สวัสดีค่ะ เมื่อเดือนส.ค.60 ที่ผ่านมา เพิ่งได้มีโอกาสแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมืองเก่าของเรามาค่ะ นั่นก็คือสุโขทัย อัย อัย อัย.......
และทริปนี้เราได้กำไรค่ะ

กำไรคือ ได้เที่ยวพิษณุโลกต่อไปด้วยเลย มันดีอย่างนี้...
วันนี้เลยจะมาแบ่งปันรูทน้อย แบบฉบับคนมีวันหยุดไม่เยอะค่ะ ทริปนี้ใช้เวลารวมแล้ววันครึ่งเองค่ะ จะตีว่าเป็นสองวันเลยก็ได้นะ ^_^


เริ่มต้นวันที่1>>>
จขกท.ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินของพี่สิงห์โต บินตรงจากดอนเมืองไปลงสนามบินพิษณุโลกค่ะ ไม่ใช่ตั๋วโปรนะคะ เลยได้ราคาค่อนข้างสูงเพราะจองก่อนเดินทาง 1วัน
โดยช่วงเวลาที่จองไว้คือช่วงประมาณแปดโมงเช้าค่ะ (รถหน้าดอนเมืองติดมากกกกกกกกกกกกกก ใครมีแพลนเดินทางไฟล์เช้าๆเวลาคนออกทำงานแนะนำเผื่อเวลาไว้เยอะๆเลยนะคะ) เที่ยวบินตรงเวลา ไม่ดีเลย์ นั่งยังไม่ทันได้อ้าปากหาว เรามาก็ถึงสนามบินพิษณุโลกในเวลาเกือบสิบโมงค่า
ช่วงเเรกๆไม่มีรูปเลยเพราะงงตาแตกอยู่ค่า กลัวตกเครื่องด้วย -..-
ถึงสนามบินพิษณุโลกเราก็ต้องหารถเข้าเมืองนะคะ ซึ่งสนามบินนี้ อยู่นอกเมือง ไม่มีรถโดยสารผ่าน ทางที่จะเข้าเมืองได้คือ Taxi ค่ะ ราคาตายตัวที่ 150 บาท ไม่ชาร์ตเพิ่มเด้ออออ (เห็นแปะราคานี้ทุกจ้าวเลยค่ะ) และหาโบกรถคนอื่นค่ะ
ซึ่งเราเป็นผู้หญิงสายสงบเสงี่ยม จึงต้องนั่ง Taxi ไปอย่างเเน่นอน และเจ็บปวดที่สุดคือไปคนเดียวไม่มีคนหารค่ารถนี่แหละค่ะ TT
และเราจะไปสุโขกันเลยค่ะวันนี้ จึงต้องให้พี่แท๊กซี่ ไปส่งที่ บขส. บอกเค้าด้วยนะคะว่าเราจะต่อรถไปจังหวัดอะไร เดี๋ยวพี่แท๊กซี่ไปส่งผิด บขส. ไม่รู้ด้วยนะคะ อิอิ

และพี่แท๊กซี่ก็พาเรามาพบกับสุโขทัยวินทัวร์คันนี้ที่จะพาเราไปแอ่วสุโขทัยค่ะ แจ้งพี่คนขายตั๋วว่าจะลงเมืองเก่า(คำนี้ใช้เรียกแทนอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยค่ะ) ซื้อตั๋วและนั่งรอไม่นาน รถก็มาค่ะ เป็นรถสายเหนือ วิ่งยาวไปถึงน่าน ก็เลยผ่านเมืองเก่า เป้าหมายของเราในวันนี้ค่ะ
ใกล้เที่ยงเราก็มาถึงหน้าเมืองเก่าค่ะ
แวะเติมพลังกับก๋วยเตี๋ยวชามนี้ ราคา 40 บาท ไม่ใช่ร้านดังในรีวิวนะคะ เป้นร้านคุณป้าแถวๆหน้าเมืองเก่าแหละค่ะ

