กระทู้นี้ ขออุทิศแด่
นพ.รัฐภูมิ
ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจงไปสู่ภพภูมิที่ดี
#วันนี้ในอดีต
กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ที่ทุกวันหลังเที่ยงคืน ผมจะต้องเลื่อนไปดูโพสที่เกิดขึ้นในอดีต
จนมาถึง วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
" 10 กันยายน 2555 "
มีโพสๆหนึ่ง พอได้อ่านแล้วก็สะดุดใจ เพราะมันบ่งชี้ถึงภาวะซึมเศร้าได้ชัดเจนมาก ตั้งแต่ประโยคแรก จนถึงประโยคสุดท้าย
ซึ่งก็คือโพสนี้
จากการนั่งดูโพสเก่าๆ มาหลายวันติดกัน ผมก็สังเกตว่า ตัวผมเองเริ่มโพสแบบนี้มาได้สักพักแล้ว
มีบ่นตัดพ้อชีวิตบ้าง... รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวก็มี... บางทีก็นอนไม่หลับ... หรือกลับกันก็อยากนอนแล้วไม่ตื่น...
วันดีคืนดีก็ไม่อยากนอน เพราะกลัวว่านอนหลับไปแล้ว จะไม่มีพรุ่งนี้สำหรับเราอีกต่อไป....
ทุกๆคืนจะนอนหลับยากมาก เวลาเข้านอนก็จะพลิกตัวไปมา บางคืนสามชั่วโมงก็ยังไม่หลับ
แต่ถ้าได้นอนหลับไปแล้ว ก็นอนนานมากๆ หลับได้ตลอดทั้งวันเลย
แล้วก็เริ่มเก็บตัวมากขึ้น จนสุดท้ายก็ไม่ยอมออกห้องไปไหนเลย
นอกจากจะออกไปซื้อข้าว ซึ่งก็กินอะไรไม่ค่อยลงอยู่ดี และก็ไม่ค่อยหิวด้วย
....นั่นคืออาการทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ส่วนสาเหตุ .... ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ตอนนั้น ผมเรียนอยู่วิศวฯ ปี 4 ปีสุดท้าย ทั้งเรียน ทั้งการบ้าน ทั้งโปรเจคจบ ไหนจะกิจกรรมนั่นนู่นนี่
สิ่งเหล่านี้คงเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ
ตอนนั้นก็เหมือนผมก็จะเริ่มรู้สึกตัวบ้างแล้วล่ะ ว่าตัวเรามีอาการแปลกๆไปจากเดิม ก็เลยลองเข้าเว็บกรมสุขภาพจิต
ทำแบบทดสอบ...
- แบบประเมินความเครียด .... ท่านมีความเครียดสูง
- แบบคัดกรองภาวะซึมเศร้า .... ท่านมีภาวะซึมเศร้า
อาาาาาาา~ ได้เรทสูงสุดทุกหมวดเลยเรา... อ้อ ยกเว้นอันนึงสิ
- แบบสัมภาษณ์ดัชนี้ชี้วัดสุขภาพจิตคนไทย.... ผลที่ได้ ท่านมีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไป
555555555555555
ผมก็ Capture ผลประเมินแต่ละอันลงหน้าเฟส... ก็ไม่มีอะไร เพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็มา comment มาแซวเรื่อยเปื่อยไป
เพราะในตอนนั้น ในยุคสมัยที่โรคซึมเศร้า ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
คนส่วนใหญ่จึงมีความเชื่อผิดๆ มองว่าภาวะซึมเศร้าไม่ใช่โรคแต่อย่างใด
เป็นแค่เพียงการเรียกร้องความสนใจ หรือแค่หาข้ออ้างหนีปัญหาอะไรสักอย่าง เท่านั้นเอง...
และโชคดีที่มีอาจารย์ A มาเห็นผลประเมินที่มีความผิดปกติของผม แกก็มาแนะนำว่าต้องไปหาหมอนะ บลาๆๆๆ
ผมก็คิดว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวก็คงหายเอง ส่วนหนึ่งเพราะไม่ชอบไปโรงพยาบาลด้วย ก็เลยเฉยๆไป
จนในที่สุด มีอยู่วันหนึ่ง อาจารย์ B ฝากเพื่อนมาบอกว่า "ขาดเรียนไปหลายคาบแล้ว ถ้าไม่เข้าเรียนอีก จะปรับตกวิชานี้"
ทั้งๆที่ไม่อยากออกห้องไปไหน แต่ก็จำใจต้องไปเรียน พอไปเรียน ก็ไปนั่งอยู่มุมมืดหลังห้อง กับเพื่อนๆในกลุ่ม
สักพัก น้ำตาก็ไหล เริ่มร้องไห้เงียบๆ เพื่อนๆ ก็ตกใจ ว่าเราเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆถึงร้องไห้
ผมก็บอกแค่ว่า "กรูอยากกลับห้อง" ....
