สวัสดีค่ะ กระทู้แรก กระทู้ใหม่ ไม่เคยคิดจะเขียน และไม่เคยคาดว่า ตัวเองจะเป็นคนมาตั้งกระทู้เสียเอง
ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือไม่เหมาะสม ก็ต้องขออภัยไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ค่อนข้างยาวนะ เพราะเราอยากให้รายละเอียด เราแอบหวังจริงๆ ว่าพี่เค้าจะมาพบอ่านเจอ และติดต่อมาหาเรา
เคยเป็นกันไหม ที่ตลอดเวลา เสี้ยวหนึ่งของความคิด ของหัวใจ จะติดถึงใครคนหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
ทุกวันนี้ ทุกช่วงหนึ่งของเวลา บ่อยครั้งมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ กับการคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง และคิดถึงคน ๆ นั้น
เราเองก็แยกไม่ออกว่าเราคิดถึงเค้า เพราะความรู้สึกผิด เพราะความรัก เพราะความกตัญญู เพราะความซาบซึ้ง ในความใจดีของเขา
หรือเพราะเรา จบกันโดยไม่ได้พูดลากันให้เข้าใจ แต่เราอยากจะพบเขาอีกสักครั้งมากจริงๆ แต่เราไม่มีหนทาง หรือช่องทางติดต่อเค้าเลยแม้แต่ทางเดียว
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสักประมาณ 14 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอายุ 18 กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งนึงทางภาคอิสาน ฐานะทางบ้านค่อนข้างขัดสน เราก็เลยหางานพิเศษทำไปด้วยระหว่างเรียน แต่ก็ยากหน่อย เพราะขาดยานพาหนะ สุดท้าย ทำๆ ออกๆ เพราะเกรงใจ ที่ต้องคอยรบกวนเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ
และระหว่างนั้น เราไปติดโปรแกรมแชทยอดฮิตสมัยก่อน IRC หรือ PIRCH นั่นเอง ทำให้รู้จักคนเยอะแยะมากมาย คุยไปเรื่อยทุกวัน จนติดงอมแงม และไปรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งในโปรแกรมแชทนี่เอง เค้าบอกเราว่าเค้าชื่อ ตี๋ และเราก็เรียกเค้าว่า พี่ตี๋ โดยที่ไม่เคยถามเรื่องอื่นๆ ส่วนตัวของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน หรือชื่อจริงนามสกุลจริง เราก็ไม่เคยทราบ นิคเนมที่พี่เขาใช้คือ zzzteezzz ประมาณนี้ค่ะ ไม่ใช่นิคเนมที่ลงทะเบียนเหมือนของเรา พี่เค้าเข้ามาคุยกับเราเล่นๆ เพราะเราคุยสนุก โม้ไปเรื่อย (ช่วงนั้นปิดเทอม เราไปหาเพื่อนที่กทม) จนขอนัดเจอและเลี้ยงข้าว และก็คุยกันต่อ สนิทมากขึ้น พี่เค้าก็แสดงออกชัดเจนว่าชอบเรา เราเองก็รู้สึกพอใจที่มีคนดูแล เทคแคร์ และค่อนข้างชอบคนอายุมากกว่าอยู่แล้ว ก็เลยคุยกัน แต่เราเองก็มีพี่อีกคนดูแลอยู่แล้วเหมือนกัน สมมุติชื่อ N ช่วงนั้นเรางอนพี่ N เราเลยหนีออกจากห้องที่เค้าเช่าให้ ไปอาศัยอยู่กับเพื่อนอีกคน พี่ตี๋ จึงไปหาเราที่ห้องเพื่อนคนนั้น จนเราดีกันกับพี่ N แล้ว แต่เราก็ยังคุยกับพี่ตี๋อยู่ และพี่ N ไปติดต่องานที่ ตจว เราก็ไปทานข้าวกับพี่ตี๋ และใช้ห้องเพื่อนเป็นที่นัดพบ และวันนึงเพื่อนขอออกไปเที่ยวกลางคืนและให้เราช่วยดูแลลูกให้ เราจึงอยู่กับน้องสองคน พอพี่ตี๋เลิกงาน เค้าก็มาหา อยู่เป็นเพื่อนกันจนดึก (ตลอดเวลา พี่เค้าค่อนข้างสุภาพ ให้เกียรติ ไม่เคยละลาบละล้วงกับเราเลย) จนน้องหลับ เราก็คุยกัน หยอกกันไป หยอกกันมา ....