"ความเจ้าชู้"ธรรมชาติปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพศผู้หรือผลของวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่?

เห็นเวลามีประเด็นเรื่องเพศ ทั้งที่สังคมมองว่าเป็นความรุนแรงมากหน่อย จำพวกข่มขืน ลวนลาม ค้าบริการทางเพศเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี หรือทั้งที่สังคมทั่วไปไม่ค่อยมองว่ารุนแรงนักแต่ก็อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไร เช่นการขายบริการทางเพศที่ผู้ค้าอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือการมีกิ๊ก มีเมียน้อยบ้านเล็ก มักจะมีข้อถกเถียงกันเสมอ

ฝ่ายหนึ่งที่เป็น NGO หรือนักวิชาการที่ทำงานด้านสิทธิสตรี - ความเสมอภาคหญิงชาย มักจะบอกว่า "วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่" นี่แหละคือต้นตอปัญหาทั้งหมด เพราะได้ทำให้คนในสังคม ( โดยเฉพาะผู้ชาย ) มองว่าการที่ตัวเองสามารถไปมีอะไรกับผู้หญิงได้มากๆ ตลอดชั่วชีวิตหนึ่งได้มีประสบการณ์ ( กาม ) ร่วมหลับนอนกับสาวๆ หลายคน เรียกง่ายๆ ว่า "ความเจ้าชู้" สามารถทำได้ไม่ผิดอะไร ผู้ชายมักจะนำเรื่องพวกนี้มาอวดมายอกันเองเสมอ เมื่อผู้ชายไม่ได้ถูกสอนให้รักษาพรหมจรรย์ ไม่ถูกสอนให้ระงับความต้องการทางเพศอย่างที่ผู้หญิงถูกสอน ดังนั้นเมื่ออยากจึงไม่ต้องคิดเยอะ ไปปลดปล่อยที่ไหนก็ได้ ถ้าเทาๆ หน่อยก็มีบ้านเล็ก มีกิ๊ก หรือเที่ยวโสเภณี ถ้าดำๆ เลย เลวร้ายเลยก็ไปข่มขืนไปลวนลาม

ส่วนอีกฝ่ายที่มักบอกว่าตัวเองมองโลกตามความเป็นจริง ก็จะแย้งว่า ธรรมชาติของมนุษย์ผู้ชายคือ "สัตว์เพศผู้" ชนิดหนึ่ง ที่สามารถสืบพันธุ์กับเพศเมียได้เรื่อยๆ เท่าที่สังขารยังอำนวย อย่างผู้ชายอายุเลข 5 เลข 6 ถ้ายังรักษาสุขภาพดีๆ ร่างกายแข็งแรง ความต้องการทางเพศก็จะยังมีตลอดเวลาไม่ต่างจากเด็กหนุ่ม สามารถมีอะไรกับผู้หญิงรุ่นลูกได้สบายๆ ( ที่มีวลีว่า "เตะปี๊บดัง" นั่นแหละครับ ) ก็คือผู้ชายมีช่วงเวลาทำการสืบพันธุ์ได้เรื่อยๆ ผู้ชายไม่มีคำว่า "วัยทอง" แบบผู้หญิง ที่พออายุเข้าสู่เลข 4 ประจำเดือนเริ่มไม่มี ความต้องการทางเพศก็ลดลงจนไปถึงหมดความรู้สึก ดังนั้นการมีผู้หญิงหลายๆ คน ในชั่วชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด ขอให้เป็นการสมยอม ไม่บังคับหลอกลวง ป้องกันให้เรียบร้อย และไม่ไปทำกับเด็กต่ำกว่า 18 ปี ก็พอ

ตกลงแล้วความเจ้าชู้ของผู้ชายเป็นเรื่องปกติจริงๆ ตามธรรมชาติ หรือไม่ใช่เรื่องปกติแต่ถูกทำให้ปกติด้วยค่านิยมครับ?

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่