ผ่านมาแล้ว 20 เดือน กับการใช้บริการ JMoney by JMart ซึ่งตอนหลังได้เปลี่ยนเป็น JMT Plus และล่าสุดเปลี่ยนเป็นบริหารโดย JFinTech
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้บริการซื้อมือถือจากที่นี่กันนะครับ
เริ่มมาจากช่วงปลายๆปี 58 ช่วงที่ iPhone6s เปิดตัวได้ไม่นาน ด้วยขณะนั้นทาง JMart ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีแถวหน้าของประเทศได้เล็งเห็นตลาดด้านการเงินกำลังโตเลยกระโดดเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาดนี้โดยใช้กลยุทธป่าล้อมเมือง ตามสเต็ปผู้เล่นรายใหม่ เน้นตลาดล่าง จับลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตและลูกค้าที่รายได้น้อยเป็นหลัก ช่วงเปิดตัวใหม่ๆจะมีจัดบูทตามงานมือถือต่างๆ ทั้งพวก Commart MobileExpo รวมถึงงานมือถือที่ทางห้างต่างๆจัดเองด้วย
ตัวผมนั้นได้ไปใช้บริการที่งานมือถือของห้าง Fashion Island รามอินทรา สมัครวันนั้น อนุมัติวันนั้นเลย!! โอ้ว เร็วจริง เร็วจัง รับสินค้าตรวจเช็ค ฟรีบัตรสมาชิกและบัตรกำนัลใช้ลดราคาซื้อ Accessory ภายในงานได้ด้วย 1000 บาท (ตอนนั้นจัด Power Bank มาเลย 990 บาท เท่ากับได้ฟรีๆ) พร้อมกับดอกเบี้ยล่อใจมากมาย 1.1% ต่อเดือน ในทุกๆเดือนจะได้รับจดหมายใบแจ้งหนี้ประมาณช่วงวันที่ 26 และต้องชำระภายในวันที่ 2 ของเดือนถัดไป เอาจิงๆตอนนั้นดูผิดคิดว่า 1.1 ต่อปี หลังจากที่เข้าใจถูก ผ่านไปได้ 3 เดือน ก็เลยจะทำการปิดบัญชีกับทาง JMoney และเรื่องทั้งหมดก็ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้จะขออนุญาติแจ้งเป็น Time line ไปนะคับ
29 เมษายน 2559 >> สอบถามยอดปิดบัญชีคร่าวๆประมาณ 24,xxx บาท จำยอดได้ไม่แน่นอน ณ ตอนนี้ แต่ตอนนั้นจดไว้ แต่บังเอิญวันที่ 29 เมษาไม่สะดวกไปชำระเลยไปชำระวันที่ 30 เมษาแทน
ประมาณวันที่ 8-12 พฤษภาคม >> สอบถามสถานะบัญชีปรากฎว่ายังไม่ปิด (ก็แหงล่ะจ่ายไม่ตรงวันเค้าหนิ) พร้อมสอบถามยอดปิดบัญชี ณ วันนั้น และไปชำระยอด ณ วันนั้น
วันที่ 27 พฤษภาคม ก็มีใบแจ้งหนี้มาอีก แต่ยอดเงินเป็นแบบว่างเปล่า ก็งงๆ เลยโทรสอบถามทาง Call Center คุยประมาณ 20 นาที ถามไปถามมา เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ลูกค้าปิดยอดไปแล้ว หลังจากนี้ถ้ามีเอกสารส่งไปคือไม่ต้องไปชำระ ระบบต้องส่งเอกสารตามไปทุกๆเดือนตามระบบเท่านั้น เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็มีเอกสารส่งมาเรื่อยๆทุกเดือน ยอดก็เปล่ามาเรื่อยๆจนกระทั้ง . . .
วันที่ 27 มิถุนา 60 ก็มีใบแจ้งหนี้ส่งมา เราก็เปิดดู ปรากฎว่า มียอดคงค้างอยู่ 3000 กว่าบาท จำยอดแน่นอนไม่ได้ เลยโทรไปถาม Call Center เล่าเรื่องให้ฟังอยู่นาน สรุปต้องไปจ่ายเงินเพิ่มอีก 10 กว่าบาท เราก็งง ก็ถามว่ายอดมันเกิดมาจากอะไร เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเรายังไม่ได้ปิดบัญชี เราก็ถามว่าเราแจ้งปิดบัญชีไปแล้ว เค้าก็ถามหาสลิป เราก็แบบ โอเค ปีกว่านะ จะไปหาจากไหน ปกติก็เก็บสลิปไว้นะพวกธุรกรรม การจ่ายเงินต่างๆ อันไหนจ่ายเสร็จยอดเงินอัพเดทถึงจะทิ้ง แต่อันนี้มันนานไปไง บวกกับโทรหา Call center เค้าบอกปิดแล้ว ก็เลยทิ้งไปเลยในวันที่ถาม เราก็เลยถามว่า ถ้าไปจ่ายก้อนนี้จบแล้วนะ ก็ไปจ่ายที่ Jaymart เสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายครั้งละ 15 บาท (นี่เป็นอีกเหตุผลที่อยากปิดกับสถาบันนี้) แถมค่าเดินทางอีก แต่ก็ยังไม่จำ ผ่านไป1 เดือน..