ไฟติด .... และเราไม่ได้ป้องกัน (กับพี่ N เราป้องกันตลอด) ต่อมา ก่อนเปิดเทอม กลับไปเรียนต่อ เราก็เจอกับพี่ตี๋อีกครั้ง (ก่อนหน้านี้ก็เจอกันกินข้าว แต่ไม่เคยให้พี่เค้าขึ้นห้อง ลึกๆ ก็แอบรู้ว่ามันไม่ดี แต่ก็ทำ) แต่ครั้งนี้ให้พี่เค้าขึ้นห้องกลับมาด้วย (ห้องที่พี่ N เช่าให้นั่นแหละ) และครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้น ไม่ได้ป้องกันอีกเช่นเคย คือไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรกัน แต่พออยู่ด้วยกันแล้ว หยอกกันไป ล้อกันมา ก็ ลงเอย จนได้
วันนี้แหละ เป็นวันที่เราเริ่มอยากรู้ความเป็นไปของเขา เลยถือโอกาสถามเรื่องส่วนตัวเค้าไป ว่าเค้ามีครอบครัวหรือยัง (ด้วยอายุ 30-40 เราก็เลยไม่คิดว่าเค้าจะโสด แต่ก็ยังคุย ) พี่เค้าจึงยอมบอกว่า เค้ามีภรรยาแล้ว และไม่มีลูกด้วยกัน เค้าอยากมีลูกมาก แต่ภรรยาเค้ามีปัญหา ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เค้าก็ไม่เคยคิดมีคนอื่น (แรกๆ เค้าถึงไม่แตะเนื้อต้องตัวเรา) แต่กับเรา จะเรียกว่าพลาด หรือพลั้งเผลอ หรือแอบตั้งใจ มันก็หาคำอธิบายไม่ได้ หลังจากรู้ว่าเค้ามีภรรยาแล้ว เราแอบรู้สึกโกรธเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ แต่ด้วยที่เตรียมใจไว้แต่แรก ก็เลยไม่ตกใจอะไรมาก) และเราก็ยังคบกับพี่เค้าต่อไป และพอทราบว่าเค้ามีภรรยาแล้ว เรื่องอื่นๆ เราจึงหยุดถามไป และไม่คิดอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับพี่เค้าอีกเลย หลังจากนั้น พี่ตี๋เค้าก็บอกว่าจะดูแลเราไป จนเราเรียนจบและไม่อยากอยู่กับเขา (สุดท้ายก็กลายเป็นเด็กเสี่ย) แต่ขอให้บอกกัน แต่ หลังจากนั้น สามสัปดาห์ ก่อนเปิดเทอม อาการเราไม่ค่อยดี ตื่นเช้ามาเวียนหัว อ้วก กินอะไรก็อ้วก จนโทรมเละไปหมด สภาพนี่ดูไม่ได้เลย พี่ตี๋ก็มาดูแลด้วยความเป็นห่วง แต่เรา พอเห็นหน้าพี่เค้าเท่าน้น เราก็โกรธ หงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ ทั้งๆที่เค้าก็พูดดี ใจดีกับเราเหมือนเดิม จนเพื่อนแซว "ท้องป้ะเนี่ย อาการเหมือนกูเลย" เราก็ตกใจ บอกมันไปว่าไม่ได้มีอะไรกับพี่ N เลย จะท้องได้ไง (แต่เราไม่เคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าเรา... กับพี่ตี๋ไปถึงไหนกันแล้ว)
