ผมหวังแค่คำว่า " ขอโทษ " ผมผิดอะไรที่ผมต้องการคำนี้จากคนที่คุยๆกันอยู่

วันนึงผมได้เจอผู้หญิงคนนึงโดยบังเอิญจากเฟซตอนแรกก็คุยเล่นๆแต่เขาแอดมา เราเลยได้ทำความรู้จักกัน
พอคุยๆกันเดือนกว่าก็เดทกันแล้วก็ตกลงกันว่างั้นลองคุยๆกันดูนะ ผมก็โอเคเพราะผมชอบเหมือนกัน
ผมพยายามทำดีกับเขานะครับ ผมปล่อยเขาอิสระ ไม่มาจุกจิกอะไร
เขาไปกินเหล้าก็ไป ไปเที่ยวกับเพื่อนก็ไปแต่เขาก็มักจะส่งรูปมาให้ดูว่าเนี่ยอยู่นี่นะ
ไม่ต้องกลัว กลับตอนนั้นนี่ ถ้ามีอะไรจะโทรมาหา

ส่วนผมไม่กินเหล้าแล้วผมก็จะบอกว่าถ้าเมามากให้โทรบอกได้นะไม่ต้องให้เพื่อนฝืนขับรถ
เดี่ยวผมจะไปขับรถส่งบ้านให้ถ้าไม่ไหวจริง  เวลาผมไปใหนผมก็ซื้อของมาฝากบ้าง
เขาก็เริ่มเปิดใจให้ผมเรื่อยๆจริงๆแล้วอาจจะคิดเอง เขาเริ่มจุกจิก เริ่มเล่าอะไรมากขึ้นเปิดใจกับผมมากขึ้น
ผมชอบเธอตรงที่เธอขยันหาเงิน คุยเก่งไม่ฟุ่มเฟือย หน้าตาก็ไม่ได้สวยอะไรนะแต่หน้าไม่มีสิวผอมๆสูงๆคล้ำๆแต่งตัวเก่ง
เพราะเธอทำร้านขายเสื่อผ้ากับเพื่อน ตัดเองออกแบบเองแต่ก็ไม่ได้ร้านใหญ่แต่ก็ขายได้เรื่อยๆและเหมือนเพื่อนเธอกำลังจะเลิก
ผมเลยคิดว่ากำลังจะหาเงินให้เธอทำ ผมเองก็พอมีเพื่อนที่ต้องการคนเลยไปคุยๆไว้ก่อนแล้วกะว่าปลายเดือนก็จะพาไปหา

พอเริ่มทำความรุ้จักกัน เธอขอให้ผมออกกำลังกายคุมอาหารมากขึ้นเพราะเธอสายออกกำลังเธออยากให้มีสุขภาพดีๆจะได้ไปเที่ยวกันง่ายๆ
ผมก็บอกว่าผมสัญญาว่าจะทำตามนั้นเพราะผมอ้วนผมเข้าใจว่าเธอต้องการอะไรแต่จริงๆผมก็แข็งแรงนะแต่ผมตัวใหญ่เฉยๆ
เธอไม่ชอบบุหรี่ผมก็ไม่ดูดอยู่แล้ว เธอไม่ชอบคนจุกจิกผมก็สบายๆไม่อะไรผมโตแล้วผมไม่จู้จี้ เธอขอให้เราส่งภาพมาว่าทำอะไรอยู่ เธอจะไม่ไลน์กวนนะ
เธอรู้ว่าทำงานแล้วจะคุยไลน์ยากแต่เธอขอว่าถ้าจะไปข้างนอกที่ไม่ใช่ทำงานให้บอกเผื่อจะได้โทรไปหาได้ ผมก็บอกว่าโอเคถ้าไม่กวนเวลางานผมทำให้ได้ ผมก็เลยมักจะส่งภาพหรือเขียนในไลน์ไปบอกว่าไปหาลูกค้า กลับบ้านไว หรือ เสร็จไว เผื่อจะไปหาเธอที่ร้านบ้าง เธอไม่ไลน์เลยเธอจะไลน์เฉพาะ
ช่วงพักของผมและ เฟซไทมบ้างแค่นั้นกลางคืนเธอก็จะออกแบบเสื้อผ้าบ้างเราเลยเฟซไทมทิ้งไว้ เธอก็ทำงานไป ผมก็ทำงานผมบ้างแอบดูเธอบ้าง
หรือเล่นเกมบ้าง เราเข้าใจกันตรงนี้ได้หมด เรื่องเซ็กตลอด1ปีไม่คิดเลยผมคิดว่าผมจริงจัง ผมเลยคิดว่าเรื่องพวกนี้เมื่อไรก็ได้เพราะยังไง
มันก็มีเวลาอีกเยอะ เธอเองก็รู้สึกยังไม่พร้อมกับผม เคยจูบจนเกือบเกินเลยแต่เธอบอกว่าขอเวลาก่อนผมก็โอเคผมไม่ฝืนใจใคร
ผมไม่ไปใหนด้วยผมรักใครผมรักจริงให้เกียรติเต็มที่อยู่แล้ว

