พระอานนท์ ผู้เข้านิพพาน ระหว่างกลางแม่น้ำโรหิณี
เมื่อเอ่ยถึงพระอานนท์ คงจะไม่มีชาวพุทธที่ไม่รู้จักท่าน เพราะท่านเป็นพุทธอุปัฏฐาก
คนสำคัญที่อยู่ไกล้ชิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและได้ทูลถามข้อข้องใจต่างๆแทนพุทธบริษัท
ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพาน
และยังเป็นคนสำคัญในการสังคยนาพระไตรปิฏกครั้งแรก ในส่วนพระอภิธรรม ท่านได้บรรลุ
เป็นพระอรหันต์ในคืนสุดท้าย ก่อนที่จะทำการสังคยนาพระไตรปิฏก
แต่เรื่องที่นาสนใจก็คือการเข้านิพพานของท่านแปลกกว่าพระอรหันต์รูปอื่นๆในยุคนั้น
ซึ่งของท่านเป็นการเข้านิพพาน กลางอากาศระหว่างกลางแม่น้ำโรหิณี มาติดตามกันครับ
พระอานนท์ทูลถามปัญหาต่างๆ ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพาน
พระอานนท์พุทธอุปัฏฐาก
พระอานนท์ปรินิพพาน
เมื่อท่านพระอานนท์มีอายุได้ ๑๒๐ พรรษา ก็ทราบว่า ท่านหมดอายุขัยลงแค่นี้แล้ว
จึงแจ้งแก่คนทั้งหลายว่า นับจากวันนั้นไปอีก ๗ วันท่านจะปรินิพพาน เมื่อประชาชน
ทั้งหลายที่อยู่ทางฝั่งแม่น้ำโรหิณีทั้งสองฝั่งได้ทราบเข้า จึงพากันไปยังฝั่งแม่น้ำโรหิณี
ต่างฝ่ายต่างก็แสดงความจำนง ให้ท่านพระอานนท์ ไปปรินิพพานที่ฝั่งของพวกตน
แต่ฝ่ายเดียว โดยอ้างเหตุว่า พระเถระมีอุปการะมากแก่พวกตน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมโดยอ้าง
เหตุผลเช่นเดียวกัน ท่านเห็นว่าจะเกิดโกลาหลกันขึ้นแน่ หากจะไปปรินิพพานฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่ง
จึงได้เข้าเตโชกสิณเหาะขึ้นบนอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณี แสดงธรรมแก่ประชาชน
ทั้งสองฝั่งน้ำ แล้วอธิษฐานให้สารีริกธาตุของท่านแตกออกเป็น ๒ ส่วน ตกลงบนฝั่ง
แม่น้ำฝั่งละหนึ่งส่วน พอขาดคำอธิษฐานเปลวไฟได้ลุกขึ้น สรีระของท่านก็แตกออก
เป็น ๒ ส่วนตกลงบนฝั่งทั้งสอง มหาชนได้พากันเศร้าโศกปริเทวนาการดุจแผ่นดินจะ
ถล่มทลาย คล้ายเมื่อกาลที่พระผู้มีพระภาคปรินิพพาน ฉะนั้น
แต่หลักฐานบางแห่งเล่าความตอนนี้ต่างออกไปว่า เมื่อท่านทราบวันที่จะปรินิพพาน
แน่แล้ว จึงได้ออกเดินทางจากแคว้นมคธ ผ่านไปทางนครเวสาลี เพื่อไปนิพพานที่ฝั่ง
แม่น้ำโรหิณี พอพระเจ้าอชาตศัตรูทรงทราบข่าวนี้ ก็เสด็จติดตามท่านไป จนถึงฝั่งแม่น้ำ
โรหิณี พร้อมด้วยราชบริพารจำนวนมาก ข้างฝ่ายพวกเจ้าลิจฉวีแห่งแคว้นวัชชีเมื่อทรงทราบ
ข่าวนี้ ก็เสด็จติดตามไปจนถึงฝั่งแม่น้ำโรหิณีพร้อมด้วยราชบริพารจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ทั้งสองฝ่ายได้ทรงพักอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ต่างมุ่งมาดปรารถนาจะได้พระสารีริกธาตุ
ของพระเถระไปบูชาสักการะเฉพาะพวกของตน ท่านพระอานนท์มองเห็นว่าเหตุการณ์
วุ่นวายโกลาหลจะเกิดขึ้น จึงได้เข้าเตโชกสิณลอยขึ้นบนอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณี แล้ว
เปลวไฟก็ลุกขึ้นสารีริกธาตุได้แตกออกเป็นสองส่วน ตกลงสู่ฝั่งแม่น้ำทั้งสองฝั่ง ๆ ละ๑ ส่วน
กษัตริย์และประชาชนทั้งสองฝั่งจึงได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นไว้เพื่อสักการบูชา ณ ฝั่งของตน ๆ
ติดตามอ่านที่มาได้เต็มๆตามลิ้งค์ครับ
ที่มา
http://www.dharma-gateway.com/monk/great_monk/pra-anon-04.htm
