Photo Credit:
https://goo.gl/images/N9BNcQ
จากประเด็นดราม่าที่เกิดในวันนี้ มันได้สะท้อน ภาพ มุมมอง และทัศนคติมากมายในโลกเชี่ยล ต่างคนต่างมุมมอง ต่างความคิด ในมุมมองของเพื่อนร่วมวิชาชีพและในมุมมองของผู้โดยสารเอง หมีเลยอยากจะแชร์ข้อมูล เพื่อหวังไว้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นไม่มากก็น้อย ในวันนี้หมีเลยอยากจะมาอธิบายว่าทำไมพวกเราถึงต้องสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน แล้วทำไมผู้โดยสารควรจะตั้งใจชมวิธีการสาธิต แม้ว่าท่านจะโดยสารเครื่องบินอยู่แล้วเป็นประจำ แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้ว เราควรจะมีวิธีคิด และปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในสถานการณ์นั้นๆครับ
ก่อนอื่นใด หมีอยากจะบอกแก่ท่านผู้โดยสารว่า ในฐานะลูกเรือ ทุกคนบนเครื่องบินไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่มีใครอยากให้การเดินทางทางอากาศเกิดความเสี่ยง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นจริงๆครับ เพราะถ้าหากเกิดความเสี่ยงขึ้นมาแล้วท่านผู้โดยสารอย่าลืมนะครับว่า ชีวิตพวกเราก็อยู่บนเครื่องบินลำเดียวกับท่าน พวกเราทุกคนต่างมีคนที่เรารัก มีครอบครัวเช่นกัน ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้น และในชีวิตการทำงานของพวกเราได้ถูกอบรมให้คำนึงถึงความปลอดภัยของท่านผู้โดยสารทุกคนมาเป็นอันดับแรก
ดังนั้นขอให้ท่านเชื่อมั่นในตัวของลูกเรือทุกคน หมีมั่นใจว่าเมื่อเกิเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้วด้วยวิชาชีพและจรรยาบรรณ พวกเราทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ในทุกๆเหตุการณ์พวกเราทุกคนได้รับการอบรมถึงวิธีการปฏิบัติและการรับมือ ขอให้ท่านผู้โดยสารทุกคนโปรดเข้าใจและใจเย็นๆ สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมบอกกับท่านก็คือ ขอให้ท่านทำตามคำแนะนำของลูกเรืออย่างเคร่งครัด เนื่องจากในทุกๆข้อปฏิบัตินั้นมันมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำแฝงอยู่ทั้งสิ้น
กล่าวคือ ในการสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินนั้น ในแต่ละเที่ยวบิน กรมการบินได้ให้ข้อกำหนดว่า สายการบินต้องทำการสาธิตอุปกรณ์ใดๆบ้าง ซึ่งมาตรฐานที่แทบทุกสายการบินจะต้องสาธิตก็คือ
1. เข็มขัดนิรภัยรัดที่นั่ง / Seat belt
2. หน้ากากอ็อกซิเจน / Oxygen mask
3. เสื้อชูชีพ / Life jacket → จะสาธิตในเส้นทางที่จำเป็นต้องบินผ่านทะเลหรือมหาสมุทร
4. ทางออกฉุกเฉิน / Emergency Exit
5. คู่มือความปลอดภัย / Safety Card
ซึ่งเหตุผลที่ลูกเรือต้องสาธิตวิธีการใช้ก็เพราะ ไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้เมื่อไหร่ แต่ประโยชน์ของการรับชมคือ ผู้โดยสารจะได้มี Guide Line หรือ แนวทางในการใช้งานเมื่อจำเป็นจะต้องใช้ และที่สำคัญอุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องบินในแต่ละรุ่น หรือในแต่ละลำก็อาจจะแตกต่างกันออกไป บางครั้งอาจจะเป็นรุ่นที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดหมีแนะนำให้ท่านสละเวลาศึกษา ตั้งใจชมสักนิดแล้วชีวิตของท่านจะปลอดภัย ดังนั้นหมีอยากจะขอแชร์เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ให้แก่ผู้โดยสารทุกท่านได้เห็นถึงความสำคัญของอุปกรณ์ในแต่ละหัวข้อ ดังนี้นะครับ
