>สัตว์มีพิษที่เป็นผู้ล่า เช่นงู  ต่อมพิษ  มันรู้ได้อย่างไร ว่า มันต้องพัฒนาสารเคมีให้มีองค์ประกอบอย่างไร  ทุกอตอม โมเลกุล มันต้องสัมพันธ์ ด้านเคมี กับ อตอม โมเลกุล ของสัตว์ผู้ถูกล่าด้วย

มันไม่รู้ครับ มันผลิตมาหลายแบบ แบบที่มีผลดีต่อมันก็อยู่ต่อ
เหมือนพริกเนี่ย สัตว์ทั่วไปไม่กิน แต่นกกินได้ไม่รู้สึกเพราะนกรับความเผ็ดไม่ได้ ส่วนคนรับความเผ็ดได้แต่กลับชอบ
มันไม่ได้รู้ว่ามันต้องผลิตสารเคมีแบบไหน แต่ละตัวก็ผลิตต่างกันมากมายหลายแบบ แบบที่ผลิตแล้วมีประโยชน์ต่อตัวมัน ก็ได้ส่งต่อในรุ่นต่อไป

พิษของสัตว์ก็เช่นกัน พิษบางประเภทมีผลกับสัตว์แค่บางกลุ่ม

> (เคมีของพิษ) มันต้องสัมพันธ์ ด้านเคมี กับ อตอม โมเลกุล ของสัตว์ผู้ถูกล่าด้วย

ทำไมไม่คิดล่ะครับว่า "มันเลือกล่าสัตว์ที่โดนพิษมันแล้วตาย" ไม่ใช่ว่า "มันเลือกผลิตพิษที่มีผลกับสัตว์ที่มันอยากล่า"

> พวกเชือไวรัสต่าง ๆ ที่มันดื้อยา เพราะมันมีการสือสาร รู้จักกับยาที่มนุษย์กินเข้า ไป มันจึงพัฒนาสายพันธ์ให้ดื้อยาได้

นี่ก็เช่นกัน ไม่ใช่ว่ามันสื่อสารหรือพัฒนาสายพันธุ์ แต่ "ตัวที่รอดจากยาย่อมเป็นตัวที่ทนต่อยามากกว่า" ไวรัสมันมีการกลายพันธุ์เล็กๆน้อยๆเสมออยู่แล้ว (เพราะขนาดมันเล็กมาก) บางทีบางตัวกลายพันธุ์ทำให้มันทนต่อยาได้เพิ่มขึ้นสัก 1 วันจากเดิม 3 วัน เป็น 4 วัน
พอคุณเป็นหวัดแล้วไม่กินยาตามหมอสั่ง กินแค่ 3 วันแทนที่จะกิน 7 วัน
ไวรัสในร่างกายคุณ ก็จะเหลือแต่พวกที่กลายพันธุ์แล้วทนยาได้เกิน 4 วัน มันก็เพาะเชื้อเฉพาะกลุ่มนี้ในตัวคุณ (กลุ่มสามวันตายหมดแล้ว)
ลูกหลานมันก็แข็งแรงขึ้น ดื้อยาขึ้นนี่แหละครับ

มันไม่ได้สื่อสารกับไวรัสตัวอื่น แต่มันรอดมาขยายพันธุ์ ในเมื่อมันเป็นตัวที่รอด ลูกมันก็ได้ความแข็งแกร่งต่อยาของมันมาเช่นกัน

(ถ้าคุณกินยา 7 วันติด โอกาสที่กลุ่ม ไวรัสทั่วๆไปจะกลายพันธุ์จากทนยาได้สามวันเป็นทนยาได้ 7 วันมันน้อย, แต่คุณกินแค่ 4 วัน เพื่อคัดกลุ่มให้เหลือแค่พวกที่ทนยาได้ 4 วัน คราวนี้เอาไปติดคนอื่นอีก ก็อาจจะเกิดพวกกลายพันธุ์จากทนยาได้ 4 วัน เป็น ทนยาได้ 5 วันขึ้นมาได้อีกก็ได้)

วิวัฒนาการไม่ได้มีจุดมุ่งหมาย แค่ใครรอดก็ได้อยู่ต่อ
สัตว์มันเลือกไม่ได้ว่ามันจะมีพิษอะไร สารเคมีไหน จะให้สัตว์อะไรเป็นเหยื่อของมัน จะบินได้ดีไหม
มันกินสัตว์ที่มันจับได้ กัดสัตว์ที่โดยมันกัดแล้วตาย ใช้ปีกที่มีเพื่อบิน