นิพพานกลางอากาศ พระอานท์ พุทธอุปฎฐาก
เมื่อเอ่ยถึงพระอานนท์ คงจะไม่มีชาวพุทธที่ไม่รู้จักท่าน เพราะท่านเป็นพุทธอุปัฏฐาก
คนสำคัญที่อยู่ไกล้ชิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและได้ทูลถามข้อข้องใจต่างๆแทนพุทธบริษัท
ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพาน
และยังเป็นคนสำคัญในการสังคยนาพระไตรปิฏกครั้งแรก ในส่วนพระอภิธรรม ท่านได้บรรลุ
เป็นพระอรหันต์ในคืนสุดท้าย ก่อนที่จะทำการสังคยนาพระไตรปิฏก
แต่เรื่องที่นาสนใจก็คือการเข้านิพพานของท่านแปลกกว่าพระอรหันต์รูปอื่นๆในยุคนั้น
ซึ่งของท่านเป็นการเข้านิพพาน กลางอากาศระหว่างกลางแม่น้ำโรหิณี มาติดตามกันครับ
พระอานนท์ทูลถามปัญหาต่างๆ ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพาน
พระอานนท์พุทธอุปัฏฐาก
พระอานนท์ปรินิพพาน
เมื่อท่านพระอานนท์มีอายุได้ ๑๒๐ พรรษา ก็ทราบว่า ท่านหมดอายุขัยลงแค่นี้แล้ว
จึงแจ้งแก่คนทั้งหลายว่า นับจากวันนั้นไปอีก ๗ วันท่านจะปรินิพพาน เมื่อประชาชน
ทั้งหลายที่อยู่ทางฝั่งแม่น้ำโรหิณีทั้งสองฝั่งได้ทราบเข้า จึงพากันไปยังฝั่งแม่น้ำโรหิณี
ต่างฝ่ายต่างก็แสดงความจำนง ให้ท่านพระอานนท์ ไปปรินิพพานที่ฝั่งของพวกตน
แต่ฝ่ายเดียว โดยอ้างเหตุว่า พระเถระมีอุปการะมากแก่พวกตน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมโดยอ้าง
เหตุผลเช่นเดียวกัน ท่านเห็นว่าจะเกิดโกลาหลกันขึ้นแน่ หากจะไปปรินิพพานฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่ง
จึงได้เข้าเตโชกสิณเหาะขึ้นบนอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณี แสดงธรรมแก่ประชาชน
ทั้งสองฝั่งน้ำ แล้วอธิษฐานให้สารีริกธาตุของท่านแตกออกเป็น ๒ ส่วน ตกลงบนฝั่ง
แม่น้ำฝั่งละหนึ่งส่วน พอขาดคำอธิษฐานเปลวไฟได้ลุกขึ้น สรีระของท่านก็แตกออก
เป็น ๒ ส่วนตกลงบนฝั่งทั้งสอง มหาชนได้พากันเศร้าโศกปริเทวนาการดุจแผ่นดินจะ
ถล่มทลาย คล้ายเมื่อกาลที่พระผู้มีพระภาคปรินิพพาน ฉะนั้น
แต่หลักฐานบางแห่งเล่าความตอนนี้ต่างออกไปว่า เมื่อท่านทราบวันที่จะปรินิพพาน
แน่แล้ว จึงได้ออกเดินทางจากแคว้นมคธ ผ่านไปทางนครเวสาลี เพื่อไปนิพพานที่ฝั่ง
แม่น้ำโรหิณี พอพระเจ้าอชาตศัตรูทรงทราบข่าวนี้ ก็เสด็จติดตามท่านไป จนถึงฝั่งแม่น้ำ
โรหิณี พร้อมด้วยราชบริพารจำนวนมาก ข้างฝ่ายพวกเจ้าลิจฉวีแห่งแคว้นวัชชีเมื่อทรงทราบ
ข่าวนี้ ก็เสด็จติดตามไปจนถึงฝั่งแม่น้ำโรหิณีพร้อมด้วยราชบริพารจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ทั้งสองฝ่ายได้ทรงพักอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ต่างมุ่งมาดปรารถนาจะได้พระสารีริกธาตุ
ของพระเถระไปบูชาสักการะเฉพาะพวกของตน ท่านพระอานนท์มองเห็นว่าเหตุการณ์
วุ่นวายโกลาหลจะเกิดขึ้น จึงได้เข้าเตโชกสิณลอยขึ้นบนอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณี แล้ว
เปลวไฟก็ลุกขึ้นสารีริกธาตุได้แตกออกเป็นสองส่วน ตกลงสู่ฝั่งแม่น้ำทั้งสองฝั่ง ๆ ละ๑ ส่วน
กษัตริย์และประชาชนทั้งสองฝั่งจึงได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นไว้เพื่อสักการบูชา ณ ฝั่งของตน ๆ
ติดตามอ่านที่มาได้เต็มๆตามลิ้งค์ครับ
ที่มา http://www.dharma-gateway.com/monk/great_monk/pra-anon-04.htm