ว่าปัจจุบัน การใช้งานอินเตอร์เน็ตของดีแทคมีปัญหาที่สุด ในบรรดา 3 เครือข่ายใหญ่ หรือบางครั้ง บางที การใช้งานยังไม่สามารถเทียบเท่าเครือข่ายทีให้บริการโดยรัฐวิสาหกิจได้เลย เช่น "MY"
ดังจะสังเกตุเห็นได้จากการคอมเพลนของลูกค้าผู้ใช้งาน ทั้งระบบรายเดือนและเติมเงิน แต่ดูเหมือนยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เมื่อดีแทคมีการจำหน่ายซิม LINE โมบาย ใช้ไลน์ที่ความเร็วสูงสุด ทั้งดูทีวีผ่านไลน์ รวมถึงแพคเกจ โก โน ลิมิต ที่ดึงสปีดการใช้งานโดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างหนัก ทำให้บางจุด อินเตอร์เน็ตวิ่งแค่ระดับ Kbps ไม่ถึง 1 Mbps ในขณะที่อีกสองเครือข่ายยักษ์ ทั้ง AIS TRUE H วิ่งระดับ 300 Up แล้ว จริงอยู่ที่การใช้งานจริงไม่ต้องใช้ความเร็วสูงถึงขนาดนี้ แต่บางครั้งบางที มันดูแย่ และลำบากในการใช้งานเหลือเกิน จ่ายรายเดือนเกือบพัน ได้ความเร็วต่ำกว่าซิม MY BY CAT เดือนละ 99 บาท ?? ดังรุป
จากภาพ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ รับจากคลื่น 1800 ส่วนคลื่น 2100 นั้นไม่สามารถ speed test ได้กันเลยทีเดียวเพราะแอพไม่สามารถดึงข้อมูลได้
จึงเป็นที่มาของการร้องเรียนของลูกค้า ว่า
1. เหตุใด ดีแทคถึงไม่ปล่อยแบนด์วิช 2100 ที่เป็นคลื่นเพียงใบเดียวของดีแทค ที่มีอนาคต ? เพิ่มเป็น 10 MHz เพราะเป็นใบอนุญาตใบเดียวที่มีอยู่ในมือ (จะเป็นใบสุดท้ายหรือไม่) ควรปรับแบนด์วิช 4G 2100 เป็น 10 MHz ได้แล้ว เพราะมือถือปัจจุบัน รองรับ 4G เกือบทั้งหมด เนื่องจากหากเปิดเครื่องก็จะมีการ สแตนบายด์ที่ 4G เป็นหลักอยู่แล้ว แต่ใยปล่อยให้เป็นภาพลักณ์ที่แย่มา นมนานขนาดนี้
2. การเร่งติดตั้ง และเปิดใช้งานเสา เป็นปัญหาที่ดีแทคยังคง วน ๆ ... กับปัญหาเหล่านี้เสมอ เช่นกรณีการติดตั้งเสา ต้องเป็นพื้นที่ๆ มีลูกค้าใช้งานหนาแน่น หากพื้นที่ไหนมอนิเตอร์แล้ว ลูกค้าดีแทคน้อย ลูกค้าเครื่อข่ายอื่นมากกว่า ก็พับเก็บโครงการไว้ก่อน ลูกค้ารอไม่ไหวย้ายออกกันเพียบ ดังจะเห็นยอดผู้ใช้งานดีแทคปัจจุบันอยู่ที่ 23 ล้านเลขหมาย ยอดลดลงเรื่อยๆ ตามพื้นที่สัญญาณที่หดลง และสปีดที่ต่ำลงเรื่อยๆ ไม่อยากคิดว่า วันที่คลื่น 1800 850 หมดสัมปทาน จะเป็นเช่นไร
3.ปัญหาการไม่เปิดเสาสัญญาณให้ใช้งาน หลังติดตั้งเสาสัญญาณเสร็จแล้ว ยังคงเป็นปัญหา วนเวียนกับดีแทค เครือข่ายเดียว มาตลอดระยะเวลากว่า ศตวรรษ ? เพราะหลักการบริหารแบบตะวันตกคือ สิ่งไหนไม่ชัดเจน ฉันไม่ทำ ? จึงไม่แปลกใจเลยว่าดีแทค จะถอยหลังตนเองเรื่อยๆ ในขณะที่เครือข่ายอื่น พัฒนาแบบก้าวกระโดด น่าคิดนะครับ
