บ้าน กับ รถยนต์ ซื้ออะไรก่อนดี?

บ้านก็อยากได้ รถก็อยากขับ แล้วเอาอะไรก่อนดี เพี้ยนเพลีย

การจะซื้อ บ้าน หรือ รถยนต์ หากแนะนำกันทั่วไปก็จะบอกกันว่าซื้อบ้านก่อนสิ แต่จริงๆ แล้วมันถูกต้องรึยัง หากลองคิดกันไปลึกๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่าไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะบ้านกับรถยนต์ก็มีวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ดันเป็นหนี้ที่มีมูลค่าสูง และใช้ระยะเวลาผ่อนนาน นี่ยังไม่นับเรื่องค่าบำรุงรักษาอีกนะ ตามมาอีกเพียบ เรียกได้ว่าวางแผนไม่ดีมีกินแกลบแน่นอน

เม่าตกอับ

แล้วจะใช้อะไรตัดสินล่ะว่าควรจะซื้ออะไรดี? ก่อนจะคิดขอแนะนำให้รวบรวมลมปราณ เอ้ยรวบรวมก่อนว่าเราจะซื้อมันเพราะมีความจำเป็นอย่างไร ลองเขียนลงในกระดาษถึงข้อดีข้อเสียของบ้านหรือรถยนต์ เช่น บ้านปัจจุบันเราพักอาศัยกับพ่อแม่ แต่ต้องเดินทางไกล รอรถเมล์ก็นาน แถมเจอ 3 ต่อ แต่ละรอบใช้ระยะเวลา 2-3 ชม.ต่อวัน โดยเฉพาะสาวๆถ้าต้องกลับบ้านดึกก็ยิ่งน่ากังวลเรื่องความปลอดภัย หากมีความจำเป็นดังนี้ รถยนต์ก็อาจจะเป็นตัวเลือกแรกในการตัดสินใจ หรือคนที่เดินทางมาทำงานในกรุงเทพฯ และคิดว่าจะอยู่ยาว การที่ต้องจ่ายค่าที่พักให้กับผู้ให้เช่าเทียบกับการที่เราผ่อนคอนโดฯ หรือบ้านเอง ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ควรซื้อ อีกทั้งบ้านยังเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ในอนาคตหากต้องการขายหรือปล่อยเช่าก็สามารถทำได้

กระทิงเริงร่า

หากเพื่อนๆ คิดถึงความจำเป็นของแต่ละคนได้แล้ว (ความจำเป็นนะ) สิ่งสำคัญที่ต้องคิดตามมาเลยคือ แล้วเราจะผ่อนไหวไหม การขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ภาระหนี้ต่อเดือนไม่ควรเกิน 40-60% ของรายได้ แต่ทั้งนี้ K-Expert แนะนำว่า ภาระผ่อนหนี้ต่อเดือนไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ เพราะหากเราต้องเอารายได้ไปผ่อนเยอะ อาจกระทบกับการเงินเราในอนาคตได้ เพราะอย่าลืมการซื้อแล้วไม่ใช่ว่าจบ เพราะจะมีทั้งค่าบำรุงรักษา ภาษี และอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ หากรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 30,000 บาท โดยเลือกว่าจะซื้อคอนโด ต้องผ่อนหนี้แต่ละเดือนไม่เกิน 30% เท่ากับว่าสามารถผ่อนได้เท่ากับ 30% x 30,000 = 9,000 บาท (คิดเป็นวงเงินสินเชื่อที่ขอได้ประมาณ 1.0-1.2 ล้านบาท) เมื่อรวมค่าใช้จ่ายหลักๆ อย่างค่าส่วนกลางเดือนละ 1,000 บาท ค่าน้ำไฟอีก 1,000 บาท รวมแล้วเดือนๆ หนึ่งก็ตกประมาณ 11,000 บาท คิดเป็นสัดส่วนก็เกือบๆ 40% ของรายได้ต่อเดือนแล้วครับ
แต่อย่าพึ่งเบาใจ โดยส่วนใหญ่การขอสินเชื่อบ้านหรือรถจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน จะกำหนดวงเงินกู้สูงสุดไว้ เช่น บ้านสามารถกู้ได้สูงสุด 80-95% ของราคาบ้าน หรือรถสามารถกู้ได้สูงสุด 75-85% ของราคารถ หรือพูดให้ง่ายๆ คือให้ไม่หมด ที่เหลือต้องหาเงินมาดาวน์เอง จุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ เพราะหากเราต้องการซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท ธนาคารให้กู้เพียง 1 ล้าน 6 แสนบาท เราก็ต้องมีเงินดาวน์ 4 แสนบาท อย่าลืมคิดเรื่องนี้กันด้วยนะครับ

เม่าเนิร์ด



เพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่า ตัวเองเหมาะที่จะซื้อบ้าน หรือ รถยนต์ก่อนดี เผื่อเป็นไอเดียสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่กล้าตัดสินใจไว้ใช้เป็นแนวทางครับนางพญาเม่า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่