เฮโหลลลล Hi jaaa วันนี้จะมารีวิวชีวิตของเด็กเวิคค่ะ ขอติดแฮชแทคตัวเองไว้นิสนึงจ้า #bbbxusa ใน IG น้า
มาเริ่มกันตั้งแต่การตัดสินใจว่าจะไปเวิค แพลนไว้ว่า ปี2 ปิดเทอมก่อนขึ้นปี3 จะต้องไปเวิค เรากะเพื่อนเริ่มหาโครงการกันเร็วมาก ละเราก้เลือก acadex กัน ด้วยหลายๆเหตุผล อย่างแรก อาจารย์ที่รุ้จักแนะนำมา เลยลองเข้าไปดู คุยรายละเอียด ละรุ้สึกว่า งานเยอะดี มีให้เลือกหลายที่ หลายอย่าง สมัครไว้หลายเดือนอยู่ ทำให้โอกาสในการเลิอกงาน หรือตัดสินใจอะไรก้พอมีเวลาหน่อย (อยากแนะนำคนรุ่นต่อๆไปที่มีแพลนไว้ว่าจะไปเวิค ก้ลองมองๆหาagency หรือคิดๆพวกงานที่อยากจะทำหรือเมืองที่อยากจะไปไว้ล่วงหน้า ยิ่งเร็วยิ่งดีนะ)
ปล. อยากฝากไว้สำหรับการเลือก Agency จริงๆแล้วแต่ละที่ก้คล้ายๆกัน เราว่าไม่ได้มีผลอะไรมากมายขนาดนั้นถ้าพูดกันตรงๆ จะที่ไหน ก้ขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นหลักเลย ว่าพอใจกับข้อเสนอ รายละเอียดหรือเงื่อนไขของที่ไหน คือมันค่อนข้างอยู่ที่ตัวเราจะคอยสนใจ ใส่ใจกับมันมากกว่า แต่ละที่มีความโดดเด่นต่างกันไป จุดอ่อนจุดแข็ง เพราะเท่าที่ฟังมาจากหลายๆคน ก้มีทั้งคอมเม้นแบบ+และ- ของทุกๆที่เลย บางคนเจอดีก้ดีมากไปเลยก้มี บางคนก้แย่จนน่าตกใจ...ของแบบนี้ อยุ่ที่ดวงด้วยนะบอกเลย555555 ไม่ใช่แค่agency ที่ไทย แต่รวมถึงบริษัท Agencyของที่เมกา หรือนางจ้าง บริษัทที่ทำงานด้วยและก้ที่สำคัญอยู่ที่ว่า ทาง agency นั้นมีงาน ตำแหน่ง ที่ถูกใจและเราอยากจะไปรึป่าว ดูสิ่งที่เข้ากับ life style ของเราที่สุด พอใจที่สุดนั่นแหละ ดีที่สุด
ต่อไป....
เราเลือกไปรัฐ IOWA
เราเลือกรัฐนี้เพราะเพื่อนเคยมาแลกเปลี่ยน เราเลยคิดว่าน่าจะเซฟในหลายๆเรื่องสุดแล้ว ส่วนงาน เราเป็นคนเลือกอยากจะทำ lifeguard เองแหละ เป็นคนชอบสวนน้ำ ชอบน้ำ ละอีกอย่างเราคิดว่ามันไม่ง่ายที่จะเป็นหรือได้ทำงานนี้ที่เมืองไทย5555
ระหว่างรอเวลาไป ก้มีอ่านๆหาดูรีวิว และก้เตรียมตัวไปเรื่อยๆ อะไรที่จัดไว้ หรือซื้อไว้ได้ก่อน เราก้ทยอยจัดการไปเลย เช่น ซื้อมาม่า55555 ของแห้งของกิน หรือจะเป็นของใช้ส่วนตัว รวมถึงของฝากจากไทย ที่จะเอาไปฝากนายจ้างหรือคนที่นู่นด้วย อ่อ ละก้ มีเตรียมว่ายน้ำไว้บ่อยๆ55555เพราะ ยังไม่รุ้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง และได้ยินมาว่าต้องีอัดวีดีโอส่งด้วย!