อิ่มแล้วก็พร้อมลุยกันเนอะ

เช่าจักรยานคันละ 30 บาท ปั่นได้ตลอดทั้งวัน คุณป้าบอกว่าคันนี้เล็กกระทัดรัดเหมาะสำหรับคนขาสั้นแบบหนูเลยจ้า จย้าาาาาาาาา -..-
โชคดีที่วันที่ จขกท.ไปแดดไม่แรงมาก ปั่นจักรยานสบายๆเลยค่ะ
ค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยราคาคนละ 20 บาทเท่านั้นเองค่ะ ถูกมากเมื่อเทียบกับโบราณสถานอายุหลายร้อยปีที่อื่นๆบนโลก ที่นี่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกเช่นเดียวกันกับ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาด้วยนะคะ
ส่วนค่าเข้าจักยานคันละ 10 บาทค่ะ ปั่นในนั้นได้จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างนึงเลย

จ่ายค่าผ่านประตู เราจะได้แผนที่มา 1 ใบ ค่ะ กางแผนที่แล้ววางแผนกันเลยว่าจะปั่นไปไหน
บรรยากาศภายในนี้ร่มรื่นมากค่ะ ได้ฟีลแบบละครมนตร์รักลูกทุ่ง คนไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับคนอกหักแบบ จขกท.ที่ต้องการที่เงียบๆพักใจ แฮร่

จุดสำคัญๆที่ใครมาต้องแวะคือต้องมาสักการะพ่อขุนรามคำแหงค่ะ

จากนั้นก็ได้เวลา ลุยยยยยยยย ปั่นดุ๊กๆดิ๊กๆไปเรื่อยๆค่ะ ผ่านวัดมหาธาตุ วัดสำคัญซึ่งตั้งอยู่ในกลางอุทยานฯ จึงแวะถ่ายรูปนี้มา เหมือนในโฆษณา ททท.เลย แต่ถ่ายไม่สวยเท่าเค้า


วิวของข้างทางก็ดีมากๆ

แวะพักเหนื่อยที่วัดสระศรี-วัดตระพังกวนค่ะ

ในเขตอุทยานฯมีวัดเล็กๆ เจดีย์น้อยๆเยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ ตรงนี้ชื่อวัดศรีสวาย ศิลปะจะคล้ายทางขอมมากกว่าศิลปะสุโขทัยนะคะ แต่ จขกท.ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ค่ะ ใครเชี่ยวชาญ เข้ามาแบ่งปันข้อมูลกันได้ะคะ

ปั่นเที่ยวได้สักพัก อยากไปวัดศรีชุมค่ะ ดูรีวิวมาว่าใครมาสุโขทัยต้องมาวัดนี จึงทำการปั่นจักรยานออกจากเขตกำแพงอุทยานฯ มาสู่ถนนใหญ่
ปั่นไปเรื่อยๆ หลงมาเจอวัดนี้ซะงั้น

เปิดแผนที่ดูจึงรู้ว่าตรงนี้ชื่อเจดีย์วัดสรศักดิ์ (วัดช้างรอบ)ค่ะ ซึ่งอยู่คนละทางกับวัดศรีชุม ตรงนี้ไม่ใช่วัดช้างล้อมนะคะ แต่มีช้างรอบเจดีย์เหมือนกันเฉยๆ



ในเมื่อปั่นมาผิดทางขนาดนี้ และก็ใกล้จะเย็นแล้วด้วย เลยจำใจต้องกลับค่ะ เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปไหว้พระที่วัดศรีชุม แต่กลัวอันตรายมากกว่าค่ะ
หลังจากคืนจักรยานเรียบร้อย ก็ออกมาหน้าอุทยานรอโบกรถกลับพิษณุโลกได้เลย จบ 1 วันที่สุโขทัย ฟินๆกันไป <3
และคืนนี้เราพักที่พิษณุโลกค่ะ เป็นโฮสเทลเล็กๆอยู่ใกล้กับวัดสำคัญๆที่เราแพลนว่าจะไปพรุ่งนี้เช้า (เพื่อจะได้เดินเที่ยวง่ายๆไม่ต้องเสียค่ารถ อิอิ)
โฮสเทลชื่อ Nap corner hostelค่ะ คืนละ240 บาท เป็นโฮสเทลใหม่ค่ะ สภาพทุกอย่างเลยยังดูใหม่ น่าใช้งานอยู่

ตอนกลางคืนฝนตกกระหน่ำเลยออกไปไหนไม่ได้ค่ะ นอนดูละครที่โฮสเทลกันไป