เย็นย่ำจนใกล้จะมืดค่ำอยู่แล้วในฤดูหนาวเมื่อหลายปีก่อน ผมปั่นจักรยานมาเพียงลำพังด้วยความเหนื่อยล้าเพราะปั่นมาไกล ออกจากอำเภอหล่มสักมาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว
เส้นทางสายนี้แยกมาจากถนนใหญ่ เป็นทางเล็กแคบขนาดเวลารถจะสวนกันจะต้องจอดแอบข้างทางเสียก่อนคันหนึ่งจึงจะสวนกันได้ ผิวถนนลาดยางมะตอยไว้หยาบๆ ขลุขละอย่างยิ่ง ตัดผ่านป่าทึบขึ้นเนินเขา มุ่งไปสู่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
อีกราวแปดกิโลเมตรจะถึงที่ทำการอุทยาน ดวงตะวันลอยต่ำเลยยอดไม้ลงมาแล้ว สองข้างทางเป็นป่ารก ทำให้บรรยากาศสลัวครึ้มจนวังเวง เสียงป่าเริ่มดังมาในความหนาวเย็นยะเยือก เสียงหวีดหวิวของยอดไม้ต้องลมกระโชก เสียงกอไผ่เสียดสี เสียงกู่ร้องของสรรพสัตว์นา ๆ ชนิด บางครั้งก็มีเสียครวญครางของอะไรบางอย่างซึ่งไม่อาจจะระบุว่าเป็นเสียงของสิ่งใดสอดแทรกมาเป็นช่วง ๆ
"ระวังช้างข้ามทาง" "ระวังสัตว์ร้าย" คือป้ายที่บอกเตือนให้ผู้คนที่ผ่านมาทางนี้พึงระมัดระวัง ปักเตือนไว้เป็นระยะ ๆ
ในบรรยากาศของป่าเมื่อจวนจะค่ำ อีกทั้งหนาวเย็นและวังเวงเพราะเดินทางมาเพียงลำพังเช่นนั้น ยิ่งอ่านป้ายแล้วก็ยิ่งรู้สึกน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนบอกไม่ถูก ผมพยายามข่มใจไม่ให้กลัวและตั้งสติ ปั่นจักรยานไปก็คิดไปว่า ถ้าบังเอิญเจอช้างออกมาจริง ๆ เจอสัตว์ร้ายออกมาจริง ๆ ผมจะต้องทำอย่างไรบ้าง ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามเค้นเรี่ยวแรงออกมาจากความอ่อนล้าให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้รีบปั่นไปให้ถึงที่ทำการอุทยานโดยเร็ว แข่งกับดวงตะวันที่ลอยต่ำลงใกล้จะมืดค่ำเข้าไปทุกที
แล้วทันใดนั้น ล้อจักรยานก็เหยียบไปโดนเศษหินคมเข้าจนยางแตก "ฟัก" ผมอุทานในใจ
ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปนี้คือต้องเร่งเปลี่ยนยางจักรยานให้เสร็จโดยเร็ว แต่ว่าในสถานการณ์แบบนั้น ท่ามกลางบรรยากาศแบบนั้น การข่มใจไม่ให้กลัวและทำใจให้นิ่ง ทำยากเป็นอย่างยิ่ง ถ้าช้างมาผมจะทำอย่างไร? ถ้าเสือมาผมจะทำอย่างไร? หรือผีมาล่ะ? พอคำว่าผีผ่านเข้ามาในความคิดมือไม้ผมสั่นไปหมด จะหยิบจะจับอะไรก็หยิบผิดหยิบถูก จับผิดจับถูก การเปลี่ยนยางที่เคยทำง่าย ๆ กลับเป็นไปอย่างช้าและทุลักทุเลอย่างยิ่ง
ตะวันคล้อยต่ำลงทุกทีจนจวนจะมืดแล้ว ในความเหนื่อยล้า หวาดกลัว และจิตใจระส่ำระสาย ผมเงยหน้ามองย้อนตะวันไปที่ปลายทางทิศที่จะไปที่ทำการอุทยาน เพื่อดูว่ายังเหลือเวลาอีกกี่มากน้อยที่ดวงตะวันจะลับขอบฟ้า ให้ตายเถอะ! ในเงาไม้ที่ทอดยาวทาบทับลงบนทางนั้น มีหมู่ซอมบี้เดินโยกเยกโยเยเข้ามาหาผมอย่างช้า ๆ สี่ถึงห้าตัว
ผมไม่เคยเชื่อว่าผีมีจริง ดังนั้นที่เป็นไปได้อย่างเดียวคือ ในสภาวะที่อ่อนล้า หวาดกลัว และระส่ำระสายเช่นนั้น ผมต้องกลัวจนประสาทหลอนแล้วแน่ ๆ เลย ผมคิดเช่นนั้น และไม่ว่าจะอย่างไร ผมไม่มีทางเลือกอื่น ต่อให้แว๊บหนึ่งผมคิดจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่รู้จะหนีไปไหน ดังนั้นผมจึงต้องทนความกลัวนี้ไว้ให้ได้ และรีบเปลี่ยนยางจักรยานให้เสร็จอย่างเดียวเท่านั้น
ผมเปลี่ยนยางจักรยานจนเสร็จก็มืดค่ำพอดี เงยหน้าไปมองปลายทางตรงนั้นอีกครั้งก็มืดแล้ว มองไม่เห็นทาง และก็มองไม่เห็นซอมบี้อีกเช่นกัน ยิ่งมองไม่เห็นก็ยิ่งน่ากลัวกว่ามองเห็นเสียอีก และผมก็จะต้องปั่นจักรยานผ่านตรงนั้นไปอีกด้วย โอ! แล้วผมจะฝ่าผ่านมันไปได้อย่างไร?