สำหรับของ Acadex ก้มีวัน orientation ละก้มีวันสัมภาษณ์ ช่วงใกล้ๆเวลาที่จะปิดรับสมัครแล้ว รู้สึกจะประมาณเดือนมกราคม ละก้มีกำหนดการดำเนินการต่อเป็นขั้นตอน และระยะเวลาไปเรื่อยๆ มีส่งเอกสารไรอย่างนี้ด้วย ทุกอย่างก้ดำเนินการทางwebsite ที่เด็กทุกคนจะมี account ข้อมูลเป็นของตัวเอง และก้ตอนอยู่ที่นู่ก้จะมีพี่ๆเยี่ยมน้า เลี้ยงพิซซ่า มีบริการแต่งหน้าด้วย555 น่ารักมาก
ใกล้จะวันไป เราก้ใช้เวลาเต็มที่เลยที่ไทย ไปเที่ยวกะที่บ้าน ไปทำบุญ หาหมอ เจอเพื่อนๆ ทำไรที่อยากจะทำ ที่มันทำได้ทีไทย ก่อนที่ไม่ได้อยู่ 3เดือน5555 ตอนเก็บกระเป๋า ก้เอาเสื้อผ้าไป ไม่เยอะเลย55555 กะจะไปดูๆที่นู่น ละก้คิดว่า ก้คงใส่uniform ของชุดทำงานเป็นหลัก พวกอาหารแห้งทั้งหลาย แม้แต่น้ำพริก เราก้เอาไปนะ55555 ของใช้ส่วนตัว ยาประจำตัว อะไรประมาณนี้
พอวันเดินทางไป ที่บ้านเราไปส่งที่สุวรรณภูมิ (พี่ๆของacadex ก้โทรมาเช็คว่าออกจากบ้านรึยัง เพราะบินไฟล์ตอนเช้า)
ที่สนามบิน ไปถึงรีบไปที่เคาเตอร์เช็คอินเลย ไปต่อแถวยืนรอเลย ซึ่งคิดถูกมาก เพราะหันมาอีกทีคือคนเยอะมากจ้า ละที่สังเกต คือเด็กเวิคทั้งนั้น5555 พอถึงเวลาที่จะร่ำลาที่บ้าน งงมากจ้า บ่อน้ำตาแตก รุ้แล้ว อาการhome sick แน่ๆครั้งนี้ ยังคงแปลกใจในตัวเองจนถึงทุกวันนี้ เพราะปกติจะดีใจ จะชอบมาก ถ้าจะได้ไปต่างประเทศ ความอยากไปจะสูงมาก แต่ครั้งนี้เป็นอะไร....ไม่รู้ (แอบมีห่วงและคิดอะไรหลายอย่าง ใจเลยไม่ค่อยอยากจะไปแล้ว)
นี่แหละได้รับรู้ถึงอารมณ์ของการจากลา แม้เปนระยะเวลาสั้นๆ แต่เราก้รู้สึก เราต้องอยู่ห่างจากคนที่คุ้นเคย คนที่เราจะคิดถึง ในระยะเวลาหนึ่ง เราต้องก้าวออกจาก comfort zone ของเราในทุกๆวันไป
ระหว่างทางก้ บินไปลงที่นาริตะ ญี่ปุ่นก่อน เปลี่ยนเครื่อง ละก้ไปลงที่ Chicago ละต่ออีกต่อนึงไปที่ Sioux falls เป็นเวลาบนเครื่องที่นานจริงๆจ้าาา มีแต่กินกะนอน5555 แต่ของกินดีงามมาก บินของ Japan airline กับ American airline ละก้ตลอดไฟล์พยายามนอนตามเวลของที่นู่นเลย จะได้ไม่เจทแลคมาก
พอไปถึง พอดี โชคดีว่าเพื่อนมีโฮสอยู่ที่นู่น เค้าเลยมารับละก้ไปนอนที่บ้านเค้าก่อน ก่อนที่วันต่อไป ถึงจะไปส่งที่ทำงาน ซึ่งนัดกับทางบริษัทที่ทำงานไว้แล้ว (ขอเพิ่มเติมไว้ให้นิดนึงน้า สำหรับเรื่องสนามบิน ที่นู่น ถ้าเป็นสนามบินเล็ก เค้าจะไม่อนุญาตให้นอนค้างในสนามบินน้า แต่ของเราไฟล์ขากลับที่ Sioux Falls คือลุ้น ขอเค้าดูเพราะไฟล์บินก้เช้าวันต่อไป แล้วเราให้นายจ้างมาส่งตั้งแต่คืนก่อนที่จะบิน พอดี ถามรุ่นพี่ที่ขาไปเค้าลองขอนอนดู เจ้าหน้าที่ที่สนามบินก้ดีมาก มีการเอาน้ำมาให้ ให้เข้าห้องน้ำอะไรก่อนด้วย โชคดีไปจ้า)
พอไปถึง จะพูดถึงสิ่งต่างๆในภาพรวมของที่นู่น....
