วันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ.1965

หลังจากได้รับเเจ้งชายวัยรุ่นลึกลับพบศพในบ้านหลังหนึ่ง
ตำรวจอินเดียน่าโพลิสพร้อมหน่วยชันสูตรได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว

บ้านเลขที่ 3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท



ในห้องใต้ดินเล็กๆ ทึบๆ


พบศพของเด็กสาว สภาพศพมีการขาดน้ำเเละอาหารอย่างรุนเเรง
มีร่องรอยถูกทุบตี มีบาดเเผลตามร่างกายมากมายเนื้อหนังบางส่วนหลุดลอกออกไป
เเละมีรอยบนหน้าผากเป็นเลข 3 ขนาดใหญ่เเต่ที่ทำให้ทุกคนตะลึง คือ..
อักษรที่เขียนด้วยของเเหลมบนหน้าท้องของเธอ

"I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ฉันเป็นอีตัวเเละภูมิใจกับมัน"

สภาพตอนพบศพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นาง เกอร์ทรูด แบนนิเชฟสกี้ (Gertrude Baniszewski) ซึ่งเป็นม่ายวัย36เเละเจ้าของบ้าน
กับลูกทั้ง 7 คน พร้อมเเก็งเพื่อนๆของลูกถูกสอบสวนเเละจับกุมทันที



จอห์น แบนนิเชฟสกี้ จูเนียส(อายุ 12 ปี)


รายชื่อของลูกๆ นาง เกอร์ทรูด แบนนิเชฟสกี้

พอลล่า แบนนิเชฟสกี้ (Paula Baniszewski)
สเตฟานี แบนนิเชฟสกี้ (Stephanie Baniszewski)
จอห์น แบนนิเชฟสกี้ จูเนียส (John Baniszewski Jr.)
มาเรีย แบนนิเชฟสกี้ (Marie Baniszewski)
เชอร์ลี่ย์ แบนนิเชฟสกี้ (Shirley Baniszewski)
เจมส์ แบนนิเชฟสกี้ (James Baniszewski)
เดนนีส ลี ไรท์ จูเนียส (Dennis Lee Wright Jr.)

จากการสอบสวนพบว่าผู้ตาย ชื่อ ซิลเวีย ไลเคนส์ ( Sylvia Marie Likens )



...........................................................................................................

กรกฎาคม 1965 นายเลสเตอร์ และเบตตี้ ไลเคนส์ ไดันำ ซิลเวียเเละน้องสาว เจนนี่ ไลเคนส์(Jenny Faye)
อายุ 16 กับ 15 ปี มาฝากให้ นาง เกอร์ทรูด ดูเเลเพราะทั้งสองต้องต้องติดตามคณะละครคาร์นิวาลไปต่างเมือง
โดยตกลงเป็นค่าเลี้ยงดู 20 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

เมื่อมีการจ่ายเงินไม่ตรงเวลา ทำให้นาง เทอร์กรูด โกรธมาก ทุบตีเด็กทั้งสองอย่างรุนเเรง
ทั้งยังถูกกล่าวหาว่าเป็นขี้ขโมยเนื่องจากเธอมีลูกกวาดกิน ทั้งที่ทั้งสองเป็นคนซื้อมา

จากนั้นก็ดูเหมือน ซิลเวีย จะตกเป็นเป้าของนางเกอร์ทรูดตลอดเวลา มีการทุบตีด้วยเหตุผลประหลาดมากมาย
การกินอาหารที่โบสถ์มากไป การมีเเฟนอยู่ในแคลิฟอร์เนียซึ่งทำให้ ซิลเวีย ถูกเตะเข้าที่อวัยวะเพศอย่างเเรง