27 กรกฎา มาอีกใบ ก็ยัง 3000 กว่าอยู่ เราก็โทรสอบถาม ประกฎว่าเรายังค้างอยู่อีก 4 บาท 16 สตางค์ เรานี่ขึ้นมาก โทรคุยกับ Call center* ชั่วโมงกว่า เล่าเรื่องทั้งหมด เคลียร์กันนานมาก สุดท้ายเราจ่ายที่ Jaymart สาขาเซ็นทรัลพระราม9 ให้เค้า Fax บัตรประชาชนกับใบเสร็จให้เดี๋ยวนั้นเลย พร้อมกับเก็บตัวจริงไว้แสกนส่งเมลล์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องรอประมาณ 3 วัน ยอดเงินถึงจะอัพเดท เราจ่ายวันที่ 7 เดือน 8 แล้วแสกนไปวันที่ 11 เดือน 8 เจ้าหน้าที่ตอบเมลล์ว่า ได้รับเอกสารแล้ว 16 เดือน8 เราก็ตามเรื่องว่า ตกลงบัญชีเราปิดเรียบร้อยมั้ย เค้าว่ากำลังเวฟค่าทวงถามให้อยู่เพราะเราโดนค่าปรับค่าทวงถาม
100 บาท ซึ่งปกติเราไม่เคยผิดนัดชำระเลยซักครั้ง ถัดมา 27 เดือน 8 มีจดหมายมาอีกพร้อม SMS เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตัวท่านเองกรุณาชำระเงิน... รอบนี้เราก็โทรคุยกับ Call Center* อีกที จากยอด 4 บาท กับค่าทวงถาม 100 บาท ตอนนี้กลายเป็น 199 แล้วจ้าาา
**เจ้าหน้าที่ 2 ท่านหลังที่ดอกจันไว้คือ เราเก็บชื่อเค้าไว้ เผื่อทางทีมหลังบ้านจะเอาไปใช้ตรวจสอบได้
**เจ้าหน้าที่ทวงถามซึ่งเป็น 3rd party ก็ให้คำแนะนำว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้น 3-4 รายแล้วเนื่องจากระบบของ JMart บางรายโชคดี JMart ทำเรื่องปิดบัญชีให้ตรงหน้างานนั้นเลย อยากให้ทาง JMart ออกมารับผิดชอบกรณีนี้ด้วยนะเพื่อเรียกชื่อเสียงกลับมา
แนะนำสินเชื่อน้องใหม่ JMoney จาก Jaymart สมัครง่าย อนุมัติไว แต่...!!!!!
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้บริการซื้อมือถือจากที่นี่กันนะครับ
เริ่มมาจากช่วงปลายๆปี 58 ช่วงที่ iPhone6s เปิดตัวได้ไม่นาน ด้วยขณะนั้นทาง JMart ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีแถวหน้าของประเทศได้เล็งเห็นตลาดด้านการเงินกำลังโตเลยกระโดดเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาดนี้โดยใช้กลยุทธป่าล้อมเมือง ตามสเต็ปผู้เล่นรายใหม่ เน้นตลาดล่าง จับลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตและลูกค้าที่รายได้น้อยเป็นหลัก ช่วงเปิดตัวใหม่ๆจะมีจัดบูทตามงานมือถือต่างๆ ทั้งพวก Commart MobileExpo รวมถึงงานมือถือที่ทางห้างต่างๆจัดเองด้วย
ตัวผมนั้นได้ไปใช้บริการที่งานมือถือของห้าง Fashion Island รามอินทรา สมัครวันนั้น อนุมัติวันนั้นเลย!! โอ้ว เร็วจริง เร็วจัง รับสินค้าตรวจเช็ค ฟรีบัตรสมาชิกและบัตรกำนัลใช้ลดราคาซื้อ Accessory ภายในงานได้ด้วย 1000 บาท (ตอนนั้นจัด Power Bank มาเลย 990 บาท เท่ากับได้ฟรีๆ) พร้อมกับดอกเบี้ยล่อใจมากมาย 1.1% ต่อเดือน ในทุกๆเดือนจะได้รับจดหมายใบแจ้งหนี้ประมาณช่วงวันที่ 26 และต้องชำระภายในวันที่ 2 ของเดือนถัดไป เอาจิงๆตอนนั้นดูผิดคิดว่า 1.1 ต่อปี หลังจากที่เข้าใจถูก ผ่านไปได้ 3 เดือน ก็เลยจะทำการปิดบัญชีกับทาง JMoney และเรื่องทั้งหมดก็ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้จะขออนุญาติแจ้งเป็น Time line ไปนะคับ
29 เมษายน 2559 >> สอบถามยอดปิดบัญชีคร่าวๆประมาณ 24,xxx บาท จำยอดได้ไม่แน่นอน ณ ตอนนี้ แต่ตอนนั้นจดไว้ แต่บังเอิญวันที่ 29 เมษาไม่สะดวกไปชำระเลยไปชำระวันที่ 30 เมษาแทน
ประมาณวันที่ 8-12 พฤษภาคม >> สอบถามสถานะบัญชีปรากฎว่ายังไม่ปิด (ก็แหงล่ะจ่ายไม่ตรงวันเค้าหนิ) พร้อมสอบถามยอดปิดบัญชี ณ วันนั้น และไปชำระยอด ณ วันนั้น
วันที่ 27 พฤษภาคม ก็มีใบแจ้งหนี้มาอีก แต่ยอดเงินเป็นแบบว่างเปล่า ก็งงๆ เลยโทรสอบถามทาง Call Center คุยประมาณ 20 นาที ถามไปถามมา เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ลูกค้าปิดยอดไปแล้ว หลังจากนี้ถ้ามีเอกสารส่งไปคือไม่ต้องไปชำระ ระบบต้องส่งเอกสารตามไปทุกๆเดือนตามระบบเท่านั้น เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็มีเอกสารส่งมาเรื่อยๆทุกเดือน ยอดก็เปล่ามาเรื่อยๆจนกระทั้ง . . .
