สวัสดีค่ะคิดอยู่นานมากตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆแล้วว่าจะเล่าดีไม่เล่าดี ใจนึงก็คิดว่าถ้าปล่อยนานกว่านี้เผื่ออยากเล่าจะจำรายละเอียดไม่ได้ เลยตัดสินใจสมัครพันทิปมาเพื่อเล่าเรื่องที่เราเองก็ยังหาคำตอบในบางเรื่องไม่ได้ค่ะ
ขอเท้าความก่อนว่า เราได้แต่งงานกับสามีที่เป็นคนไทยแต่เกิดอยู่ที่ฝรั่งเศสค่ะ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่นี่
เราแต่งงานได้ประมาณ4ปีก็ได้ตั้งท้อง สามีจึงอยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง จากที่อาศัยอยู่บ้านเช่ากับแม่สามี เพราะอยากให้ลูกและน้องหมาที่เลี้ยงได้มีพื้นที่เล่น เลยเริ่มหาบ้านค่ะเป็นบ้านมือสอง เพราะด้วยเครดิตที่เราสองคนมีไม่สามารถซื้อบ้านใหม่พร้อมที่ดินได้เลยค่ะเพราะแพงมากๆเลยตกลงกันที่บ้านมือสอง มีพื้นที่และราคาไม่แพงมาก หาอยู่นานเป็นปี จนมาเจอบ้านต้นเรื่องค่ะ
สามีไปดูก็ชอบเพราะตามสเปกที่ตั้งไว้เลย แถมราคาต่อรองได้ เลยตกลงนัดคุยกับนายหน้า และเจ้าของ ทำการเซ็นสัญญาซื้อขายกันค่ะ โดยทั้งหมดนี้สามีจัดการคนเดียวหมดค่ะ และเล่าให้เราฟังคร่าวๆถึงตัวบ้านว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้พูดถึงรอบบ้านเลย..
อีกวันสามีก็มารับเราไปดูบ้านครั้งแรกที่ขับเข้าซอยเข้าบ้านเราขึ้นไปสิ่งแรกที่เราเห็นคือ ป่าช้าขนาบบริเวณซ้ายขวาของตัวบ้านเลยค่ะ พระเจ้าเราอุทานในใจ เพราะเป็นคนกลัวผีมาก คิดเลยว่าจะอยู่ได้มั้ยน้อ พอไปถึงหน้าบ้านเราก็ขึ้นไปดูในบ้าน ดูห้องทุกห้อง มาสดุดตรงห้องที่นายหน้าขายบ้านบอกว่าเป็นห้องของลลูกชายเจ้าของบ้านค่ะ ที่สดุดเพราะที่พื้นห้องมีเครื่องเซ่นไหว้เก่า มีธุปสีดำปักในกระถางธุป มีขวดน้ำ ของไหว้อะไรซักอย่างที่เราดูไม่ออกว่าคืออะไร หน่ำซ้ำที่พื้นมีร่องรอยไฟไหม้ด้วย เราบอกสามีว่าไม่ค่อยชอบเลย สามีบอกไม่เป็นไรเพราะเค้าจะรื้อภายในและทำใหม่หมดเลย คงไว้แต่ภายนอก เราค่อยโอเคหน่อย....
หลังจากนั้นได้ไม่นานเราก็คลอดจนผ่านไปได้8-9เดือน สามีก็เริ่มทำบ้านค่ะ ทำไปได้ระยะนึงจนพออยู่ได้ เราก็เริ่มขนของย้ายเข้าไปอยู่กัน ระหว่างที่เราย้ายของเข้ามาอยู่ มีอยู่วันนึง น้องหมาที่เลี้ยงไว้ก็เห่าอะไรสักอย่างจากหลังบ้าน ลักษณะการเห่าเหมือนเห่าขู่กรรโชกค่ะแต่ไม่ได้เห่าหอนนะคะ เราก็พยายามมองหาต้นตอของที่มาว่าเห่าอะไรก็ไม่เห็น ขณะเดียวกันแม่สามีก็มองเหมือนกัน แต่แม่สามีไม่มองเฉยๆค่ะ นางเดินไปเปิดประตูแล้วตะโกนออกไปว่า "ยืนรออะไรจะเข้ามาก็เข้ามา!!" เชื่อมั้ยคะเราต่อว่าแม่สามีเลยค่ะจากที่ไม่เคยเถียงแกมาก่อน แต่ครั้งนี้เราหลุดออกไปได้ยังไงไม่รู้ หรือว่านี่คือที่มาของเรื่องทั้งหมด....