1. เข็มขัดนิรภัยรัดที่นั่ง / Seat belt
Photo Credit:
https://goo.gl/images/dxneAN
เข็มขัดนิรภัยรัดที่นั่ง จะทำหน้าที่ตรึงตัวท่านไว้กับที่นั่งไม่ให้กระทบกับสิ่งของต่างๆซึ่งอาจทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บได้ เมื่อเครื่องบินบินผ่านเขตที่มีสภาพอากาศแปรปรวน เนื่องจากอากาศบางครั้งใส๊ใสดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ใครจะไปรู้ว่าข้างหน้าอาจจะมีหลุมอากาศขนาดใหญ่ที่เรด้าไม่สามารถจับได้ หากท่านไม่ได้รัดเข็มขัดรัดที่นั่งไว้ ท่านอาจจะกลายเป็นฟงหวิน ขี่พายุทะลุฟ้าไปเลยก็ได้ครับ
เคยมีครั้งหนึ่งหมีกำลังทำเซอร์วิสอยู่กลางห้องโดยสาร เครื่องบินบินนิ่งสมูทมาก และแล้วอยู่ๆ เครื่องก็ตกหลุมอากาศดังตึ้งงงงงงงง ทุกคนในห้องโดยสารกรี้ด โชคดีที่ผู้โดยสารทุกคนนั่งประจำที่เพราะกำลังรอให้ลูกเรือเสริฟอาหารเช้าอยู่เลยไม่มีใครเป็นอะไร แต่ลูกเรือที่ยืนสวยๆอยู่กลางห้องโดยสารนี่แหละครับเกิดสภาวะไร้น้ำหนัก ลอยละลิ่วพริ้วไหว แต่ด้วยสัญชาติญาน เชื่อไหมครับว่าตอนนั้น ผู้โดยสารที่นั่งอยู่นี่แหละที่เป็นคนดึงตัวหมีไว้ไม่ให้ลอยขึ้น นี่สินะที่เค้าเรียกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินผู้โดยสารก็จะช่วยเหลือเราเหมือนกัน ป้าแอร์ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
2. หน้ากากอ็อกซิเจน / Oxygen mask
Photo Credit:
https://goo.gl/images/tZ66gy
เนื่องจากเวลาที่เราบินขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศสูงๆนะครับ ปริมาณอ็อกซิเจนในอากาศจะลดลง ไม่เหมาะแก่การดำรงชีวิตของมนุษย์ ภายในห้องโดยสารจึงได้ถูกออกแบบให้มีระบบปรับความดันอากาศ เพื่อให้อากาศในห้องโดยสารนั้นเสหมือนกับอากาศบนพื้นโลกมากที่สุด แต่ถ้าเจ้าระบบนี้มีปัญหาขึ้นมา แน่นอนครับว่า เค้าก็ได้คิดค้นระบบสำรองที่2 ที่จะเป็นตัวจ่ายอ็อกซิเจนให้กับเรา
เนื่องจากอ็อกซิเจนสำคัญต่อสมองของเรามาก หากสมองของเราขาดอ็อกซิเจนก็จะทำให้เราหมดสติได้ คุณรู้หรือไม่ครับว่าถ้าเครื่องบินบินอยู่ที่ความสูงประมาณ 35,000 ฟุต ร่างกายที่อยู่ในภาวะขาดอ็อกซิเจนจะมีสติอยู่ได้ประมาณแค่ 30-60 วินาที เท่านั้นครับ เห็นหรือยังครับว่า อ็อกซิเจนสำคัญต่อเรามาแค่ไหน
ดังนั้นเรามารู้จักเจ้าตัวอ็อกซิเจนที่อยู่บริเวณที่ที่เก็บเหนือศรีษะของเรากันครับ เจ้าระบบนี้มันจะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อความดันในห้องโดยสารลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐาน หรือนักบินอาจจะสั่งงานให้ปล่อยลงมาจากปุ่มในห้องนักบินเมื่อนักบินเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ซึ่งเจ้าระบบนี้มันจะทำงานจากการทำปฏิกริยาของสารเคมีภายในหลอดซึ่งติดตั้งไว้ในแผงเหนือศรีษะนั้น และเจ้าสารเคมีนั้นจะทำปฏิกริยากันได้ก็ต่อเมื่อ มีการ #กระตุกหน้ากาก ลงมา เพื่อเป็นเหมือนการเปิดสวิชต์ให้เค้าทำงานนั่นเองและเจ้าตัวอ็อกซิเจนนี้ก็จะทำงานในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นและมันจะหมดไป
