วันนี้เราจะพาไปย้อนอดีตถึงตำนานเกี่ยวกับ เบอโทรแปลกๆ ที่หลายๆคนได้บอกเล่า
กันมาว่า มันคือเบอร์มรณะ หรือเบอแห่งความตาย หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับข่าวนี้กันมาบ้าง หากย้อนไปมื่อประมาณ15 ปีก่อนเห็นจะได้
รับชมคลิปพร้อมวีดีโอและภาพประกอบ
สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆจ้า
อ่านต่อได้เลย
สมัยนั้นมักจะมีคนเขียนข้อความทำนองว่า "อย่ารับเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้เป็นอันขาด เพราะคุณอาจเสียชีวิตได้" จนมีผู้เรียกขานเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ เหล่านั้นว่า เบอร์มรณะ แม้กระทั่งภาพยนตร์เรื่อง 999-9999 ต่อ - ติด - ตาย ก็ยังมีพล็อตกล่าวถึง เบอร์มรณะ เช่นกัน ทำให้หลายคนสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว เบอร์มรณะ มีจริงหรือแกล้งกันเล่นแน่
ตามตำนานเรื่องเล่า เบอโทรมรณะ 999 9999 นั้น ถูกเราต่อๆกันมาว่า หากใครที่โทรไปเบอนี้ สักเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ้งผมเองก้ไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะแหล่งข่าวแต่ละที่ได้ระบุไว้ ไม่ตรงกันทั้งหมด แต่หากโทรไปแล้วมีเสียงปลายทางเป็นเสียงของชายแก่ เชื่อกันว่าจะขออะไรก็ได้ตามปราถณาหนึ่งอย่าง แต่หากว่า เสียงของปลายทางนั้น เป็นเสียงของหญิงแก่ คุณนั้นจะพบกับความรณะ หรือ ไม่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่คุณขอ
อย่างไรก็ตาม ในสมัยนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่ากันอย่างแพร่หลายในวงกว้าง จนถึงขั้น เอาไปทำหนังกันเลยทีเดียว
แต่หลังจากนั้น กระแสของเรื่องเล่าเบอร์โทรมรณะ ก็ค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลา ถึงแม้จะมีผู้คนบางกลุ่ม
ที่ยืนยันว่า เคยประสบพบเจอเหตุการณ์นี้จริงๆ แต่นั้นก็ยังไม่ได้มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด และยังคงทิ้งไว้เป็นปริศนาในใจของกลุ่มคนที่เชื่อเรื่องนี้ ในยุคนั้นเรื่อยมา
จนกระทั้ง ใน ปี พศ 2553 ก็ได้เกิดเรื่องราวหน้าประประหลาดแนวๆนี้ขึ้นอีกครั้ง และเป็นข่าวออกอากาศกันคลึกโครมในช่วงนั้น
กระแสข่าว เบอร์มรณะ กำลังถูกกระพืออีกครั้งผ่านปากต่อปากในหลายจังหวัดของภาคเหนือ โดยมีเสียงโจษจันต่อ ๆ กันมาว่า "ระวัง! ห้ามรับโทรศัพท์เบอร์ แปลกๆ เช่น 083336xxxx , 083336xxxx , 083333xxxx เด็ดขาด เพราะคุณจะจบชีวิตลงแน่นอน" พร้อมกับระบุว่า มีหลายคนที่เสียชีวิตอย่างปริศนาจาก เบอร์มรณะ รับโทรศัพท์แล้วตาย นี่มาแล้ว
