สวัสดีค่ะ ตามหัวข้อเลยนะคะ
เนื่องจากเดี๋ยวนี้จขกท.ไม่ค่อยได้ขึ้นรถแท็กซี่ถี่ๆซักเท่าไหร่
เพราะมีรถส่วนตัว และมีรถไฟฟ้าอะไรๆก็สะดวกและประหยัดขึ้นบ้าง
แต่ช่วงสองครั้งล่าสุดที่ใช้บริการรถแท็กซี่
ทั้งสองคันทอนเงินให้จขกท. ไม่ครบทั้งสองคัน

ครั้งแรก
จากบางบัวทอง ไป ติวานนท์
ค่ารถ 187 บาท ให้ไป 200 บาท ได้คืนมาแค่ 10 บาท

ครั้งล่าสุดเมื่อคืน
เป็นวันเกิดแฟน จะออกไปสังสรรค์ เราทั้งคู่ ตั้งใจที่จะดื่ม เลยไม่เอารถไป
ขาไปก็ไปรถไฟฟ้า ขากลับก็ต้องพึ่งพี่ๆแท็กซี่
เราเรียกรถจากบริเวณ บางซ่อน กลับไป บางบัวทอง
พอถึงบ้านเราก็ไม่ได้สนใจอะไร ขอบคุณพี่คนขับ แล้วลงไปเปิดบ้าน ทิ้งแฟนให้จัดการเรื่องค่าใช้จ่าย
พอแฟนเข้ามาในบ้านก็บ่นใหญ่ และเล่าให้ฟังว่า จ่ายให้ไปแบงค์ 500 (ถามก่อนขึ้นแล้วว่ามีเงินทอนไหมครับ)
เงินทอนที่ได้มา ได้ไม่ครบ ขาดไป 7 บาท
เลยพูดออกไปว่า "ไม่มีเศษเลยหรอครับ" คนขับจึงหยิบเหรียญ 5 มาให้ แค่นั้น
แฟนก็เลยคิดว่า คงไม่ท้วงติงอะไรละ ช่างมัน

รถทั้งสองคันเราสังเกตเห็นว่ามีเศษเหรียญทอนเงินทั้งคู่ แต่เค้าเลือกที่จะไม่ทอนให้ครบเต็มจำนวน

เมื่อก่อนเราคิดเสมอถ้าขาดไปบาทเดียวเราก็โอเค ไม่เคยนั่งรอเงินทอน
และมักจะพยายามเตรียมเงินให้พอดีเสมอก่อนจะถึงที่หมาย
แต่หลังจากทำงานหาเงินเอง และช่วงนี้หาเงินลำบากขึ้น
ส่วนตัว เงิน 3 บาท หรือ 7 บาท อาจจะไม่ใช่เงินอะไรมากมาย แต่ก็เงินก็คือเงิน
เวลาไปซื้อของบางที่ขาดไป 1 บาท เราก็ไม่ได้ของแล้ว
จขกท.รู้สึกว่า นี่เหมือนเป็นการไม่ซื่อสัตย์ มากกว่าการหยวนๆกัน
จากนิสัยคนไทยสวนใหญ่ บางคนอาจจะปากหนัก อายไม่กล้าติง เหมือนจขกท.เอง
แต่ถ้าหากยังไม่คิดจะแก้ไข อาจจะทำให้เป็นนิสัยการเอาเปรียบผู้บริโภคอีกรูปแบบ

สำหรับเรื่องนี้เพื่อนคิดกันว่าอย่างไรบ้างคะ?