•ที่พัก : อยู่เป็นเหมือนหอ อารมณ์แบบหอพักมหาลัยมี2ชั้น ครัว, ห้องซักผ้า และห้องน้ำกลาง ทุกคนก้จะอยู่เป็นห้องๆ ห้องละ2คน เป็นเตียง2ชั้น มีที่วางของ แขวนเสือผ้าและก้โต๊ะให้ในแต่ละห้อง อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมาก เดินก้ได้ ปั่นจักรยานก้ดี วันไหนใกล้สายก้วิ่ง!! ถือว่าเป็นการเวิคเอ้าท์ไปในตัวกันเลยจ้า
•การเดินทาง : เมืองนี้ค่อนข้างจะยากนิดนึงนะ สำหรับเรื่องนี้ ไม่มีรถ bus รถไฟฟ้า เรียกได้ว่า จะเดินเพื่อเบรินสิ่งที่กินไปเลยก้ว่าได้5555 ถ้ามีจักรยานหน่อยก้ดี แต่เค้าก้จะมีคนอาสาพาเราไปไหนอยู่บ้าง เช่น ไปซื้อของ walmart ไรงี้ และก้เจ้านายไรงี้ ก้จะไปได้อยู่ (แรกๆเราเดิน ตอนหลังได้จักรยานฟรีมาใช้ ค่อยโอหน่อย ไปไหนไวดี5555)
•การทำงาน ตำแหน่ง ชั่วโมงงาน rate งาน1/2 นายจ้าง บรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน
งานแรกที่เราเลือก ก้คือ lifeguard ที่ Bridges Bay Resort สวนน้ำ indoor ที่ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่มีสระoutdoor สระนึงข้างนอกด้วย แต่ละวันก้ จะมีงาน2กะ เช้า 9โมงถึง4โมง ละก้อีกกะก้เข้า4โมง ไปจนถึงประมาน4ทุ่มครึ่ง งานก้คือนั่งประจำจุดต่างๆเช่น ปล่อยคนลงสไลด์เดอร์ hottub สระเด็ก น้ำวนจากสไลด์เดอร์ อะไรประมาณนี้ เป่านกวัดกันไป ถ้ามีคนทำผิดไรงี้ เก็บห่างยางบ้างไรบ้าง พอจบกะแต่ละวันก้ต้อง ทำความสะอาดโดยรวม กวาดพื้น เช็ดโต๊ะ ละก้ทำความสะอาดห้องน้ำ แรกๆก้นั่งๆละก้วนกันไปแต่ละจุด หลังเริ่มเปนระบบคือทุกๆ30นาที ก้เปลี่ยนที่กัน วนไป เวลาจะผ่านไปเร็วดีละก้ไม่เบื่อมาก พอพักจะมีนายจ้างหรือsupervisor มานั่งแทนและปล่อยเราไปพัก 30นาที ที่นี่ใช้ระบบscan นิ้วมือ clock in clock out ได้เรทชั่วโมงละ 9.5 สำหรับนายจ้าง ดีมากกกกกกกกก แบบก.ล้านตัว คือรักเลย เป็นคนที่หน้าดูดุตลอดเวลา แต่บอกเลยว่าถ้าตั้งใจทำงาน ทำตัวดี น่ารักๆ ก้จะดี เจ้านายช่วยเหลือทุกอย่าง คือบอกได้คำเดียวว่าเค้าดี ซื้อขนมให้กิน พาไปเที่ยว shopping ด้วย ขออะไร ก้พยายามจะให้ เพื่อนๆที่ร่วมงานก้มีโอกาสได้ทำงานกับคนหลายชาติเลย เพื่อนดีๆ ก้เยอะ บางนิสัยที่ไม่ดีที่ต้องเรียนรุ้ของคนบางคน ที่เรามีโอกาสจะเจอในการทำงานต่อๆไปในอนาคตก้จะได้เจอได้เห็นและก้ต้องเรียนรู้กันไปจ้า (เป็น lifeguardมา ช่วยเด็กจะจมน้ำไป2ครั้งหลักๆ)
งาน2 ตอนแรกทำร้านอาหาร ได้ซัก2อาทิด แล้วเด็กเริ่มเยอะ ไม่ค่อยได้ชม.แล้ว เลยต้องหาใหม่.... ได้ไปลงเอยที่ สวนสนุก Arnolds Park
Hi, how can I help you, What can I do for you??? Day-pass? All of these word still in my mind! My 2nd job❤️ เป็นงาน2ที่ได้ที่หลังแต่รู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสไปทำที่นี่ คือได้ทำตำแหน่งดี ได้อยู่ในห้องขายตั๋ว เป็นตำแหน่งงานที่ได้ฝึกอะไรหลายๆอย่างมาก ได้ท้าทายตัวเอง ต้องพูดกะคนต้องคุยกะฝรั่ง ต้องพูดอังกิดตลอด ได้ฝึกตัวเองเยอะเลย วันแรกที่ได้เทรนไปประมาน2ชม. คือเห็นละแบบจะรอดมั้ย ตายแน่ๆ จะทำได้มั้ย จะผ่านมันไปยังไง ไมมันดูเยอะ หลายอย่างและยากอย่างงี้ ไหนจะต้องรับผิดชอบกะเงินอีกด้วย แถมยังต้องอดทนกะเวลา เพราะมันจะเหนื่อยมาก ทำชนชั่วโมง 10โมงเช้า ถึง3-4 ทุ่ม กว่าจะเดินจากหอไป เกือบชม. กลับมาทีคือร่างพังมาก เพลียทุกที แต่คือไม่ได้ได้แค่ประสบการณ์ หรือทักษะที่เพิ่มเติม แต่ยังได้เพื่อนร่วมงานที่ดี แถมมีเจ้านายที่ดีมากๆ คถ.คุณพ่อและพี่ชายมากๆข่ะ ใจดีและดีมากๆเลย ถ้ามีโอกาส อีก2ปี จะไปทำงานกะคุณพ่อจริงๆนะ ปล.อยากเล่นเครื่องเล่นฟรีอีก55555 และอยากกินชีสฟรายอีก
