
วันที่ 1
- ขับรถออกจากเชียงใหม่
- เข้าตัวเมืองสวรรคโลก ทานก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยร้าน เจ๊เนี๊ยวเก๋ยวเตี๋ยวไทยสวรรคโลก
- ถ่ายรูปสตรีทอาร์ตสวรรคโลก
- เข้าที่พักที่ตัวเมืองสุโขทัย Midtown Sukhothai Resort
- ทานอาหารร้าน ลุงจ้อย
- เดินตลาดโต้รุ่ง ทานผัดไทยเจ๊ดม
- นอนได้แล้ว จะกินอะไรนักหนา
วันที่ 2
- ตื่นแต่เช้าใส่บารตสะพานบุญวัดตระพังทอง
- เดินเล่นตลาดเช้า ทานน้ำเต้าหู้ตลาดวัดตระพังทอง
- กลับเข้าโรงแรมแช็คเอาท์
- ทานอาหารเช้าที่ ร้านแน่
- เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
- แวะทานอาหารที่ร้านบ้านกวี
- ซื้อของฝากและเดินทางกลับเชียงใหม่
เป้าหมายหลักของทริปนี้คือเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กับอีกภารกิจที่เรารักมากๆนั่นคือการตามหาของกินอร่อยๆนั่นเอง แหะๆๆ
การเดินทาง เราขับรถจากเชียงใหม่ ผ่านลำปาง - เลี้ยวเข้า ทุ่งเสลี่ยม - ออกสวรรคโลก - แล้วมุ่งหน้าสู่ตัวเหมืองสุโขทัย ค่อยๆ ขับไปช้า ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง แต่ใครไม่สะดวกขับรถไปเอง สุโขทัยก็มีสนามบินด้วยนะ
DAY 1
จุดหมายแรกของเราคือแวะที่สวรรคโลกเพราะได้ยินมาจากเพื่อนที่อยู่ที่นั่นว่า มีร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสูตรดั้งเดิมเกือบ 50 ปี ที่ควรจะต้องมาชิมให้ได้ นั่นคือร้านแจ๊เนี๊ยวก๊วยเตี๋ยวไทยสวรรคโลกนั่นเอง ร้านนี้เป็นสูตรโบราณจริงๆ เคล็ดลับอยู่ที่เค้าใส่น้ำหมูแดงเข้าไปด้วยโอ้ววววว เส้นเหนียวนุม น้ำซุปอร่อยมาก หมูแดง น้ำตาลปี๊บ หนังหมูซอย และที่ขาดไม่ได้คือถั่วฝักยาวนั่นเอง ที่นี่มีกากหมูกรอบๆขายแยกด้วย ถึงละ 20 บาท ได้เยอะมากกกก นอกจากก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยมากจนเราซัดไป 3 ถ้วยแล้ว เครื่องดื่มที่นี่ยังอร่อยและที่ร้านนี้ก็ยังมีกล้วยกวนสูตรโบราณขายอีก อร่อยมากก ไม่เหมือนกล้วยกวนที่อื่นจริงๆ ยังไงถ้าจะเดินทางเข้าสุโขทัยผ่านทางสวรรคโลกละก็แนะนำให้แวะที่ร้านเจ๊เนี๊ยวเลยครับ อาหารหร่อย ราคาเบาๆ เจ๊เนี๋ยวและลูกหลานก็น่ารักมากๆ ชาวสวรรคโลกแวะมาทานกันไม่ขาดสายจริงๆร้านนี้
เดินไปอีกไม่เกิน 20 ก้าวจากรา้นเจ๊เนี๊ยวจะเจอกับชุมชนจีนเก่าที่เค้าให้ศิลปินมาสร้างงานศิลปะที่ผนังบ้านตัวเองได้ ทำให้ชุมชนนี้มีสีสันและเป็นแลนด์มาร์คอีกจุดหนึ่งของสวรรคโลกเลย เดินเล่นถ่ายรูปเพลินมาก


จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่ตัวจังหวัดสุโขทัย ขับรถต่อไปแบบเพลินๆอีกประมาณ 30 - 40 นาที เข้าสู่ที่พักของเราในคืนนี้ นั่นคือ Midtown Sukhothai Resort เราจองที่พักได้ในราคาประมาณ 1200 บาทต่อคืน ไม่รวมอาหารเช้า โรงแรมอยู่ใจกลางเมืองเลยจริงๆ แม้จะเข้าไปในซอยเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าสะดวกมากๆในการเดินทางแถมยังดีซะอีกที่ได้ความสงบหลีกหนีความวุ่นวายจากถนนใหญ่ ห้องพักของเราเป็นชั้น 1 หลังห้องติดกับสระว่ายน้ำ เรียกว่าออกจากห้องมาก็กระโดดลงน้ำได้เลย ห้องพักสะอาด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เจ้าของโรงแรมเป็นคนออกมาต้อนรับเราด้วยตัวเองเลย ประทับใจและอบอุ่นมาก

เข้าที่พักล้างหน้าล้างตา ก็เริ่มหิวเบาๆ ภารกิจตามหาร้านอร่อยร้านที่สอง ไปตามรอยความอร่อยของพี่อิงค์ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ เราไปกันที่ ครัวลุงจ้อย อยู่ห่างจากที่พักเพียง 800 เมตร ร้านนี้เป็นอาหารป่า เน้นไปที่ปลาแม่น้ำเป็นหลัก สั่งอาหารไป 3 อย่างเบาๆ ระหว่างรออาหารทางร้านปอกส้มโอขาวน้ำผึ้งมาหใ้ชิมด้วย อร่ยมาก คนสุโขทัยน่ารักกันจัง ที่นี่นอกจากอาหารจะอร่อยมาก ปลาหวาน สด ปรุงรสถึงเครื่องแล้ว ข้าวของที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นข้าวเรื่องมาก คือเป็นข้าวกล้องที่นำไปนึ่งก่อนแล้วจึงนำมาหุงอีกที หอมนุ่มไม่มีความแข็งแบบข้าวกล้องเลยซักนิด ทานกับอาหารที่สั่งมาแล้วเข้ากันอร่อยมากจริงๆ

ยังไม่ดึกมาก ลองไปเดินตลาดโต้รุ่งดูดีกว่าเผื่อมีขนมหวานให้ทานล้างปาก แต่พอไปถึงเท่านั้นแหละ เจอผัดไทยเจ๊ดมเข้าให้ ยังไงก็อยากจะลองซักครั้ง เราแอบดูรีวิวมาก่อนจากช่องพี่เก๊ยะแซบ พี่เค้าทานได้อร่อยมาก อยากจะรู้ด้วยว่าขนมเบื้องไข่เป็นยังไง พอได้ชิมแล้ว ผัดไทยแจ๊ดมอร่อยมาก ถึงว่าคนมาสั่งไม่ขาดสายเลย เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็มลงตัวสุด ขนมเบื้อไข่ก็ทานแล้วอร่อยสดชื่น เป็นเหมือนลูกผสมระหว่างผัดไทย หอยทอดกับขนมเบื้อง ต้องลองฮะ ที่สำคัญเจ๊ดมใจดีน่ารักมาก
คืนนี้น่าจะกินอะไรไม่ไหวแล้วแหละ พอแค่นี้ก่อน ไปนอนละจ้าาาา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
DAY 2
กิจกรรมในวันนี้ช่างท้าทายกับคนตื่นสายเป็รประจำอย่างเรา แต่ก็ไม่อยากพลาดจริงๆ ไหนๆมาสุโขทัยแล้วต้องไปใส่บารตรับอรุณที่สะพานบุญวัดตระพังทองให้ได้ เราเตรียมของใส่บาตรไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ถ้าใครไม่สะดวกเตรียมก็มาหาซื้อชุดใส่บาตรที่หน้าวัดตอนเช้าก็ได้ กิจกรรมเริ่มประมาณ 6:15 น. เดินทางมาจากใจกลางเมืองสุโขทัยก็ไม่นานเกินไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้น หรือถ้าใครไม่อยากเดินทางก็มีที่พักมากมายในย่านเมืองเก่า

