[SUKHOTHAI] วันแม่....แม่พาเที่ยวสุโขทัย ฉบับ 36 ชั่วโมงถ้วน


    สวัสดีค่ะทุกคน สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังนะคะ ช่วงวันหยุดวันแม่ที่ผ่านมาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างคะ? มาเล่าสู่กันฟังกันได้นะคะ เราและครอบครัวมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดสุโขทัยค่ะ โดยเริ่มต้นเดินทางที่จ.นครปฐม ไปยังสุโขทัยระยะทางก็ประมาณ 330 กิโลเมตร จริงๆจะบอกว่าการเที่ยวครั้งนี้เหมือนทริปปุ๊บปั๊บก็ว่าได้เนื่องจากโดยนิสัยพื้นฐานของบ้านเราจะหลีกเลี่ยงการเที่ยวช่วงวัดหยุดไม่ว่าจะเป็นสงกรานต์ ปีใหม่ หรือใดๆก็ตาม เพราะว่าเรามีเหตุผลหลักๆ3ข้อคือ รถติด คนเยอะ ที่พักไม่มี ดังนั้นทางเลือกที่สบายที่สุดคือนอนตีพุงอยู่บ้าน แต่ทว่าวันแม่ปีนี้ถือว่าเป็นการเดินทางไกลในช่วงวันแม่ของครอบครัวเราครั้งแรกเลยก็ว่าได้
   ขอเม้าท์คุณนายแม่ก่อนเริ่มเขียนกระทู้ คือตอนแรกนางมีแพลนจะไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนแต่ทว่ามีคนไม่ว่างแล้วก็ปลายเดือนก.ค.มีข่าวสุโขทัยน้ำท่วม ทำให้ทริปนั้นล่มไป ทางด้านพ่อและเราจึงใช้โอกาสนี้รวบหัวรวบหางจองห้องพักไปล่วงหน้าและตอนที่ไปน้ำก็ไม่ท่วมแล้ว งั้นเรามาเที่ยวกันเถอะค่ะ
   *คำเตือน นี่เป็นบันทึกการเดินทางของเราอีกฉบับ เชิญเพื่อนๆมาร่วมเดินทางไปกับเรากันเลยค่ะ*

   เราออกเดินทางจากนครปฐมเวลา 08.00น. เช้าของวันที่ 12 ส.ค. ก่อนออกมาแวะทานข้าวเช้าที่ร้านประจำเมื่อตอนเด็กค่ะ แต่ไม่ได้เกินมานานนับสิบปีแล้ว ร้านนี้อยู่ในตลาดเช้าวัดกลางบางแก้วเป็นร้านขายข้าวหมูกรอบ หมูแดง ข้าวมันไก่ โจ๊ก  เราจะมีชื่อเรียกว่า "ร้านรถ" เมนูที่สั่งก็คือข้าวหมูกรอบราดน้ำซอสหมูแดง และโจ๊กผู้ใหญ่ใส่ไข่ 2 อย่างนี้เบ็ดเสร็จ 70 บาท ใครผ่านมาตอนเช้าแถวนครชัยศรีลองมาแวะที่นี่ดูนะคะ เริ่มตั้งแต่ 05.00น. พอตอน 9 โมงเช้าตลาดก็เริ่มวายกันแล้วค่ะ เป็นตลาดสดมีผัก ผลไม้ ของกิน อร่อยทุกร้านค่ะ (ปล.มีร้านข้าวต้มมัด2ร้านอร่อยทั้ง2ร้าน)

    ขับรถมาระยะหนึ่งเราก็แวะพักรถกันที่นครสวรรค์ค่ะ จริงๆก่อนหน้านี้มีแวะเติมน้ำมันที่สุพรรณบุรี ซึ่งมีปั๊มใหญ่ตลอดทาง ใครจะขึ้นเหนือคงได้ขับรถผ่านจังหวัดที่ถนนดีแห่งหนึ่งของประเทศไทยกันแล้ว แต่เรามาเที่ยวสุพรรณฯบ่อยแล้วก็เลยข้ามไปไม่ได้แวะไหนในการเที่ยวครั้งนี้ ถ้าใครจะผ่านมีร้านแนะนำคือ *ต้มเลือดหมูน้องจิ๊บ* ตรงตลาดบางปลาม้า ร้านนี้อร่อยจริงค่ะ ที่เที่ยวก็มีวัดป่าเลไลก์ บึงฉวาก(เดี๋ยวจะไปเที่ยวตอนโตอีก) มังกรสวรรค์ ประมาณนี้ค่ะ แวะไหว้พระเพื่อความสิริมงคลก็ดีค่ะ
   มาต่อกันที่นครสวรรค์ จริงๆเราตั้งใจว่าจะไปแวะวัดคีรีวงศ์ แต่ด้วยแสงแดดและทริปนี้มีผู้ใหญ่เกรงว่าการขึ้นเขาคงไม่สะดวกเลยแวะทานอาหารกลางวันกัน เราหาร้านอาหารมาหลายร้านมากค่ะ แต่สุดท้ายก็เลือกร้านติ่มซำชื่อว่าร้าน *บ้านนึ่งแต่เตี้ยม* หลายๆคนคงงงกินติ่มซำตอนกลางวันเนี่ยนะ? ใช่ค่ะเราจึงบอกทุกคนว่าติ่มซำกินตอนเช้าจะอร่อยสุดแล้วค่ะ เมนูร้านนี้มีคล้ายๆร้านติ่มซำทั่วไป ซาลาเปา ขนมจีบ ฮะเก๋า ขาหมู หมั่นโถว บักกุดเต๋ เป็นต้น เราสั่งมากินรองท้องก่อน เพราะมาคิดขึ้นได้ว่าทำไมถึงมากินติ่มซำกันเอาป่านนี้