และเพื่อนเรามันก็เอาอาการของเรานี้ ไปเล่าให้พี่ตี๋ฟัง (จำได้มั้ย พี่เค้าอยากมีลูก) เราก็ด้วยความเขินจึงบอกปัดไปว่า "บ้าแล้ว กูจะท้องกับใคร" พี่ตี๋ก็แสดงอาการดีใจ และตอบแทนมาว่า "กับเค้าไง" ซึ่งต่อมา มันก็กลายเป็นความจริงจนได้ อาการเรามันไม่ดีมากๆ จนเพื่อนเราพาไปตรวจที่โรงพยาบาล สรุป เราท้องจริงๆ กำลังจะเข้าสัปดาห์ที่ 4 แล้ว ตอนรู้ เราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก กลัวพ่อแม่รู้ แล้วคิดถึงเรื่องที่ต้องกลับไปเรียนอีก ทำให้เราไม่บอกความจริงกับพี่ตี๋ เพราะเราก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ ว่าเค้าจะทำยังไงกับเรา (เค้ามีเมียแล้ว) หัวสมองเราว่างเปล่าไปหมด เพื่อนเลยบอกว่า จะพาไปเอาออก และเราก็ไปเอาออกจริงๆ และเราก็กลับบ้านไปหลังจากทำแท้งได้วันเดียวกลับไปพร้อมเพื่อนคนที่พาไปทำแท้งนันแหละ ด้วยความที่ไม่รู้ว่าควรดูแลตัวเองยังไง เราจึงป่วยเพราะมดลูกอักเสบ จึงถูกส่งเข้าโรงพยาบาลใกล้ๆมหาลัย และมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันดูแล โดยที่ไม่กล้าบอกที่บ้านเลยแม้แต่นิดเดียว และเพื่อนเราก็กลับกรุงเทพไป เราป่วย เราจึงโทรไปบอกพี่ตี๋ ว่าเราป่วย อาการไม่ดี (โดยที่ไม่บอกว่าป่วยเป็นอะไร) เพื่อที่จะขอเงินเค้ามารักษาตัว
และเสียงปลายสายของพี่เค้าตอบกลับมาแบบเย็นชา ปนเศร้า (ตอนนั้นเราเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย)
พี่เค้าบอกเราว่า "พี่จะให้เราเป็นครั้งสุดท้าย เอาไปรักษาตัวให้หาย และดูแลตัวเองให้ดี พี่คงดูแลเราต่อไปไม่ได้แล้ว เราคงไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ" ประโยคนี้ เรายังจำขึ้นใจมาจนป่านนี้ ถึงจะสงสัยว่าทำไม แต่เราก็ไม่กล้าที่จะถาม และในใจคือเดาว่า เมียพี่เค้าอาจจะรู้เรื่อง พี่เค้าถึงตัดจบไปแบบนี้ แต่เราก็ยอมจบแต่โดยดี ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจ แต่เรียกว่าทำใจล่วงหน้าไว้แล้วก็ว่าได้ เราก็ใช้ชีวิตของเราไป และเราก็ยังเล่น PIRCH อยู่เหมือนเดิม จนพี่ที่รู้จักอีกคน มาบอกให้เราเลิกคบกับเพื่อนเรา คนที่พาไปทำแท้งนี่แหละ แต่ไม่บอกเหตุผลว่าทำไม (เราก็ยังงงต่อไป มาเป็นปีๆ) จนผ่านไปปีกว่าๆ เกือบสองปี เรื่องทั้งหมด ก็ถูกเฉลย จากแม่ของเราเอง เพื่อนที่เราไว้ใจ มันโทรไปเล่าให้แม่เราฟังหมดเลยว่าเราไปทำแท้ง และมันยังเป็นคนไปบอกพี่ตี๋ให้รู้อีกด้วย คือบอกพี่เค้าทันทีที่มันถึงกรุงเทพวันนั้นเลย วันที่พี่เค้าโทรมาบอกเลิกเราเลย (เรามารู้ทีหลังว่ามันเป็นคนทำ เพราะอะไรจนป่านนี้เราก็ยังไม่ได้คำตอบ แต่เราไม่คิดจะหาคำตอบเราตัดความสัมพันธ์ กับมันทันที)
จากที่ไม่เคยคิดจะติดต่อไปหาพี่ตี๋ ให้เค้าลำบากใจ เพราะเข้าใจว่าเมียเค้าอาจจะรู้ กลับกลายเป็นว่าเราอยากติดต่อเค้า อยากคุยกับเค้า อยากบอก อยากถาม จากปากตัวเอง แต่เราก็ทำไม่ได้ เราไม่มีโทรศัพท์ เบอร์พี่เค้าก็อยู่ในเครื่องอีเพื่อนคนนั้น แต่มันก็บอกว่าโทรศัพท์เสีย เบอร์พี่เค้าหายไป เราเองก็จำไม่ได้