ผมพยายามรวบรวมขวัญทีกระเจิงกระจายเข้ามาให้เป็นกลุ่มก้อนอีกครั้งเท่าที่จะทำได้ เปิดไฟฉายจักรยานแล้วรีบปั่นออกไปอย่างเร็ว เมื่อผมผ่านตรงจุดที่ผมเห็นซอมบี้นั้น ก็ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัวปรากฏให้เห็นอีกแต่อย่างใด มีแต่ความรู้สึกเย็นยะเยือกวูบแล้ววูบเล่าตรงบริเวณท้ายทอย ขนลุกซู่ไปทั้งกาย หัวใจเต้นแรง และหวิวหวั่นปานจะขาดใจ
ที่เลวร้ายอย่างยิ่งก็คือ ความรู้สึกแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแล้วหายไปชั่วพริบตา แต่มันรู้สึกอยู่อย่างนั้นตลอดระยะทางทีเหลือซึ่งต้องปั่นฝ่าความมืดและลมหนาวเข้าไปในป่าอีกแปดกิโลเมตร
ถ้าหนักกว่านี้อีกนิดเดียวผมคงสติแตก
เส้นทางสายนี้แยกมาจากถนนใหญ่ เป็นทางเล็กแคบขนาดเวลารถจะสวนกันจะต้องจอดแอบข้างทางเสียก่อนคันหนึ่งจึงจะสวนกันได้ ผิวถนนลาดยางมะตอยไว้หยาบๆ ขลุขละอย่างยิ่ง ตัดผ่านป่าทึบขึ้นเนินเขา มุ่งไปสู่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
อีกราวแปดกิโลเมตรจะถึงที่ทำการอุทยาน ดวงตะวันลอยต่ำเลยยอดไม้ลงมาแล้ว สองข้างทางเป็นป่ารก ทำให้บรรยากาศสลัวครึ้มจนวังเวง เสียงป่าเริ่มดังมาในความหนาวเย็นยะเยือก เสียงหวีดหวิวของยอดไม้ต้องลมกระโชก เสียงกอไผ่เสียดสี เสียงกู่ร้องของสรรพสัตว์นา ๆ ชนิด บางครั้งก็มีเสียครวญครางของอะไรบางอย่างซึ่งไม่อาจจะระบุว่าเป็นเสียงของสิ่งใดสอดแทรกมาเป็นช่วง ๆ
"ระวังช้างข้ามทาง" "ระวังสัตว์ร้าย" คือป้ายที่บอกเตือนให้ผู้คนที่ผ่านมาทางนี้พึงระมัดระวัง ปักเตือนไว้เป็นระยะ ๆ
ในบรรยากาศของป่าเมื่อจวนจะค่ำ อีกทั้งหนาวเย็นและวังเวงเพราะเดินทางมาเพียงลำพังเช่นนั้น ยิ่งอ่านป้ายแล้วก็ยิ่งรู้สึกน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนบอกไม่ถูก ผมพยายามข่มใจไม่ให้กลัวและตั้งสติ ปั่นจักรยานไปก็คิดไปว่า ถ้าบังเอิญเจอช้างออกมาจริง ๆ เจอสัตว์ร้ายออกมาจริง ๆ ผมจะต้องทำอย่างไรบ้าง ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามเค้นเรี่ยวแรงออกมาจากความอ่อนล้าให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้รีบปั่นไปให้ถึงที่ทำการอุทยานโดยเร็ว แข่งกับดวงตะวันที่ลอยต่ำลงใกล้จะมืดค่ำเข้าไปทุกที
แล้วทันใดนั้น ล้อจักรยานก็เหยียบไปโดนเศษหินคมเข้าจนยางแตก "ฟัก" ผมอุทานในใจ
ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปนี้คือต้องเร่งเปลี่ยนยางจักรยานให้เสร็จโดยเร็ว แต่ว่าในสถานการณ์แบบนั้น ท่ามกลางบรรยากาศแบบนั้น การข่มใจไม่ให้กลัวและทำใจให้นิ่ง ทำยากเป็นอย่างยิ่ง ถ้าช้างมาผมจะทำอย่างไร? ถ้าเสือมาผมจะทำอย่างไร? หรือผีมาล่ะ? พอคำว่าผีผ่านเข้ามาในความคิดมือไม้ผมสั่นไปหมด จะหยิบจะจับอะไรก็หยิบผิดหยิบถูก จับผิดจับถูก การเปลี่ยนยางที่เคยทำง่าย ๆ กลับเป็นไปอย่างช้าและทุลักทุเลอย่างยิ่ง
ตะวันคล้อยต่ำลงทุกทีจนจวนจะมืดแล้ว ในความเหนื่อยล้า หวาดกลัว และจิตใจระส่ำระสาย ผมเงยหน้ามองย้อนตะวันไปที่ปลายทางทิศที่จะไปที่ทำการอุทยาน เพื่อดูว่ายังเหลือเวลาอีกกี่มากน้อยที่ดวงตะวันจะลับขอบฟ้า ให้ตายเถอะ! ในเงาไม้ที่ทอดยาวทาบทับลงบนทางนั้น มีหมู่ซอมบี้เดินโยกเยกโยเยเข้ามาหาผมอย่างช้า ๆ สี่ถึงห้าตัว
ผมไม่เคยเชื่อว่าผีมีจริง ดังนั้นที่เป็นไปได้อย่างเดียวคือ ในสภาวะที่อ่อนล้า หวาดกลัว และระส่ำระสายเช่นนั้น ผมต้องกลัวจนประสาทหลอนแล้วแน่ ๆ เลย ผมคิดเช่นนั้น และไม่ว่าจะอย่างไร ผมไม่มีทางเลือกอื่น ต่อให้แว๊บหนึ่งผมคิดจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่รู้จะหนีไปไหน ดังนั้นผมจึงต้องทนความกลัวนี้ไว้ให้ได้ และรีบเปลี่ยนยางจักรยานให้เสร็จอย่างเดียวเท่านั้น
ผมเปลี่ยนยางจักรยานจนเสร็จก็มืดค่ำพอดี เงยหน้าไปมองปลายทางตรงนั้นอีกครั้งก็มืดแล้ว มองไม่เห็นทาง และก็มองไม่เห็นซอมบี้อีกเช่นกัน ยิ่งมองไม่เห็นก็ยิ่งน่ากลัวกว่ามองเห็นเสียอีก และผมก็จะต้องปั่นจักรยานผ่านตรงนั้นไปอีกด้วย โอ! แล้วผมจะฝ่าผ่านมันไปได้อย่างไร?
ผมพยายามรวบรวมขวัญทีกระเจิงกระจายเข้ามาให้เป็นกลุ่มก้อนอีกครั้งเท่าที่จะทำได้ เปิดไฟฉายจักรยานแล้วรีบปั่นออกไปอย่างเร็ว เมื่อผมผ่านตรงจุดที่ผมเห็นซอมบี้นั้น ก็ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัวปรากฏให้เห็นอีกแต่อย่างใด มีแต่ความรู้สึกเย็นยะเยือกวูบแล้ววูบเล่าตรงบริเวณท้ายทอย ขนลุกซู่ไปทั้งกาย หัวใจเต้นแรง และหวิวหวั่นปานจะขาดใจ
ที่เลวร้ายอย่างยิ่งก็คือ ความรู้สึกแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแล้วหายไปชั่วพริบตา แต่มันรู้สึกอยู่อย่างนั้นตลอดระยะทางทีเหลือซึ่งต้องปั่นฝ่าความมืดและลมหนาวเข้าไปในป่าอีกแปดกิโลเมตร