นอกจากนี้ ข่าวลือยังระบุอีกว่า เบอร์มรณะ ที่โทรศัพท์เข้ามาจะโชว์เป็นเบอร์สีแดง โดยทุกคนที่ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์สีแดง จะเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีการอ้างว่า หลายจังหวัดในภาคเหนือมีผู้เสียชีวิตจาก เบอร์มรณะ มาหลายคนแล้ว โดยมีอาการแก้วหูแตก เลือดคั่งในสมอง
ทั้งนี้มีรายงานว่า นายปุ๊ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา ในจังหวัดลำปาง ตกเป็นเหยื่อเบอร์โทรศัพท์มรณะจนล้มป่วยนอนซมอยู่ที่ รพ.ห้างฉัตร เมื่อผู้สื่อข่าวรุดไปตรวจสอบ ก็พบว่านายปุ๊อยู่ในชุดคนไข้นอนซมอยู่บนเตียง ภายในตึกผู้ป่วยในห้องผู้ป่วยสามัญชาย
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปาก แต่นายปุ๊ปฏิเสธที่จะเล่าให้ฟังพร้อมมีสีหน้าหวาดผวาเล็กน้อย นายปุ๊จึงได้ให้มารดาเล่าให้ฟังแทน
นางแก้วเปิดเผยว่า ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ขณะนั่งเล่นอยู่ในห้องบนบ้าน เพื่อนคนหนึ่งก็โทรฯ เข้าโทรศัพท์มือถือลูกชาย หลังคุยกันได้ 2-3 นาที ก็วางสายไป คราวนี้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก ลูกชายก็คิดว่าเป็นเพื่อนคนเดิมโทรฯ มา แต่พอรับสายยังไม่ทันพูดอะไรสักคำ ก็มีเสียงคล้ายคนสวดมนต์เป็นภาษาบาลี หรือภาษาอะไรไม่แน่ใจ สำเนียงเนิบ ๆ ช้า ๆ น่าขนลุก พอฟังไป ได้แป๊บเดียวลูกชายก็มีอาการขนลุกวาบตัวชา รุ่มร้อนเหมือนร่างกำลังถูกไฟเผาทั้งเป็น จึงรีบโยนโทรศัพท์มือถือทิ้ง และวิ่งหน้าตาซีดเซียวลงมาหาบิดา พยายามเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่กลับพูดจาไม่ได้ศัพท์ บิดาจับตัวดูเห็นตัวเย็นเฉียบ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และดวงตาลุกวาวเหมือนหวาดกลัวอะไรอย่างหนัก จึงขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่
นายปุ้ได้บอกเพิ่มว่า ตอนที่ได้ยินเสียงสวดมนต์ ก็นึกถึงข่าวลือเรื่องเบอร์โทรฯ มรณะขึ้นมาทันที ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อนคนเดิมโทรฯ มาแกล้ง แต่พอโทรฯ สวนกลับไป ปรากฏว่าไม่ใช่และไม่มีคนรับสายด้วย พร้อมกันนี้นายปุ๊ได้บอกเบอร์โทรศัพท์ฯ ดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วย
"จากการตรวจสอบเลขหมายที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่า เป็นเลขหมายระบบเติมเงินในเครือข่ายเอไอเอส 3 เลขหมายและรายเดือน 1 เลขหมาย แต่ทั้ง 4 หมายเลขมีผู้ใช้บริการอยู่
ด้านนางสาวเมย์ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นชาวไทยใหญ่ บ้านอยู่ ต.
อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนมาทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่ และเมื่อไม่นานมานี้แม่ซึ่งอยู่บ้านที่ อ.ฝาง ได้ลงจากดอยและโทรศัพท์มาบอกว่า หากมีเบอร์แปลก ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยเลขตองตั้งแต่ 000-999 อย่ารับสายเด็ดขาด ถ้ารับแล้วจะตาย ตอนนี้กลุ่มไทยใหญ่ก็ตายไปแล้วหลายคน ซึ่งตนได้จดเบอร์แปลกต่าง ๆ ที่แม่บอกไว้ใส่ติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา และตอนนี้รู้สึกกลัว ไม่กล้ารับโทรศัพท์มือถืออีกเลย หากไม่ใช่เบอร์ที่คุ้นเคย หรือเบอร์ที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ เพราะกลัวว่าจะตายจริง ๆ
"ตอนนี้ในกลุ่มไทยใหญ่ร่ำลือกันว่าเป็นเรื่องลี้ลับ อาจจะเป็นเบอร์ของคนตายที่ตายด้วยอุบัติเหตุ หรือตายโหง พอรับปุ๊บก็จะมีลักษณะคล้ายโดนไฟฟ้าช็อต หรือมีคลื่นความถี่บางอย่างเข้ามาที่หูอย่างแรง ทำให้แก้วหูแตกถึงขั้นหมดสติ และเลือดคั่งในสมองจนตาย"
ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ลำปาง รายงานว่า ขณะนี้หลายอำเภอทั่วทั้ง จ.ลำปาง มีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามีคนเสียชีวิตหลายราย หลังจากรับโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง เบอร์มรณะ โทรฯ เข้ามา โดยเฉพาะ บ้านไร่ หมู่ 4 ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง มีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 3 รายนั้นผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปที่นายชำนาญ เลียบโลก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง ระบุว่า ข่าวที่มีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่จากการสำรวจพบว่าชาวบ้านเกิดความกลัว และมีความเชื่อในเรื่องเบอร์มรณะจริง
"ข่าวลือเบอร์โทรศัพท์อันตรายนี้ ถือว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่เมื่อมีข่าวลือมาจะไปบังคับให้แต่ละคนไม่ให้เชื่อก็เป็นไปไม่ได้ แต่ควรใช้วิจารณญาณด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ามีข่าวลือจริง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้ลองโทรศัพท์ไปยัง เบอร์มรณะ ทั้ง 3 หมายเลข พบ ว่าหมายเลข 087-576XXXX มีผู้รับสายเป็นชาย แต่พูดสำเนียงภาษาไทยไม่ชัด โดยบอกว่าอยู่ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ แต่เมื่อสอบถามถึงกระแสข่าวลือดังกล่าว เจ้าของโทรศัพท์ได้ปิดโทรศัพท์ทันที และจากนั้นไม่ยอมรับโทรศัพท์อีกเลย ส่วนอีก 2 หมายเลขพบว่าเป็นหมายเลขที่ไม่มีในระบบของโทรศัพท์
ส่วนอีก 2 เบอร์ คือ 08-3336-6XXX และ เบอร์ 0-83-3336XXX นั้น เมื่อลองกดไปปลายสายจะเงียบไปราว 1-3 วินาที หลังจากนั้นก็เป็นเสียง "กรุณาฝากหมายเลขโทรกลับ" สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่โทรไปเป็นอย่างมาก แต่บางจังหวะของเบอร์ทั้ง 2 ที่ว่ากลับเป็นสัญญาณสายไม่ว่าง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายธนา เธียรอัจฉริยะ "ตั้งแต่ผมทำงานมาผมเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งความจริงนั้นเป็นไปไม่ได้ ผมเคยเห็นแต่ในหนังหรือ หนังสือการ์ตูน
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวเล่านี้ ชาวบ้านบางส่วนยังคงเชื่อและลือเรื่องนี้ออกไปในวงกว้าง และยังคงมีข่าวลือการตาย จากสายมรณะนี้อีกด้วย ถึงแม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์หรือหลักฐานชัดเจน แต่กลุ่มคนที่ทำงานด้านนี้ต่างก็บอกกันว่า การที่จะส่งคลื่นความถี่หรือไวรัส อะไรก็ตามผ่านทางคลื่นโทรสับ จนทำให้คนแก้วหูแตก จนถึงเสียชีวิจนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
กระนั้นเอง เรื่องราวเล่านี้ซึ้งเคยเป็นข่าวอยู่ก็จริง แต่ก็ยังคงมีบางประเด็น ที่ยังคงทิ้งปมเป็นปริศนา จนเป็นเรื่องเล่ากันปากต่อ หรือ บนอินเทอเน็ต เรื่อย มา
ติดตามพวกเราได้ที่
https://www.facebook.com/whymanradio/
https://www.youtube.com/channel/UCUIMDl5cY-tynJIlP9cpR7A/videos
ต่อ-ติด-ตาย!! ตำนานสายมรณะ เคยมีข่าวจริง ที่มาของหนัง 999-9999 และเบอร์แห่งความตาย!!