เราเพียรพยายามไปเฝ้าห้องแชท PIRCH ทุกวันมองหา นิคเนม zzzteezzz เผื่อพี่เค้าอาจจะคิดถึงเราบ้างและแอบมาหา จนถึงขนาดเคยประกาศหาตามห้องต่างๆ ว่าเราอยากพบเค้า แต่เราก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาเลย เค้าคงเลิกเล่นไปแล้ว จนเวลาผ่านมาเป็นสิบปี ปัจจุบัน เราเองยังคิดถึงเรื่องนี้ เรายังคิดถึงเค้า คิดถึงเรื่องที่ทำลงไป เราอยากขอโทษพี่ตี๋ ที่ทำให้เค้าเสียใจ เรารู้ว่าเค้าดีใจขนาดไหน ตอนที่เห็นเราเหมือนจะท้องจริงๆ
เรื่องที่ผ่านมา เราไม่ได้โทษอะไร หรือใคร แต่ความรู้สึกในใจ เราสลัดมันไปไม่ได้สักที แต่ก็ไม่มีหนทางจะติดต่อเขาได้เลย
ตอนนี้ เรานอนไม่หลับ เพราะหวนคิดถึงพี่เค้าอีกแล้ว เราได้แต่หวังให้พี่เค้ายังคงวนเวียนอยู่ใน Internet และหวังให้พี่เค้าผ่านมาพบเห็นกระทู้หนึ่งในพันทิพ ที่พูดถึงเขา และหวังให้เค้าติดต่อเรากลับมา เราอยากขอแค่โอกาสได้ขอโทษเค้าสักครั้ง เราไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เรามีให้พี่เค้า มันใช่ความรักมั้ย เราแยกมันไม่ออกจริงๆ ทุกวันนี้ เราเองก็ยังอยู่คนเดียว เราไม่ได้รอใคร หรืออะไร แต่เราไม่เจอใครที่ทำให้เรารู้สึกรักได้เลยแม้แต่คนเดียว
.
ต้องทำอย่างไร ถึงจะได้พบเจอกันอีกในชาตินี้ ชาติที่เรายังจดจำกันได้
เราอยากเจอคน คนหนึ่ง แต่ไม่มีช่องทางติดต่อใด ๆ เลย
ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือไม่เหมาะสม ก็ต้องขออภัยไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ค่อนข้างยาวนะ เพราะเราอยากให้รายละเอียด เราแอบหวังจริงๆ ว่าพี่เค้าจะมาพบอ่านเจอ และติดต่อมาหาเรา
เคยเป็นกันไหม ที่ตลอดเวลา เสี้ยวหนึ่งของความคิด ของหัวใจ จะติดถึงใครคนหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
ทุกวันนี้ ทุกช่วงหนึ่งของเวลา บ่อยครั้งมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ กับการคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง และคิดถึงคน ๆ นั้น
เราเองก็แยกไม่ออกว่าเราคิดถึงเค้า เพราะความรู้สึกผิด เพราะความรัก เพราะความกตัญญู เพราะความซาบซึ้ง ในความใจดีของเขา
หรือเพราะเรา จบกันโดยไม่ได้พูดลากันให้เข้าใจ แต่เราอยากจะพบเขาอีกสักครั้งมากจริงๆ แต่เราไม่มีหนทาง หรือช่องทางติดต่อเค้าเลยแม้แต่ทางเดียว
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสักประมาณ 14 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอายุ 18 กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งนึงทางภาคอิสาน ฐานะทางบ้านค่อนข้างขัดสน เราก็เลยหางานพิเศษทำไปด้วยระหว่างเรียน แต่ก็ยากหน่อย เพราะขาดยานพาหนะ สุดท้าย ทำๆ ออกๆ เพราะเกรงใจ ที่ต้องคอยรบกวนเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ
และระหว่างนั้น เราไปติดโปรแกรมแชทยอดฮิตสมัยก่อน IRC หรือ PIRCH นั่นเอง ทำให้รู้จักคนเยอะแยะมากมาย คุยไปเรื่อยทุกวัน จนติดงอมแงม และไปรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งในโปรแกรมแชทนี่เอง เค้าบอกเราว่าเค้าชื่อ ตี๋ และเราก็เรียกเค้าว่า พี่ตี๋ โดยที่ไม่เคยถามเรื่องอื่นๆ ส่วนตัวของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน หรือชื่อจริงนามสกุลจริง เราก็ไม่เคยทราบ นิคเนมที่พี่เขาใช้คือ zzzteezzz ประมาณนี้ค่ะ ไม่ใช่นิคเนมที่ลงทะเบียนเหมือนของเรา พี่เค้าเข้ามาคุยกับเราเล่นๆ เพราะเราคุยสนุก โม้ไปเรื่อย (ช่วงนั้นปิดเทอม เราไปหาเพื่อนที่กทม) จนขอนัดเจอและเลี้ยงข้าว และก็คุยกันต่อ สนิทมากขึ้น พี่เค้าก็แสดงออกชัดเจนว่าชอบเรา เราเองก็รู้สึกพอใจที่มีคนดูแล เทคแคร์ และค่อนข้างชอบคนอายุมากกว่าอยู่แล้ว ก็เลยคุยกัน แต่เราเองก็มีพี่อีกคนดูแลอยู่แล้วเหมือนกัน สมมุติชื่อ N ช่วงนั้นเรางอนพี่ N เราเลยหนีออกจากห้องที่เค้าเช่าให้ ไปอาศัยอยู่กับเพื่อนอีกคน พี่ตี๋ จึงไปหาเราที่ห้องเพื่อนคนนั้น จนเราดีกันกับพี่ N แล้ว แต่เราก็ยังคุยกับพี่ตี๋อยู่ และพี่ N ไปติดต่องานที่ ตจว เราก็ไปทานข้าวกับพี่ตี๋ และใช้ห้องเพื่อนเป็นที่นัดพบ และวันนึงเพื่อนขอออกไปเที่ยวกลางคืนและให้เราช่วยดูแลลูกให้ เราจึงอยู่กับน้องสองคน พอพี่ตี๋เลิกงาน เค้าก็มาหา อยู่เป็นเพื่อนกันจนดึก (ตลอดเวลา พี่เค้าค่อนข้างสุภาพ ให้เกียรติ ไม่เคยละลาบละล้วงกับเราเลย) จนน้องหลับ เราก็คุยกัน หยอกกันไป หยอกกันมา ....ไฟติด .... และเราไม่ได้ป้องกัน (กับพี่ N เราป้องกันตลอด) ต่อมา ก่อนเปิดเทอม กลับไปเรียนต่อ เราก็เจอกับพี่ตี๋อีกครั้ง (ก่อนหน้านี้ก็เจอกันกินข้าว แต่ไม่เคยให้พี่เค้าขึ้นห้อง ลึกๆ ก็แอบรู้ว่ามันไม่ดี แต่ก็ทำ) แต่ครั้งนี้ให้พี่เค้าขึ้นห้องกลับมาด้วย (ห้องที่พี่ N เช่าให้นั่นแหละ) และครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้น ไม่ได้ป้องกันอีกเช่นเคย คือไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรกัน แต่พออยู่ด้วยกันแล้ว หยอกกันไป ล้อกันมา ก็ ลงเอย จนได้
วันนี้แหละ เป็นวันที่เราเริ่มอยากรู้ความเป็นไปของเขา เลยถือโอกาสถามเรื่องส่วนตัวเค้าไป ว่าเค้ามีครอบครัวหรือยัง (ด้วยอายุ 30-40 เราก็เลยไม่คิดว่าเค้าจะโสด แต่ก็ยังคุย ) พี่เค้าจึงยอมบอกว่า เค้ามีภรรยาแล้ว และไม่มีลูกด้วยกัน เค้าอยากมีลูกมาก แต่ภรรยาเค้ามีปัญหา ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เค้าก็ไม่เคยคิดมีคนอื่น (แรกๆ เค้าถึงไม่แตะเนื้อต้องตัวเรา) แต่กับเรา