ภาพยนตร์เรื่อง "The Foreigner สองโคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" คือเรื่องราวของ ควน (แจ๊คกี้ ชาน) ชายผู้เก็บกด เงียบขรึม ที่มีอดีตอันดำมืด เคยเป็นหน่วยรบพิเศษต่อสู้ในสงครามเวียดนาม ทำงานให้ทหารอเมริกัน เป็นผู้ฝึกเทคนิคการต่อสู้แบบกองโจรให้พวกอเมริกัน ปัจจุบันควนเป็นเจ้าของร้านอาหารจีนในไชน่าทาวน์กลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

แต่แล้ววันหนึ่ง.. ควนกับลูกสาวโชคร้าย ไปอยู่ในใจกลางเหตุวินาศกรรมลึกลับระเบิดกลางเมือง ควนอยู่ไกลจากรัศมีระเบิดจึงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากแต่ลูกสาวของควนถูกลูกหลงจากเหตุระเบิดอย่างจัง และเสียชีวิต..

ควนกอดศพลูกสาว

หลังจากควนรู้ว่า เหตุการณ์ระเบิดนี้คือการก่อการร้ายของกลุ่ม IRA ควนจึงต้องการทวงถามความยุติธรรมให้กับลูกสาวที่ตายไป แต่ทางการอังกฤษกลับไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย และความแค้น ทำให้ควนตัดสินใจลงมือจัดการกลุ่มผู้ก่อการร้าย IRA ด้วยวิธีสุดระห่ำ

ขณะเดียวกับที่ เลียม เฮนเนสซี (เพียซ บรอสแนน) รองรัฐมนตรีชาวไอริชเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ที่เคยมีปมความหลังและประวัติพัวพันกับกลุ่ม IRA เพราะเคยเป็นอดีตผู้นำกลุ่มกบฏไอริช อาจจะเป็นคนที่กุมความลับของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ที่สุดแล้วบทสรุปจะเป็นเช่นไร เมื่อชายสุดอันตรายที่มีปมชีวิตทั้งคู่อย่างควนและเลียมต้องมาปะทะกัน!! จบเรื่องย่อ..



แก่นหลักของภาพยนตร์เรื่อง "The Foreigner สองโคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" คือภาพสะท้อนของโลกในยุคปัจจุบัน ตัวละครของควนที่รับบทโดย แจ็คกี้ ชาน และตัวละครของเลียม เฮนเนสซี ที่รับบทโดย เพียซ บรอสแนน เป็นตัวอย่างของความซับซ้อนในจิตใจมนุษย์ ซึ่งมีความเชื่อที่ฝังรากลึกในหัว ผลักดันให้เขาเหล่านั้นกระทำการรุนแรงเลวร้าย โดยไม่คิดจะคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา

ประวัติศาสตร์จริงของ IRA

อ่านมาถึงตรงนี้ คำถามแรกของบางท่านก็ตั้งคำถามในหัวว่า แล้วกลุ่มผู้ก่อการร้าย IRA คือใคร? ผมก็จะเล่าย่อๆให้ฟังพอเข้าใจได้ IRA (ไออาร์เอ) ย่อมาจากคำว่า Irish Republican Army (ไอริซ รีพลับบริกัน อาร์มมี่) หรือแปลเป็นไทยว่า "กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์"

เรื่องราวความรุนแรงเกิดขึ้นจาก 1 ใน 6 ของไอร์แลนด์ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ส่วนนั้นเรียกว่า "ไอแลนด์เหนือ" ทำให้ชาวไอริซส่วนหนึ่งไม่พอใจ ความขัดแย้งรุนแรงมีในประวัติศาสตร์เรื่อยมา จนเกิดการก่อตั้งเป็นองค์กรก่อการร้ายอย่างเป็นทางการชื่อว่า IRA ในปีค.ศ 1969 ผู้คนเหล่านี้เป็นชาวไอริซกลุ่มน้อยที่หัวรุนแรงซึ่งต้องการปลดแอก "ประเทศไอร์แลนด์เหนือ" ออกมาจากสหราชอาณาจักร เพื่อกลับไปรวมกับ "ประเทศไอร์แลนด์" ตามเดิม