ในการทำปฏิกิริยากันของสารเคมีนั้น นอกจากมันจะให้อ็อกซิเจนแล้ว มันยังมีความร้อนออกมาด้วย ดังนั้นหากท่านสูดไปแล้วได้กลิ่นไหม้ๆ หรือรู้สึกร้อนๆก็ไม่ต้องตกใจนะครับ ในช่วงเวลาดังกล่าว นักบินจะรีบนำเครื่องลงมาให้ต่ำกว่า10,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่อากาศจะมีอ็อกซิเจนเพียงพอต่อร่างกายของเรานั่นเองครับ
ดังนั้นอย่าลืมนะครับ ถ้าหน้ากากตกลงมา #กระตุก และสวมให้ตัวท่านเองก่อน ก่อนจะช่วยเหลือคนอื่น หากท่านหมดสติไปก่อนท่านก็จะไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้นะครับ แล้วถ้าหากคุณกำลังอยู่ในห้องน้ำแล้วเกิดภาวะพร่องอ็อกซิเจนก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เนื่องจากระบบดังกล่าวก็ได้ติดตั้งไว้ในห้องน้ำเช่นกัน เพราะชีวิตของทุกคนนั้นสำคัญแม้กระทั้งในยามที่ข้าศึกประชิดก็ตาม
3. เสื้อชูชีพ / Life jacket → สาธิต ในเส้นทางที่จำเป็นต้องบินผ่านทะเลหรือมหาสมุทร
Photo Credit:
https://goo.gl/images/8FbnPA
เมื่อเครื่องบินต้องบินผ่านทะเลหรือมหาสมุทร การลงจอดในน้ำก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอดังนั้น อุปกรณ์ที่จะช่วยชีวิตเราไม่ให้เราจมน้ำได้นั้นก็คือเจ้าเสื้อชูชีพนี่แหละครับ ซึ่งเจ้าเสื้อชูชีพนี้ก็มีหลายแบบ หลายรุ่นมากมาย ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันในเครื่องบินแต่ละลำ ดังนั้นขอให้ท่านศึกษาวิธีการใส่ของมันให้ดีๆเวลาที่ลูกเรือสาธิตนะครับ เพราะเมื่อเวลาเกิดเหตุใดๆขึ้นมาเราจะได้ใส่ได้อย่างถูกต้องและเอาชีวิตรอดมาได้ ซึ่งตำแหน่งที่เก็บของเจ้าเสื้อชูชีพเหล่านี้ก็อยู่ใต้ที่นั่งของท่านครับ มันจะถูกขดม้วนอยู่ในถุง ซึ่งหากเราจำเป็นต้องใช้เราก็ต้องกางมันออกแล้วสวมมันคล้ายๆกับสวมเสื้อแจ็คเก็ทอย่างนั้นแหละครับ
แต่ความพีคของเจ้าเสื้อชูชีพนี้คือ ท่านต้อง #กางตรงบริเวณประตูทางออกเท่านั้น โดยการกระตุกแถบสีแดงที่เสื้อเพื่อให้เจ้าตัวจ่ายลมทำงาน และเสื้อชูชีพของท่านก็จะพองออกมาได้ครับ ตรงนี้ท่านต้องประคองสติของตัวเองให้ดีครับ อย่ากระตุกกางในห้องโดยสารเด็ดขาด ลองจิตนาการดูนะครับถ้าท่านกางในห้องโดยสารแล้วเครื่องบินจมน้ำอย่างรวดเร็วอากาศจะลอยขึ้นเหนือน้ำแล้วเสื้อชูชีพก็จะพาตัวท่านไปติดอยู่บนเพดานของห้องโดยสารจมลงไปพร้อมกับเครื่องบิน และการจะดำน้ำออกไปยังประตูทางออกก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่นอนครับ
4. ทางออกฉุกเฉิน / Emergency Exit
Photo Credit:
https://goo.gl/images/3nZZb2
เมื่อท่านเข้ามาในห้องโดยสารแล้วขอให้ท่านสังเกตสักนิดครับว่า ท่านนั่งอยู่แถวที่เท่าไหร่ และที่นั่งของท่านห่างจากประตูทางออกฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดไปกี่แถว เพราะถ้าหากเกิดควันหนาทึบในห้องโดยสาร ท่านเองก็จะสามารถใช้การสัมผัสหรือการคลำและอพยพไปยังทางออกนั้นๆได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งการสังเกตและจดจำอะไรเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ก็อาจจะช่วยชีวิตของท่านในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้นะครับ