บอกเลยว่าได้อะไรเยอะมากนะจากการทำงานทั้ง2ที่ เรียนรู้อะไรได้เยอะจริงๆ การทำงานจริง ความอดทน สถานการณ์ต่างๆ เพื่อนร่วมงาน คนที่เราต้องทำงานด้วย ในแต่ละระดับ ตำแหน่ง การอยู่ให้เป็นในสังคม มันได้เห็นอะไรหลายๆอย่างเลยจริงๆ เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสนุก ทั้งได้เรียนรู้ ทั้งเหนื่อย
•สภาพอากาศ : ก้จะคล้ายๆบ้านเรา ที่ไทยนี่แหละ แต่ถ้าวันไหนมีพายุ ฝนตก ก้จะหนาวเลย เคยมีลูกเห็บตกด้วยนะ บางวันอุณหภูมิไป10 งี้ บางทีกลางวันร้อน เย็นๆฝนมา เตรียมรุ้เลยว่าต้องปิดสระข้างนอก55555
•อาหารการกิน : ก้ทั่วๆไปมาก ส่วนใหญ่ก้จะซื้อที่ walmart มาทำกินกัน happy มากๆ ชิมอาหารไปทั่วละ โดยเฉพาะ อาหารจีนจากเพื่อนจีน5555 ใจดีจ้า แถมอาหารคล้ายๆบ้านเรากินง่าย แต่จะแอบชอบมีปัญหาเรื่องตู้เย็นนิดนึง คือบางคนบางชาติก้แอบเห็นแก่ตัวนิดนึง55555
•shopping& hang out&เที่ยว : เมืองนี้ไม่ค่อยมีไรมากนะ ถ้าใครสายเที่ยวสายช้อป อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์มาก ขอแนะนำให้ทำงานเก็บตัง ช้อปที่walmart ไปก่อน (สำหรับ walmart ก้ต้องบอกว่าการช้อปในเวลากลางคืนนี่ดีสุดๆจ้า มากันเป็นแก๊ง เดินชิวๆ เหมือนห้างนี้เป็นของเรา55555)ละค่อยไปเที่ยวเอาตอนเวิคเสร็จแล้ว
การไปในครั้งนี้เราว่ามันได้อะไรมากกว่าคำว่า"ประสบการณ์ " มันมีทั้งความผูกพันธ์ มิตรภาพ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะคน และโลกแห่งความเป็นจริง โลกของการทำงาน โลกที่เราจะต้องอยุ่และใช้ชีวิตกะคนอื่นๆ โลกที่เราต้องอยู่ด้วยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเอง โลกที่มีทั้งคนที่ดี ไม่ดี รักและเกลียดเรา หรือแม้แต่คำถามที่เคยเกิดขึ้นกะเราว่า คนแบบนี้ก้มีบนโลกด้วยหรอ?55555
สิ่งที่ประทับใจมากๆคือ
-เพื่อนๆพี่ๆคนไทยด้วยกันเอง และเพื่อนต่างชาติที่ดีๆสนิทๆกัน (ก่อนกลับนี่เศร้าจ้าแอบใจหาย ความทรงจำอะไรดีๆก้เยอะ)
-เจ้านายทั้งงาน1และงาน2
- ไอติมที่สวนน้ำ ที่ต้องกิน เกือบทุกวัน55555 (ขอฟรีนะ555 กลับมาติดไอติมเลยจ้า)
-คนอเมริกาครอบครัวนึง ที่พาเราไปธนาคาร ไปที่บ้านได้ไปกินข้าว เลี้ยงข้าว ไปโบสถ์ ไปล่องเรือกะเค้า ซื้อของฝาก พาไปหลายที่มาก พยายามพาทำอะไรที่ควรจะได้ทำเมื่อมาที่นี่
❤️สุดท้าย อยากฝากไว้ว่า ไม่ว่าจะทำงานอะไร เวิคที่ไหน ไปแล้วฝากสิ่งดีๆและผลงานดีๆไว้ คนที่นู่นเค้าจะได้คิดถึง และนึกถึงแต่สิ่งดีๆของเรา❤️ ทุกวันนี้ยังkeep ความสัมพันธ์ทั้งกับเพื่อนๆ พี่ๆ ไว้ และเจ้านายหรือคนที่นู่นไว้ด้วย ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีก ไม่ที่ไทย ก้ที่ใดที่หนึ่ง หรือเราอาจจะกลับไปเวิคที่นั่นอีกก้ได้
ท้ายสุดดดด! สำหรับการลงทุนค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ บอกเลยว่าสำหรับเรานั้น รวมๆค่าโครงการ เครื่องบิน การกินอยู่และของฝาก เรียกได้ว่าเท่าๆทุนนะ ตอนแรกเราก้คิดเรื่องนี้นะ ว่าจะต้องได้เงินกลับมา แต่พอจบโครงการ สิ่งที่ได้ มันได้มากกว่าเงินจริงๆนะ บางอย่างเงินมันซื้อไม่ได้จริงๆนะ!
ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปบางส่วน.
#workandtravel2017
#acadexthailand
[CR] Review โครงการ Work and Travel 2017
มาเริ่มกันตั้งแต่การตัดสินใจว่าจะไปเวิค แพลนไว้ว่า ปี2 ปิดเทอมก่อนขึ้นปี3 จะต้องไปเวิค เรากะเพื่อนเริ่มหาโครงการกันเร็วมาก ละเราก้เลือก acadex กัน ด้วยหลายๆเหตุผล อย่างแรก อาจารย์ที่รุ้จักแนะนำมา เลยลองเข้าไปดู คุยรายละเอียด ละรุ้สึกว่า งานเยอะดี มีให้เลือกหลายที่ หลายอย่าง สมัครไว้หลายเดือนอยู่ ทำให้โอกาสในการเลิอกงาน หรือตัดสินใจอะไรก้พอมีเวลาหน่อย (อยากแนะนำคนรุ่นต่อๆไปที่มีแพลนไว้ว่าจะไปเวิค ก้ลองมองๆหาagency หรือคิดๆพวกงานที่อยากจะทำหรือเมืองที่อยากจะไปไว้ล่วงหน้า ยิ่งเร็วยิ่งดีนะ)
ปล. อยากฝากไว้สำหรับการเลือก Agency จริงๆแล้วแต่ละที่ก้คล้ายๆกัน เราว่าไม่ได้มีผลอะไรมากมายขนาดนั้นถ้าพูดกันตรงๆ จะที่ไหน ก้ขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นหลักเลย ว่าพอใจกับข้อเสนอ รายละเอียดหรือเงื่อนไขของที่ไหน คือมันค่อนข้างอยู่ที่ตัวเราจะคอยสนใจ ใส่ใจกับมันมากกว่า แต่ละที่มีความโดดเด่นต่างกันไป จุดอ่อนจุดแข็ง เพราะเท่าที่ฟังมาจากหลายๆคน ก้มีทั้งคอมเม้นแบบ+และ- ของทุกๆที่เลย บางคนเจอดีก้ดีมากไปเลยก้มี บางคนก้แย่จนน่าตกใจ...ของแบบนี้ อยุ่ที่ดวงด้วยนะบอกเลย555555 ไม่ใช่แค่agency ที่ไทย แต่รวมถึงบริษัท Agencyของที่เมกา หรือนางจ้าง บริษัทที่ทำงานด้วยและก้ที่สำคัญอยู่ที่ว่า ทาง agency นั้นมีงาน ตำแหน่ง ที่ถูกใจและเราอยากจะไปรึป่าว ดูสิ่งที่เข้ากับ life style ของเราที่สุด พอใจที่สุดนั่นแหละ ดีที่สุด
ต่อไป....
เราเลือกไปรัฐ IOWA
เราเลือกรัฐนี้เพราะเพื่อนเคยมาแลกเปลี่ยน เราเลยคิดว่าน่าจะเซฟในหลายๆเรื่องสุดแล้ว ส่วนงาน เราเป็นคนเลือกอยากจะทำ lifeguard เองแหละ เป็นคนชอบสวนน้ำ ชอบน้ำ ละอีกอย่างเราคิดว่ามันไม่ง่ายที่จะเป็นหรือได้ทำงานนี้ที่เมืองไทย5555
ระหว่างรอเวลาไป ก้มีอ่านๆหาดูรีวิว และก้เตรียมตัวไปเรื่อยๆ อะไรที่จัดไว้ หรือซื้อไว้ได้ก่อน เราก้ทยอยจัดการไปเลย เช่น ซื้อมาม่า55555 ของแห้งของกิน หรือจะเป็นของใช้ส่วนตัว รวมถึงของฝากจากไทย ที่จะเอาไปฝากนายจ้างหรือคนที่นู่นด้วย อ่อ ละก้ มีเตรียมว่ายน้ำไว้บ่อยๆ55555เพราะ ยังไม่รุ้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง และได้ยินมาว่าต้องีอัดวีดีโอส่งด้วย!