ปลอบกันอยู่สักพัก สุดท้ายก็ไม่ไหว ก็เดินออกจากห้องเรียนไป
พอออกห้องมา ก็เจออาจารย์ A พอดี น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลมาจากไหนไม่รู้
บอกอาจารย์ไปว่า "อาจารย์ผมอยากกลับห้อง พาผมกลับที" แล้วก็ปล่อยโฮออกมา
อาจารย์ A แกก็พาไปหาอาจารย์ B ที่สอนอยู่ แกขอให้ผมลาอีกคาบ เพราะผมไม่สบาย จะให้ผลไปหาหมอ แล้วเอาใบรับรองแพทย์มายืนยันอีกที
แล้วแกให้ผมกลับห้อง และบอกกับผมว่า "อาจารย์รู้ดี เพราะอาจารย์ก็เคยเป็นมาก่อน"
และ "เธอต้องไปหาหมอแล้วนะ เดี๋ยวอาจารย์ไปเป็นเพื่อน"
หลังจากนั้นสองวัน อาจารย์แกก็ฉุดกระชากลากถูผมไปพบจิตแพทย์จนได้
ผมไปหาหมออยู่ 5 เดือนเต็มๆ
นัดครั้งแรก อีก 1 อาทิตย์ถัดไป เพื่อดูผลข้างเคียงของยา หากไม่ไหวจะได้ปรับยา ปรับโดสก็ว่ากันไป
นัดครั้งที่สอง หลังจากนัดครั้งแรก 2 อาทิตย์ เพื่อติดตามผลการรักษา และรับยาเพิ่ม
นัดครั้งต่อๆไป ให้มาพบหมอทุกๆ 1 เดือน เพื่อติดตามผลการรักษา และรับยาเพิ่ม
ทุกครั้งจะได้ยามากินห่อใหญ่ พร้อมกับยานอนหลับ ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 30 เม็ด
แต่ผมใช้ยานอนหลับแค่ช่วงแรกๆของการรักษา หลังจากนั้นก็พยายามจะไม่ใช้ยานอนหลับ
ก่อนจะนอน ผมจะใช้วิธีฟังพวก Relaxing music ที่เป็นเสียงคลื่นทะเลบ้าง เสียงนก เสียงธรรมชาติ อะไรพวกนี้
Subscribe ใน Youtube ไว้หลายช่องเลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังเปิดฟังอยู่ ฟังแล้วมันรู้สึกผ่อนคลายดี
หลังจากรักษาด้วยยาประมาณสองอาทิตย์ อาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆครับ
เริ่มออกไปข้างนอกได้บ้าง เริ่มไปเรียนได้ (เกือบเรียนไม่จบพร้อมเพื่อนๆ)
แต่นัดเดือนที่ 6 ผมเบี้ยว เพราะอาการก็ดีขึ้นมากแล้ว รวมถึงช่วงนั้นกำลังปั่นโปรเจคโค้งสุดท้ายด้วย
จึงไม่ได้ไปหาหมอตามนัด 55555 อันนี้ไม่แนะนำให้ทำครับ ควรจะต้องไปหาหมอ จนกว่าหมอจะพิจารณาให้หยุดยา หยุดการรักษา
จึงจะถือว่าหายเป็นปกติจริงๆ
และแล้วผมก็มีชีวิตรอดจากโรคซึมเศร้า มาป่วนโลกจนถึงทุกวันนี้ 55555555555555555555555555
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ทราบข่าวร้ายว่า จิตแพทย์ท่านที่รักษาผมให้หายจากโรคซึมเศร้า
ได้จากโลกนี้ไปด้วยการผูกคอฆ่าตัวตาย
ในเนื้อข่าวลงไว้ว่า เพราะรับไม่ได้ที่พี่สาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว พี่สาวที่คอยดูแลหลังจากที่แม่เสียชีวิตไป เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต
หลายๆคนด่าหมอ ว่าเป็นจิตแพทย์ แต่ทำไมฆ่าตัวตายเสียเอง
จริงๆ เราควรทำความเข้าใจว่า หมอก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ
มีรัก โลภ โกรธ หลง มีเหนื่อย มีท้อแท้ มีอารมณ์เหมือนเราทุกๆอย่าง
เราไม่รู้หรอกครับ ว่า ณ ขณะนั้นเจ้าตัวสภาพจิตใจเขาเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร จนตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป
สุดท้ายนี้ ผมขออุทิศบุญกุศลที่มีอยู่ให้แก่หมอ
ขอให้หมอไปสู่สุขตินะครับ
ขอขอบคุณทุกคนมากครับที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณมากครับ
โรคซึมเศร้า...เราก็เคยเป็น (มาแบ่งปันประสบการณ์ครับ)
นพ.รัฐภูมิ
ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจงไปสู่ภพภูมิที่ดี
#วันนี้ในอดีต
กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ที่ทุกวันหลังเที่ยงคืน ผมจะต้องเลื่อนไปดูโพสที่เกิดขึ้นในอดีต
จนมาถึง วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
" 10 กันยายน 2555 "
มีโพสๆหนึ่ง พอได้อ่านแล้วก็สะดุดใจ เพราะมันบ่งชี้ถึงภาวะซึมเศร้าได้ชัดเจนมาก ตั้งแต่ประโยคแรก จนถึงประโยคสุดท้าย
ซึ่งก็คือโพสนี้
จากการนั่งดูโพสเก่าๆ มาหลายวันติดกัน ผมก็สังเกตว่า ตัวผมเองเริ่มโพสแบบนี้มาได้สักพักแล้ว
มีบ่นตัดพ้อชีวิตบ้าง... รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวก็มี... บางทีก็นอนไม่หลับ... หรือกลับกันก็อยากนอนแล้วไม่ตื่น...