5. คู่มือความปลอดภัย / Safety Card
Photo Credit:
https://goo.gl/images/MTTwgw
หากท่านไม่ทราบว่าเครื่องบินลำที่ท่านโดยสารนั้นมีทางออกทั้งหมดกี่ทาง เจ้าคู่มือความปลอดภัยนี่แหละครับที่จะเป็นเหมือนกับ คำภีร์ไบเบิ้ลบอกทุกอย่าง ทั้งวิธีการรัดเข็มขัดนิรภัยรัดที่นั้ง วิธีการใช้หน้ากากอ็อกซิเจน วิธีการใส่เสื้อชูชีพ วิธีการเปิดประตูทางออกฉุกเฉิน และข้อปฏิบัติต่างๆเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หากท่านใดอ่านแล้วมีข้อสงสัยก็ขอให้ท่านสอบถามกับลูกเรือบนไฟล์ทนั้นๆได้เลยนะครับ ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น บางครั้งแค่การอ่านเพียงเสี้ยวนาทีก็อาจจะช่วยชีวิตของท่านและผู้อื่นได้นะครับ
สุดท้ายนี้หมีขอฝากไว้ว่า ไม่มีใครบอกได้ว่านั่งตรงไหนปลอดภัยที่สุด ไม่มีใครบอกได้ว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่จะช่วยชีวิตท่านได้มากที่สุดไม่ใช่ลูกเรือ แต่คือ #สติ ของตัวท่านเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่ท่านควรทำคือ ให้บอกกับตัวเองว่า มีสติ มีสติหายใจลึกๆแล้วตั้งสติ หลังจากนั้นบอกกับตัวเองว่า เราต้องรอด คอยสังเกตว่าลูกเรือให้ปฏิบัติอะไรบ้างและขอให้ท่านทำตามอย่างเคร่งครัด ขอให้ท่านมั่นใจในตัวลูกเรือทุกคนเพราะพวกเราได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีทุกปี เมื่อท่านมาถึงที่นั่งของท่านภายในห้องโดยสารแล้วขอให้ท่านลองหลับตาแล้วจินตนาการดูว่าหากเกิดอะไรขึ้นเราจะวิ่งหนีออกทางไหน เป็นภาพคร่าวๆ ทางออกไหนอยู่ใกล้ที่สุด แล้วถ้าออกจากทางออกนั้นไม่ได้ทางออกต่อไปที่ใกล้ที่สุดคือตรงไหน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆภาพเหล่านั้นจะถูกสมองดึงขึ้นมา และเราจะมีแนวทางในการเอาชีวิตรอดนั่นเองครับ
ป.ล. หากท่านสงสัยว่า ท่านกำลังเกิดอาการขาดอ็อกซิเจนอยู่หรือเปล่า ท่านสามารถสำรวจคร่าวๆได้ดังนี้ครับ
1.วิงเวียน มึนศรีษะ หรือไม่
2.หนาวๆร้อนๆ หรือไม่
3.รู้สึกหายใจไม่อิ่ม หรือไม่
4.หายใจถี่ หรือไม่
5.ความคิดสับสน หรือไม่
6.ผิวหนังเขียวคล้ำ หรือไม่
7.กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกันหรือไม่
8.มีอาการชาเหมือนหนามตำ หรือไม่
หากพบว่าท่านมีอาการตรงกับอาการข้างต้นหลายข้อ ขอให้ท่านรีบแจ้งลูกเรือโดยเร็วที่สุดนะครับ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหมีมั่นใจว่า ลูกเรือจะดูแลความปลอดภัยของตัวท่านและส่วนรวมอย่างดีที่สุดครับ
ด้วยรักและห่วงใย / สจ๊วตหมี
ก้อก ก้อก ก๊อกกกก ขอฝากร้านด้วยนะเคิ้บบบบบบบ
https://www.facebook.com/stewardmhee/
รักหมี กดไลค์ หมีด้วยนะฮะ เยิฟๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ตำราสรีรวิทยาและการปฐมพยาบาล กองวิทยาการ สถาบันเวชศาสตร์การบิน
ว่ากันด้วยเรื่องประเด็น หน้ากากอ๊อกซิเจนบนเครื่องบิน!!
