สามีเป็นหนี้บัตรเครดิต มีหมายศาลมาบ้าน 2 ฉบับ จากสินเชื่อส่วนบุคคลฉบับหนึ่ง แล้วก็จากบัตรเครดิตฉบับหนึ่งค่ะ
สามีไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองค่ะ รถเป็นชื่อแม่เรา ส่วนคอนโดซื้อหลังจากแต่งงานแล้ว เป็นชื่อเราเป็นผู้กู้หลัก และแม่เป็นผู้กู้ร่วมค่ะ
ชื่อสามีก็ยังอยู่ในทะเบียนบ้านเดิมเค้าค่ะ
เราก็ลองหาข้อมูลดูมาบ้างว่าจะต้องเตรีมตัวไปศาลอย่างไรบ้าง ต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นให้พ่อ ให้แม่ ค่าเทอมลูก..... แต่มันมีอันนึ่งที่เค้าบอกว่าต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อตัวเอง ซึ่งสามีมีค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อตัวเองแค่ค่าโทรศัพท์ค่ะ 500 กว่าบาทเองค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบจริงๆ มันเยอะกว่านั้นค่ะ
ก็เลยอยากรู้ว่าเมื่อสามีไปศาล นอกจากเอกสารแสดงค่าใช้จ่ายทางฝั่งสามี
- เอาค่าใช้จ่ายครอบครัวที่เป็นชื่อเราไปแจกแจงด้วยได้หรือไม่ค่ะ
- และถ้ามีการยึดทรัพย์มาคอนโดเราจะถูกยึดด้วยหรือไม่ค่ะ (แต่ยังผ่อนไม่หมด)
กลัวคอนโดถูกยึดค่ะ เพราะครอบครัวเราย้ายออกมาอยู่คอนโดกันหมดแล้วค่ะ แต่สามียังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของทางบ้านพ่อแม่อยู่ค่ะ แล้วก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายครอบครัวตัวเองด้วย
อีกอย่างกลัวว่าถ้าสามีแจกแจงแค่ค่าใช้จ่ายทางฝั่งของสามีอย่างเดียว แล้วถ้าเกิดโดนอายัติเงินเดือนขึ้นมาจะโดนอายัติเยอะค่ะ แล้วเงินในครอบครัวก็จะไม่พอใช้ รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะค่ะ
และถ้าจะให้หย่ากันตอนนี้ คิดว่าก็ไม่น่าจะได้ค่ะ เพราะนัดไปศาลเดือนตุลานี้แล้วค่ะ อีกหมายนึงก็นัดเป็นเดือนพฤศจิกาค่ะ หย่าไปมันน่าจะดูเหมือนเป็นการปกปิดทรัพย์สินมากกว่า เราคิดยังงี้ถูกต้องไหมค่ะ
ทีแรกตั้งใจหยุดจ่ายแล้วเก็บเงินจ่ายทีเดียวค่ะ แต่ไม่สามารถจริงๆ พอเก็บปั๊บ ก็ชอบมีค่านู่น ค่านี่ ฉุกเฉินมาให้ได้จ่ายตลอดทุกเดือนเลยค่ะ มันมีปัญหารุ้มเร้าให้ต้องได้ใช้จ่ายเงินออกตลอดเลยค่ะ
สามีตั้งใจว่าจะไปศาลให้มันรู้แล้วรู้รอดไปค่ะ ไม่ขอเลื่อนอะไร แต่ก็กลัวเรื่องเค้าจะอายัติเงินเดือนเยอะ จนเราไม่สามารถหมุนเงินในครอบครัวได้ทัน เดี๋ยวจะอดตายกันพอดีค่ะ
- แล้วในกรณีที่มีธนาคารฟ้องถึง 2 ธนาคารแบบนี้ ถ้าเราตกลงจ่ายกับทางธนาคารแรกไปแล้ว แล้วเราไม่มีเงินจ่ายธนาคารที่ 2 จะทำไงดีค่ะ เค้าจะมายึดคอนโดรึเปล่า.....