กันมาว่า มันคือเบอร์มรณะ หรือเบอแห่งความตาย หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับข่าวนี้กันมาบ้าง หากย้อนไปมื่อประมาณ15 ปีก่อนเห็นจะได้
รับชมคลิปพร้อมวีดีโอและภาพประกอบ
สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆจ้า
อ่านต่อได้เลย
สมัยนั้นมักจะมีคนเขียนข้อความทำนองว่า "อย่ารับเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้เป็นอันขาด เพราะคุณอาจเสียชีวิตได้" จนมีผู้เรียกขานเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ เหล่านั้นว่า เบอร์มรณะ แม้กระทั่งภาพยนตร์เรื่อง 999-9999 ต่อ - ติด - ตาย ก็ยังมีพล็อตกล่าวถึง เบอร์มรณะ เช่นกัน ทำให้หลายคนสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว เบอร์มรณะ มีจริงหรือแกล้งกันเล่นแน่
ตามตำนานเรื่องเล่า เบอโทรมรณะ 999 9999 นั้น ถูกเราต่อๆกันมาว่า หากใครที่โทรไปเบอนี้ สักเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ้งผมเองก้ไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะแหล่งข่าวแต่ละที่ได้ระบุไว้ ไม่ตรงกันทั้งหมด แต่หากโทรไปแล้วมีเสียงปลายทางเป็นเสียงของชายแก่ เชื่อกันว่าจะขออะไรก็ได้ตามปราถณาหนึ่งอย่าง แต่หากว่า เสียงของปลายทางนั้น เป็นเสียงของหญิงแก่ คุณนั้นจะพบกับความรณะ หรือ ไม่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่คุณขอ
อย่างไรก็ตาม ในสมัยนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่ากันอย่างแพร่หลายในวงกว้าง จนถึงขั้น เอาไปทำหนังกันเลยทีเดียว
แต่หลังจากนั้น กระแสของเรื่องเล่าเบอร์โทรมรณะ ก็ค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลา ถึงแม้จะมีผู้คนบางกลุ่ม
ที่ยืนยันว่า เคยประสบพบเจอเหตุการณ์นี้จริงๆ แต่นั้นก็ยังไม่ได้มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด และยังคงทิ้งไว้เป็นปริศนาในใจของกลุ่มคนที่เชื่อเรื่องนี้ ในยุคนั้นเรื่อยมา
จนกระทั้ง ใน ปี พศ 2553 ก็ได้เกิดเรื่องราวหน้าประประหลาดแนวๆนี้ขึ้นอีกครั้ง และเป็นข่าวออกอากาศกันคลึกโครมในช่วงนั้น
กระแสข่าว เบอร์มรณะ กำลังถูกกระพืออีกครั้งผ่านปากต่อปากในหลายจังหวัดของภาคเหนือ โดยมีเสียงโจษจันต่อ ๆ กันมาว่า "ระวัง! ห้ามรับโทรศัพท์เบอร์ แปลกๆ เช่น 083336xxxx , 083336xxxx , 083333xxxx เด็ดขาด เพราะคุณจะจบชีวิตลงแน่นอน" พร้อมกับระบุว่า มีหลายคนที่เสียชีวิตอย่างปริศนาจาก เบอร์มรณะ รับโทรศัพท์แล้วตาย นี่มาแล้ว
นอกจากนี้ ข่าวลือยังระบุอีกว่า เบอร์มรณะ ที่โทรศัพท์เข้ามาจะโชว์เป็นเบอร์สีแดง โดยทุกคนที่ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์สีแดง จะเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีการอ้างว่า หลายจังหวัดในภาคเหนือมีผู้เสียชีวิตจาก เบอร์มรณะ มาหลายคนแล้ว โดยมีอาการแก้วหูแตก เลือดคั่งในสมอง
ทั้งนี้มีรายงานว่า นายปุ๊ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา ในจังหวัดลำปาง ตกเป็นเหยื่อเบอร์โทรศัพท์มรณะจนล้มป่วยนอนซมอยู่ที่ รพ.ห้างฉัตร เมื่อผู้สื่อข่าวรุดไปตรวจสอบ ก็พบว่านายปุ๊อยู่ในชุดคนไข้นอนซมอยู่บนเตียง ภายในตึกผู้ป่วยในห้องผู้ป่วยสามัญชาย