วันที่ 27 มิถุนา 60 ก็มีใบแจ้งหนี้ส่งมา เราก็เปิดดู ปรากฎว่า มียอดคงค้างอยู่ 3000 กว่าบาท จำยอดแน่นอนไม่ได้ เลยโทรไปถาม Call Center เล่าเรื่องให้ฟังอยู่นาน สรุปต้องไปจ่ายเงินเพิ่มอีก 10 กว่าบาท เราก็งง ก็ถามว่ายอดมันเกิดมาจากอะไร เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเรายังไม่ได้ปิดบัญชี เราก็ถามว่าเราแจ้งปิดบัญชีไปแล้ว เค้าก็ถามหาสลิป เราก็แบบ โอเค ปีกว่านะ จะไปหาจากไหน ปกติก็เก็บสลิปไว้นะพวกธุรกรรม การจ่ายเงินต่างๆ อันไหนจ่ายเสร็จยอดเงินอัพเดทถึงจะทิ้ง แต่อันนี้มันนานไปไง บวกกับโทรหา Call center เค้าบอกปิดแล้ว ก็เลยทิ้งไปเลยในวันที่ถาม เราก็เลยถามว่า ถ้าไปจ่ายก้อนนี้จบแล้วนะ ก็ไปจ่ายที่ Jaymart เสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายครั้งละ 15 บาท (นี่เป็นอีกเหตุผลที่อยากปิดกับสถาบันนี้) แถมค่าเดินทางอีก แต่ก็ยังไม่จำ ผ่านไป1 เดือน..
27 กรกฎา มาอีกใบ ก็ยัง 3000 กว่าอยู่ เราก็โทรสอบถาม ประกฎว่าเรายังค้างอยู่อีก 4 บาท 16 สตางค์ เรานี่ขึ้นมาก โทรคุยกับ Call center* ชั่วโมงกว่า เล่าเรื่องทั้งหมด เคลียร์กันนานมาก สุดท้ายเราจ่ายที่ Jaymart สาขาเซ็นทรัลพระราม9 ให้เค้า Fax บัตรประชาชนกับใบเสร็จให้เดี๋ยวนั้นเลย พร้อมกับเก็บตัวจริงไว้แสกนส่งเมลล์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องรอประมาณ 3 วัน ยอดเงินถึงจะอัพเดท เราจ่ายวันที่ 7 เดือน 8 แล้วแสกนไปวันที่ 11 เดือน 8 เจ้าหน้าที่ตอบเมลล์ว่า ได้รับเอกสารแล้ว 16 เดือน8 เราก็ตามเรื่องว่า ตกลงบัญชีเราปิดเรียบร้อยมั้ย เค้าว่ากำลังเวฟค่าทวงถามให้อยู่เพราะเราโดนค่าปรับค่าทวงถาม
100 บาท ซึ่งปกติเราไม่เคยผิดนัดชำระเลยซักครั้ง ถัดมา 27 เดือน 8 มีจดหมายมาอีกพร้อม SMS เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตัวท่านเองกรุณาชำระเงิน... รอบนี้เราก็โทรคุยกับ Call Center* อีกที จากยอด 4 บาท กับค่าทวงถาม 100 บาท ตอนนี้กลายเป็น 199 แล้วจ้าาา
**เจ้าหน้าที่ 2 ท่านหลังที่ดอกจันไว้คือ เราเก็บชื่อเค้าไว้ เผื่อทางทีมหลังบ้านจะเอาไปใช้ตรวจสอบได้
**เจ้าหน้าที่ทวงถามซึ่งเป็น 3rd party ก็ให้คำแนะนำว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้น 3-4 รายแล้วเนื่องจากระบบของ JMart บางรายโชคดี JMart ทำเรื่องปิดบัญชีให้ตรงหน้างานนั้นเลย อยากให้ทาง JMart ออกมารับผิดชอบกรณีนี้ด้วยนะเพื่อเรียกชื่อเสียงกลับมา