Photo Credit: https://goo.gl/images/N9BNcQ
จากประเด็นดราม่าที่เกิดในวันนี้ มันได้สะท้อน ภาพ มุมมอง และทัศนคติมากมายในโลกเชี่ยล ต่างคนต่างมุมมอง ต่างความคิด ในมุมมองของเพื่อนร่วมวิชาชีพและในมุมมองของผู้โดยสารเอง หมีเลยอยากจะแชร์ข้อมูล เพื่อหวังไว้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นไม่มากก็น้อย ในวันนี้หมีเลยอยากจะมาอธิบายว่าทำไมพวกเราถึงต้องสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน แล้วทำไมผู้โดยสารควรจะตั้งใจชมวิธีการสาธิต แม้ว่าท่านจะโดยสารเครื่องบินอยู่แล้วเป็นประจำ แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้ว เราควรจะมีวิธีคิด และปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในสถานการณ์นั้นๆครับ
ก่อนอื่นใด หมีอยากจะบอกแก่ท่านผู้โดยสารว่า ในฐานะลูกเรือ ทุกคนบนเครื่องบินไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่มีใครอยากให้การเดินทางทางอากาศเกิดความเสี่ยง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นจริงๆครับ เพราะถ้าหากเกิดความเสี่ยงขึ้นมาแล้วท่านผู้โดยสารอย่าลืมนะครับว่า ชีวิตพวกเราก็อยู่บนเครื่องบินลำเดียวกับท่าน พวกเราทุกคนต่างมีคนที่เรารัก มีครอบครัวเช่นกัน ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้น และในชีวิตการทำงานของพวกเราได้ถูกอบรมให้คำนึงถึงความปลอดภัยของท่านผู้โดยสารทุกคนมาเป็นอันดับแรก
ดังนั้นขอให้ท่านเชื่อมั่นในตัวของลูกเรือทุกคน หมีมั่นใจว่าเมื่อเกิเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้วด้วยวิชาชีพและจรรยาบรรณ พวกเราทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ในทุกๆเหตุการณ์พวกเราทุกคนได้รับการอบรมถึงวิธีการปฏิบัติและการรับมือ ขอให้ท่านผู้โดยสารทุกคนโปรดเข้าใจและใจเย็นๆ สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมบอกกับท่านก็คือ ขอให้ท่านทำตามคำแนะนำของลูกเรืออย่างเคร่งครัด เนื่องจากในทุกๆข้อปฏิบัตินั้นมันมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำแฝงอยู่ทั้งสิ้น
กล่าวคือ ในการสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินนั้น ในแต่ละเที่ยวบิน กรมการบินได้ให้ข้อกำหนดว่า สายการบินต้องทำการสาธิตอุปกรณ์ใดๆบ้าง ซึ่งมาตรฐานที่แทบทุกสายการบินจะต้องสาธิตก็คือ
1. เข็มขัดนิรภัยรัดที่นั่ง / Seat belt
2. หน้ากากอ็อกซิเจน / Oxygen mask
3. เสื้อชูชีพ / Life jacket → จะสาธิตในเส้นทางที่จำเป็นต้องบินผ่านทะเลหรือมหาสมุทร
4. ทางออกฉุกเฉิน / Emergency Exit
5. คู่มือความปลอดภัย / Safety Card
ซึ่งเหตุผลที่ลูกเรือต้องสาธิตวิธีการใช้ก็เพราะ ไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้เมื่อไหร่ แต่ประโยชน์ของการรับชมคือ ผู้โดยสารจะได้มี Guide Line หรือ แนวทางในการใช้งานเมื่อจำเป็นจะต้องใช้ และที่สำคัญอุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องบินในแต่ละรุ่น หรือในแต่ละลำก็อาจจะแตกต่างกันออกไป บางครั้งอาจจะเป็นรุ่นที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดหมีแนะนำให้ท่านสละเวลาศึกษา ตั้งใจชมสักนิดแล้วชีวิตของท่านจะปลอดภัย ดังนั้นหมีอยากจะขอแชร์เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ให้แก่ผู้โดยสารทุกท่านได้เห็นถึงความสำคัญของอุปกรณ์ในแต่ละหัวข้อ ดังนี้นะครับ
