อานาปานสติสมาธินี้แล เป็นธรรมอันเอกซึ่งเมื่อบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำสติปัฏฐานทั้ง ๔ ให้บริบูรณ์ มีสติ ระลึกรู้ลมหายใจ เข้ายาว เข้าสั้น ออกยาว ออกสั้น กระทบกายและดับหายไป คือ ฐานกาย มีสติ ร

ใครไม่ทำสมาธิให้ได้ฌาน 1 ขึ้นไป แล้วไปวิปัสสนา ระวังวิปัสสนาจะกลายเป็นวิปัสสนึกนะครับ พระพุทธเจ้าทรงตรีสว่า ฌาน ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา ปัญญาก็ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่มีฌาน ผู้มีทั้งฌานและปัญญานั่นแล จึง

อานาปานสติสมาธินี้แล เป็นธรรมอันเอกซึ่งเมื่อบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำสติปัฏฐานทั้ง ๔ ให้บริบูรณ์ มีสติ ระลึกรู้ลมหายใจ เข้ายาว เข้าสั้น ออกยาว ออกสั้น กระทบกายและดับหายไป คือ ฐานกาย มีสติ ร

มรรค 8 คือ หนทางสู่การดับทุกข์ ประกอบด้วย 1.สัมมาทิฏฐิ 2.สัมมาสังกัปปะ 3.สัมมาวาจา 4.สัมมากัมมันตะ 5.สัมมาอาชีวะ6.สัมมาวายามะ 7.สัมมาสติ 8.สัมมาสมาธิ ย่อเหลือ 3 คือ 1.ศีล 2.สมาธิ 3.วิปัสสนา (ปัญญา)

ในฐานะที่เราอยู่ในยุคที่ทุกสิ่งถูกตั้งคำถาม หลายคนอาจสงสัยว่า พระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงหรือไม่ และพระธรรมคำสอนที่เราปฏิบัติตามนั้นมาจากพระองค์จริง ๆ หรือเปล่า? บทความนี้จะพย

พระอาจารย์อ้าย วัดป่าจิตตภาวนา (ศิษย์พระอาจารย์เปลี่ยน) เมตตาตอบปัญหาธรรม ผม : เจริญอานาปานสติควบคู่คำภาวนา พุทโธ เข้า พุท ออก โธ เมื่อจิตสงบรวมเป็นอัปนาสมาธิ ร่างกายและลมหายใจดับหายไป เหลือแต่ความว่

 การปรินิพพาน 3 อย่างในพระพุทธศาสนา: กิเลสปรินิพพาน, ขันธปรินิพพาน และธาตุปรินิพพาน ในพระพุทธศาสนา "ปรินิพพาน" หมายถึงการดับทุกข์โดยสิ้นเชิง ซึ่ง