การใส่บาตรเต็มไปด้วยความสงบ ไม่วุ่นวาย ถ่ายรูปพอกรุบกริบ เป็นอันสบายใจ แล้วก็ไปเดินสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดตระพังทอง ท้อเริ่มหิวเบาๆที่หน้าวัดมีตลาดเช้าพอดีที่นี่มีอาหารเช้าให้เลือกมามาย ไม่ว่าจะเป็นโจ๊ก ข้าวมันไก่ ขนมไทยโบราณ แต่วันนี้เราเลือกทานน้ำเต้าหูหาท่องโก๋ ที่ร้านดังในตลาดตามรอยพี่บุค บุญสมิทจากรายการ FOODWORK ปาท่องโก๋ที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น คือเค้าจะปั้นเป็นเส้นยาวๆ บิดเป็นเกลียวแล้วนำไปทอด น้ำเต้าหู้ ชาร้อน ปาท่องโก๋ ไข่ลวกช่างเข้ากันกับบรรยากาศยามเช้าแบบนี้จริงๆ เราทานไป คุยกับคุณตาที่เดินทางมาเที่ยวไปด้วย คุณพี่เจ้าของร้านปาท่องโก๋ก็น่ารักมากๆ เที่ยวสุโขทัยครั้งนี้เจอแต่คนน่ารักทั้งนั้นเลยแฮะ

จากนั้นเรากลับมาที่พัก Midtown Sukhothai Resort เพื่อเช็คเอาท์ ก่อนออกจากที่นี่แวะให้อาหารปลาที่บ่อน้ำกลางรีสอร์ทซักน่อย เค้าบอกว่าที่นี่เป็นเขตอภัยทาน เลี้ยงปลาไว้พันกว่าตัวเลย ตัวบิ๊กๆทั้งนั้น แวะให้อาหารน้องปลากันได้ครับ สนุกไปอีกแบบ เช็คเอาท์ออกไปด้วยความประทับใจกับที่พักที่นี่มากๆ
เราขับไปหาร้านอร่อยอีกร้านก่อนอกจากตัวเมืองสุโขทัย นั่นคือ ร้านแน่ ร้านเก่าแก่ดั้งเดิมของสุโขทัย ที่นี่เป็นก๊วยเตี๋ยว บะหมี่ ลูกชิ้นปลา ที่เด็ดมากๆจนทำมห้เราต้องตามมาทานก็คือ ตีนไก่ของที่นี่เป็นตีไก่แบบในร้านติ่มซัมเลย ดูจากคุณมินต์ I ROME ALONE มาแหละ เลยตามมาทานบ้าง ร้านบรรยากาศตึกแถวสบายๆ สั่งบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว แน่นอนว่าต้องพิเศษตีนไก่มาด้วย อร่อยมากกก จนอยากจะกินอีกทุกวันๆเลย โอยยย หิวอีกแล้วววว

ง
อิ่มแล้ว มุ่งหน้าสู่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกันเลย ขับออกจากเมืองสุโขทัยไปแค่ 10 นาทีเท่านั้น เข้าไปถึงก็ซื้อบัตรเข้าชม คนละ 20 บาท เราใช้วิธีเที่ยวชมอุทยานด้วยรถสามล้อไฟฟ้าพร้อมคุณลุงคนขับ ค่าใช้จ่าย 200 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยคุณลุงจะพาไปรอบๆและแวะจุดสำคัญๆ ภายในบรรยากาศร่มรื่นมาก ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด อุทยานได้รับการดูแลอย่างดี สะอาดสะอ้านสบายตา และโบราณสถานแต่ละจุดก็ยิ่งใหญ่สวยงาม ในเขตที่คุณลุงพาไปนั้นคือเขตวังเก่าชั้นใน ถ้าจะเอาให้ทั่วเมืองเก่านั้นกินพื้นที่ 1800 ไร่เลยทีเดียว การเยี่ยมชมอุทยานก็มีหลายวิธี จะเช่าจักรยานก็ได้ หรือถ้ามากันหลายๆคน ทางอุทยานก็มีรถพร้อมไกด์เตรียมไว้ให้บริการ





ก่อนจะออกจากเขตอุทยานขอแวะชม พิพิธภัณฑ์รามคำแหงซักหน่อย ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ภายในก็มีโบราณวัตถุและประวัติความเป็นมาต่างๆมากมาย ยังไงมาแล้วแวะเข้าชมก็ได้ความรู้ไปอีกเยอะเลย

ยังมีจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นคือ วัดศรีชุม ขับรถไปทางด้านหลังอุทยานประมาณ ไม่เกิน 1 กม. ก็จะเจอกับแลนด์มาร์คสำคัญ ที่ทุกคนเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาที่จุดนี้ โบราณสถานที่มีพระอจนะ หรือตำนานพระพูดได้ เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ให้ทหารขึ้นไปทางลับหลังองค์พระและพูดปลุกใจทหารว่าการรบครั้งนี้ต้องชนะแน่นอน ตั้งแต่นั้นจึงเกิดเป็นตำนานพระพูดได้ขึ้นมาและทางลับที่ว่าก็ยังมีอยู่ด้วยนะ แต่ทางอุทยานเค้าปิดไว้เพราะนกและค้างคาวเข้าไปทำรังกันเยอะเกินไปนั่นเอง ช่องสี่เหลี่ยมข้างองค์พระนั่นแหละ คือปลายสุดของทางลับ ฟังดูตื่นเต้นดีนะฮะ แต่ในสถานที่จริงมีมนต์ขลังและถ่ายรูปออกมาได้สวยจริงๆครับ


เที่ยวกันเสร็จแล้วเตรียมตัวกลับเชียงใหม่ ก่อนกลับ ก็ต้องแวะซื้อของฝาก ซึ่งอันที่จริงเราจะเอาไปทานเองนั่นแหละ ของดีของเด็ดของที่นี่คือ ถั่วทอด เป็นอันจบทริปสุโขทัยอย่างมีความสุข
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยว
เพจคุณนายตื่นสาย
https://www.facebook.com/happylazylady/
ช่อง Youtube
https://www.youtube.com/@happylazylady
เที่ยวสุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข อุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลก ตะลุยกินอาหารอร่อย
วันที่ 1
- ขับรถออกจากเชียงใหม่
- เข้าตัวเมืองสวรรคโลก ทานก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยร้าน เจ๊เนี๊ยวเก๋ยวเตี๋ยวไทยสวรรคโลก
- ถ่ายรูปสตรีทอาร์ตสวรรคโลก
- เข้าที่พักที่ตัวเมืองสุโขทัย Midtown Sukhothai Resort
- ทานอาหารร้าน ลุงจ้อย
- เดินตลาดโต้รุ่ง ทานผัดไทยเจ๊ดม
- นอนได้แล้ว จะกินอะไรนักหนา
วันที่ 2
- ตื่นแต่เช้าใส่บารตสะพานบุญวัดตระพังทอง
- เดินเล่นตลาดเช้า ทานน้ำเต้าหู้ตลาดวัดตระพังทอง
- กลับเข้าโรงแรมแช็คเอาท์
- ทานอาหารเช้าที่ ร้านแน่
- เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
- แวะทานอาหารที่ร้านบ้านกวี
- ซื้อของฝากและเดินทางกลับเชียงใหม่
เป้าหมายหลักของทริปนี้คือเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กับอีกภารกิจที่เรารักมากๆนั่นคือการตามหาของกินอร่อยๆนั่นเอง แหะๆๆ
การเดินทาง เราขับรถจากเชียงใหม่ ผ่านลำปาง - เลี้ยวเข้า ทุ่งเสลี่ยม - ออกสวรรคโลก - แล้วมุ่งหน้าสู่ตัวเหมืองสุโขทัย ค่อยๆ ขับไปช้า ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง แต่ใครไม่สะดวกขับรถไปเอง สุโขทัยก็มีสนามบินด้วยนะ
DAY 1