ไม่มีการห้ามปรามจากลูกทั้งเจ็ดของเธอ หนำซ้ำยังร่วมวงกับเเม่ใช้ ซิลเวีย เป็นที่หาความสนุกจากการทรมาน
เเละทุบตีเธอ ไปจนถึงมีการนำเพื่อนฝูงเข้ามาร่วมวง เเม้เจนนี่น้องวิลเวียจะรู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่สามารถยื่นมือช่วยเหลือได้
เพราะเธอเองก็ป่วยเป็นโปลิโอที่ขา ซ้ำยังกลัวนางเกอร์ทรูดกับลูกๆของเธอ เเถมถูกบังคับให้ทุบตีพี่สาวของเธอเองด้วย

การทรมานยิ่งทวีความรุนเเรงมากขึ้นตามเเต่จะนึกได้
มีการใช้ซิลเวียเป็นกระสอบทรายในการฝึกซ้อมยูโด เอาบุหรี่จี้ตามตัวเธอ บังคับให้เธอเปลื้องผ้าเเละเอาขวดน้ำอัดลม
ยัดเข้าไปในอวัยะเพศ ทำให้ซิลเวียเจ็บปวดจนปัสสาวะราด นางเกอร์ทรูดโมโหอย่างหนักที่พื้นบ้านเลอะเทอะทุบตีเด็กสาวไม่ย้ัง
โดยทุกคนยืนดูอย่างสนุกสนาน

มีการอาบน้ำร้อนที่ร้อนจัดให้กับซิลเวีย ด้วยเหตุผลว่าเป็นการชำระบาปเเละขัดถูด้วยน้ำเกลือ
เเละจับเธอโยนลงไปในชั้นใต้ดิน โดยมีเพียงเเค่อาหารเเละน้ำเป็นบางมื้อ บางครี้งยังถูกจอห์น แบนนิเชฟสกี้ จูเนียส(อายุ 12 ปี)
ลูกชายนางเกอร์ทรูด บังคับให้กินอุจจาระเป็นอาหาร ทั้งยังถูกห้ามใช้ห้องน้ำเด็ดขาด

เพื่อนบ้านหลายคนได้ยินเสียงร้องอย่างทรมานเเละเสียงเฮฮาร่าเริง เเต่ไม่มีใครอยากเอาตัวเข้าไปสอด
เหตุผลคือไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เเละบ้านของนางเกอร์ทรูดมักเป็นที่ซ่องสุมของวันรุ่นเกเรละเเวกนั้น

วันหนึ่งนางเกอร์ทรูดเรียกลูกๆเเละเด็กในเเก็งค์ของเธอมาชุมนุม เเละสั่ง ริชาร์ด ฮอบบ์ส์ สมุนอีกคน
ใช้เข็มขนาดใหญ่เผาไฟ สักคำว่า "I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT" บนหน้าท้องของเธอ
พร้อมทั้งประกาศว่าซิลเวียเป็นโสเภณีด้วยความภูมิใจ

วันถัดมานางเกอร์ทรูดบังคับให้ซิลเวียเขียนจดหมายหนีออกจากบ้าน เพราะถูกเเก็งค์วัยรุ่นชายทำร้าย
เเผนการของนางเกอร์ทรูดคือ จะจับซิลเวียผูกตาเเละไปปล่อยในป่ารกห่างไกล เเละตายอย่างช้าๆ

จ.ม.ของซิลเวีย


ซิลเวียเเอบได้ยินเเผนการ เธอตัดสินใจใช้เเรงที่มีวิ่งหนี เเต่ถูกนางเกอร์ทรูดเเละลูกๆจับได้
จับเธอโยนไปชั้นใต้ดินพร้อมทุบตีเธอย่างบ้าคลั่ง

24 ตุลาคม ค.ศ.1965
อาจเป็นวันปรกติของคนอื่นๆ เเต่ไม่ใช่สำหรับเด็กสาวอย่างซิลเวีย
นางเกอร์ทรูดพร้อมลูกๆของเธอเเละเเก็งค์ ลงมาพร้อมอาวุธครบมือเท่าที่จะหยิบฉวยได้
ไม้กวาด ไม้เบสบอล ของเเข็งต่างๆ ประเคนใส่ซิลเวียอย่างไม่หยุดพัก ทุกพื้นส่วนในร่างกาย
เเล้วไม้เบสบอลก็โดนศีรษะเธอเต็มเเรง เด็กสาวสลบทันทีไม่มีเเม้เเต่เสียงร้อง