1. เข็มขัดนิรภัยรัดที่นั่ง / Seat belt
Photo Credit: https://goo.gl/images/dxneAN
เข็มขัดนิรภัยรัดที่นั่ง จะทำหน้าที่ตรึงตัวท่านไว้กับที่นั่งไม่ให้กระทบกับสิ่งของต่างๆซึ่งอาจทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บได้ เมื่อเครื่องบินบินผ่านเขตที่มีสภาพอากาศแปรปรวน เนื่องจากอากาศบางครั้งใส๊ใสดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ใครจะไปรู้ว่าข้างหน้าอาจจะมีหลุมอากาศขนาดใหญ่ที่เรด้าไม่สามารถจับได้ หากท่านไม่ได้รัดเข็มขัดรัดที่นั่งไว้ ท่านอาจจะกลายเป็นฟงหวิน ขี่พายุทะลุฟ้าไปเลยก็ได้ครับ
เคยมีครั้งหนึ่งหมีกำลังทำเซอร์วิสอยู่กลางห้องโดยสาร เครื่องบินบินนิ่งสมูทมาก และแล้วอยู่ๆ เครื่องก็ตกหลุมอากาศดังตึ้งงงงงงงง ทุกคนในห้องโดยสารกรี้ด โชคดีที่ผู้โดยสารทุกคนนั่งประจำที่เพราะกำลังรอให้ลูกเรือเสริฟอาหารเช้าอยู่เลยไม่มีใครเป็นอะไร แต่ลูกเรือที่ยืนสวยๆอยู่กลางห้องโดยสารนี่แหละครับเกิดสภาวะไร้น้ำหนัก ลอยละลิ่วพริ้วไหว แต่ด้วยสัญชาติญาน เชื่อไหมครับว่าตอนนั้น ผู้โดยสารที่นั่งอยู่นี่แหละที่เป็นคนดึงตัวหมีไว้ไม่ให้ลอยขึ้น นี่สินะที่เค้าเรียกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินผู้โดยสารก็จะช่วยเหลือเราเหมือนกัน ป้าแอร์ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
2. หน้ากากอ็อกซิเจน / Oxygen mask
Photo Credit: https://goo.gl/images/tZ66gy
เนื่องจากเวลาที่เราบินขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศสูงๆนะครับ ปริมาณอ็อกซิเจนในอากาศจะลดลง ไม่เหมาะแก่การดำรงชีวิตของมนุษย์ ภายในห้องโดยสารจึงได้ถูกออกแบบให้มีระบบปรับความดันอากาศ เพื่อให้อากาศในห้องโดยสารนั้นเสหมือนกับอากาศบนพื้นโลกมากที่สุด แต่ถ้าเจ้าระบบนี้มีปัญหาขึ้นมา แน่นอนครับว่า เค้าก็ได้คิดค้นระบบสำรองที่2 ที่จะเป็นตัวจ่ายอ็อกซิเจนให้กับเรา
เนื่องจากอ็อกซิเจนสำคัญต่อสมองของเรามาก หากสมองของเราขาดอ็อกซิเจนก็จะทำให้เราหมดสติได้ คุณรู้หรือไม่ครับว่าถ้าเครื่องบินบินอยู่ที่ความสูงประมาณ 35,000 ฟุต ร่างกายที่อยู่ในภาวะขาดอ็อกซิเจนจะมีสติอยู่ได้ประมาณแค่ 30-60 วินาที เท่านั้นครับ เห็นหรือยังครับว่า อ็อกซิเจนสำคัญต่อเรามาแค่ไหน
ดังนั้นเรามารู้จักเจ้าตัวอ็อกซิเจนที่อยู่บริเวณที่ที่เก็บเหนือศรีษะของเรากันครับ เจ้าระบบนี้มันจะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อความดันในห้องโดยสารลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐาน หรือนักบินอาจจะสั่งงานให้ปล่อยลงมาจากปุ่มในห้องนักบินเมื่อนักบินเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ซึ่งเจ้าระบบนี้มันจะทำงานจากการทำปฏิกริยาของสารเคมีภายในหลอดซึ่งติดตั้งไว้ในแผงเหนือศรีษะนั้น และเจ้าสารเคมีนั้นจะทำปฏิกริยากันได้ก็ต่อเมื่อ มีการ #กระตุกหน้ากาก ลงมา เพื่อเป็นเหมือนการเปิดสวิชต์ให้เค้าทำงานนั่นเองและเจ้าตัวอ็อกซิเจนนี้ก็จะทำงานในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นและมันจะหมดไป
