพื่อไปเปรียบเทียบกับเอเจนซี่อื่น ออกมาจากโรงแรมไม่เท่าไรเราเดินหาเฝอทานกันหน่อย เดินไม่ไกลจากที่พักลองร้านนี้แหละ ดูเมนูแล้วก็ชี้ๆ แต่แอบมองโต๊ะข้างๆ ชี้ๆ อีก ได้ก๋วยเตี๋ยวไก่แบบน้ำ และแห้ง ราคาชามละ 30K หรือ 30,000 ดอง ขอบอกเลยว่าแบบแห้งที่แอบชี้ตามโต๊ะข้างๆ อร่อยกว่าแบบน้ำนะ แล้วมีมะนาวลูกเล็กๆ กับซอสเผ็ดไรไม่รู้อีก อยากปรุงก็จะได้รสชาติไปอีกแบบ มื้อแรกหมดไป 200,000 ดอง
พออิ่มกันแล้ว เริ่มมาหาเอเจนชี่สำหรับเที่ยว Ha long bay กับ Ninh Binh / tam coc เป็นเอเจนซี่แถวๆ นั้น จากการสอบถามมี 3 ราคา ต่างกันที่อาหาร และเรือ/ รถรับ-ส่ง
ฮาลองบก/ Tom Coc ราคาประมาณ 20 - 25 USD/ คน รวมอาหาร ทัวร์นี้จะมีกิจกรรมขี่จักรยาน คิดเพิ่ม 5 USD ถ้าไม่ขี่ก็ไปนั่งกินข้าวเฉยๆ แล้วรอคนที่ขี่อีกประมาณ 30 - 45 นาที
ฮาลองเบย์ ประมาณ 20 – 30 US ทัวร์นี้จะไปเก็บเราเพิ่มอีก 5 USD ถ้าเราต้องการลงเรือเล็กหรือพายคายักชมเกาะ (ถ้าไม่ลงเรือเล็กก็ต้องรอเฉยๆ ประมาณครึ่ง ชม.) ทุกทริปสามารถต่อรองได้แล้วแต่ความสามารถนะ
จากการต่อรองพวกเราได้ 2 ที่ ในราคา 50 USD รวมกิจกรรมทุกอย่างครบพร้อมอาหารกลางวัน และไกด์จากที่เห็นในโบรชัวร์เห็นเรือสำเภากางใบอย่างสวย เจ้าหน้าที่เค้าบอกได้แน่ๆ (แอบดีใจลึกๆ คุ้ม)
ขอแนะนำว่าทุกทริปจะมีน้ำดื่มให้ 1 ขวดเท่านั้น ไม่รวมเครื่องดื่มมื้อกลางวัน อาจจะเตรียมซื้อก่อนเที่ยว เมื่อจองทริปแล้วเค้าจะให้ใบจอง ควรตรวจตรวจสอบให้ดีว่าทางบริษัทเขียนกิจกรรมให้ครบในใบจองด้วย และเก็บใบจองไว้ให้ดี เพราะตอนทัวร์มารับจะเช็คจากใบจอง
จองทริปเรียบร้อย ออกเที่ยวกันเลย เราใช้วิธีเดินๆ ตามแผนที่ เพราะแต่ละที่ไม่ได้ไกลเท่าไร เชื่อมต่อกันหมด
0. Old Quarter - แหล่งที่พักของพวกเรา
1. Ngoc Son Temple – วัดหง็อกเซิน (เนินหยก) นี้ อยู่บนเกาะกลาง Hoan Kiem Lake ( ทะเลสาบคืนดาบ)
2. Thap Rua (Tortoise Pagoda) - เป็นเจดีย์ทรงเต่ากลางทะเลสาบ ไม่สามารถข้ามไปชมได้
3. Water Puppet Theater - โชว์หุ่นกระบอกน้ำ
4. อนุสาวรีย์ LY THAI TO – กษิตริย์องค์แรกของราชวงศ์ Ly Dy Nasty
5. Hanoi Opera House - สร้างขึ้นปี 1911 เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส
6. Museum : Revolutionary, History, Geological - อยู่ด้านหลังของ Opera house เป็นพิพิธพันธ์แสดงของโบราณต่างๆ และประวัติศาสตร์เวียดนาม
8. St. Joseph Cathedral – โบสถ์คอทอลิกขนาดใหญ่ สวยงาม สร้างโดยฝรั่งเศส
พวกเราเดินต่อมาที่ทะเลสาบ ระหว่างทางมีบรรยากาศให้เห็นทั่วไป ทั้งจักรยาน คนหาบของ ร้านค้าต่างๆ
เดินไม่นานก็ถึงบริเวณทะเลสาบ บรรยากาศน่าเดินมาก แดดไม่แรง มีรถประจำทางวิ่งผ่านหลายสาย ทะเลสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบพักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงฮานอย โดยมีการสร้างเป็นสวนสาธารณะล้อมรอบ และมีชื่อเสียงของกรุงฮานอย
มีตำนานเล่าถึงทะเลสาบคืนดาบ ในการสร้างชาติเวียดนาม ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิเล เหล่ย แห่งราชวงศ์เล ได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่รุกราน ให้ออกไปจากเวียดนาม ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่จ้าวมังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ
จากนั้นเราเดินกลับมายังทะเลสาบ เพื่อมาโชว์หุ่นกระบอกน้ำ แต่เนื่องจากเป็นวันเสาร์ มีทัวร์ลงเยอะมาก กว่าจะได้ดูต้องเป็นรอบ 20.30 น. ทำให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแผนไว้ดูวันสุดท้าย (ถ้าใครต้องการดูโชว์แนะนำให้จองที่นั่งก่อนเดินเที่ยว) ระหว่างนั้นเลยต้องรอจนกว่าตลาดกลางคืนจะเปิด สามารถแวะช็อปของบริเวณใกล้ได้เลย เช่น หมวก กระเป๋า รองเท้า แนะนำให้ต่อรองประมาณ 60- 70% คนขายที่นี่สามารถพูดไทยได้ รับเงินได้ทั้งเงินไทย ดอง ดอลล่าห์ เริ่มค่ำลงมีร้านค้าตั้งโต๊ะขายอาหารมากมาย
18.30 น. พวกเราเริ่มออก ช็อปปิ้งตลาดกลางคืน มีของมากมาย ของกิน ของใช้ ของฝาก ราคาไม่แพง เพลิดเพลินกันเลย วันนี้พวกเราสำรวจของและราคาตลาดก่อน ไว้พรุ่งนี้หลังจากกลับจากเที่ยวแล้วจะมา ช็อปกันอีกรอบ
หลังจากนั้นก็แวะทานข้าว (จานละ 30,000 ดอง) หรือลองสักเบียร์เวียดนามดูสักขวด