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ
สามีเป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารส่งหมายศาลมาแล้ว ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ
สามีไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองค่ะ รถเป็นชื่อแม่เรา ส่วนคอนโดซื้อหลังจากแต่งงานแล้ว เป็นชื่อเราเป็นผู้กู้หลัก และแม่เป็นผู้กู้ร่วมค่ะ
ชื่อสามีก็ยังอยู่ในทะเบียนบ้านเดิมเค้าค่ะ
เราก็ลองหาข้อมูลดูมาบ้างว่าจะต้องเตรีมตัวไปศาลอย่างไรบ้าง ต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นให้พ่อ ให้แม่ ค่าเทอมลูก..... แต่มันมีอันนึ่งที่เค้าบอกว่าต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อตัวเอง ซึ่งสามีมีค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อตัวเองแค่ค่าโทรศัพท์ค่ะ 500 กว่าบาทเองค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบจริงๆ มันเยอะกว่านั้นค่ะ
ก็เลยอยากรู้ว่าเมื่อสามีไปศาล นอกจากเอกสารแสดงค่าใช้จ่ายทางฝั่งสามี
- เอาค่าใช้จ่ายครอบครัวที่เป็นชื่อเราไปแจกแจงด้วยได้หรือไม่ค่ะ
- และถ้ามีการยึดทรัพย์มาคอนโดเราจะถูกยึดด้วยหรือไม่ค่ะ (แต่ยังผ่อนไม่หมด)
กลัวคอนโดถูกยึดค่ะ เพราะครอบครัวเราย้ายออกมาอยู่คอนโดกันหมดแล้วค่ะ แต่สามียังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของทางบ้านพ่อแม่อยู่ค่ะ แล้วก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายครอบครัวตัวเองด้วย
อีกอย่างกลัวว่าถ้าสามีแจกแจงแค่ค่าใช้จ่ายทางฝั่งของสามีอย่างเดียว แล้วถ้าเกิดโดนอายัติเงินเดือนขึ้นมาจะโดนอายัติเยอะค่ะ แล้วเงินในครอบครัวก็จะไม่พอใช้ รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะค่ะ
และถ้าจะให้หย่ากันตอนนี้ คิดว่าก็ไม่น่าจะได้ค่ะ เพราะนัดไปศาลเดือนตุลานี้แล้วค่ะ อีกหมายนึงก็นัดเป็นเดือนพฤศจิกาค่ะ หย่าไปมันน่าจะดูเหมือนเป็นการปกปิดทรัพย์สินมากกว่า เราคิดยังงี้ถูกต้องไหมค่ะ
ทีแรกตั้งใจหยุดจ่ายแล้วเก็บเงินจ่ายทีเดียวค่ะ แต่ไม่สามารถจริงๆ พอเก็บปั๊บ ก็ชอบมีค่านู่น ค่านี่ ฉุกเฉินมาให้ได้จ่ายตลอดทุกเดือนเลยค่ะ มันมีปัญหารุ้มเร้าให้ต้องได้ใช้จ่ายเงินออกตลอดเลยค่ะ
สามีตั้งใจว่าจะไปศาลให้มันรู้แล้วรู้รอดไปค่ะ ไม่ขอเลื่อนอะไร แต่ก็กลัวเรื่องเค้าจะอายัติเงินเดือนเยอะ จนเราไม่สามารถหมุนเงินในครอบครัวได้ทัน เดี๋ยวจะอดตายกันพอดีค่ะ
- แล้วในกรณีที่มีธนาคารฟ้องถึง 2 ธนาคารแบบนี้ ถ้าเราตกลงจ่ายกับทางธนาคารแรกไปแล้ว แล้วเราไม่มีเงินจ่ายธนาคารที่ 2 จะทำไงดีค่ะ เค้าจะมายึดคอนโดรึเปล่า.....
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