สำหรับของ Acadex ก้มีวัน orientation ละก้มีวันสัมภาษณ์ ช่วงใกล้ๆเวลาที่จะปิดรับสมัครแล้ว รู้สึกจะประมาณเดือนมกราคม ละก้มีกำหนดการดำเนินการต่อเป็นขั้นตอน และระยะเวลาไปเรื่อยๆ มีส่งเอกสารไรอย่างนี้ด้วย ทุกอย่างก้ดำเนินการทางwebsite ที่เด็กทุกคนจะมี account ข้อมูลเป็นของตัวเอง และก้ตอนอยู่ที่นู่ก้จะมีพี่ๆเยี่ยมน้า เลี้ยงพิซซ่า มีบริการแต่งหน้าด้วย555 น่ารักมาก
ใกล้จะวันไป เราก้ใช้เวลาเต็มที่เลยที่ไทย ไปเที่ยวกะที่บ้าน ไปทำบุญ หาหมอ เจอเพื่อนๆ ทำไรที่อยากจะทำ ที่มันทำได้ทีไทย ก่อนที่ไม่ได้อยู่ 3เดือน5555 ตอนเก็บกระเป๋า ก้เอาเสื้อผ้าไป ไม่เยอะเลย55555 กะจะไปดูๆที่นู่น ละก้คิดว่า ก้คงใส่uniform ของชุดทำงานเป็นหลัก พวกอาหารแห้งทั้งหลาย แม้แต่น้ำพริก เราก้เอาไปนะ55555 ของใช้ส่วนตัว ยาประจำตัว อะไรประมาณนี้
พอวันเดินทางไป ที่บ้านเราไปส่งที่สุวรรณภูมิ (พี่ๆของacadex ก้โทรมาเช็คว่าออกจากบ้านรึยัง เพราะบินไฟล์ตอนเช้า)
ที่สนามบิน ไปถึงรีบไปที่เคาเตอร์เช็คอินเลย ไปต่อแถวยืนรอเลย ซึ่งคิดถูกมาก เพราะหันมาอีกทีคือคนเยอะมากจ้า ละที่สังเกต คือเด็กเวิคทั้งนั้น5555 พอถึงเวลาที่จะร่ำลาที่บ้าน งงมากจ้า บ่อน้ำตาแตก รุ้แล้ว อาการhome sick แน่ๆครั้งนี้ ยังคงแปลกใจในตัวเองจนถึงทุกวันนี้ เพราะปกติจะดีใจ จะชอบมาก ถ้าจะได้ไปต่างประเทศ ความอยากไปจะสูงมาก แต่ครั้งนี้เป็นอะไร....ไม่รู้ (แอบมีห่วงและคิดอะไรหลายอย่าง ใจเลยไม่ค่อยอยากจะไปแล้ว)
นี่แหละได้รับรู้ถึงอารมณ์ของการจากลา แม้เปนระยะเวลาสั้นๆ แต่เราก้รู้สึก เราต้องอยู่ห่างจากคนที่คุ้นเคย คนที่เราจะคิดถึง ในระยะเวลาหนึ่ง เราต้องก้าวออกจาก comfort zone ของเราในทุกๆวันไป
ระหว่างทางก้ บินไปลงที่นาริตะ ญี่ปุ่นก่อน เปลี่ยนเครื่อง ละก้ไปลงที่ Chicago ละต่ออีกต่อนึงไปที่ Sioux falls เป็นเวลาบนเครื่องที่นานจริงๆจ้าาา มีแต่กินกะนอน5555 แต่ของกินดีงามมาก บินของ Japan airline กับ American airline ละก้ตลอดไฟล์พยายามนอนตามเวลของที่นู่นเลย จะได้ไม่เจทแลคมาก
พอไปถึง พอดี โชคดีว่าเพื่อนมีโฮสอยู่ที่นู่น เค้าเลยมารับละก้ไปนอนที่บ้านเค้าก่อน ก่อนที่วันต่อไป ถึงจะไปส่งที่ทำงาน ซึ่งนัดกับทางบริษัทที่ทำงานไว้แล้ว (ขอเพิ่มเติมไว้ให้นิดนึงน้า สำหรับเรื่องสนามบิน ที่นู่น ถ้าเป็นสนามบินเล็ก เค้าจะไม่อนุญาตให้นอนค้างในสนามบินน้า แต่ของเราไฟล์ขากลับที่ Sioux Falls คือลุ้น ขอเค้าดูเพราะไฟล์บินก้เช้าวันต่อไป แล้วเราให้นายจ้างมาส่งตั้งแต่คืนก่อนที่จะบิน พอดี ถามรุ่นพี่ที่ขาไปเค้าลองขอนอนดู เจ้าหน้าที่ที่สนามบินก้ดีมาก มีการเอาน้ำมาให้ ให้เข้าห้องน้ำอะไรก่อนด้วย โชคดีไปจ้า)
พอไปถึง จะพูดถึงสิ่งต่างๆในภาพรวมของที่นู่น....