ในการทำปฏิกิริยากันของสารเคมีนั้น นอกจากมันจะให้อ็อกซิเจนแล้ว มันยังมีความร้อนออกมาด้วย ดังนั้นหากท่านสูดไปแล้วได้กลิ่นไหม้ๆ หรือรู้สึกร้อนๆก็ไม่ต้องตกใจนะครับ ในช่วงเวลาดังกล่าว นักบินจะรีบนำเครื่องลงมาให้ต่ำกว่า10,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่อากาศจะมีอ็อกซิเจนเพียงพอต่อร่างกายของเรานั่นเองครับ
ดังนั้นอย่าลืมนะครับ ถ้าหน้ากากตกลงมา #กระตุก และสวมให้ตัวท่านเองก่อน ก่อนจะช่วยเหลือคนอื่น หากท่านหมดสติไปก่อนท่านก็จะไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้นะครับ แล้วถ้าหากคุณกำลังอยู่ในห้องน้ำแล้วเกิดภาวะพร่องอ็อกซิเจนก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เนื่องจากระบบดังกล่าวก็ได้ติดตั้งไว้ในห้องน้ำเช่นกัน เพราะชีวิตของทุกคนนั้นสำคัญแม้กระทั้งในยามที่ข้าศึกประชิดก็ตาม
3. เสื้อชูชีพ / Life jacket → สาธิต ในเส้นทางที่จำเป็นต้องบินผ่านทะเลหรือมหาสมุทร
Photo Credit: https://goo.gl/images/8FbnPA
เมื่อเครื่องบินต้องบินผ่านทะเลหรือมหาสมุทร การลงจอดในน้ำก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอดังนั้น อุปกรณ์ที่จะช่วยชีวิตเราไม่ให้เราจมน้ำได้นั้นก็คือเจ้าเสื้อชูชีพนี่แหละครับ ซึ่งเจ้าเสื้อชูชีพนี้ก็มีหลายแบบ หลายรุ่นมากมาย ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันในเครื่องบินแต่ละลำ ดังนั้นขอให้ท่านศึกษาวิธีการใส่ของมันให้ดีๆเวลาที่ลูกเรือสาธิตนะครับ เพราะเมื่อเวลาเกิดเหตุใดๆขึ้นมาเราจะได้ใส่ได้อย่างถูกต้องและเอาชีวิตรอดมาได้ ซึ่งตำแหน่งที่เก็บของเจ้าเสื้อชูชีพเหล่านี้ก็อยู่ใต้ที่นั่งของท่านครับ มันจะถูกขดม้วนอยู่ในถุง ซึ่งหากเราจำเป็นต้องใช้เราก็ต้องกางมันออกแล้วสวมมันคล้ายๆกับสวมเสื้อแจ็คเก็ทอย่างนั้นแหละครับ
แต่ความพีคของเจ้าเสื้อชูชีพนี้คือ ท่านต้อง #กางตรงบริเวณประตูทางออกเท่านั้น โดยการกระตุกแถบสีแดงที่เสื้อเพื่อให้เจ้าตัวจ่ายลมทำงาน และเสื้อชูชีพของท่านก็จะพองออกมาได้ครับ ตรงนี้ท่านต้องประคองสติของตัวเองให้ดีครับ อย่ากระตุกกางในห้องโดยสารเด็ดขาด ลองจิตนาการดูนะครับถ้าท่านกางในห้องโดยสารแล้วเครื่องบินจมน้ำอย่างรวดเร็วอากาศจะลอยขึ้นเหนือน้ำแล้วเสื้อชูชีพก็จะพาตัวท่านไปติดอยู่บนเพดานของห้องโดยสารจมลงไปพร้อมกับเครื่องบิน และการจะดำน้ำออกไปยังประตูทางออกก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่นอนครับ
4. ทางออกฉุกเฉิน / Emergency Exit
Photo Credit: https://goo.gl/images/3nZZb2
เมื่อท่านเข้ามาในห้องโดยสารแล้วขอให้ท่านสังเกตสักนิดครับว่า ท่านนั่งอยู่แถวที่เท่าไหร่ และที่นั่งของท่านห่างจากประตูทางออกฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดไปกี่แถว เพราะถ้าหากเกิดควันหนาทึบในห้องโดยสาร ท่านเองก็จะสามารถใช้การสัมผัสหรือการคลำและอพยพไปยังทางออกนั้นๆได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งการสังเกตและจดจำอะไรเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ก็อาจจะช่วยชีวิตของท่านในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้นะครับ