สิ่งที่อยากขอร้อง ณ จุดนี้คือ ฝากเรียนไปยังผู้บริหารระดับสูงของดีแทค ช่วยกรุณาออกมาชี้แจง ถึงทิศทางของเครือข่าย ดีแทค ประเทศไทยในอนาคต เพราะยิ่งเงียบ ลูกค้ายิ่งหาย เพราะเหมือนมองไม่เห็นทาง คลื่น 1800 850 ก็กำลังจะหมดสัปทาน ดิว TOT 2300 ก็ยังคงลำบาก เพราะต้องผ่านด่านอรหันต์ อีกเพียบจากรัฐบาล ความชัดเจนของการประมูคลื่นความถี่ ที่ กสทช หมดวาระการบริหาร การประมูลคงไม่ได้เกิดง่ายแน่ช่วงนี้ การมีคลื่นอยู่ในมือเพียง 15 MHz ของดีแทคจึงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เลย แม้แต่น้อย
หาก ดีแทคยังคงใช้วิธีการบริหารงาน เช่น ปัจจุบันต่อไป เราอาจได้เห็นรายงานผลประกอบการ และยอดลูกค้าของดีแทคถอยลงจนเลขหมายผู้ใช้งานดีแทคต่ำกว่า 20 ล้านเบอร์ เป็นแน่แท้ ในขณะที่คู่แข่งอย่างทรู อาจขยับถึง 30 ล้านในอนาคตเพื่อแย่งชิงกับ AIS ที่อยู่ตัวทรงที่ 40 ล้านมานาน
หากผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในดีแทค ได้ผ่านมาอ่านกระทู้นี้ ขอวิงวอนงานสื่อสารองค์กร ช่วยออกมาสื่อสารกับลูกค้าสักหน่อย เพื่อสร้างภาพลักษ์ อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่า ไม่หาย ไม่ทิ้งไปไหน เพราะเท่าที่เห็นการใช้การโฆษณา โดยดึงตัวแม่แห่งวงการบันเทิงอย่าง อั้ม พัชราภา ออกมาเป็นพรีเซนต์เตอร์ กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะลูกค้าลดลงถึง เกือบ 3 ล้านเลขหมายในเวลาแค่ 2 ปี กว่า ภาพลักษณ์จะดีแค่ไหน แต่ตัวสินค้ายังคงพัฒนาช้า ไม่ทันต่อสถานการณ์ ยากยิ่งนักที่จะอยู่ได้ในสภาวะเช่นนี้
"ไฟไม่ลนก้น ดีแทค ประเทศไทย ไม่ขยับตัว" น่าจะเป็นอีก วลี ที่ใช้กับดีแทคได้อย่างมีนัยสำคัญ คลื่นไม่เพียงพอต่อการใช้ ไม่ยอมลงทุนต้งเสา Coverage สัญญาณหดตามเทคโนโลยี อีกทั้งเกมการเมือง ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานเสาที่ติดตั้งใหม่ได้ เพราะมีบางคนจ้อง ไม่ให้เปิดใช้งาน ถ้าดีแทคยังคงเล่นบทนางเอก ดื่มน้ำส้ม สโลว์ ไลฟ์ กับชีวิตไปวัน ๆ เราอาจเห็นตอนจบของละคร ที่นางเอกไม่ได้เป็นไปตามบทละครไทยทุกเรื่อง ที่สมหวังตอนท้ายเรื่อง เสมอไป ก็เป็นได้
2 ปีครึ่ง ลูกค้าหาย 3 ล้านเลขหมาย "ถ้าไม่ใช่ ดีแทค คงไม่มีทางทำได้"
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรครับ
Dtac ผู้บริหารระดับสูง จะรู้ไหมหนอ...
