Song one
ดูจบแล้วหน่วงมาก
แค่อยากหาหนังเพลงดูซักหน่อย ไม่คิดว่าดูจบแล้วจะหน่วงในใจได้มากขนาดนี้เลยจริงๆ
หนังเล่าถึงแฟรนนี่ สาวสวยมั่นที่ต้องรีบกลับนิวยอร์คเพราะน้องชายโดนรถชนถึงขั้นโคม่าไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่เธอเนี่ยไม่ได้คุยกับน้องมากกว่า 6 เดือนเพราะเรื่องการเรียนต่อ น้องของแฟรนนี่ลาออกจากมหาลัยเพื่อจะมาเล่นดนตรีแล้วเธอไม่เห็นด้วย จนถึงวันนี้ที่น้องเธอโคม่า แฟรนนี่จึงหยิบสมุดบันทึกของน้องเธอขึ้นมา แล้วเดินไล่ล่าความฝัน เรียนรู้และเข้าใจกับตัวตนของน้องชายที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานอีกครั้งผ่านเสียงเพลงและความรัก การเดินทางครั้งนี้ทำให้แฟรนนี่ได้พบเจอกับเจมส์ ฟอเรสเตอร์ ไอดอลของน้องชายเธอ ซึ่งจะพาแฟรนนี่ไปสู่ความสัมพันครั้งใหม่
หนังทั้งเรื่องมีอยู่แค่นี้จริงๆ ด้วยความเป็นหนังแฮปปี้ๆ ก็พอเดาตอนจบกันได้อยู่แล้วแหละ หนังไม่ได้มีความน่าตื่นเต้น สนุก มีจุดพีคที่คุณต้องว้าวหรือชวนให้น่าสนใจหรือน่าติดตามต่อ พูดได้เลยว่าเป็นหนังที่เรียบมาก สามารถหลับได้ทุกเวลา แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มี 'อะไร' ไม่ใช่การดำเนินเรื่องของหนัง แต่เป็นความรู้สึกที่แทรกเข้ามาในตลอดเวลากว่าสองชั่วโมงที่ได้ดู
เราง่วงแหละ แต่เราไม่หลับ55555 เพราะระหว่างที่ดูเนี่ยมันมีความรู้สึกที่หลากหลายแทรกเข้ามาในใจได้ตลอด ทั้งเรื่องของครอบครัว คนรัก ความฝัน เสียงดนตรี เราชอบหนังแนวแบบนี้มาก มันให้ฟิลความรักในแบบที่จริงจังขึ้นมาอีกระดับ ชอบความรักของแฟรนนี่กับเจมส์มาก ดูเป็นคู่รักที่ไม่ต้องพยายามอะไรมาก ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคนพูดน้อยๆ ไม่ได้หยอดคำหวานหรือกุ๊งกิ๊งอะไรกันมากเท่าไหร่ แต่เราโคตรอบอุ่นเลย เหมือนกับว่าเรามีคนคอยเคียงข้างอยู่ตลอดในวันที่มีปัญหาไม่สบายใจ ชอบฉากที่ทั้งคู่อยู่บนสะพานด้วยกันในตอนกลางคืนแล้วเจมส์คอยเล่นกีต้าร์ให้แฟรนนี่ฟังมากๆ เหมือนเป็นสถานที่ของทั้งคู่ซึ่งสามารถนำเอาความรู้สึกมาทิ้งไว้ได้อย่างไม่หมดสิ้น
เพลงในเรื่องคือมันดีมากทุกเพลง จอห์นนี่ ฟินน์สามารถสวมบทบาทของนักร้องหนุ่มอินดี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชอบเสียงนางมากๆ มันดูสนุกแต่ก็เหงาไปในเวลาเดียวกัน เป็นเสียงที่มีเสน่ห์มากมาย ยิ่งปล่อยผมยาวๆ สะพายกีต้าร์เท่ๆ ไปทุกที่ด้วยแล้วนั้น บอกเลยว่านี่คลั่งจอห์นนี่มากตอนนี้ เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ซะเหลือเกิน เพลงที่ร้องคือความหมายงามมาก รวมถึงเพลงประกอบอื่นๆ ด้วย จะบอกว่าเรื่องนี้ทำให้เราโหลดซาวด์แทร็กในเรื่องมาแทบหมด เพลงเพราะเว่อร์วังจริงๆ อีกอย่างคือแอนนี่ก็เสียงดีเช่นกัน เป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากแต่กลับสวยและโคตรมีเสน่ห์เลย