หลังจากนี้ไปเราจะขอเล่าเป็นตอนๆนะคะโดยตั้งชื่อตอนให้ด้วยค่ะ เพราะมีหลายเรื่องหลายตอนเลย
ตอนที่ 1.(ลมอะไรผ่านไปแวบๆ)
หลังจากที่ย้ายเข้าอยู่ได้2-3เดือนสามีก็ทะยอยทำบ้านไปด้วย ทำไปอยู่ไปค่ะ โดยจะเอาเวลาหลังเลิกงานกลับมาทำ ทีนี้ก็จะทำอยู่จนดึกเลย ยิ่งถ้าวันพรุ่งนี้ไม่ไปทำงานจะอยู่ถึงตี3-4เลยค่ะ และวันนั้นก็เช่นกัน เค้าทำงานอยู่คนเดียว แต่เรากับลูกแม่สามีกลับไปนอนบ้านแม่สามีเพราะเค้าจะทาสีกลิ่นมันแรงค่ะ ในขณะที่เค้ากำลังทาสีเพดานอยูนั้นเค้าบอกว่าจู่ๆก็รู้สึกหนาวๆขึ้นมา ทั้งที่เป็นหน้าร้อน หนาวขึ้นมาแบบ เย็นยะเยือกๆแบบที่เค้าไม่เคยรู้สึกมาก่อน แป๊ปเดียว เค้าก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างผ่านร่างเค้าไปเห็นเหมือนควันๆหมอกๆเป็นกึ่งๆเงาเป็นรูปเป็นร่างแต่ไม่ชัด ลอยผ่านทะลุตัวสามีไป แล้วความรู้สึกของสามีเหมือนสิ่งนั้นยังยืนอยู่ข้างหลังเค้าไม่ไปไหน จนสามีขนลุกไปทั้งตัว ในหัวเค้าบอกว่าไม่ใช่ไม่เชื่อหรอกว่าจะเป็น...... แต่ความรู้สึกก็ยังอยู่ จนเขาตัวแข็งค้างอยู่แบบนั้น พอได้สติ เค้าบอกว่าเค้าพยายามรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่น้อยนิด ร้องเพลงค่ะ เพลงอะไรไม่รู้ ร้องไปด้วยเก็บเครื่องมือไปด้วย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่เขาเล่าเองนะคะ พอขึ้นรถได้เร่งเครื่องรีบโทรมาหาเรา เล่าเป็นตุเป็นตะเลยค่ะ น้ำเสียงสั่นๆจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยค่ะ และหลังจากนั้นอีกสองวันเค้าก็กลับไปทาสีต่อจากที่ทาค้างไว้ และหนีบเรามาเป็นเพื่อนด้วยค่ะ..
ผ่านไป1ปีและตลอด1ปีที่ผ่านมาเราก็อยู่กันสบายดีไม่มีอะไรนอกจากแม่สามีทั่ป่วยบ่อยๆด้วยโรคประจำตัวแก และบ้านก็เสร็จไปได้แค่40%คือชั้นบนแต่ชั้นล่างยังเหมือนเดิมเพราะสามีทำคนเดียวค่ะนานๆทีจะมีเพื่อนมีญาติมาช่วย.....