IRA แฝงตัวอยู่ในสังคมทั่วไปบ้าง เปิดเผยตัวบ้าง และมีสมาชิกสายเลือดชาวไอริซแฝงอยู่ทั่วทั้งในสหราชอาณาจักร, ในยุโรป, และในอเมริกา ได้เงินทุนสนับสนุนลับๆ จากกลุ่มอิทธิพลและรัฐบาลในประเทศต่างๆ ที่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในสหราชอาณาจักรนั่นเอง (สหราชอาณาจักรนั้นประกอบไปด้วย 4 ประเทศ คือ อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์, และไอร์แลนด์เหนือ)



The Foreigner สร้างจากนิยายขายดีเรื่อง The Chinaman (เดอะไชน่าแมน) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 1992 จากปลายปากกาของ "สตีเฟ่น เลเธอร์" นักเขียนแนวเขย่าขวัญอาชญากรรมชื่อดังชาวอังกฤษ

ทีมโปรดิวเซอร์ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "The Foreigner สองโคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" คิดว่าประเด็นความขัดแย้งในนิยายของ สตีเฟ่น เลเธอร์ ยังคงทรงพลังมาจนถึงทุกวันนี้ และสามารถนำมาปรับใช้กับยุคนี้ได้ นิยายเรื่องเดอะไชน่าแมน จึงได้รับการแปลงบทอัพเดทเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ด้วยฝีมือของมือเขียนบทภาพยนตร์ "เดวิด มาร์โคนี่" ขณะที่ต้นฉบับเดิมของ สตีเฟ่น เลเธอร์ เซ็ตอัพเรื่องราวให้เกิดขึ้นในช่วงยุค 90' แต่ เดวิด มาร์โคนี่ ก็แปลงบทบางช่วงให้เข้ากับยุคนี้ได้อย่างกลมกลืน จนออกมาเป็นบทภาพยนตร์เรื่อง "The Foreigner สองโคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่"

โดยภาพยนตร์เรื่อง "The Foreigner สองโคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" ได้ผู้กำกับคือ มาร์ติน แคมป์เบลล์ ที่เคยฝากฝีมือไว้ในเฟรนไชส์สายลับตลอดกาลอย่าง เจมส์ บอนด์ มาแล้วถึงสองเรื่องคือ Casino Royale และ Goldeneye ซึ่งทั้งมาร์ตินผู้กำกับ และเดวิดผู้เขียนบท ต่างช่วยกันเกลาเนื้อหากันนานถึง 5-6 เดือนเลยทีเดียว

ผู้กำกับคือ มาร์ติน แคมป์เบลล์ กล่าวถึงบทเรื่องนี้ว่า “หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายที่สุด คือการอัพเดทยุค 90' ให้ทันยุคปัจจุบัน มันสำคัญมากที่ต้องเอาประเด็นของทุกวันนี้ มาผสมกับเรื่องราวตามหนังสือที่มันเกิดขึ้นในอดีต เราต้องหาวิธีอัพเดทหลายสิ่งในนั้น เช่นเทคโนโลยี และภัยจากการก่อการร้ายให้ร่วมสมัย อีกทั้งยังต้องพยายามสร้างมิติให้ตัวละครทั้งคู่ ทั้งตัวละครร้ายและตัวละครดี ไม่ให้ทั้งคู่ดูเป็นขาวกับดำมากเกินไป ตัวละครที่ดีควรเป็นสีเทา เพราะโลกของเรามันเป็นแบบนั้น”