โทนสีในเรื่องมันชวนเหงามาก ชอบหลายๆ ซีนที่โชว์แสงสีในนครนิวยอร์ค คือมันดีมาก ดูแล้วเราอินไปกับทุกสิ่งอย่างแม้การดำเนินเรื่องจะไม่ได้หวือหวา เป็นหนังที่ถ้าได้ตั้งใจดูแล้วจะดำดิ่งไปกับมันได้เลยจริงๆ
ฉากจบ เราว่ามันดีมากๆ เลยนะ เหมือนทั้งเรื่องเราก็จุกๆ หน่วงๆ อยู่แต่พอถึงฉากสุดท้ายเท่านั้นแหละ น้ำตาหยดติ๋งเลยจ้า มันไม่ได้ระเบิดตู้มความรู้สึกออกมานะ เลยทำให้ดูจบแล้วก็ยังหน่วงอยู่นี่ไง555555 ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่ แต่มันเป็นฟิลที่ดีมากๆ ความรู้สึกตื้นตัน หน่วงใจ เหงา หรือว่าอะไรก็ตามมันมาอัดๆ รวมๆ เหวงๆ ชอบการตัดจบแบบนี้ให้เราไปมโนต่อเองว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนหนังจบแต่เราไม่จบอ่ะ
สรุปว่า อยากให้ลองได้ดูกันนะ เป็นหนังที่ไม่ได้ดังมากอะไร (รายได้รวม 0.6 ล้าน โคตรเศร้า) ไม่ได้สนุก ไม่ได้ตื่นเต้น แต่โคตรคุณค่าทางจิตใจ ดูแล้วรู้สึกใจมันโล่งขึ้นเยอะ ไม่รู้อ่ะ ลองไปดู ไปฟังเพลงเพราะๆ กันเถอะะะ
7/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
------------------------------
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังๆ พร้อมกับดูรีวิวอื่นๆ ได้ที่นี่เลย
เพจ แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
https://m.facebook.com/justasuckreviewer/?locale2=th_TH
[CR] Song one : หนังน่าง่วงที่โคตรอินเลย
ดูจบแล้วหน่วงมาก
แค่อยากหาหนังเพลงดูซักหน่อย ไม่คิดว่าดูจบแล้วจะหน่วงในใจได้มากขนาดนี้เลยจริงๆ
หนังเล่าถึงแฟรนนี่ สาวสวยมั่นที่ต้องรีบกลับนิวยอร์คเพราะน้องชายโดนรถชนถึงขั้นโคม่าไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่เธอเนี่ยไม่ได้คุยกับน้องมากกว่า 6 เดือนเพราะเรื่องการเรียนต่อ น้องของแฟรนนี่ลาออกจากมหาลัยเพื่อจะมาเล่นดนตรีแล้วเธอไม่เห็นด้วย จนถึงวันนี้ที่น้องเธอโคม่า แฟรนนี่จึงหยิบสมุดบันทึกของน้องเธอขึ้นมา แล้วเดินไล่ล่าความฝัน เรียนรู้และเข้าใจกับตัวตนของน้องชายที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานอีกครั้งผ่านเสียงเพลงและความรัก การเดินทางครั้งนี้ทำให้แฟรนนี่ได้พบเจอกับเจมส์ ฟอเรสเตอร์ ไอดอลของน้องชายเธอ ซึ่งจะพาแฟรนนี่ไปสู่ความสัมพันครั้งใหม่
หนังทั้งเรื่องมีอยู่แค่นี้จริงๆ ด้วยความเป็นหนังแฮปปี้ๆ ก็พอเดาตอนจบกันได้อยู่แล้วแหละ หนังไม่ได้มีความน่าตื่นเต้น สนุก มีจุดพีคที่คุณต้องว้าวหรือชวนให้น่าสนใจหรือน่าติดตามต่อ พูดได้เลยว่าเป็นหนังที่เรียบมาก สามารถหลับได้ทุกเวลา แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มี 'อะไร' ไม่ใช่การดำเนินเรื่องของหนัง แต่เป็นความรู้สึกที่แทรกเข้ามาในตลอดเวลากว่าสองชั่วโมงที่ได้ดู