จุดหมายแรกของเราคือแวะที่สวรรคโลกเพราะได้ยินมาจากเพื่อนที่อยู่ที่นั่นว่า มีร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสูตรดั้งเดิมเกือบ 50 ปี ที่ควรจะต้องมาชิมให้ได้ นั่นคือร้านแจ๊เนี๊ยวก๊วยเตี๋ยวไทยสวรรคโลกนั่นเอง ร้านนี้เป็นสูตรโบราณจริงๆ เคล็ดลับอยู่ที่เค้าใส่น้ำหมูแดงเข้าไปด้วยโอ้ววววว เส้นเหนียวนุม น้ำซุปอร่อยมาก หมูแดง น้ำตาลปี๊บ หนังหมูซอย และที่ขาดไม่ได้คือถั่วฝักยาวนั่นเอง ที่นี่มีกากหมูกรอบๆขายแยกด้วย ถึงละ 20 บาท ได้เยอะมากกกก นอกจากก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยมากจนเราซัดไป 3 ถ้วยแล้ว เครื่องดื่มที่นี่ยังอร่อยและที่ร้านนี้ก็ยังมีกล้วยกวนสูตรโบราณขายอีก อร่อยมากก ไม่เหมือนกล้วยกวนที่อื่นจริงๆ ยังไงถ้าจะเดินทางเข้าสุโขทัยผ่านทางสวรรคโลกละก็แนะนำให้แวะที่ร้านเจ๊เนี๊ยวเลยครับ อาหารหร่อย ราคาเบาๆ เจ๊เนี๋ยวและลูกหลานก็น่ารักมากๆ ชาวสวรรคโลกแวะมาทานกันไม่ขาดสายจริงๆร้านนี้
เดินไปอีกไม่เกิน 20 ก้าวจากรา้นเจ๊เนี๊ยวจะเจอกับชุมชนจีนเก่าที่เค้าให้ศิลปินมาสร้างงานศิลปะที่ผนังบ้านตัวเองได้ ทำให้ชุมชนนี้มีสีสันและเป็นแลนด์มาร์คอีกจุดหนึ่งของสวรรคโลกเลย เดินเล่นถ่ายรูปเพลินมาก
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่ตัวจังหวัดสุโขทัย ขับรถต่อไปแบบเพลินๆอีกประมาณ 30 - 40 นาที เข้าสู่ที่พักของเราในคืนนี้ นั่นคือ Midtown Sukhothai Resort เราจองที่พักได้ในราคาประมาณ 1200 บาทต่อคืน ไม่รวมอาหารเช้า โรงแรมอยู่ใจกลางเมืองเลยจริงๆ แม้จะเข้าไปในซอยเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าสะดวกมากๆในการเดินทางแถมยังดีซะอีกที่ได้ความสงบหลีกหนีความวุ่นวายจากถนนใหญ่ ห้องพักของเราเป็นชั้น 1 หลังห้องติดกับสระว่ายน้ำ เรียกว่าออกจากห้องมาก็กระโดดลงน้ำได้เลย ห้องพักสะอาด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เจ้าของโรงแรมเป็นคนออกมาต้อนรับเราด้วยตัวเองเลย ประทับใจและอบอุ่นมาก
เข้าที่พักล้างหน้าล้างตา ก็เริ่มหิวเบาๆ ภารกิจตามหาร้านอร่อยร้านที่สอง ไปตามรอยความอร่อยของพี่อิงค์ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ เราไปกันที่ ครัวลุงจ้อย อยู่ห่างจากที่พักเพียง 800 เมตร ร้านนี้เป็นอาหารป่า เน้นไปที่ปลาแม่น้ำเป็นหลัก สั่งอาหารไป 3 อย่างเบาๆ ระหว่างรออาหารทางร้านปอกส้มโอขาวน้ำผึ้งมาหใ้ชิมด้วย อร่ยมาก คนสุโขทัยน่ารักกันจัง ที่นี่นอกจากอาหารจะอร่อยมาก ปลาหวาน สด ปรุงรสถึงเครื่องแล้ว ข้าวของที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นข้าวเรื่องมาก คือเป็นข้าวกล้องที่นำไปนึ่งก่อนแล้วจึงนำมาหุงอีกที หอมนุ่มไม่มีความแข็งแบบข้าวกล้องเลยซักนิด ทานกับอาหารที่สั่งมาแล้วเข้ากันอร่อยมากจริงๆ