•ที่พัก : อยู่เป็นเหมือนหอ อารมณ์แบบหอพักมหาลัยมี2ชั้น ครัว, ห้องซักผ้า และห้องน้ำกลาง ทุกคนก้จะอยู่เป็นห้องๆ ห้องละ2คน เป็นเตียง2ชั้น มีที่วางของ แขวนเสือผ้าและก้โต๊ะให้ในแต่ละห้อง อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมาก เดินก้ได้ ปั่นจักรยานก้ดี วันไหนใกล้สายก้วิ่ง!! ถือว่าเป็นการเวิคเอ้าท์ไปในตัวกันเลยจ้า
•การเดินทาง : เมืองนี้ค่อนข้างจะยากนิดนึงนะ สำหรับเรื่องนี้ ไม่มีรถ bus รถไฟฟ้า เรียกได้ว่า จะเดินเพื่อเบรินสิ่งที่กินไปเลยก้ว่าได้5555 ถ้ามีจักรยานหน่อยก้ดี แต่เค้าก้จะมีคนอาสาพาเราไปไหนอยู่บ้าง เช่น ไปซื้อของ walmart ไรงี้ และก้เจ้านายไรงี้ ก้จะไปได้อยู่ (แรกๆเราเดิน ตอนหลังได้จักรยานฟรีมาใช้ ค่อยโอหน่อย ไปไหนไวดี5555)
•การทำงาน ตำแหน่ง ชั่วโมงงาน rate งาน1/2 นายจ้าง บรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน
งานแรกที่เราเลือก ก้คือ lifeguard ที่ Bridges Bay Resort สวนน้ำ indoor ที่ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่มีสระoutdoor สระนึงข้างนอกด้วย แต่ละวันก้ จะมีงาน2กะ เช้า 9โมงถึง4โมง ละก้อีกกะก้เข้า4โมง ไปจนถึงประมาน4ทุ่มครึ่ง งานก้คือนั่งประจำจุดต่างๆเช่น ปล่อยคนลงสไลด์เดอร์ hottub สระเด็ก น้ำวนจากสไลด์เดอร์ อะไรประมาณนี้ เป่านกวัดกันไป ถ้ามีคนทำผิดไรงี้ เก็บห่างยางบ้างไรบ้าง พอจบกะแต่ละวันก้ต้อง ทำความสะอาดโดยรวม กวาดพื้น เช็ดโต๊ะ ละก้ทำความสะอาดห้องน้ำ แรกๆก้นั่งๆละก้วนกันไปแต่ละจุด หลังเริ่มเปนระบบคือทุกๆ30นาที ก้เปลี่ยนที่กัน วนไป เวลาจะผ่านไปเร็วดีละก้ไม่เบื่อมาก พอพักจะมีนายจ้างหรือsupervisor มานั่งแทนและปล่อยเราไปพัก 30นาที ที่นี่ใช้ระบบscan นิ้วมือ clock in clock out ได้เรทชั่วโมงละ 9.5 สำหรับนายจ้าง ดีมากกกกกกกกก แบบก.ล้านตัว คือรักเลย เป็นคนที่หน้าดูดุตลอดเวลา แต่บอกเลยว่าถ้าตั้งใจทำงาน ทำตัวดี น่ารักๆ ก้จะดี เจ้านายช่วยเหลือทุกอย่าง คือบอกได้คำเดียวว่าเค้าดี ซื้อขนมให้กิน พาไปเที่ยว shopping ด้วย ขออะไร ก้พยายามจะให้ เพื่อนๆที่ร่วมงานก้มีโอกาสได้ทำงานกับคนหลายชาติเลย เพื่อนดีๆ ก้เยอะ บางนิสัยที่ไม่ดีที่ต้องเรียนรุ้ของคนบางคน ที่เรามีโอกาสจะเจอในการทำงานต่อๆไปในอนาคตก้จะได้เจอได้เห็นและก้ต้องเรียนรู้กันไปจ้า (เป็น lifeguardมา ช่วยเด็กจะจมน้ำไป2ครั้งหลักๆ)
งาน2 ตอนแรกทำร้านอาหาร ได้ซัก2อาทิด แล้วเด็กเริ่มเยอะ ไม่ค่อยได้ชม.แล้ว เลยต้องหาใหม่.... ได้ไปลงเอยที่ สวนสนุก Arnolds Park
Hi, how can I help you, What can I do for you??? Day-pass? All of these word still in my mind! My 2nd job❤️ เป็นงาน2ที่ได้ที่หลังแต่รู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสไปทำที่นี่ คือได้ทำตำแหน่งดี ได้อยู่ในห้องขายตั๋ว เป็นตำแหน่งงานที่ได้ฝึกอะไรหลายๆอย่างมาก ได้ท้าทายตัวเอง ต้องพูดกะคนต้องคุยกะฝรั่ง ต้องพูดอังกิดตลอด ได้ฝึกตัวเองเยอะเลย วันแรกที่ได้เทรนไปประมาน2ชม. คือเห็นละแบบจะรอดมั้ย ตายแน่ๆ จะทำได้มั้ย จะผ่านมันไปยังไง ไมมันดูเยอะ หลายอย่างและยากอย่างงี้ ไหนจะต้องรับผิดชอบกะเงินอีกด้วย แถมยังต้องอดทนกะเวลา เพราะมันจะเหนื่อยมาก ทำชนชั่วโมง 10โมงเช้า ถึง3-4 ทุ่ม กว่าจะเดินจากหอไป เกือบชม. กลับมาทีคือร่างพังมาก เพลียทุกที แต่คือไม่ได้ได้แค่ประสบการณ์ หรือทักษะที่เพิ่มเติม แต่ยังได้เพื่อนร่วมงานที่ดี แถมมีเจ้านายที่ดีมากๆ คถ.คุณพ่อและพี่ชายมากๆข่ะ ใจดีและดีมากๆเลย ถ้ามีโอกาส อีก2ปี จะไปทำงานกะคุณพ่อจริงๆนะ ปล.อยากเล่นเครื่องเล่นฟรีอีก55555 และอยากกินชีสฟรายอีก