วันดีคืนดีก็ไม่อยากนอน เพราะกลัวว่านอนหลับไปแล้ว จะไม่มีพรุ่งนี้สำหรับเราอีกต่อไป....
ทุกๆคืนจะนอนหลับยากมาก เวลาเข้านอนก็จะพลิกตัวไปมา บางคืนสามชั่วโมงก็ยังไม่หลับ
แต่ถ้าได้นอนหลับไปแล้ว ก็นอนนานมากๆ หลับได้ตลอดทั้งวันเลย
แล้วก็เริ่มเก็บตัวมากขึ้น จนสุดท้ายก็ไม่ยอมออกห้องไปไหนเลย
นอกจากจะออกไปซื้อข้าว ซึ่งก็กินอะไรไม่ค่อยลงอยู่ดี และก็ไม่ค่อยหิวด้วย
....นั่นคืออาการทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ส่วนสาเหตุ .... ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ตอนนั้น ผมเรียนอยู่วิศวฯ ปี 4 ปีสุดท้าย ทั้งเรียน ทั้งการบ้าน ทั้งโปรเจคจบ ไหนจะกิจกรรมนั่นนู่นนี่
สิ่งเหล่านี้คงเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ
ตอนนั้นก็เหมือนผมก็จะเริ่มรู้สึกตัวบ้างแล้วล่ะ ว่าตัวเรามีอาการแปลกๆไปจากเดิม ก็เลยลองเข้าเว็บกรมสุขภาพจิต
ทำแบบทดสอบ...
- แบบประเมินความเครียด .... ท่านมีความเครียดสูง
- แบบคัดกรองภาวะซึมเศร้า .... ท่านมีภาวะซึมเศร้า
อาาาาาาา~ ได้เรทสูงสุดทุกหมวดเลยเรา... อ้อ ยกเว้นอันนึงสิ
- แบบสัมภาษณ์ดัชนี้ชี้วัดสุขภาพจิตคนไทย.... ผลที่ได้ ท่านมีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไป
555555555555555
ผมก็ Capture ผลประเมินแต่ละอันลงหน้าเฟส... ก็ไม่มีอะไร เพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็มา comment มาแซวเรื่อยเปื่อยไป
เพราะในตอนนั้น ในยุคสมัยที่โรคซึมเศร้า ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
คนส่วนใหญ่จึงมีความเชื่อผิดๆ มองว่าภาวะซึมเศร้าไม่ใช่โรคแต่อย่างใด
เป็นแค่เพียงการเรียกร้องความสนใจ หรือแค่หาข้ออ้างหนีปัญหาอะไรสักอย่าง เท่านั้นเอง...
และโชคดีที่มีอาจารย์ A มาเห็นผลประเมินที่มีความผิดปกติของผม แกก็มาแนะนำว่าต้องไปหาหมอนะ บลาๆๆๆ
ผมก็คิดว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวก็คงหายเอง ส่วนหนึ่งเพราะไม่ชอบไปโรงพยาบาลด้วย ก็เลยเฉยๆไป
จนในที่สุด มีอยู่วันหนึ่ง อาจารย์ B ฝากเพื่อนมาบอกว่า "ขาดเรียนไปหลายคาบแล้ว ถ้าไม่เข้าเรียนอีก จะปรับตกวิชานี้"
ทั้งๆที่ไม่อยากออกห้องไปไหน แต่ก็จำใจต้องไปเรียน พอไปเรียน ก็ไปนั่งอยู่มุมมืดหลังห้อง กับเพื่อนๆในกลุ่ม
สักพัก น้ำตาก็ไหล เริ่มร้องไห้เงียบๆ เพื่อนๆ ก็ตกใจ ว่าเราเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆถึงร้องไห้
ผมก็บอกแค่ว่า "กรูอยากกลับห้อง" ....