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปาก แต่นายปุ๊ปฏิเสธที่จะเล่าให้ฟังพร้อมมีสีหน้าหวาดผวาเล็กน้อย นายปุ๊จึงได้ให้มารดาเล่าให้ฟังแทน
นางแก้วเปิดเผยว่า ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ขณะนั่งเล่นอยู่ในห้องบนบ้าน เพื่อนคนหนึ่งก็โทรฯ เข้าโทรศัพท์มือถือลูกชาย หลังคุยกันได้ 2-3 นาที ก็วางสายไป คราวนี้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก ลูกชายก็คิดว่าเป็นเพื่อนคนเดิมโทรฯ มา แต่พอรับสายยังไม่ทันพูดอะไรสักคำ ก็มีเสียงคล้ายคนสวดมนต์เป็นภาษาบาลี หรือภาษาอะไรไม่แน่ใจ สำเนียงเนิบ ๆ ช้า ๆ น่าขนลุก พอฟังไป ได้แป๊บเดียวลูกชายก็มีอาการขนลุกวาบตัวชา รุ่มร้อนเหมือนร่างกำลังถูกไฟเผาทั้งเป็น จึงรีบโยนโทรศัพท์มือถือทิ้ง และวิ่งหน้าตาซีดเซียวลงมาหาบิดา พยายามเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่กลับพูดจาไม่ได้ศัพท์ บิดาจับตัวดูเห็นตัวเย็นเฉียบ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และดวงตาลุกวาวเหมือนหวาดกลัวอะไรอย่างหนัก จึงขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่
นายปุ้ได้บอกเพิ่มว่า ตอนที่ได้ยินเสียงสวดมนต์ ก็นึกถึงข่าวลือเรื่องเบอร์โทรฯ มรณะขึ้นมาทันที ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อนคนเดิมโทรฯ มาแกล้ง แต่พอโทรฯ สวนกลับไป ปรากฏว่าไม่ใช่และไม่มีคนรับสายด้วย พร้อมกันนี้นายปุ๊ได้บอกเบอร์โทรศัพท์ฯ ดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วย
"จากการตรวจสอบเลขหมายที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่า เป็นเลขหมายระบบเติมเงินในเครือข่ายเอไอเอส 3 เลขหมายและรายเดือน 1 เลขหมาย แต่ทั้ง 4 หมายเลขมีผู้ใช้บริการอยู่
ด้านนางสาวเมย์ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นชาวไทยใหญ่ บ้านอยู่ ต.อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนมาทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่ และเมื่อไม่นานมานี้แม่ซึ่งอยู่บ้านที่ อ.ฝาง ได้ลงจากดอยและโทรศัพท์มาบอกว่า หากมีเบอร์แปลก ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยเลขตองตั้งแต่ 000-999 อย่ารับสายเด็ดขาด ถ้ารับแล้วจะตาย ตอนนี้กลุ่มไทยใหญ่ก็ตายไปแล้วหลายคน ซึ่งตนได้จดเบอร์แปลกต่าง ๆ ที่แม่บอกไว้ใส่ติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา และตอนนี้รู้สึกกลัว ไม่กล้ารับโทรศัพท์มือถืออีกเลย หากไม่ใช่เบอร์ที่คุ้นเคย หรือเบอร์ที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ เพราะกลัวว่าจะตายจริง ๆ
"ตอนนี้ในกลุ่มไทยใหญ่ร่ำลือกันว่าเป็นเรื่องลี้ลับ อาจจะเป็นเบอร์ของคนตายที่ตายด้วยอุบัติเหตุ หรือตายโหง พอรับปุ๊บก็จะมีลักษณะคล้ายโดนไฟฟ้าช็อต หรือมีคลื่นความถี่บางอย่างเข้ามาที่หูอย่างแรง ทำให้แก้วหูแตกถึงขั้นหมดสติ และเลือดคั่งในสมองจนตาย"
ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ลำปาง รายงานว่า ขณะนี้หลายอำเภอทั่วทั้ง จ.ลำปาง มีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามีคนเสียชีวิตหลายราย หลังจากรับโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง เบอร์มรณะ โทรฯ เข้ามา โดยเฉพาะ บ้านไร่ หมู่ 4 ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง มีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 3 รายนั้นผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปที่นายชำนาญ เลียบโลก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง ระบุว่า ข่าวที่มีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่จากการสำรวจพบว่าชาวบ้านเกิดความกลัว และมีความเชื่อในเรื่องเบอร์มรณะจริง
"ข่าวลือเบอร์โทรศัพท์อันตรายนี้ ถือว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่เมื่อมีข่าวลือมาจะไปบังคับให้แต่ละคนไม่ให้เชื่อก็เป็นไปไม่ได้ แต่ควรใช้วิจารณญาณด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ามีข่าวลือจริง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้ลองโทรศัพท์ไปยัง เบอร์มรณะ ทั้ง 3 หมายเลข พบ ว่าหมายเลข 087-576XXXX มีผู้รับสายเป็นชาย แต่พูดสำเนียงภาษาไทยไม่ชัด โดยบอกว่าอยู่ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ แต่เมื่อสอบถามถึงกระแสข่าวลือดังกล่าว เจ้าของโทรศัพท์ได้ปิดโทรศัพท์ทันที และจากนั้นไม่ยอมรับโทรศัพท์อีกเลย ส่วนอีก 2 หมายเลขพบว่าเป็นหมายเลขที่ไม่มีในระบบของโทรศัพท์
ส่วนอีก 2 เบอร์ คือ 08-3336-6XXX และ เบอร์ 0-83-3336XXX นั้น เมื่อลองกดไปปลายสายจะเงียบไปราว 1-3 วินาที หลังจากนั้นก็เป็นเสียง "กรุณาฝากหมายเลขโทรกลับ" สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่โทรไปเป็นอย่างมาก แต่บางจังหวะของเบอร์ทั้ง 2 ที่ว่ากลับเป็นสัญญาณสายไม่ว่าง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายธนา เธียรอัจฉริยะ "ตั้งแต่ผมทำงานมาผมเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งความจริงนั้นเป็นไปไม่ได้ ผมเคยเห็นแต่ในหนังหรือ หนังสือการ์ตูน
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวเล่านี้ ชาวบ้านบางส่วนยังคงเชื่อและลือเรื่องนี้ออกไปในวงกว้าง และยังคงมีข่าวลือการตาย จากสายมรณะนี้อีกด้วย ถึงแม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์หรือหลักฐานชัดเจน แต่กลุ่มคนที่ทำงานด้านนี้ต่างก็บอกกันว่า การที่จะส่งคลื่นความถี่หรือไวรัส อะไรก็ตามผ่านทางคลื่นโทรสับ จนทำให้คนแก้วหูแตก จนถึงเสียชีวิจนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
กระนั้นเอง เรื่องราวเล่านี้ซึ้งเคยเป็นข่าวอยู่ก็จริง แต่ก็ยังคงมีบางประเด็น ที่ยังคงทิ้งปมเป็นปริศนา จนเป็นเรื่องเล่ากันปากต่อ หรือ บนอินเทอเน็ต เรื่อย มา
ติดตามพวกเราได้ที่
https://www.facebook.com/whymanradio/
https://www.youtube.com/channel/UCUIMDl5cY-tynJIlP9cpR7A/videos