จะเรียกว่าพลาด หรือพลั้งเผลอ หรือแอบตั้งใจ มันก็หาคำอธิบายไม่ได้ หลังจากรู้ว่าเค้ามีภรรยาแล้ว เราแอบรู้สึกโกรธเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ แต่ด้วยที่เตรียมใจไว้แต่แรก ก็เลยไม่ตกใจอะไรมาก) และเราก็ยังคบกับพี่เค้าต่อไป และพอทราบว่าเค้ามีภรรยาแล้ว เรื่องอื่นๆ เราจึงหยุดถามไป และไม่คิดอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับพี่เค้าอีกเลย หลังจากนั้น พี่ตี๋เค้าก็บอกว่าจะดูแลเราไป จนเราเรียนจบและไม่อยากอยู่กับเขา (สุดท้ายก็กลายเป็นเด็กเสี่ย) แต่ขอให้บอกกัน แต่ หลังจากนั้น สามสัปดาห์ ก่อนเปิดเทอม อาการเราไม่ค่อยดี ตื่นเช้ามาเวียนหัว อ้วก กินอะไรก็อ้วก จนโทรมเละไปหมด สภาพนี่ดูไม่ได้เลย พี่ตี๋ก็มาดูแลด้วยความเป็นห่วง แต่เรา พอเห็นหน้าพี่เค้าเท่าน้น เราก็โกรธ หงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ ทั้งๆที่เค้าก็พูดดี ใจดีกับเราเหมือนเดิม จนเพื่อนแซว "ท้องป้ะเนี่ย อาการเหมือนกูเลย" เราก็ตกใจ บอกมันไปว่าไม่ได้มีอะไรกับพี่ N เลย จะท้องได้ไง (แต่เราไม่เคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าเรา... กับพี่ตี๋ไปถึงไหนกันแล้ว)
และเพื่อนเรามันก็เอาอาการของเรานี้ ไปเล่าให้พี่ตี๋ฟัง (จำได้มั้ย พี่เค้าอยากมีลูก) เราก็ด้วยความเขินจึงบอกปัดไปว่า "บ้าแล้ว กูจะท้องกับใคร" พี่ตี๋ก็แสดงอาการดีใจ และตอบแทนมาว่า "กับเค้าไง" ซึ่งต่อมา มันก็กลายเป็นความจริงจนได้ อาการเรามันไม่ดีมากๆ จนเพื่อนเราพาไปตรวจที่โรงพยาบาล สรุป เราท้องจริงๆ กำลังจะเข้าสัปดาห์ที่ 4 แล้ว ตอนรู้ เราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก กลัวพ่อแม่รู้ แล้วคิดถึงเรื่องที่ต้องกลับไปเรียนอีก ทำให้เราไม่บอกความจริงกับพี่ตี๋ เพราะเราก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ ว่าเค้าจะทำยังไงกับเรา (เค้ามีเมียแล้ว) หัวสมองเราว่างเปล่าไปหมด เพื่อนเลยบอกว่า จะพาไปเอาออก และเราก็ไปเอาออกจริงๆ และเราก็กลับบ้านไปหลังจากทำแท้งได้วันเดียวกลับไปพร้อมเพื่อนคนที่พาไปทำแท้งนันแหละ ด้วยความที่ไม่รู้ว่าควรดูแลตัวเองยังไง เราจึงป่วยเพราะมดลูกอักเสบ จึงถูกส่งเข้าโรงพยาบาลใกล้ๆมหาลัย และมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันดูแล โดยที่ไม่กล้าบอกที่บ้านเลยแม้แต่นิดเดียว และเพื่อนเราก็กลับกรุงเทพไป เราป่วย เราจึงโทรไปบอกพี่ตี๋ ว่าเราป่วย อาการไม่ดี (โดยที่ไม่บอกว่าป่วยเป็นอะไร) เพื่อที่จะขอเงินเค้ามารักษาตัว
และเสียงปลายสายของพี่เค้าตอบกลับมาแบบเย็นชา ปนเศร้า (ตอนนั้นเราเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย)
พี่เค้าบอกเราว่า "พี่จะให้เราเป็นครั้งสุดท้าย เอาไปรักษาตัวให้หาย และดูแลตัวเองให้ดี พี่คงดูแลเราต่อไปไม่ได้แล้ว เราคงไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ" ประโยคนี้ เรายังจำขึ้นใจมาจนป่านนี้ ถึงจะสงสัยว่าทำไม แต่เราก็ไม่กล้าที่จะถาม และในใจคือเดาว่า เมียพี่เค้าอาจจะรู้เรื่อง พี่เค้าถึงตัดจบไปแบบนี้ แต่เราก็ยอมจบแต่โดยดี ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจ แต่เรียกว่าทำใจล่วงหน้าไว้แล้วก็ว่าได้ เราก็ใช้ชีวิตของเราไป และเราก็ยังเล่น PIRCH อยู่เหมือนเดิม จนพี่ที่รู้จักอีกคน มาบอกให้เราเลิกคบกับเพื่อนเรา คนที่พาไปทำแท้งนี่แหละ แต่ไม่บอกเหตุผลว่าทำไม (เราก็ยังงงต่อไป มาเป็นปีๆ) จนผ่านไปปีกว่าๆ เกือบสองปี เรื่องทั้งหมด ก็ถูกเฉลย จากแม่ของเราเอง เพื่อนที่เราไว้ใจ มันโทรไปเล่าให้แม่เราฟังหมดเลยว่าเราไปทำแท้ง และมันยังเป็นคนไปบอกพี่ตี๋ให้รู้อีกด้วย คือบอกพี่เค้าทันทีที่มันถึงกรุงเทพวันนั้นเลย วันที่พี่เค้าโทรมาบอกเลิกเราเลย (เรามารู้ทีหลังว่ามันเป็นคนทำ เพราะอะไรจนป่านนี้เราก็ยังไม่ได้คำตอบ แต่เราไม่คิดจะหาคำตอบเราตัดความสัมพันธ์ กับมันทันที)
จากที่ไม่เคยคิดจะติดต่อไปหาพี่ตี๋ ให้เค้าลำบากใจ เพราะเข้าใจว่าเมียเค้าอาจจะรู้ กลับกลายเป็นว่าเราอยากติดต่อเค้า อยากคุยกับเค้า อยากบอก อยากถาม จากปากตัวเอง แต่เราก็ทำไม่ได้ เราไม่มีโทรศัพท์ เบอร์พี่เค้าก็อยู่ในเครื่องอีเพื่อนคนนั้น แต่มันก็บอกว่าโทรศัพท์เสีย เบอร์พี่เค้าหายไป เราเองก็จำไม่ได้
เราเพียรพยายามไปเฝ้าห้องแชท PIRCH ทุกวันมองหา นิคเนม zzzteezzz เผื่อพี่เค้าอาจจะคิดถึงเราบ้างและแอบมาหา จนถึงขนาดเคยประกาศหาตามห้องต่างๆ ว่าเราอยากพบเค้า แต่เราก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาเลย เค้าคงเลิกเล่นไปแล้ว จนเวลาผ่านมาเป็นสิบปี ปัจจุบัน เราเองยังคิดถึงเรื่องนี้ เรายังคิดถึงเค้า คิดถึงเรื่องที่ทำลงไป เราอยากขอโทษพี่ตี๋ ที่ทำให้เค้าเสียใจ เรารู้ว่าเค้าดีใจขนาดไหน ตอนที่เห็นเราเหมือนจะท้องจริงๆ
เรื่องที่ผ่านมา เราไม่ได้โทษอะไร หรือใคร แต่ความรู้สึกในใจ เราสลัดมันไปไม่ได้สักที แต่ก็ไม่มีหนทางจะติดต่อเขาได้เลย
ตอนนี้ เรานอนไม่หลับ เพราะหวนคิดถึงพี่เค้าอีกแล้ว เราได้แต่หวังให้พี่เค้ายังคงวนเวียนอยู่ใน Internet และหวังให้พี่เค้าผ่านมาพบเห็นกระทู้หนึ่งในพันทิพ ที่พูดถึงเขา และหวังให้เค้าติดต่อเรากลับมา เราอยากขอแค่โอกาสได้ขอโทษเค้าสักครั้ง เราไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เรามีให้พี่เค้า มันใช่ความรักมั้ย เราแยกมันไม่ออกจริงๆ ทุกวันนี้ เราเองก็ยังอยู่คนเดียว เราไม่ได้รอใคร หรืออะไร แต่เราไม่เจอใครที่ทำให้เรารู้สึกรักได้เลยแม้แต่คนเดียว
.
ต้องทำอย่างไร ถึงจะได้พบเจอกันอีกในชาตินี้ ชาติที่เรายังจดจำกันได้