[ขำๆ] คิดยังไงกับค่านิยม - คำกล่าว "ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ก็เหมือนงูไม่มีพิษ" กันบ้างครับ?

กระทู้นี้ ได้ Idea มาจากกระทู้แนะนำเหมือนไม่กี่สัปดาห์ก่อน กรณีอยากให้เพิ่มโทษ บอกข่มขืนให้ประหารชีวิตเลย

แน่นอน..เสียงคัดค้านก็มาไม่น้อย ด้วย 2 เหตุผล

1.เหตุผล classic มาก ถ้าข่มขืนแล้วโทษประหาร อย่ากระนั้นเลย ฆ่าเหยื่อทิ้งเลยดีกว่า ( คดีข่มขืนแล้วฆ่าคงเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญแน่ๆ )

2.เหตุผลที่มีน้ำหนักไม่แพ้กัน ผญ บางคนก็ใช่ย่อย ต้องการ Blackmail เรียกเงิน ผช ( บางคนอาจไม่ได้ทำคนเดียว แต่ทำเป็นขบวนการญาติพี่น้อง เช่นตามที่ผมยกตัวอย่างในกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/30693456/comment11 ) ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นคดีความ กลัวเสียชื่อเสียง ก็นะ ยอมๆ จ่ายไปซะ

-----------------------------

ปัญหาคือ..ข้อ 2 นี่แหละครับ มี login สาวๆ บางท่าน บอกว่า "ก็ดีสิ ผู้ชายจะได้ลดๆ ความเจ้าชู้ หาเศษหาเลยไปเรื่อยลงบ้าง" นัยว่าจะไป Feat. กับใคร คิดดูให้ดี อย่าทำเลย รักเดียวใจเดียว ไม่ก็รักษาพรหมจรรย์ไว้แหละดีแล้ว

อืม..นี่เรื่องใหญ่นะครับ

ใหญ่ยังไง? ท่านที่เสนอมานี่กำลังฝืน "ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตเพศผู้" กันเลยทีเดียว

ผมไม่รู้หรอกครับว่าใครพูดคนแรก ที่บอกว่า ผช ไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูที่ไม่มีพิษ แต่ที่แน่ๆ ปีนี้ผมอายุ 29 แต่ได้ยินคำกล่าวนี้มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี จำได้ว่าตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นมัธยมโน่นเลย

พี่น้องมวลมหาประชาชายครับ ท่านปฏิเสธไหมครับว่าเรื่องทะลึ่งใต้สะดือ สองแง่สองง่ามทั้งหลาย เราต่างเรียนรู้จากเพื่อนฝูงและสื่อต่างๆ ทั้งนั้น จากหนังสือปกขาว สู่หนัง AV นานาชาติ ( สมัยนั้นต้องแอบอ่าน แอบดูกัน )

คำว่า "ขึ้นครู" คำ Slang เก่าแก่ของชายไทย ที่หมายถึงการไป "เปิดบริสุทธิ์" ตามสถานบริการกับโสเภณี โดยบอกว่าผ่านพิธีกรรมนี้คุณเปลี่ยนจากเด็กเป็นผู้ใหญ่แล้ว ( สมัยนี้คงเบาลงไปมาก เพราะกลัว HIV กัน ถึงจะใส่ถุงยางก็เถอะ )

หรือสังเกตอย่างหนึ่ง "ขนาดของอาวุธ" จะเป็นอะไรที่ผู้ชายเรากังวลมาก จนบางคนต้องไปฉีด ไปผ่า ( ไม่แนะนำเพราะเน่าไปหลายคน ต้องตอนเป็นขันทีไปเลย ไม่คุ้ม ) หรือต้องไปหา Option พิเศษ ( พวกถุงยางผิวปุ่มทั้งหลาย )

แต่ขนาดก็ยังไม่สำคัญเท่า "ความทนและลีลา" หลายคนกลัวมาก ต้องใช้ยาทา ( หรือถุงยางบางยี่ห้อที่ผสมยาทนมาด้วย ) เพื่อให้ทำได้นาน ขณะที่การคุยกันแบบทะลึ่งๆ ของผู้ชายทั้งหลาย มักจะพาดพิงไปถึงท่า feat. ต่างๆ ด้วย

และที่ชอบแซวกันมาก ถ้าใครอายุถึง 20 ขึ้นไปแล้วยังไม่ได้ "ลอง" จะถือว่าแปลกเลยทีเดียว บางคนก็ไม่เชื่อ หาว่าโม้บ้าง สร้างภาพบ้าง  

หรือผู้ชายคนไหน มีแฟน มีภรรยามีคนเดียว ไม่เคยมีกิ๊กมีกั๊ก ไม่เคยแม้แต่จะไปเที่ยวอย่างว่า อาจจะโดนแซวขำๆ ได้ว่า "จริงเปล่า? ไม่มั้ง?"  