แต่จู่ๆวันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เรางงและยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไรค่ะตอนที่2.(เสียงปริศนา)
คราวนี้เราอยู่ในบ้านกัน3คนค่ะประมานบ่ายๆเป็นเวลานอนกลางวันของลูกค่ะ ลูกนอนอยู่ชั้นบน เรากับแม่สามีนั่งกินกาแฟคุยกันอยู่ข้างล่าง แต่จู่ๆได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่ข้างบนในห้องนอนเราที่ลูกนอนอยู่ เป็นเสียงวิ่งที่เหมือนเสียงวิ่งของเด็กค่ะ คือไม่หนักมาก แต่ได้ยินชัดเจน เพราะเราแง้มประตูห้องไว้เผื่อลูกตื่นจะได้ยินเราคิดแบบนี้ ...
หลังจากได้ยินเสียงวิ่ง เรากับแม่สามีก็มองหน้ากัน แม่สามีก็พูดว่า สงสัยตื่นละ พอดีแหละนอนไปได้ชั่วโมงกว่าละ เดี๋ยวเตรียมขนมของว่างไว้ให้เลย เราเลยบอกแม่สามีว่า งั้นขึ้นไปดูก่อนนะกลัวจะเดินลงมาคนเดียวกลัวตกบันได...
แต่พอเราเปิดประตูห้องเข้าไป ปรากฎว่าลูกยังหลับปุ๋ยอยู่เลยค่ะ ไม่มีอาการของคนตื่นแล้วไปหลับต่อเลย จะว่าละเมออะไรก็ไม่ใช่ ไม่น่าจะวิ่งกลับไปหลับได้เร็วขนาดนั้น เรายืนอึ้งขนลุกซู่อยู่ท่ามกลางความเงียบค่ะ และค่อยเดินออกจากห้องมา เดินลงบันไดมาด้วยความงง แม่สามีถามว่าอ้าวยังไม่ตื่นหรอ เราบอกว่าไม่ตื่นและยังนอนปรกติเหมือนเดิมนะ เรากับแม่สามีมองหน้ากันด้วยความงงว่า แล้วใครวิ่งอยู่ข้างบนในห้องเรา....
เป็นเรื่องที่ลูกเราเป็นคนเจอค่ะลูกเราตอนนั้นอายุ
บ้านมือสอง สยองขวัญ (เรื่องผีค่ะ)ใจไม่แข็งห้ามอ่าน
ขอเท้าความก่อนว่า เราได้แต่งงานกับสามีที่เป็นคนไทยแต่เกิดอยู่ที่ฝรั่งเศสค่ะ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่นี่
เราแต่งงานได้ประมาณ4ปีก็ได้ตั้งท้อง สามีจึงอยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง จากที่อาศัยอยู่บ้านเช่ากับแม่สามี เพราะอยากให้ลูกและน้องหมาที่เลี้ยงได้มีพื้นที่เล่น เลยเริ่มหาบ้านค่ะเป็นบ้านมือสอง เพราะด้วยเครดิตที่เราสองคนมีไม่สามารถซื้อบ้านใหม่พร้อมที่ดินได้เลยค่ะเพราะแพงมากๆเลยตกลงกันที่บ้านมือสอง มีพื้นที่และราคาไม่แพงมาก หาอยู่นานเป็นปี จนมาเจอบ้านต้นเรื่องค่ะ
สามีไปดูก็ชอบเพราะตามสเปกที่ตั้งไว้เลย แถมราคาต่อรองได้ เลยตกลงนัดคุยกับนายหน้า และเจ้าของ ทำการเซ็นสัญญาซื้อขายกันค่ะ โดยทั้งหมดนี้สามีจัดการคนเดียวหมดค่ะ และเล่าให้เราฟังคร่าวๆถึงตัวบ้านว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้พูดถึงรอบบ้านเลย..