พอเพื่อนผมบอกว่าให้เรียกมาคุยได้ละ
ผมเลยไปคุยกับเธอว่า เธออยากจะทำงานนี้ใหม รายได้จะดีกว่าปกติเธอเกือบ2เท่าเลยนะและงานไม่ยาก นั้งทำสต้อกของรับออเดอร์
บริษัทเพื่อนผมเอง ปกติเธอทำอยู่แล้วแบบนี้ เธอก็บอกผมว่าโอเคนะ เธอจะได้มีเงินซื้อของที่เธออยากได้บ้างเพราะปกติเธอจะเหลือเงินใช้แค่ 9 พัน
นอกนั้นส่งให้ครอบครัวหมด  

จุดเริ่มต้นในการเลิกคุยกันเริ่มจากตอนนี้ครับ

ผมนัดเธอว่าเนี่ย29มิถุนายนนะ เดี่ยวผมมารับไปบ้านเพื่อนไปเจอเจ้าของหน่อยเขาจะได้เห็นหน้าเห็นตาบ้าง ผมบอก 4 โมงเย็นนะ หาอะไรกินไปเจอมันกัน เธอบอกว่าโอเค แต่พอปลายเดือน ก่อนวันที่นัดกัน เธอบอกว่าเนี่ยพอดีมีเพื่อนมาจากต่างจังหวัด เดี่ยวยังไงขอไปหาเพื่อนก่อนนะพอดีเพื่อนอยากจะเลี้ยงข้าว ผมก็ถามว่าไปที่ใหนเธอบอกพาราก้อนจะไปกินโออิชิแกรน ผมก็บอกว่างั้นดีเลยเดี่ยวผมไปรับแถวนั้นละเพราะบ้านเพื่อนอยู่แถวโรงแรมดุสิตไปคุยๆกันแล้วจะได้ไปหาอะไรกินกัน

พอ 3 โมงครึ่งเพื่อนผมโทรมาถามบอกว่าใหนละมากันยัง ผมก็บอกว่าแปปนะกำลังโทรหาอยู่ สรุปว่าไม่ได้มาพาราก้อนแต่ดันไปเซ็นเวสเกส ใกล้บ้านเขาแทน ผมก็ถามว่าลืมหรือไงว่าต้องมาเจอเจ้าของ เขาก็บอกว่าเพื่อนยังไม่กลับอะ พอดีพาเพื่อนมาคุยงานเพื่อนมาไม่ถูก ผมก็บอกว่าแล้วงานคุณละไม่เอาแล้วหรือไง เขาก็บอกว่า ก็ไม่ไปได้แล้วจะให้ทำยังไง ก็บ่นๆๆๆๆ สรุปเสียคนไปรอบนึง (ตอนหลังรู้มาว่าเป็นผู้ชายอีกคนที่เขาเคยชอบแต่ผู้ชายไม่เอา)

รอบที่ 2 ผมสนใจเรื่องไพเรทไม่ก็มัมมี่ วันพฤหัสบอกว่าวันเสาร์ดูหนังใหม เขาก็บอกว่าไม่ค่อยมีตังนะ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรผมเลี้ยงได้แค่หนัง เเขาก็บอกว่างั้นข้าวไปกินฝั่งน้อมจิตรละกันเดี่ยวเขาเลี้ยง(เขาชอบช่วยๆกันจ่ายมากกว่าเลี้ยงหมด)ผมบอกไม่เป็นไรกินนี่ละ รอบนี้ผมเลี้ยงได้ไม่ต้องคิดมาก เขาก็โอเคๆๆ พอวันเสาร์เช้าผมต้องไปซื้อของแปปนึง เขาก็บอกว่าพอดีเลยเพื่อนเขาขอแรงช่วยจัดของที่คอนโด งั้นจองไว้รอบบ่ายแทนละกัน ผมก็บอกว่างั้นผมจะจองรอบบ่าย 2 เจอกันที่เดอะมอลบางกะปิ (ใกล้คอนโดเพื่อนเขา)  พอบ่ายโมงผมก็ไปรอ บ่าย2ก็ยังไม่มา ผมรอจน5โมงเย็นดูดี้ว่าจะมาหรือเปล่า
ผมก็เดินวนไปวนมาอยู่แถวนั้นละสุดท้าย5โมงเย็น โทรไปไม่ติดผมเลยกลับบ้าน กดเฟซเจอเพื่อนเขาคนที่ว่าแท็กเธอว่าอยู่เซ็นทรัลหลังจัดของเสร็จแล้ว  