ดังจะสังเกตุเห็นได้จากการคอมเพลนของลูกค้าผู้ใช้งาน ทั้งระบบรายเดือนและเติมเงิน แต่ดูเหมือนยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เมื่อดีแทคมีการจำหน่ายซิม LINE โมบาย ใช้ไลน์ที่ความเร็วสูงสุด ทั้งดูทีวีผ่านไลน์ รวมถึงแพคเกจ โก โน ลิมิต ที่ดึงสปีดการใช้งานโดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างหนัก ทำให้บางจุด อินเตอร์เน็ตวิ่งแค่ระดับ Kbps ไม่ถึง 1 Mbps ในขณะที่อีกสองเครือข่ายยักษ์ ทั้ง AIS TRUE H วิ่งระดับ 300 Up แล้ว จริงอยู่ที่การใช้งานจริงไม่ต้องใช้ความเร็วสูงถึงขนาดนี้ แต่บางครั้งบางที มันดูแย่ และลำบากในการใช้งานเหลือเกิน จ่ายรายเดือนเกือบพัน ได้ความเร็วต่ำกว่าซิม MY BY CAT เดือนละ 99 บาท ?? ดังรุป
จากภาพ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ รับจากคลื่น 1800 ส่วนคลื่น 2100 นั้นไม่สามารถ speed test ได้กันเลยทีเดียวเพราะแอพไม่สามารถดึงข้อมูลได้
จึงเป็นที่มาของการร้องเรียนของลูกค้า ว่า
1. เหตุใด ดีแทคถึงไม่ปล่อยแบนด์วิช 2100 ที่เป็นคลื่นเพียงใบเดียวของดีแทค ที่มีอนาคต ? เพิ่มเป็น 10 MHz เพราะเป็นใบอนุญาตใบเดียวที่มีอยู่ในมือ (จะเป็นใบสุดท้ายหรือไม่) ควรปรับแบนด์วิช 4G 2100 เป็น 10 MHz ได้แล้ว เพราะมือถือปัจจุบัน รองรับ 4G เกือบทั้งหมด เนื่องจากหากเปิดเครื่องก็จะมีการ สแตนบายด์ที่ 4G เป็นหลักอยู่แล้ว แต่ใยปล่อยให้เป็นภาพลักณ์ที่แย่มา นมนานขนาดนี้
2. การเร่งติดตั้ง และเปิดใช้งานเสา เป็นปัญหาที่ดีแทคยังคง วน ๆ ... กับปัญหาเหล่านี้เสมอ เช่นกรณีการติดตั้งเสา ต้องเป็นพื้นที่ๆ มีลูกค้าใช้งานหนาแน่น หากพื้นที่ไหนมอนิเตอร์แล้ว ลูกค้าดีแทคน้อย ลูกค้าเครื่อข่ายอื่นมากกว่า ก็พับเก็บโครงการไว้ก่อน ลูกค้ารอไม่ไหวย้ายออกกันเพียบ ดังจะเห็นยอดผู้ใช้งานดีแทคปัจจุบันอยู่ที่ 23 ล้านเลขหมาย ยอดลดลงเรื่อยๆ ตามพื้นที่สัญญาณที่หดลง และสปีดที่ต่ำลงเรื่อยๆ ไม่อยากคิดว่า วันที่คลื่น 1800 850 หมดสัมปทาน จะเป็นเช่นไร
3.ปัญหาการไม่เปิดเสาสัญญาณให้ใช้งาน หลังติดตั้งเสาสัญญาณเสร็จแล้ว ยังคงเป็นปัญหา วนเวียนกับดีแทค เครือข่ายเดียว มาตลอดระยะเวลากว่า ศตวรรษ ? เพราะหลักการบริหารแบบตะวันตกคือ สิ่งไหนไม่ชัดเจน ฉันไม่ทำ ? จึงไม่แปลกใจเลยว่าดีแทค จะถอยหลังตนเองเรื่อยๆ ในขณะที่เครือข่ายอื่น พัฒนาแบบก้าวกระโดด น่าคิดนะครับ