ยังไม่ดึกมาก ลองไปเดินตลาดโต้รุ่งดูดีกว่าเผื่อมีขนมหวานให้ทานล้างปาก แต่พอไปถึงเท่านั้นแหละ เจอผัดไทยเจ๊ดมเข้าให้ ยังไงก็อยากจะลองซักครั้ง เราแอบดูรีวิวมาก่อนจากช่องพี่เก๊ยะแซบ พี่เค้าทานได้อร่อยมาก อยากจะรู้ด้วยว่าขนมเบื้องไข่เป็นยังไง พอได้ชิมแล้ว ผัดไทยแจ๊ดมอร่อยมาก ถึงว่าคนมาสั่งไม่ขาดสายเลย เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็มลงตัวสุด ขนมเบื้อไข่ก็ทานแล้วอร่อยสดชื่น เป็นเหมือนลูกผสมระหว่างผัดไทย หอยทอดกับขนมเบื้อง ต้องลองฮะ ที่สำคัญเจ๊ดมใจดีน่ารักมาก
คืนนี้น่าจะกินอะไรไม่ไหวแล้วแหละ พอแค่นี้ก่อน ไปนอนละจ้าาาา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
DAY 2
กิจกรรมในวันนี้ช่างท้าทายกับคนตื่นสายเป็รประจำอย่างเรา แต่ก็ไม่อยากพลาดจริงๆ ไหนๆมาสุโขทัยแล้วต้องไปใส่บารตรับอรุณที่สะพานบุญวัดตระพังทองให้ได้ เราเตรียมของใส่บาตรไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ถ้าใครไม่สะดวกเตรียมก็มาหาซื้อชุดใส่บาตรที่หน้าวัดตอนเช้าก็ได้ กิจกรรมเริ่มประมาณ 6:15 น. เดินทางมาจากใจกลางเมืองสุโขทัยก็ไม่นานเกินไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้น หรือถ้าใครไม่อยากเดินทางก็มีที่พักมากมายในย่านเมืองเก่า
การใส่บาตรเต็มไปด้วยความสงบ ไม่วุ่นวาย ถ่ายรูปพอกรุบกริบ เป็นอันสบายใจ แล้วก็ไปเดินสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดตระพังทอง ท้อเริ่มหิวเบาๆที่หน้าวัดมีตลาดเช้าพอดีที่นี่มีอาหารเช้าให้เลือกมามาย ไม่ว่าจะเป็นโจ๊ก ข้าวมันไก่ ขนมไทยโบราณ แต่วันนี้เราเลือกทานน้ำเต้าหูหาท่องโก๋ ที่ร้านดังในตลาดตามรอยพี่บุค บุญสมิทจากรายการ FOODWORK ปาท่องโก๋ที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น คือเค้าจะปั้นเป็นเส้นยาวๆ บิดเป็นเกลียวแล้วนำไปทอด น้ำเต้าหู้ ชาร้อน ปาท่องโก๋ ไข่ลวกช่างเข้ากันกับบรรยากาศยามเช้าแบบนี้จริงๆ เราทานไป คุยกับคุณตาที่เดินทางมาเที่ยวไปด้วย คุณพี่เจ้าของร้านปาท่องโก๋ก็น่ารักมากๆ เที่ยวสุโขทัยครั้งนี้เจอแต่คนน่ารักทั้งนั้นเลยแฮะ
จากนั้นเรากลับมาที่พัก Midtown Sukhothai Resort เพื่อเช็คเอาท์ ก่อนออกจากที่นี่แวะให้อาหารปลาที่บ่อน้ำกลางรีสอร์ทซักน่อย เค้าบอกว่าที่นี่เป็นเขตอภัยทาน เลี้ยงปลาไว้พันกว่าตัวเลย ตัวบิ๊กๆทั้งนั้น แวะให้อาหารน้องปลากันได้ครับ สนุกไปอีกแบบ เช็คเอาท์ออกไปด้วยความประทับใจกับที่พักที่นี่มากๆ