อีกวันเธอทักมา เธอบอกว่าเมื่อวานแบตหมดเลยติดต่อไม่ได้เลยไม่ไปหา ผมก็บอกว่าผมบอกแล้วไงว่าอยู่เดอะมอลบางกะปิ จองรอบบ่าย 2
เขาก็บอกว่าก็ไม่รุ้ว่าจะอยู่หรือเปล่าไง ผมก็บอกว่าแล้วทำไมไม่มาละ เขาก็บอกก็คิดว่าไม่อยู่ไงทำไมบ่นจัง ผมก็เลยบอกว่าทำไมพูดแบบนี้ละ
เขาก็บอกว่าเราก็เป็นของเราแบบนี้ละเป็นคนตรงๆเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ผมก็เลยเบรคไม่คุย

อีกชั่วโมงต่อมา เธอโพสในเฟซว่า  " ตายแล้วมีแม่เพิ่มขึ้นอีกคน นิดๆหน่อยๆบ่น เรารุ้ตัวดีว่าเราเป็นคนยังไง คนอื่นจะมารุ้ดีได้ไง "
เพื่อนหลายคนเข้ามาอวย ผมก็เอาเหอะอยากพูดอะไรก็พูดไป ผมเลยไม่ทักไม่คุยไลน์เลย

3 วันต่อมาเธอทักมา เงียบเลยนะไม่อยากคุยกับเธอแล้วเหรอ  ผมแอบหวังว่าเธอจะรู้สึกว่าการกระทำเธอมันผิด
ผมก็บอกว่า ถ้าเธอทำให้ผมไม่สบายใจอะไรก็บอกสิ

ผมก็บอกว่า ผมไม่สบายใจที่เธอพูดแล้วไม่ทำตามที่พูด มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมมันด้อยค่าเหลือเกิน เธอไม่เห็นความสำคัญผมนี่นา
ผมยังให้ความสำคัญตลอดเลย ให้เกียรติอีกต่างหาก แต่พอเพื่อนหรือคนอื่นเธอกลับให้ความสำคัญมากกว่าผม
เธอก็บอกว่าบ่นซะรู้สึกผิดเลย ผมก็หวังว่าเธอจะพูดว่าขอโทษแล้วจะไม่ทำแบบนี้อีก

เธอกลับพูดว่า เธอก็เป็นของเธอแบบนี้ คนที่เข้ามาก็น่าจะรู้ว่าต้องเจอแบบนี้ แล้ววกมาเรื่องหนังอีกว่าก็ทำไงได้
ติดต่อผมไม่ได้แล้วจะให้ไปมันก็เสียเวลาปะ เบื่อเราแล้วหรือไงทำไมจะทิ้งแล้ว (ไม่มีอะไรกันนะ เราพยายามจะค่อยเป็นค่อยไป)
ผมก็บอกว่าผมไม่เคยเบื่อคุณไม่งั้นผมจะไปหาคุณทำไมวันละเป็นร้อยโล

ผมก็เลยบอกว่างั้นก็ไปหาคนที่คุณคิดว่า มีความสำคัญ ควรให้เวลา คนอื่นแล้วกัน ผมคิดว่าเราคงไม่ใช่จริงๆแล้ว
เขาก็บอกว่างั้นตามใจ ผมก็เลยบล้อคหมดเลยตั้งแต่วันนั้น เขาคงคิดว่าผมมันไม่หล่อคงต้องง้อเขาแน่แต่เปล่าเลย
ผมไม่ง้อเขา

ผมแค่ต้องการให้เขารู้จักคำว่าขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว มันยากอะไรใหม หรือว่าเขาไม่รู้จริงๆว่าควรทำอะไร
แค่อยากระบายไม่มีอะไร เพื่อนเขาคนนึงคนสมเพชผมมั้งแคปมาให้ดูว่าเขาด่าว่ากันยังไง ผมก็บอกเออช่างเขาเหอะ
ผมคิดว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไร เมื่อนิสัยมันแก้ไม่ได้แล้วรับไม่ได้ก็ควรต้องไปไม่ใช่เหรอ ?
เพราะผมคิดว่าทนไปมันก็ไม่ได้อะไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่