อีกวันสามีก็มารับเราไปดูบ้านครั้งแรกที่ขับเข้าซอยเข้าบ้านเราขึ้นไปสิ่งแรกที่เราเห็นคือ ป่าช้าขนาบบริเวณซ้ายขวาของตัวบ้านเลยค่ะ พระเจ้าเราอุทานในใจ เพราะเป็นคนกลัวผีมาก คิดเลยว่าจะอยู่ได้มั้ยน้อ พอไปถึงหน้าบ้านเราก็ขึ้นไปดูในบ้าน ดูห้องทุกห้อง มาสดุดตรงห้องที่นายหน้าขายบ้านบอกว่าเป็นห้องของลลูกชายเจ้าของบ้านค่ะ ที่สดุดเพราะที่พื้นห้องมีเครื่องเซ่นไหว้เก่า มีธุปสีดำปักในกระถางธุป มีขวดน้ำ ของไหว้อะไรซักอย่างที่เราดูไม่ออกว่าคืออะไร หน่ำซ้ำที่พื้นมีร่องรอยไฟไหม้ด้วย เราบอกสามีว่าไม่ค่อยชอบเลย สามีบอกไม่เป็นไรเพราะเค้าจะรื้อภายในและทำใหม่หมดเลย คงไว้แต่ภายนอก เราค่อยโอเคหน่อย....
หลังจากนั้นได้ไม่นานเราก็คลอดจนผ่านไปได้8-9เดือน สามีก็เริ่มทำบ้านค่ะ ทำไปได้ระยะนึงจนพออยู่ได้ เราก็เริ่มขนของย้ายเข้าไปอยู่กัน ระหว่างที่เราย้ายของเข้ามาอยู่ มีอยู่วันนึง น้องหมาที่เลี้ยงไว้ก็เห่าอะไรสักอย่างจากหลังบ้าน ลักษณะการเห่าเหมือนเห่าขู่กรรโชกค่ะแต่ไม่ได้เห่าหอนนะคะ เราก็พยายามมองหาต้นตอของที่มาว่าเห่าอะไรก็ไม่เห็น ขณะเดียวกันแม่สามีก็มองเหมือนกัน แต่แม่สามีไม่มองเฉยๆค่ะ นางเดินไปเปิดประตูแล้วตะโกนออกไปว่า "ยืนรออะไรจะเข้ามาก็เข้ามา!!" เชื่อมั้ยคะเราต่อว่าแม่สามีเลยค่ะจากที่ไม่เคยเถียงแกมาก่อน แต่ครั้งนี้เราหลุดออกไปได้ยังไงไม่รู้ หรือว่านี่คือที่มาของเรื่องทั้งหมด....
หลังจากนี้ไปเราจะขอเล่าเป็นตอนๆนะคะโดยตั้งชื่อตอนให้ด้วยค่ะ เพราะมีหลายเรื่องหลายตอนเลย
ตอนที่ 1.(ลมอะไรผ่านไปแวบๆ)
หลังจากที่ย้ายเข้าอยู่ได้2-3เดือนสามีก็ทะยอยทำบ้านไปด้วย ทำไปอยู่ไปค่ะ โดยจะเอาเวลาหลังเลิกงานกลับมาทำ ทีนี้ก็จะทำอยู่จนดึกเลย ยิ่งถ้าวันพรุ่งนี้ไม่ไปทำงานจะอยู่ถึงตี3-4เลยค่ะ และวันนั้นก็เช่นกัน เค้าทำงานอยู่คนเดียว แต่เรากับลูกแม่สามีกลับไปนอนบ้านแม่สามีเพราะเค้าจะทาสีกลิ่นมันแรงค่ะ ในขณะที่เค้ากำลังทาสีเพดานอยูนั้นเค้าบอกว่าจู่ๆก็รู้สึกหนาวๆขึ้นมา ทั้งที่เป็นหน้าร้อน หนาวขึ้นมาแบบ เย็นยะเยือกๆแบบที่เค้าไม่เคยรู้สึกมาก่อน แป๊ปเดียว เค้าก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างผ่านร่างเค้าไปเห็นเหมือนควันๆหมอกๆเป็นกึ่งๆเงาเป็นรูปเป็นร่างแต่ไม่ชัด ลอยผ่านทะลุตัวสามีไป แล้วความรู้สึกของสามีเหมือนสิ่งนั้นยังยืนอยู่ข้างหลังเค้าไม่ไปไหน จนสามีขนลุกไปทั้งตัว ในหัวเค้าบอกว่าไม่ใช่ไม่เชื่อหรอกว่าจะเป็น...... แต่ความรู้สึกก็ยังอยู่ จนเขาตัวแข็งค้างอยู่แบบนั้น พอได้สติ เค้าบอกว่าเค้าพยายามรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่น้อยนิด ร้องเพลงค่ะ เพลงอะไรไม่รู้ ร้องไปด้วยเก็บเครื่องมือไปด้วย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่เขาเล่าเองนะคะ พอขึ้นรถได้เร่งเครื่องรีบโทรมาหาเรา เล่าเป็นตุเป็นตะเลยค่ะ น้ำเสียงสั่นๆจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยค่ะ และหลังจากนั้นอีกสองวันเค้าก็กลับไปทาสีต่อจากที่ทาค้างไว้ และหนีบเรามาเป็นเพื่อนด้วยค่ะ..