  เมนูที่แนะนำของร้านนี้คือ บักกุดเต๋ค่ะ น้ำไม่ข้นมากหมูนุ่มกำลังดี ใครชอบแนวเครื่องเทศไม่ควรพลาด ซดน้ำซุปคล่องคอ ราคาไม่แพงมากชามละ 40 บาท ทานหนึ่งคนได้สบายค่ะ เมนูที่พ่อเราชอบเป็นขาหมู หมั่นโถว ส่วนแม่และพี่ชายไม่ค่อยถูกปากกับร้านนี้ เต็ม 10 เราให้คะแนนที่ 6 ค่ะ รสชาติเราชอบติ่มซำที่ภูเก็ตมากกว่าของร้านนี้

   จากนครสวรรค์เราก็มาถึงพิษณุโลก ซึ่งมีวัดดังประจำคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดพระพุทธชินราชนั่นเอง แม่เราตั้งใจจะมาหาซื้อพระให้เป็นของขวัญคุณลุงที่นับถือที่เกษียณราชการ แต่จากการเดินดูแล้วยังไม่ค่อยถูกใจกันเท่าไหร่ ส่วนพี่ชายเราหลังจากไหว้พระเสร็จก็เดินข้ามไปยังวัดนางพญาได้ของที่มีคุณค่าทางจิตใจกลับมา 2-3 เหรียญ แน่นอนว่าคนที่แวะวัดก็ต้องการไหว้พระเป็นสิริมงคล แต่สำหรับบ้านเราการะแวะวัดนี้คือ พ่ออยากกินกล้วยแขกที่ขายในวัด ส่วนพี่ชายอยากเช่าพระ และเราอยากกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา คิอจริงๆก็ยังอิ่มติ่มซำที่นครสวรรค์อยู่แต่เดินออกมาแล้วก็คงต้องแวะสักหน่อย แม่เราเองที่ไม่ชอบกินติ่มซำก็ยังไม่อิ่มก็เลยสั่งไปคนละชาม บะหมี่แห้ง 1 ชาม บะหมี่น้ำต้มยำ 1 ชาม

   ข้างประตูวัดพระพุทธชินราชมีอยู่2ร้านตั้งอยู่ข้างๆกันเราเลิอกทานร้าน *ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา.....ริมน่าน* ร้านเป็นร้านพื้นไม้ค่ะอยู่ร้านที่2 นับจากประตูวัดราคาไม่แพงมาก ก๋วยเตี๋ยวชามละ 35 บาท มีของทานเล่นเช่น เผือกทอด เกี๊ยวทอดอะไรทำนองนี้ค่ะ น้ำก็มีพวกน้ำกระเจี๊ยบ เก๊กฮวย มะตูม กินแล้วหวานชื่นใจถูกใจวัยผู้ใหญ่แน่นอน สำหรับประสบการณ์การนั่งห้อยขาที่ร้านก็รู้สึกสบายดีค่ะ แต่แอบเขินเวลาคนขี่รถผ่านแล้วหันมามอง แม่บอกว่าเหมือนเป็นการประหยัดพื้นที่ของร้าน แต่ถ้าใครหวังใจว่าจะได้ชมวิวแม่น้ำน่าน จะต้องชมวิวถนนและร้านค้าที่กางร่มริมแม่น้ำก่อนค่ะ รสชาติเราว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำอร่อยน้อยกว่าบะหมี่แห้ง แอบแย่งของแม่กินเยอะเหมือนกัน เต็ม 10 เราให้คะแนนที่ 7.5 รสชาติไม่จัดจ้าน กลางๆทานได้สบายๆ ส่วนพ่อเรานอกจากจะได้ทานกล้วยแขกแล้วตั้งใจจะมากินเมี่ยงคำ เลยซื้อเมี่ยงคำระหว่างทางกลับไป หลังจากอิ่มแปล้กับก๋วยเตี๋ยวแล้ว จริงๆเมี่ยงคำเป็นอาหารที่เราชอบแต่ต้องเป็นใบทองหลางเรารู้สึกว่าจะมีกลิ่นเอกลักษณ์ แต่ใบชะพลูทานได้แต่ไม่ค่อยทานเพราะออกรสชาติขมไปหน่อย แต่ผู้ใหญ่คงจะชอบ ถ้าใครผ่านมากินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาก็ลองซื้อกลับไปทานคนละไม้ก็ดีค่ะ
สงสัยจะได้เป็นดาราเพราะมีแมวมามอง..ตะลึงตึ่งโป๊ะ!


     สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดของการมาครั้งนี้นอกจากการได้รับน้ำมนต์เหมือนได้ล้างหน้าใหม่แล้ว เราก็ได้ร่วมทำบุญซื้อมะพร้าวน้ำหอมซึ่งราคาถูกมาก 20 บาทเท่านั้น จากยืนดูดน้ำมะพร้าวไปฟังไป ทางวัดบอกว่าเป็นต้นมะพร้าวที่วัดปลูก ก็ถ้าใครกระหายก็เชิญมาซื้อน้ำมะพร้าวแท้10000% ทำบุญด้วยชื่นใจด้วย (ที่Topsขาย 35-40 แน่ะ) ไม่รู้ว่าน้ำมะพร้าวจะมีตลอดปีไหม หรือแค่เฉพาะเทศกาลแต่ถ้าใครแวะมาสักการะพระพุทธชินราชก็ลองมาดูได้ค่ะ อร่อย.....ชื๊นใจ๊

   ที่พักที่เรามาเลือกพักในช่วงนี้คือ Wake Up@เมืองเก่า อยู่แถวๆอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ปั่นจักรยานไปได้ค่ะ ที่เราเลือกที่นี้เพราะคะแนนในagodaสูงมาก ประมาณ 9 แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ บรรยากาศดี สะอาด เจ้าหน้าที่ต้อนรับอย่างดี อาหารเช้าเป็น self service มีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ ไมโล แยมสตรอเบอรี่ แยมส้ม เนยสด กล้วย แก้วมังกร คิดว่าบ้านเราน่าจะกินขนมปังไปครึ่งแถว โดยเฉพาะเราคนเดียวขนมปัง6แผ่น แยมสตรอเบอรี่อร่อยมากค่ะ ถ้าพี่เจ้าของแวะเข้ามาอ่านจะบอกว่าเดี๋ยวคราวหน้าไปอีกแล้วขอแยมเยอะๆนะคะ ล้อเล่นค่ะ ที่พักเราให้ 9/10 ขอหักคะแนนWiFi อ่อนแอมาก ทำเลสะดวกใกล้แหล่งท่องเที่ยว มีร้านอาหาร ที่จอดรถจอดได้ประมาณ 2 คัน ลักษณะตามสไตล์guesthouse ค่ะ ตอนเช้ามีตลาดวัดพระพังทองหลางให้เดินซื้อของกิน แล้วก็มีพระมาบิณฑบาตตอนเช้าด้วยค่ะ พ่อแม่เรานี่ถึงกับปริ่มใจไปเดินเล่นหนุงหนิงกันสองคนทิ้งลูกสาวให้เฝ้าของกันเลยทีเดียว

   หลังจากออกจากพิษณุโลกเราก็มุ่งตรงสู่สุโขทัยโดยสถานที่เราอยากไปคือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จริงๆที่สุโขทัยมีอุทยานประวัติศาสตร์อีกแห่งค่ะ คืออุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ใครจะไปที่ไหนก็หาข้อมูลดีๆนะคะ ซึ่งเวลาเปิด เวลาปิด เวลาขายตั๋วก็เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมการค่ะ อย่างอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เปิด06.00-21.00น. แต่ขายตั๋วจนถึง 18.00น. ดังนั้นใครมาหลัง 6 โมงก็ซื้อตั๋วเข้าชมไม่ได้แล้วนะคะ ราคาตั๋ว 20บาท ที่นี่มีบริการรถจักรยาน เช่าคันละ 30 บาท ร้านปิดตอน 1 ทุ่ม ปั่นกันเพลินเลย เราไปถึงตอน 6 โมงเย็นเป๊ะเกือบจะซื้อตั๋วไม่ทัน ตอนนั้นพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า แดดเลยไม่ค่อยแรง เหมาะกับการปั่นจักรยานชมวิวสถาปัตยกรรมมากค่ะ