เย็นวันอังคารของวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ.1965
นางเกอร์ทรูดลงไปดูซิลเวีย เด็กสาวหยุดหายใจเเละใกล้เสียชีวิต
นางเกอร์ทรูดเเละพรรคพวก พยายามยื้อชีวิตซิลเวียด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบได้
เเต่ร่างกายซิลเวียก็รับไม่ไหวเเล้ว เธอสิ้นลมในเวลาต่อมา

นางเกอร์ทรูดเเละพรรคพวก รวมทั้งลูกๆของเธอกลัวความผิด นางจึงให้เด็กในกลุ่มไปโทรเเจ้งเหตุ
เมื่อตำรวจมาถึง นางยื่นจดหมายที่บังคับให้ซิลเวียเขียนเเก่ตำรวจ บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าซิลเวียคิดหนีออกจากบ้าน
เพราะถูกเเก็งค์เด็กวัยรุ่นผู้ชายทำร้าย อีทั้งยังขายตัวเเละตั้งท้องด้วย ส่วนนางเป็นเเค่ผู้ดูเเลซิลเวียกับน้องสาวเท่านั้น

เจนนี่ที่เงียบมาตลอดด้วยความกลัว เห็นโอกาสเเละตัดสินใจเด็ดขาด
เดินเข้าไปหานายตำรวจคนหนึ่ง กระซิบเบาๆข้างหู

" พาฉันออกไปจากที่นี่ เเละฉันจะบอกเรื่องทั้งหมดจริงๆที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ"


เจนนี่ ไลเคนส์(Jenny Faye Likens ) ในศาล

นางเกอร์ทรูดเเละลูกสาวคนโต พอลล่าซึ่งกำลังท้องอยู่ในตอนนั้น (ไม่มีพ่อเด็ก ) ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ข้อหาวางเเผนการฆ่า ซิลเวีย ส่วนลูกคอื่นๆเเละสมุนอึกสองคน ริชาร์ด ฮอบบ์ส์ และ คอย ฮับแบร์ด
โดนข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ถูกตัดสินคนละ 2 ปี

การชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าซิลเวียไม่มีร่องรอยถูกข่มขืนเเต่อย่างใด สภาพศพพบบาดเเผลมากมาย
เเผลไฟไหม้ เเละช่องคลอดบวมเปล่ง เนื้อหนังหลุดลอก ขาดน้ำเเละอาหารอย่างรุนเเรง อีกทั้งสมองบวม
จากการถูกของเเข็งอย่างเเรง

วันที่ 4 ธันวาคม1985
นางเกอร์ทรูด ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ เพราะมีความประพฤติดีในเรือนจำ เเต่ให้ทำทัณฑ์บนไว้
มีการประท้วงจากคนในรัฐอินเดียนามากมาย รวมทั้งญาติพี่น้องของซิลเวียเอง อีกทั้งสมาคมต่างๆก็คัดค้าน
การปล่อยตัวครั้งนี้

เเต่ไม่เป็นผล

นางเกอร์ทรูด ย้ายไปไอโอว่า เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นาดีน แวน ฟอสแซน
เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดวันที่ 16 มิถุนายน1990


นาง เกอร์ทรูด วัยชรา

" I'm not sure what role I had in it... because I was on drugs. I never really knew her...
I take full responsibility for whatever happened to Sylvia."

บางคำให้การของนาง เกอร์ทรูด ที่เเถลงเเก่ศาล

คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ของรัฐอืนเดียน่า ถึงกับมีนิยามว่า
"the single worst crime perpetrated against an individual in Indiana's history"
“นี้คือคดีอาชญากรรมทารุณกรรมบุคคลเดียวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐอินเดียนา”



ปัจจุบันเรื่องราวของ ซิลเวียถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์



รวบรวมจากบทความในอินเตอร์เน็ต
ผืดถูกอย่างไร ขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วย