ภาพยนตร์เรื่อง "The Foreigner สองโคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" นอกจากจะได้สุดยอดแอคชั่นสตาร์ระดับตำนานอย่าง "แจ็คกี้ ชาน" มารับบทเป็น ควน คุณพ่อชาวจีนผู้สูญเสียแล้ว หนังเรื่องนี้ยังได้ตัวของ "เพียซ บรอสแนน" อดีตผู้รับบทสายลับ 007 มาแสดงเป็น "เลียม เฮนเนสซี" หนึ่งในตัวละครหัวใจหลักของเรื่อง (เป็นการโคจรกลับมาร่วมงานกันครั้งแรกของ มาร์ติน แคมป์เบลล์ และ เพียร์ซ บรอสแนน หลังจากหนังเรื่อง Goldeneye เมื่อปี 1995)



ทีมงานใช้เวลาเตรียมตัว 3 เดือนก่อนเปิดกล้อง หลังจากหาโลเคชั่นทั้งในสหราชอาณาจักร และข้ามฟากทะเลไอริชไปยังไอร์แลนด์เหนือ แต่ในที่สุดแล้ว ทีมงานก็ตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า คงจะบริหารงบประมาณได้เต็มศักยภาพมากกว่า ถ้าถ่ายทำทั้งหมดกันในสหราชอาณาจักร ลอนดอน และลูตันเมืองเล็กๆทางเหนือของลอนดอน ซึ่งทีมงานใช้ฉากเมืองลูตันแทนฉากในเมืองเบลฟาสท์ แต่เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา ทีมงานจึงต้องใช้กองถ่ายย่อยอีกกอง เพื่อไปถ่ายเก็บรายละเอียดที่เมืองเบลฟาสท์อีกเล็กน้อย เฉพาะภายนอกอาคารสำคัญๆ





แจ็คกี้ ชาน หรือ เฉินหลง เกิดวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2497 (ปัจุบันปี 2560 เฉินหลงมีอายุ 63 ปี) เฉินหลงเกิดในครอบครัวที่ยากจน จนพวกเขาต้องขอยืมเงินคนอื่นเพื่อมาจ่ายเงินค่าทำคลอด เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอุปรากรจีน (เรียนงิ้ว) ที่ซึ่งเขาได้ฝึกฝนงิ้วเป็นเวลาสิบปี ทั้งกายกรรม ศิลปะการต่อสู้ การแสดง และการร้องเพลง ที่นี่เองที่ทำให้เขาได้รู้จักกับเพื่อนร่วมสาบานอย่าง "หงจินเป่า" และ "หยวนเปียว"

แต่ความใฝ่ฝันด้านการแสดงงิ้วก็ต้องจบลง เมื่อเขาอายุได้ 17 ปี วงการงิ้วหมดความนิยม เฉินหลงจึงหันเหไปสมัครเข้าร่วมทีมสตันท์แมนในวงการหนังฮ่องกง แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตกงาน เพราะวงการหนังกังฟูฮ่องกงกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ เพราะนั่นตรงกับในช่วงที่บรู๊ซลีเสียชีวิต

เฉินหลงได้กลับเข้ามาในวงการอีกครั้ง โดยร่วมงานกับผู้สร้างหนังอย่าง หลอเหว่ย ผู้กำกับหนัง Fist of Fury (ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง) ตอนนั้นเฉินหลงได้เล่นหนังทั้งหมด 10 เรื่อง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยซักเรื่องเดียว ถึงแม้หนังที่เขาแสดงจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ยังแสดงหนังต่อไป

จนในที่สุดเมื่อปี 1978 เฉินหลงได้โอกาสนำแสดงหนังให้กับสตูดิโอ Seasonal Film เรื่อง Snake in the Eagle's Shadow ไอ้หนุ่มพันมือ (1978) หนังเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้ชื่อของเฉินหลง กลายเป็นดาราดังเพียงช่วงข้ามคืน หลังจากนั้นหนังที่เฉินหลงได้แสดง ก็ต่างได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเสมอมา และมีความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จวบจนทุกวันนี้..