   เนื่องจากช่วงที่เราไปตรงกับเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ในอุทยานก็จะมีกิจกรรมวันแม่และตลาดนัดโบราณ มีของที่ระลึกอย่างเช่น เสื้อสกรีนสุโขทัย กางเกงลายช้าง ผ้าทอมือ(แม่ลูบแล้วลูบอีกแต่ก็ไม่รู้จะใส่ในโอกาสไหน....แต่จริงๆที่ตัดมาก็ไม่เห็นว่าจะได้ใส่) อาหารการกินก็มีค่ะ ตั้งอยู่ริมน้ำ แต่ดึกแล้วยุงเยอะไปหน่อย แล้วเราก็อยากกลับที่พักไปพักแล้วเดินทางมาทั้งวันตะลอนๆกันจนเหนื่อย

   มีคนเคยบอกว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้แค่มีปาปริก้า นี่ไม่ต้องมีปาปริก้าก็เกิดขึ้นแล้ว ด้วยความที่กองทัพต้องเดินด้วยท้องเรากับพ่อแม่จึงออกมาหาข้าวเย็นทานกัน และให้พี่ชายเฝ้าห้องไว้ (นางจะลดความอ้วนแต่สุดท้ายก็ออกมาซื้อก๋วยจั๊บกิน ฮิฮิ) เดินมาจนถึงร้านสุดท้ายเราเลยลองลุยเดี่ยวเข้าไปสั่ง เมนูที่เราสั่งคือ โรตีแกงกะหรี่ไก่ และ ช็อคโกแลตเย็นหวานน้อย แต่ทุกคนคะ เราวานทุกคนช่วยตรวจสอบแกงกะหรี่ไก่ให้เราหน่อย อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าแกงกะหรี่มีมะเขือ มะเขือพวง แครอท พริก และกลิ่นพริกแกงรวมอยู่ด้วย แต่เอาจริงๆได้กลิ่นผงกะหรี่อยู่นะ แต่เราเกิดมา20กว่าปีไม่เคยเจอโรตีแกงกะหรี่หน้าตาแบบนี้เลยจริงๆ สาบานได้ แต่กินไปกินมามันอร่อยอยู่นะ แต่ก็ไม่อิ่ม TT ที่เสียใจที่สุดคือช็อคโกแลตเย็น ที่กินยังไงมันก็คือโอวันติน แถมยังหวานมากอีกด้วย เหมือน ผงโอวันติน + น้ำเปล่า + น้ำตาล คนๆและเทใส่แก้ว ไม่ประทับใจเลยค่ะ คิดว่าตลอดการเที่ยว 36 ชั่วโมงนี้เราผิดหวังกับร้านนี้มากที่สุด ขออนุญาตไม่บอกชื่อร้านนะคะ ขึ้นต้นด้วย *Th........ Restaurant*

     ปกติเวลาอยู่บ้านตอนเช้าพ่อกับแม่เรามีนัดไปทำบุญที่วัดกลางบางแก้วเกือบทุกวันพระ วันนี้มาเที่ยวทั้งทีก็ไม่พลาดการทำบุญ ส่วนคนบาปอย่างเราก็นั่งเฝ้าห้องไป ที่เมืองเก่าสุโขทัยจะมีพระจากวัดตระพังออกมาบิณฑบาต ผ่านสะพานไม้ภาพก็สวย บรรยากาศก็ดี ขากลับพ่อแวะซื้อขนมโบราณมีชื่อว่า ขนมวง ลักษณะเหมือนเอาแป้งข้าวเหนียวมาปั้นแล้วเอาไปทอดราดด้วยตังเมโรยด้วยงา อร่อยมากค่ะเรากินคนเดียวไปเกือบครึ่งถุง ราคาไม่แพงด้วย หลังจากทานมื้อเช้าแบบไม่เกรงใจเจ้าของที่พักแล้ว TT เราก็ออกเดินไปยังวัดที่เราตั้งใจจะมาตั้งแต่รู้ว่าจะต้องมาเที่ยว นั่นก็คือวัดศรีชุม เมื่อวานเรามาถึงสุโขทัยเย็นไปทำให้พลาดเข้าชมวัดนี้ แต่เช้านี้ไม่พลาด วัดศรีชุมจะตั้งอยู่ทางด้านหลังของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ขับรถมาประมาณ5นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

     ตอนกอดคิดว่าภาพจะต้องอบอุ่นแต่พอถ่ายออกมาเหมือนกำลังรัดคอแม่อยู่เลย....ถ้าหม่ามี้ผ่านมาอ่านกระทู้ลูกจะบอกว่าลูกขอโต๊ดนะคะ รักแม่นะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่