5. คู่มือความปลอดภัย / Safety Card
Photo Credit: https://goo.gl/images/MTTwgw
หากท่านไม่ทราบว่าเครื่องบินลำที่ท่านโดยสารนั้นมีทางออกทั้งหมดกี่ทาง เจ้าคู่มือความปลอดภัยนี่แหละครับที่จะเป็นเหมือนกับ คำภีร์ไบเบิ้ลบอกทุกอย่าง ทั้งวิธีการรัดเข็มขัดนิรภัยรัดที่นั้ง วิธีการใช้หน้ากากอ็อกซิเจน วิธีการใส่เสื้อชูชีพ วิธีการเปิดประตูทางออกฉุกเฉิน และข้อปฏิบัติต่างๆเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หากท่านใดอ่านแล้วมีข้อสงสัยก็ขอให้ท่านสอบถามกับลูกเรือบนไฟล์ทนั้นๆได้เลยนะครับ ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น บางครั้งแค่การอ่านเพียงเสี้ยวนาทีก็อาจจะช่วยชีวิตของท่านและผู้อื่นได้นะครับ
สุดท้ายนี้หมีขอฝากไว้ว่า ไม่มีใครบอกได้ว่านั่งตรงไหนปลอดภัยที่สุด ไม่มีใครบอกได้ว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่จะช่วยชีวิตท่านได้มากที่สุดไม่ใช่ลูกเรือ แต่คือ #สติ ของตัวท่านเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่ท่านควรทำคือ ให้บอกกับตัวเองว่า มีสติ มีสติหายใจลึกๆแล้วตั้งสติ หลังจากนั้นบอกกับตัวเองว่า เราต้องรอด คอยสังเกตว่าลูกเรือให้ปฏิบัติอะไรบ้างและขอให้ท่านทำตามอย่างเคร่งครัด ขอให้ท่านมั่นใจในตัวลูกเรือทุกคนเพราะพวกเราได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีทุกปี เมื่อท่านมาถึงที่นั่งของท่านภายในห้องโดยสารแล้วขอให้ท่านลองหลับตาแล้วจินตนาการดูว่าหากเกิดอะไรขึ้นเราจะวิ่งหนีออกทางไหน เป็นภาพคร่าวๆ ทางออกไหนอยู่ใกล้ที่สุด แล้วถ้าออกจากทางออกนั้นไม่ได้ทางออกต่อไปที่ใกล้ที่สุดคือตรงไหน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆภาพเหล่านั้นจะถูกสมองดึงขึ้นมา และเราจะมีแนวทางในการเอาชีวิตรอดนั่นเองครับ
ป.ล. หากท่านสงสัยว่า ท่านกำลังเกิดอาการขาดอ็อกซิเจนอยู่หรือเปล่า ท่านสามารถสำรวจคร่าวๆได้ดังนี้ครับ
1.วิงเวียน มึนศรีษะ หรือไม่
2.หนาวๆร้อนๆ หรือไม่
3.รู้สึกหายใจไม่อิ่ม หรือไม่
4.หายใจถี่ หรือไม่
5.ความคิดสับสน หรือไม่
6.ผิวหนังเขียวคล้ำ หรือไม่
7.กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกันหรือไม่
8.มีอาการชาเหมือนหนามตำ หรือไม่
หากพบว่าท่านมีอาการตรงกับอาการข้างต้นหลายข้อ ขอให้ท่านรีบแจ้งลูกเรือโดยเร็วที่สุดนะครับ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหมีมั่นใจว่า ลูกเรือจะดูแลความปลอดภัยของตัวท่านและส่วนรวมอย่างดีที่สุดครับ
ด้วยรักและห่วงใย / สจ๊วตหมี
ก้อก ก้อก ก๊อกกกก ขอฝากร้านด้วยนะเคิ้บบบบบบบ https://www.facebook.com/stewardmhee/
รักหมี กดไลค์ หมีด้วยนะฮะ เยิฟๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ตำราสรีรวิทยาและการปฐมพยาบาล กองวิทยาการ สถาบันเวชศาสตร์การบิน