เราขับไปหาร้านอร่อยอีกร้านก่อนอกจากตัวเมืองสุโขทัย นั่นคือ ร้านแน่ ร้านเก่าแก่ดั้งเดิมของสุโขทัย ที่นี่เป็นก๊วยเตี๋ยว บะหมี่ ลูกชิ้นปลา ที่เด็ดมากๆจนทำมห้เราต้องตามมาทานก็คือ ตีนไก่ของที่นี่เป็นตีไก่แบบในร้านติ่มซัมเลย ดูจากคุณมินต์ I ROME ALONE มาแหละ เลยตามมาทานบ้าง ร้านบรรยากาศตึกแถวสบายๆ สั่งบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว แน่นอนว่าต้องพิเศษตีนไก่มาด้วย อร่อยมากกก จนอยากจะกินอีกทุกวันๆเลย โอยยย หิวอีกแล้วววว
อิ่มแล้ว มุ่งหน้าสู่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกันเลย ขับออกจากเมืองสุโขทัยไปแค่ 10 นาทีเท่านั้น เข้าไปถึงก็ซื้อบัตรเข้าชม คนละ 20 บาท เราใช้วิธีเที่ยวชมอุทยานด้วยรถสามล้อไฟฟ้าพร้อมคุณลุงคนขับ ค่าใช้จ่าย 200 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยคุณลุงจะพาไปรอบๆและแวะจุดสำคัญๆ ภายในบรรยากาศร่มรื่นมาก ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด อุทยานได้รับการดูแลอย่างดี สะอาดสะอ้านสบายตา และโบราณสถานแต่ละจุดก็ยิ่งใหญ่สวยงาม ในเขตที่คุณลุงพาไปนั้นคือเขตวังเก่าชั้นใน ถ้าจะเอาให้ทั่วเมืองเก่านั้นกินพื้นที่ 1800 ไร่เลยทีเดียว การเยี่ยมชมอุทยานก็มีหลายวิธี จะเช่าจักรยานก็ได้ หรือถ้ามากันหลายๆคน ทางอุทยานก็มีรถพร้อมไกด์เตรียมไว้ให้บริการ
ก่อนจะออกจากเขตอุทยานขอแวะชม พิพิธภัณฑ์รามคำแหงซักหน่อย ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ภายในก็มีโบราณวัตถุและประวัติความเป็นมาต่างๆมากมาย ยังไงมาแล้วแวะเข้าชมก็ได้ความรู้ไปอีกเยอะเลย
ยังมีจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นคือ วัดศรีชุม ขับรถไปทางด้านหลังอุทยานประมาณ ไม่เกิน 1 กม. ก็จะเจอกับแลนด์มาร์คสำคัญ ที่ทุกคนเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาที่จุดนี้ โบราณสถานที่มีพระอจนะ หรือตำนานพระพูดได้ เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ให้ทหารขึ้นไปทางลับหลังองค์พระและพูดปลุกใจทหารว่าการรบครั้งนี้ต้องชนะแน่นอน ตั้งแต่นั้นจึงเกิดเป็นตำนานพระพูดได้ขึ้นมาและทางลับที่ว่าก็ยังมีอยู่ด้วยนะ แต่ทางอุทยานเค้าปิดไว้เพราะนกและค้างคาวเข้าไปทำรังกันเยอะเกินไปนั่นเอง ช่องสี่เหลี่ยมข้างองค์พระนั่นแหละ คือปลายสุดของทางลับ ฟังดูตื่นเต้นดีนะฮะ แต่ในสถานที่จริงมีมนต์ขลังและถ่ายรูปออกมาได้สวยจริงๆครับ
เที่ยวกันเสร็จแล้วเตรียมตัวกลับเชียงใหม่ ก่อนกลับ ก็ต้องแวะซื้อของฝาก ซึ่งอันที่จริงเราจะเอาไปทานเองนั่นแหละ ของดีของเด็ดของที่นี่คือ ถั่วทอด เป็นอันจบทริปสุโขทัยอย่างมีความสุข
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยว
เพจคุณนายตื่นสาย
https://www.facebook.com/happylazylady/
ช่อง Youtube
https://www.youtube.com/@happylazylady