ผ่านไป1ปีและตลอด1ปีที่ผ่านมาเราก็อยู่กันสบายดีไม่มีอะไรนอกจากแม่สามีทั่ป่วยบ่อยๆด้วยโรคประจำตัวแก และบ้านก็เสร็จไปได้แค่40%คือชั้นบนแต่ชั้นล่างยังเหมือนเดิมเพราะสามีทำคนเดียวค่ะนานๆทีจะมีเพื่อนมีญาติมาช่วย.....
แต่จู่ๆวันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เรางงและยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไรค่ะตอนที่2.(เสียงปริศนา)
คราวนี้เราอยู่ในบ้านกัน3คนค่ะประมานบ่ายๆเป็นเวลานอนกลางวันของลูกค่ะ ลูกนอนอยู่ชั้นบน เรากับแม่สามีนั่งกินกาแฟคุยกันอยู่ข้างล่าง แต่จู่ๆได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่ข้างบนในห้องนอนเราที่ลูกนอนอยู่ เป็นเสียงวิ่งที่เหมือนเสียงวิ่งของเด็กค่ะ คือไม่หนักมาก แต่ได้ยินชัดเจน เพราะเราแง้มประตูห้องไว้เผื่อลูกตื่นจะได้ยินเราคิดแบบนี้ ...
หลังจากได้ยินเสียงวิ่ง เรากับแม่สามีก็มองหน้ากัน แม่สามีก็พูดว่า สงสัยตื่นละ พอดีแหละนอนไปได้ชั่วโมงกว่าละ เดี๋ยวเตรียมขนมของว่างไว้ให้เลย เราเลยบอกแม่สามีว่า งั้นขึ้นไปดูก่อนนะกลัวจะเดินลงมาคนเดียวกลัวตกบันได...
แต่พอเราเปิดประตูห้องเข้าไป ปรากฎว่าลูกยังหลับปุ๋ยอยู่เลยค่ะ ไม่มีอาการของคนตื่นแล้วไปหลับต่อเลย จะว่าละเมออะไรก็ไม่ใช่ ไม่น่าจะวิ่งกลับไปหลับได้เร็วขนาดนั้น เรายืนอึ้งขนลุกซู่อยู่ท่ามกลางความเงียบค่ะ และค่อยเดินออกจากห้องมา เดินลงบันไดมาด้วยความงง แม่สามีถามว่าอ้าวยังไม่ตื่นหรอ เราบอกว่าไม่ตื่นและยังนอนปรกติเหมือนเดิมนะ เรากับแม่สามีมองหน้ากันด้วยความงงว่า แล้วใครวิ่งอยู่ข้างบนในห้องเรา....
เป็นเรื่องที่ลูกเราเป็นคนเจอค่ะลูกเราตอนนั้นอายุ