สิ่งที่อยากขอร้อง ณ จุดนี้คือ ฝากเรียนไปยังผู้บริหารระดับสูงของดีแทค ช่วยกรุณาออกมาชี้แจง ถึงทิศทางของเครือข่าย ดีแทค ประเทศไทยในอนาคต เพราะยิ่งเงียบ ลูกค้ายิ่งหาย เพราะเหมือนมองไม่เห็นทาง คลื่น 1800 850 ก็กำลังจะหมดสัปทาน ดิว TOT 2300 ก็ยังคงลำบาก เพราะต้องผ่านด่านอรหันต์ อีกเพียบจากรัฐบาล ความชัดเจนของการประมูคลื่นความถี่ ที่ กสทช หมดวาระการบริหาร การประมูลคงไม่ได้เกิดง่ายแน่ช่วงนี้ การมีคลื่นอยู่ในมือเพียง 15 MHz ของดีแทคจึงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เลย แม้แต่น้อย
หาก ดีแทคยังคงใช้วิธีการบริหารงาน เช่น ปัจจุบันต่อไป เราอาจได้เห็นรายงานผลประกอบการ และยอดลูกค้าของดีแทคถอยลงจนเลขหมายผู้ใช้งานดีแทคต่ำกว่า 20 ล้านเบอร์ เป็นแน่แท้ ในขณะที่คู่แข่งอย่างทรู อาจขยับถึง 30 ล้านในอนาคตเพื่อแย่งชิงกับ AIS ที่อยู่ตัวทรงที่ 40 ล้านมานาน
หากผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในดีแทค ได้ผ่านมาอ่านกระทู้นี้ ขอวิงวอนงานสื่อสารองค์กร ช่วยออกมาสื่อสารกับลูกค้าสักหน่อย เพื่อสร้างภาพลักษ์ อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่า ไม่หาย ไม่ทิ้งไปไหน เพราะเท่าที่เห็นการใช้การโฆษณา โดยดึงตัวแม่แห่งวงการบันเทิงอย่าง อั้ม พัชราภา ออกมาเป็นพรีเซนต์เตอร์ กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะลูกค้าลดลงถึง เกือบ 3 ล้านเลขหมายในเวลาแค่ 2 ปี กว่า ภาพลักษณ์จะดีแค่ไหน แต่ตัวสินค้ายังคงพัฒนาช้า ไม่ทันต่อสถานการณ์ ยากยิ่งนักที่จะอยู่ได้ในสภาวะเช่นนี้
"ไฟไม่ลนก้น ดีแทค ประเทศไทย ไม่ขยับตัว" น่าจะเป็นอีก วลี ที่ใช้กับดีแทคได้อย่างมีนัยสำคัญ คลื่นไม่เพียงพอต่อการใช้ ไม่ยอมลงทุนต้งเสา Coverage สัญญาณหดตามเทคโนโลยี อีกทั้งเกมการเมือง ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานเสาที่ติดตั้งใหม่ได้ เพราะมีบางคนจ้อง ไม่ให้เปิดใช้งาน ถ้าดีแทคยังคงเล่นบทนางเอก ดื่มน้ำส้ม สโลว์ ไลฟ์ กับชีวิตไปวัน ๆ เราอาจเห็นตอนจบของละคร ที่นางเอกไม่ได้เป็นไปตามบทละครไทยทุกเรื่อง ที่สมหวังตอนท้ายเรื่อง เสมอไป ก็เป็นได้
2 ปีครึ่ง ลูกค้าหาย 3 ล้านเลขหมาย "ถ้าไม่ใช่ ดีแทค คงไม่มีทางทำได้"
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรครับ