สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราอยากจะมาแชร์ไอเดียถ่ายรูปพรีเวดดิ้งของเรา เราต้องบอกก่อนว่าเรากับแฟนเป็นช่างภาพเวดดิ้งอยู่แล้ว แล้วก็แพลนว่าจะแต่งงานกันปีหน้า จริงๆแพลนว่าปี 60 แต่เก็บเงินไม่ทัน 55+ เลยเลื่อนเป็น 61 แล้วทีนี้จะแต่งงานก็ต้องมีภาพพรีเวดดิ้ง จะให้คนอื่นถ่ายก็กลัวไม่ถูกใจ เลยตัดสินใจถ่ายกันเองซะเลย เราสองคนชอบไปเที่ยวอยู่แล้วด้วย ไหนๆก็ไหนๆ เลยกะว่าจะสะสมภาพพรีเวดดิ้งไปด้วยในตัว ก็กะว่าจะถ่ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงวันพิธี 555+
อย่างแรก อุปกรณ์งานนี้ เราใช้กล้อง 6d +135 กับ 16-35 / สามขา(เอาแบบที่กางต่ำได้) / มือถือ
เดี๋ยวนี้กล้องมันWi-fi ได้ เลยสบายขึ้นเยอะกับการถ่ายเอง เมื่อก่อนต้องวิ่งไปลั่นชัตเตอร์ 10 วิ แล้ววิ่งกลับมาโพส วิ่งทันบ้างไม่ทันบ้างก็ว่ากันไปค่ะ
*ไอเดียที่ 1 ถ่ายไปเที่ยวไป
*ทริปแรก แก่งกระจาน ปี 58 *
ทริปนี้ตั้งใจไปเที่ยวไปถ่ายผีเสื้อกัน รูปเป็นของแถมของทริปนี้ ยังไม่ได้ตั้งใจเป็นพรีเวดดิ้งแบบจริงจังเท่าไร กะว่าถ่ายเป็นรูปคู่เฉยๆ แต่ชอบเลยจะเอาไปใช้ในงานด้วย
รูปคู่กับผีเสื้อไม่มีเอารูปคู่กับป่าไปก่อนนะ
ตกบ่ายเราก็ขึ้นไปบนสันเขื่อน ปีที่ไปน้ำแล้งมากกกก ตรงสะพานเลยไม่ค่อยสวยก็เลยไม่ได้แวะถ่าย
ขากลับกรุงเทพ เห็นข้างทางสวยเลยจัดเลย
*ทริปที่ 2 ทุ่งดอกหญ้าข้างทางแถวบ้าน*
เซตนี้เริ่มมีความจริงจังจะให้เป็นรูปพรี แต่ยังไม่ค่อยมีความพร้อมเรื่องเสื้อผ้าเท่าไร ใส่ชุดที่เรามี ภาพออกมาเลยไม่ค่อยแม็ทกันเท่าไร แต่ทุ่งหญ้าสวยก็อภัยได้
แถวบ้านจริงๆนะ
เริ่มมีพร็อพ
ความไม่เข้ากันของชุด 5555
*ทริปที่ 3 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี *
ทริปนี้อยากได้แบบเท่ๆ ตีมยีนส์ เราก็เลยเตรียมคอสตูม+พร็อพให้พร้อม แต่งหน้าทำผมตั้งแต่ออกจากบ้าน กะว่าเจอที่ไหนสวยแวะถ่ายที่นั้นละ ทริปนี้มีเพื่อนร่วมทางอีกคนแต่ไปกันคนละคันนัดเจอกันที่จุดหมายเลย งานนี้เราเลยได้คนมาช่วยกดชัตเตอร์ให้บางจุด
รูปแรก ตอนขับรถบังเอิญเห็นไร่อ้อยข้างทาง สวยมากกๆ เลยแวะถ่ายซะหน่อย
จุดหมายหลักของเรา ช่องเขาขาด
บ่าย เราก็ตีรถขึ้นปิล็อกกัน กว่าจะไปถึงก็พอดีใกล้พระอาทิตย์ตก รูปนี้เพื่อนถ่ายให้
เช้าอีกวันก่อนลง แวะขึ้นไปบนเนินช้างศึกอีกรอบ วันที่เราไปเป็นวันแรกที่บนนั้นหนาว ไม่ได้เตรียวตัวเลยว่าจะเจอความหนาวเลยไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าอะไรทั้งนั้น
สายๆขาลง แวะน้ำตกจ็อกกระดิ่นซะหน่อย น้ำตกสวยมากกก
ไปสังขละ มีแต่รูปเซลฟฟี่กับอัดวีดีโอ คนเยอะเลยไม่กล้าตั้งกล้องบนสะพานไม้กัน ได้รูปตอนขากลับ กับรั่วขาวหน้าช่องเขาขาดแทน
ขากลับกรุงเทพ เจอดอกหญ้าฟรุ้งฟริ้งก็แวะซะหน่อย แก้ง่วงไปในตัว
ทริปนี้มีความพิเศษคืออ เราตั้งใจทำวีดีโอประจำทริปกัน ตลอดทริปก็สลับกันถ่ายวีดีโอกับภาพนิ่ง เป็นทริปเดียวที่ทำวีดีโอสำเร็จ ทริปอื่นถ่ายมา...แล้วแฟนขี้เกียจตัดต่อจบข่าวค่าาา
อุปกรณ์สำหรับวีดีโอ = โกโปร+ไม้เซลฟฟี่ / ไอโฟน 6 / กล้อง Canon 6d
*ทริปที่ 4 นครนายก*
งานนี้มีความจริงจังมากขึ้น ด้วยการไปตัดชุดเจ้าสาวกับสูทเจ้าบ่าวแบบเต็มยศ ส่วนหนึ่งไปเซอเวย์โลเคชั่นให้ลูกค้าด้วย เที่ยวด้วย ก็เลยจัดซะหน่อย เราแวะกันไปหลายจุดมากๆ ถ่ายตั้งแต่บ่าย-เย็น เหนื่อยมากกกกกกกกกก กับการหอบกระโปรงเจ้าสาว เข้าใจแล้วทำไมลูกค้าถึงบอกว่าชุดเหนื่อย ยังไม่ทันทำอะไรก็เหนื่อยแล้วจริงๆ ว่าที่เจ้าบ่าวเราก็ทุลักทุเลมากกับการใส่สูทแล้วแบกขาตั้งกล้องทั้งหนักทั้งแน่น(พุง) แถมปีนขึ้นเขาไปถ่ายกันอีก แล้วบังเอิญ วันนั้นมีกองถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ข้างล่าง เค้ามองเราสองคนแบบไม่วางตาเลย เค้าคงสงสารกับสภาพเราสองคนที่แบกชุดแบกขาขึ้นเขากัน 555+
เซลฟฟี่โชว์แบกขาตั้งกันหน่อยยย
จุดแรกที่เราไป ทุ่งหญ้าหิมะ
จุด 2 ป่าไผ่ข้างทาง
โจทย์หลักของเรา เขาหล่น โชว์ความโหดของทางเดินซะหน่อย
สุดท้ายถ่ายมาได้เท่านี้ เพราะไม่มีที่ตั้งสามขาได้ T_T จริงๆมันมีมุมสวยๆเยอะมาก แอบเสียดายเบาๆ
ก่อนพระอาทิตย์จะตก ก็ไปจบกันที่อ่างเก็บน้ำ
*ทริปที่ 5 แก่งกระจาน 59 *
หลังจากปี 58 ที่เรามากันรอบแรก แล้วชอบที่นี้มากๆๆๆ ปีถัดมาเลยต้องมาซ้ำ แต่มาซ้ำแบบจัดเต็ม กะว่าจะมาถ่ายกับผีเสื้อแบบ เรายืนอยู่ตรงกลางแล้วมีผีเสื้อบินรอบๆๆเยอะๆๆๆ โรแมนติกมาก แต่...เอาเข้าจริงมันถ่ายไม่ได้ เพราะตรงที่ผีเสื้ออยู่ มันเป็นแอ่งน้ำเตี้ยกว่าดินด้านบน ตั้งกล้องถ่ายยากเลยได้แต่รูปเดี่ยวกับผีเสื้อมาแทน ไว้ปีหน้าค่อยหาคนไปช่วยถ่ายใหม่
ตั้งใจไว้ตั้งแต่ปีแรกที่ไป ว่าจะกลับมาถ่ายมุมนี้แต่เป็นชุดแต่งงาน
อยากได้รูปคู่แบบนี้อ่ะ มีผีเสื้อรอบๆเยอะๆๆๆ
ไม่ได้ก้ขอเดียวกับผีเสื้อแทนละกัน ของจริงไม่รีทัชนะ
เสต็ปเดิมค่ะ เป็นเด็กขี้แวะ เจอตรงไหนสวยก็แวะซะ
ไอเดีย 2 พรีเวดดิ้งไม่โชว์หน้า
อีกอย่างที่เราชอบถ่ายคือ มือกับเท้า ที่ไหนสวยก็ถ่ายเก็บไว้ซะหน่อย รูปแค่นี้ก็ทำให้เพื่อนหมั่นไส้ได้อย่างแรงเหมือนกัน 555+
วิวที่สีชัง
หาดที่แสมสาร
พิพิธภัณฑ์ที่เชียงใหม่
ไอเดียที่ 3 หนังโปรดในดวงใจ
เราชอบดูหนังกันมากก ก็เลยชอบเซลฟฟี่กับหน้าโปสเตอร์ของหนังเรื่องที่ไปดู แล้วมีครั้งหนึ่งตอนไปดูแฟนเดย์ เรานึกสนุกกันเลยถ่ายรูปเลียนแบบโปสเตอร์หนัง หลังๆมาก็เลยชอบถ่ายเลียนแบบโปสเตอร์มันสนุกดี พอถ่ายไปหลายๆเรื่องก็ เห็นว่ามันเท่ดีเลยกะว่าจะเอาไปแต่งแกลลอรี่วันงานพร้อมๆกับตั๋วหนังที่เราเก็บเอาไว้
ถ่ายพรีเวดดิ้งกันเองก็สนุกไปอีกแบบ เพราะเราก็จะชิลๆไปเรื่อยๆ แต่มันก้มีทั้งข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
1. ได้เที่ยวไปในตัวววว อยากแวะไหนก็แวะ ไม่ฟิกเรื่องเวลา ชุด
2. ประหยัดงบจัดงานแต่งได้ส่วนหนึ่ง
ข้อเสีย
1. ลำบากมากกกก เหนื่อยมากกก ไหนจะชุด ไหนจะผม ไหนจะกล้อง ถ้าเราจ้างมืออาชีพถ่าย เค้าจะคอยดูให้เรา ดูท่าทาง หน้าบิดซ้ายบิดขวา กระโปรงเราสวยยัง แต่ถ่ายเองเราจะไม่รู้เรื่องเลยว่าหน้าโอเคยัง ผมยุ่งไหม ชุดละ กว่าจะได้ 1 ภาพ ถ่ายไป20ช็อตได้
2. เราจะไม่ได้ภาพมุมฟิลลิ่ง แบบโคลสอัพชัดๆ เน้นอารมณ์ มันตั้งถ่ายยาก ได้แต่มุมกว้างกับนอมอล ไม่ก็เซลฟฟี่เลย แถมต้องยิ้มค้าง 10 วิ ไม่รุ้ชัตเตอรืจะลั่นตอนไหนอีก 55
ตอนนี้ยังมีเวลาปีนี้กับปีหน้า ยังเหลืออีกหลายๆที่ที่ยังอยากไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกัน เราตั้งใจว่าก่อนวันงานจะไปเก็บให้ครบ ได้โลเคชั่นละ 2-3 รูป เราก็ดีใจแล้ว ใครอยากถ่ายกันเองเราแนะนำเลย หาใครก็ได้มากดชัตเตอร์ให้ดีกว่าเซตเองกดเองวุ่นวายสุดๆค่าาาาา หลังจบงานเเต่งเดี๋ยวจะมาเขียน Part 2
ของพรีเวดดิ้งที่เราไปถ่ายกันเองอีกค่ะ >/////<
D.I.Y My Prewedding รวมไอเดีย 2 ปี พรีเวดดิ้งด้วยตัวเอง
อย่างแรก อุปกรณ์งานนี้ เราใช้กล้อง 6d +135 กับ 16-35 / สามขา(เอาแบบที่กางต่ำได้) / มือถือ เดี๋ยวนี้กล้องมันWi-fi ได้ เลยสบายขึ้นเยอะกับการถ่ายเอง เมื่อก่อนต้องวิ่งไปลั่นชัตเตอร์ 10 วิ แล้ววิ่งกลับมาโพส วิ่งทันบ้างไม่ทันบ้างก็ว่ากันไปค่ะ
*ไอเดียที่ 1 ถ่ายไปเที่ยวไป
*ทริปแรก แก่งกระจาน ปี 58 *
ทริปนี้ตั้งใจไปเที่ยวไปถ่ายผีเสื้อกัน รูปเป็นของแถมของทริปนี้ ยังไม่ได้ตั้งใจเป็นพรีเวดดิ้งแบบจริงจังเท่าไร กะว่าถ่ายเป็นรูปคู่เฉยๆ แต่ชอบเลยจะเอาไปใช้ในงานด้วย
รูปคู่กับผีเสื้อไม่มีเอารูปคู่กับป่าไปก่อนนะ
ตกบ่ายเราก็ขึ้นไปบนสันเขื่อน ปีที่ไปน้ำแล้งมากกกก ตรงสะพานเลยไม่ค่อยสวยก็เลยไม่ได้แวะถ่าย
ขากลับกรุงเทพ เห็นข้างทางสวยเลยจัดเลย
*ทริปที่ 2 ทุ่งดอกหญ้าข้างทางแถวบ้าน*
เซตนี้เริ่มมีความจริงจังจะให้เป็นรูปพรี แต่ยังไม่ค่อยมีความพร้อมเรื่องเสื้อผ้าเท่าไร ใส่ชุดที่เรามี ภาพออกมาเลยไม่ค่อยแม็ทกันเท่าไร แต่ทุ่งหญ้าสวยก็อภัยได้
แถวบ้านจริงๆนะ
เริ่มมีพร็อพ
ความไม่เข้ากันของชุด 5555
*ทริปที่ 3 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี *
ทริปนี้อยากได้แบบเท่ๆ ตีมยีนส์ เราก็เลยเตรียมคอสตูม+พร็อพให้พร้อม แต่งหน้าทำผมตั้งแต่ออกจากบ้าน กะว่าเจอที่ไหนสวยแวะถ่ายที่นั้นละ ทริปนี้มีเพื่อนร่วมทางอีกคนแต่ไปกันคนละคันนัดเจอกันที่จุดหมายเลย งานนี้เราเลยได้คนมาช่วยกดชัตเตอร์ให้บางจุด
รูปแรก ตอนขับรถบังเอิญเห็นไร่อ้อยข้างทาง สวยมากกๆ เลยแวะถ่ายซะหน่อย
จุดหมายหลักของเรา ช่องเขาขาด
บ่าย เราก็ตีรถขึ้นปิล็อกกัน กว่าจะไปถึงก็พอดีใกล้พระอาทิตย์ตก รูปนี้เพื่อนถ่ายให้
เช้าอีกวันก่อนลง แวะขึ้นไปบนเนินช้างศึกอีกรอบ วันที่เราไปเป็นวันแรกที่บนนั้นหนาว ไม่ได้เตรียวตัวเลยว่าจะเจอความหนาวเลยไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าอะไรทั้งนั้น
สายๆขาลง แวะน้ำตกจ็อกกระดิ่นซะหน่อย น้ำตกสวยมากกก
ไปสังขละ มีแต่รูปเซลฟฟี่กับอัดวีดีโอ คนเยอะเลยไม่กล้าตั้งกล้องบนสะพานไม้กัน ได้รูปตอนขากลับ กับรั่วขาวหน้าช่องเขาขาดแทน
ขากลับกรุงเทพ เจอดอกหญ้าฟรุ้งฟริ้งก็แวะซะหน่อย แก้ง่วงไปในตัว
ทริปนี้มีความพิเศษคืออ เราตั้งใจทำวีดีโอประจำทริปกัน ตลอดทริปก็สลับกันถ่ายวีดีโอกับภาพนิ่ง เป็นทริปเดียวที่ทำวีดีโอสำเร็จ ทริปอื่นถ่ายมา...แล้วแฟนขี้เกียจตัดต่อจบข่าวค่าาา
อุปกรณ์สำหรับวีดีโอ = โกโปร+ไม้เซลฟฟี่ / ไอโฟน 6 / กล้อง Canon 6d
*ทริปที่ 4 นครนายก*
งานนี้มีความจริงจังมากขึ้น ด้วยการไปตัดชุดเจ้าสาวกับสูทเจ้าบ่าวแบบเต็มยศ ส่วนหนึ่งไปเซอเวย์โลเคชั่นให้ลูกค้าด้วย เที่ยวด้วย ก็เลยจัดซะหน่อย เราแวะกันไปหลายจุดมากๆ ถ่ายตั้งแต่บ่าย-เย็น เหนื่อยมากกกกกกกกกก กับการหอบกระโปรงเจ้าสาว เข้าใจแล้วทำไมลูกค้าถึงบอกว่าชุดเหนื่อย ยังไม่ทันทำอะไรก็เหนื่อยแล้วจริงๆ ว่าที่เจ้าบ่าวเราก็ทุลักทุเลมากกับการใส่สูทแล้วแบกขาตั้งกล้องทั้งหนักทั้งแน่น(พุง) แถมปีนขึ้นเขาไปถ่ายกันอีก แล้วบังเอิญ วันนั้นมีกองถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ข้างล่าง เค้ามองเราสองคนแบบไม่วางตาเลย เค้าคงสงสารกับสภาพเราสองคนที่แบกชุดแบกขาขึ้นเขากัน 555+
เซลฟฟี่โชว์แบกขาตั้งกันหน่อยยย
จุดแรกที่เราไป ทุ่งหญ้าหิมะ
จุด 2 ป่าไผ่ข้างทาง
โจทย์หลักของเรา เขาหล่น โชว์ความโหดของทางเดินซะหน่อย
สุดท้ายถ่ายมาได้เท่านี้ เพราะไม่มีที่ตั้งสามขาได้ T_T จริงๆมันมีมุมสวยๆเยอะมาก แอบเสียดายเบาๆ
ก่อนพระอาทิตย์จะตก ก็ไปจบกันที่อ่างเก็บน้ำ
*ทริปที่ 5 แก่งกระจาน 59 *
หลังจากปี 58 ที่เรามากันรอบแรก แล้วชอบที่นี้มากๆๆๆ ปีถัดมาเลยต้องมาซ้ำ แต่มาซ้ำแบบจัดเต็ม กะว่าจะมาถ่ายกับผีเสื้อแบบ เรายืนอยู่ตรงกลางแล้วมีผีเสื้อบินรอบๆๆเยอะๆๆๆ โรแมนติกมาก แต่...เอาเข้าจริงมันถ่ายไม่ได้ เพราะตรงที่ผีเสื้ออยู่ มันเป็นแอ่งน้ำเตี้ยกว่าดินด้านบน ตั้งกล้องถ่ายยากเลยได้แต่รูปเดี่ยวกับผีเสื้อมาแทน ไว้ปีหน้าค่อยหาคนไปช่วยถ่ายใหม่
ตั้งใจไว้ตั้งแต่ปีแรกที่ไป ว่าจะกลับมาถ่ายมุมนี้แต่เป็นชุดแต่งงาน
อยากได้รูปคู่แบบนี้อ่ะ มีผีเสื้อรอบๆเยอะๆๆๆ
ไม่ได้ก้ขอเดียวกับผีเสื้อแทนละกัน ของจริงไม่รีทัชนะ
เสต็ปเดิมค่ะ เป็นเด็กขี้แวะ เจอตรงไหนสวยก็แวะซะ
ไอเดีย 2 พรีเวดดิ้งไม่โชว์หน้า
อีกอย่างที่เราชอบถ่ายคือ มือกับเท้า ที่ไหนสวยก็ถ่ายเก็บไว้ซะหน่อย รูปแค่นี้ก็ทำให้เพื่อนหมั่นไส้ได้อย่างแรงเหมือนกัน 555+
วิวที่สีชัง
หาดที่แสมสาร
พิพิธภัณฑ์ที่เชียงใหม่
ไอเดียที่ 3 หนังโปรดในดวงใจ
เราชอบดูหนังกันมากก ก็เลยชอบเซลฟฟี่กับหน้าโปสเตอร์ของหนังเรื่องที่ไปดู แล้วมีครั้งหนึ่งตอนไปดูแฟนเดย์ เรานึกสนุกกันเลยถ่ายรูปเลียนแบบโปสเตอร์หนัง หลังๆมาก็เลยชอบถ่ายเลียนแบบโปสเตอร์มันสนุกดี พอถ่ายไปหลายๆเรื่องก็ เห็นว่ามันเท่ดีเลยกะว่าจะเอาไปแต่งแกลลอรี่วันงานพร้อมๆกับตั๋วหนังที่เราเก็บเอาไว้
ถ่ายพรีเวดดิ้งกันเองก็สนุกไปอีกแบบ เพราะเราก็จะชิลๆไปเรื่อยๆ แต่มันก้มีทั้งข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
1. ได้เที่ยวไปในตัวววว อยากแวะไหนก็แวะ ไม่ฟิกเรื่องเวลา ชุด
2. ประหยัดงบจัดงานแต่งได้ส่วนหนึ่ง
ข้อเสีย
1. ลำบากมากกกก เหนื่อยมากกก ไหนจะชุด ไหนจะผม ไหนจะกล้อง ถ้าเราจ้างมืออาชีพถ่าย เค้าจะคอยดูให้เรา ดูท่าทาง หน้าบิดซ้ายบิดขวา กระโปรงเราสวยยัง แต่ถ่ายเองเราจะไม่รู้เรื่องเลยว่าหน้าโอเคยัง ผมยุ่งไหม ชุดละ กว่าจะได้ 1 ภาพ ถ่ายไป20ช็อตได้
2. เราจะไม่ได้ภาพมุมฟิลลิ่ง แบบโคลสอัพชัดๆ เน้นอารมณ์ มันตั้งถ่ายยาก ได้แต่มุมกว้างกับนอมอล ไม่ก็เซลฟฟี่เลย แถมต้องยิ้มค้าง 10 วิ ไม่รุ้ชัตเตอรืจะลั่นตอนไหนอีก 55
ตอนนี้ยังมีเวลาปีนี้กับปีหน้า ยังเหลืออีกหลายๆที่ที่ยังอยากไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกัน เราตั้งใจว่าก่อนวันงานจะไปเก็บให้ครบ ได้โลเคชั่นละ 2-3 รูป เราก็ดีใจแล้ว ใครอยากถ่ายกันเองเราแนะนำเลย หาใครก็ได้มากดชัตเตอร์ให้ดีกว่าเซตเองกดเองวุ่นวายสุดๆค่าาาาา หลังจบงานเเต่งเดี๋ยวจะมาเขียน Part 2
ของพรีเวดดิ้งที่เราไปถ่ายกันเองอีกค่ะ >/////<