เราง่วงแหละ แต่เราไม่หลับ55555 เพราะระหว่างที่ดูเนี่ยมันมีความรู้สึกที่หลากหลายแทรกเข้ามาในใจได้ตลอด ทั้งเรื่องของครอบครัว คนรัก ความฝัน เสียงดนตรี เราชอบหนังแนวแบบนี้มาก มันให้ฟิลความรักในแบบที่จริงจังขึ้นมาอีกระดับ ชอบความรักของแฟรนนี่กับเจมส์มาก ดูเป็นคู่รักที่ไม่ต้องพยายามอะไรมาก ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคนพูดน้อยๆ ไม่ได้หยอดคำหวานหรือกุ๊งกิ๊งอะไรกันมากเท่าไหร่ แต่เราโคตรอบอุ่นเลย เหมือนกับว่าเรามีคนคอยเคียงข้างอยู่ตลอดในวันที่มีปัญหาไม่สบายใจ ชอบฉากที่ทั้งคู่อยู่บนสะพานด้วยกันในตอนกลางคืนแล้วเจมส์คอยเล่นกีต้าร์ให้แฟรนนี่ฟังมากๆ เหมือนเป็นสถานที่ของทั้งคู่ซึ่งสามารถนำเอาความรู้สึกมาทิ้งไว้ได้อย่างไม่หมดสิ้น
เพลงในเรื่องคือมันดีมากทุกเพลง จอห์นนี่ ฟินน์สามารถสวมบทบาทของนักร้องหนุ่มอินดี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชอบเสียงนางมากๆ มันดูสนุกแต่ก็เหงาไปในเวลาเดียวกัน เป็นเสียงที่มีเสน่ห์มากมาย ยิ่งปล่อยผมยาวๆ สะพายกีต้าร์เท่ๆ ไปทุกที่ด้วยแล้วนั้น บอกเลยว่านี่คลั่งจอห์นนี่มากตอนนี้ เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ซะเหลือเกิน เพลงที่ร้องคือความหมายงามมาก รวมถึงเพลงประกอบอื่นๆ ด้วย จะบอกว่าเรื่องนี้ทำให้เราโหลดซาวด์แทร็กในเรื่องมาแทบหมด เพลงเพราะเว่อร์วังจริงๆ อีกอย่างคือแอนนี่ก็เสียงดีเช่นกัน เป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากแต่กลับสวยและโคตรมีเสน่ห์เลย
โทนสีในเรื่องมันชวนเหงามาก ชอบหลายๆ ซีนที่โชว์แสงสีในนครนิวยอร์ค คือมันดีมาก ดูแล้วเราอินไปกับทุกสิ่งอย่างแม้การดำเนินเรื่องจะไม่ได้หวือหวา เป็นหนังที่ถ้าได้ตั้งใจดูแล้วจะดำดิ่งไปกับมันได้เลยจริงๆ
ฉากจบ เราว่ามันดีมากๆ เลยนะ เหมือนทั้งเรื่องเราก็จุกๆ หน่วงๆ อยู่แต่พอถึงฉากสุดท้ายเท่านั้นแหละ น้ำตาหยดติ๋งเลยจ้า มันไม่ได้ระเบิดตู้มความรู้สึกออกมานะ เลยทำให้ดูจบแล้วก็ยังหน่วงอยู่นี่ไง555555 ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่ แต่มันเป็นฟิลที่ดีมากๆ ความรู้สึกตื้นตัน หน่วงใจ เหงา หรือว่าอะไรก็ตามมันมาอัดๆ รวมๆ เหวงๆ ชอบการตัดจบแบบนี้ให้เราไปมโนต่อเองว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนหนังจบแต่เราไม่จบอ่ะ
สรุปว่า อยากให้ลองได้ดูกันนะ เป็นหนังที่ไม่ได้ดังมากอะไร (รายได้รวม 0.6 ล้าน โคตรเศร้า) ไม่ได้สนุก ไม่ได้ตื่นเต้น แต่โคตรคุณค่าทางจิตใจ ดูแล้วรู้สึกใจมันโล่งขึ้นเยอะ ไม่รู้อ่ะ ลองไปดู ไปฟังเพลงเพราะๆ กันเถอะะะ
7/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
------------------------------
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังๆ พร้อมกับดูรีวิวอื่นๆ ได้ที่นี่เลย
เพจ แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
https://m.facebook.com/justasuckreviewer/?locale2=th_TH