บอกเลยว่าได้อะไรเยอะมากนะจากการทำงานทั้ง2ที่ เรียนรู้อะไรได้เยอะจริงๆ การทำงานจริง ความอดทน สถานการณ์ต่างๆ เพื่อนร่วมงาน คนที่เราต้องทำงานด้วย ในแต่ละระดับ ตำแหน่ง การอยู่ให้เป็นในสังคม มันได้เห็นอะไรหลายๆอย่างเลยจริงๆ เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสนุก ทั้งได้เรียนรู้ ทั้งเหนื่อย
•สภาพอากาศ : ก้จะคล้ายๆบ้านเรา ที่ไทยนี่แหละ แต่ถ้าวันไหนมีพายุ ฝนตก ก้จะหนาวเลย เคยมีลูกเห็บตกด้วยนะ บางวันอุณหภูมิไป10 งี้ บางทีกลางวันร้อน เย็นๆฝนมา เตรียมรุ้เลยว่าต้องปิดสระข้างนอก55555
•อาหารการกิน : ก้ทั่วๆไปมาก ส่วนใหญ่ก้จะซื้อที่ walmart มาทำกินกัน happy มากๆ ชิมอาหารไปทั่วละ โดยเฉพาะ อาหารจีนจากเพื่อนจีน5555 ใจดีจ้า แถมอาหารคล้ายๆบ้านเรากินง่าย แต่จะแอบชอบมีปัญหาเรื่องตู้เย็นนิดนึง คือบางคนบางชาติก้แอบเห็นแก่ตัวนิดนึง55555
•shopping& hang out&เที่ยว : เมืองนี้ไม่ค่อยมีไรมากนะ ถ้าใครสายเที่ยวสายช้อป อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์มาก ขอแนะนำให้ทำงานเก็บตัง ช้อปที่walmart ไปก่อน (สำหรับ walmart ก้ต้องบอกว่าการช้อปในเวลากลางคืนนี่ดีสุดๆจ้า มากันเป็นแก๊ง เดินชิวๆ เหมือนห้างนี้เป็นของเรา55555)ละค่อยไปเที่ยวเอาตอนเวิคเสร็จแล้ว
การไปในครั้งนี้เราว่ามันได้อะไรมากกว่าคำว่า"ประสบการณ์ " มันมีทั้งความผูกพันธ์ มิตรภาพ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะคน และโลกแห่งความเป็นจริง โลกของการทำงาน โลกที่เราจะต้องอยุ่และใช้ชีวิตกะคนอื่นๆ โลกที่เราต้องอยู่ด้วยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเอง โลกที่มีทั้งคนที่ดี ไม่ดี รักและเกลียดเรา หรือแม้แต่คำถามที่เคยเกิดขึ้นกะเราว่า คนแบบนี้ก้มีบนโลกด้วยหรอ?55555
สิ่งที่ประทับใจมากๆคือ
-เพื่อนๆพี่ๆคนไทยด้วยกันเอง และเพื่อนต่างชาติที่ดีๆสนิทๆกัน (ก่อนกลับนี่เศร้าจ้าแอบใจหาย ความทรงจำอะไรดีๆก้เยอะ)
-เจ้านายทั้งงาน1และงาน2
- ไอติมที่สวนน้ำ ที่ต้องกิน เกือบทุกวัน55555 (ขอฟรีนะ555 กลับมาติดไอติมเลยจ้า)
-คนอเมริกาครอบครัวนึง ที่พาเราไปธนาคาร ไปที่บ้านได้ไปกินข้าว เลี้ยงข้าว ไปโบสถ์ ไปล่องเรือกะเค้า ซื้อของฝาก พาไปหลายที่มาก พยายามพาทำอะไรที่ควรจะได้ทำเมื่อมาที่นี่
❤️สุดท้าย อยากฝากไว้ว่า ไม่ว่าจะทำงานอะไร เวิคที่ไหน ไปแล้วฝากสิ่งดีๆและผลงานดีๆไว้ คนที่นู่นเค้าจะได้คิดถึง และนึกถึงแต่สิ่งดีๆของเรา❤️ ทุกวันนี้ยังkeep ความสัมพันธ์ทั้งกับเพื่อนๆ พี่ๆ ไว้ และเจ้านายหรือคนที่นู่นไว้ด้วย ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีก ไม่ที่ไทย ก้ที่ใดที่หนึ่ง หรือเราอาจจะกลับไปเวิคที่นั่นอีกก้ได้
ท้ายสุดดดด! สำหรับการลงทุนค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ บอกเลยว่าสำหรับเรานั้น รวมๆค่าโครงการ เครื่องบิน การกินอยู่และของฝาก เรียกได้ว่าเท่าๆทุนนะ ตอนแรกเราก้คิดเรื่องนี้นะ ว่าจะต้องได้เงินกลับมา แต่พอจบโครงการ สิ่งที่ได้ มันได้มากกว่าเงินจริงๆนะ บางอย่างเงินมันซื้อไม่ได้จริงๆนะ!
ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปบางส่วน.
#workandtravel2017
#acadexthailand