-----------------------

จะบอกว่า..ทั้งหมดนี้คือ "โลกทรรศน์" ของเพศชายนะครับ

โตมาพอเข้าวัยรุ่น ก็เริ่มเรียนรู้เรื่องใต้สะดือกันแล้ว บางคนได้ลองกันตั้งแต่หัวเกรียน ใส่ขาสั้นแล้วก็มี

พอเริ่มเที่ยวกลางคืนได้ ก็จะเริ่มคุยข่ม คุยอวดกันละว่าไปเที่ยวที่นี่ ได้เบอร์สาวมา..คน ( คงไม่ต้องอธิบายกันต่อนะครับ ว่าเอาเบอร์มาคุยกัน แล้วจะไปจบที่ไหน? ) หรือทันสมัยหน่อย ยุคนี้ต้องขอ Line กัน  

ยังไม่นับเว็บไซต์ประเภท "คนติดอ่าง" อีกเพียบ มีการแนะนำกันสนุก ด้วยศัพท์ Slang ว่า "ส่งการบ้าน" บอกน้องคนนั้นเป็นไง เด็ดไหม บริการดีไหม ฯลฯ

สำคัญที่สุด..มันเป็นธรรมชาติของเพศชายเลยครับ อันนี้ได้ยินมานานแล้ว ผญ 35+ ความต้องการเริ่มลด พอหลัง 45+ ประจำเดือนหมดก็แทบไม่มี กลายเป็นวัยทอง เข้าหาทางธรรมกันไป ส่วน ผช ถ้าดูแลสุขภาพดีๆ 50+ ยังแข็งปั๋ง ทำได้สบายๆ

ศัพท์ Slang อีกคำ คือคำว่า "เตะปี๊บดัง" สำหรับผู้ชายเรา ก็หมายถึงเรื่องนี้แหละครับ อายุเยอะ แต่ยังสามารถ Feat.ได้เหมือนตอนเป็นหนุ่มๆ

-----------------------

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า จะด้วยธรรมชาติก็ดี ค่านิยมก็ดี ได้ปลูกฝังให้ผู้ชายต้องเจ้าชู้ครับ ใครไม่เจ้าชู้ถือว่าเป็นของแปลกกันเลยทีเดียว

ดังที่กล่าวกันแหละครับ..ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ก็เหมือนงูที่ไม่มีพิษ..เพราะเมื่อเรานึกถึงงู เราจะนึกถึงงูที่มีพิษ เราจะกลัวมัน ยกย่องมันว่าเป็นนักล่า แต่งูที่ไม่มีพิษ เราจะไม่กลัวมัน ไม่จดจำมันเสียด้วยซ้ำ เพราะมนุษย์นิยามไปแล้วว่าธรรมชาติของงูคือต้องมีพิษ

ทุกท่านคิดยังไงกับคำกล่าวที่ถูกสอนมาเรื่อยๆ ในหมู่มวลมหาประชาชาย เช่นนี้บ้างครับ?

แฮ่ๆ

ปล.ถามในฐานะคนนอกนะเออ ( จขกท. เป็นบุคคลที่ถูกเพศตรงข้ามตั้งแง่รังเกียจ ตั้งแต่จำความได้ละครับ เอิกๆ )

ปล.2 ขนาดห้องที่ผมสิงอยู่ประจำอย่างหว้ากอ ครั้งหนึ่งยังเคยถูกเรียกเป็นหว้ากามกันเลยทีเดียว - -! ( แถมกระทู้ขนาด ความยาว ของอาวุธหนุ่มชาติต่างๆ มาทีไรขึ้นแนะนำเป็นประจำ )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่