ปลอบกันอยู่สักพัก สุดท้ายก็ไม่ไหว ก็เดินออกจากห้องเรียนไป
พอออกห้องมา ก็เจออาจารย์ A พอดี น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลมาจากไหนไม่รู้
บอกอาจารย์ไปว่า "อาจารย์ผมอยากกลับห้อง พาผมกลับที" แล้วก็ปล่อยโฮออกมา
อาจารย์ A แกก็พาไปหาอาจารย์ B ที่สอนอยู่ แกขอให้ผมลาอีกคาบ เพราะผมไม่สบาย จะให้ผลไปหาหมอ แล้วเอาใบรับรองแพทย์มายืนยันอีกที
แล้วแกให้ผมกลับห้อง และบอกกับผมว่า "อาจารย์รู้ดี เพราะอาจารย์ก็เคยเป็นมาก่อน"
และ "เธอต้องไปหาหมอแล้วนะ เดี๋ยวอาจารย์ไปเป็นเพื่อน"
หลังจากนั้นสองวัน อาจารย์แกก็ฉุดกระชากลากถูผมไปพบจิตแพทย์จนได้
ผมไปหาหมออยู่ 5 เดือนเต็มๆ
นัดครั้งแรก อีก 1 อาทิตย์ถัดไป เพื่อดูผลข้างเคียงของยา หากไม่ไหวจะได้ปรับยา ปรับโดสก็ว่ากันไป
นัดครั้งที่สอง หลังจากนัดครั้งแรก 2 อาทิตย์ เพื่อติดตามผลการรักษา และรับยาเพิ่ม
นัดครั้งต่อๆไป ให้มาพบหมอทุกๆ 1 เดือน เพื่อติดตามผลการรักษา และรับยาเพิ่ม
ทุกครั้งจะได้ยามากินห่อใหญ่ พร้อมกับยานอนหลับ ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 30 เม็ด
แต่ผมใช้ยานอนหลับแค่ช่วงแรกๆของการรักษา หลังจากนั้นก็พยายามจะไม่ใช้ยานอนหลับ
ก่อนจะนอน ผมจะใช้วิธีฟังพวก Relaxing music ที่เป็นเสียงคลื่นทะเลบ้าง เสียงนก เสียงธรรมชาติ อะไรพวกนี้
Subscribe ใน Youtube ไว้หลายช่องเลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังเปิดฟังอยู่ ฟังแล้วมันรู้สึกผ่อนคลายดี
หลังจากรักษาด้วยยาประมาณสองอาทิตย์ อาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆครับ
เริ่มออกไปข้างนอกได้บ้าง เริ่มไปเรียนได้ (เกือบเรียนไม่จบพร้อมเพื่อนๆ)
แต่นัดเดือนที่ 6 ผมเบี้ยว เพราะอาการก็ดีขึ้นมากแล้ว รวมถึงช่วงนั้นกำลังปั่นโปรเจคโค้งสุดท้ายด้วย
จึงไม่ได้ไปหาหมอตามนัด 55555 อันนี้ไม่แนะนำให้ทำครับ ควรจะต้องไปหาหมอ จนกว่าหมอจะพิจารณาให้หยุดยา หยุดการรักษา
จึงจะถือว่าหายเป็นปกติจริงๆ
และแล้วผมก็มีชีวิตรอดจากโรคซึมเศร้า มาป่วนโลกจนถึงทุกวันนี้ 55555555555555555555555555
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ทราบข่าวร้ายว่า จิตแพทย์ท่านที่รักษาผมให้หายจากโรคซึมเศร้า
ได้จากโลกนี้ไปด้วยการผูกคอฆ่าตัวตาย
ในเนื้อข่าวลงไว้ว่า เพราะรับไม่ได้ที่พี่สาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว พี่สาวที่คอยดูแลหลังจากที่แม่เสียชีวิตไป เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต
หลายๆคนด่าหมอ ว่าเป็นจิตแพทย์ แต่ทำไมฆ่าตัวตายเสียเอง
จริงๆ เราควรทำความเข้าใจว่า หมอก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ
มีรัก โลภ โกรธ หลง มีเหนื่อย มีท้อแท้ มีอารมณ์เหมือนเราทุกๆอย่าง
เราไม่รู้หรอกครับ ว่า ณ ขณะนั้นเจ้าตัวสภาพจิตใจเขาเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร จนตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป
สุดท้ายนี้ ผมขออุทิศบุญกุศลที่มีอยู่ให้แก่หมอ
ขอให้หมอไปสู่สุขตินะครับ
ขอขอบคุณทุกคนมากครับที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณมากครับ