สวัสดีค่ะหนูอายุ 19 ปีแต่ต้องมาเจอกับปัญหาอะไรๆที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้นมาเลย ชีวิตหนูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย รู้สึกท้อแท้ใจมากเลยค่ะ
ตั้งแต่อนุบาลยัน ป.4
พ่อหนูติดการพนันมาก แอบขโมยเอาทอง เอาเงินที่พี่ป้าน้าอาให้หนูมา ไปลงกับการพนันทั้งหมดจนหมดตัว แม่หนูขายอาหารตามสั่งต้องมาเจอเจ้าหนี้มายืนท้วงหนี้หน้าบ้านที่มาจากพ่อทั้งนั้น แม่ทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ของพ่อ เดือนๆนึงเงินแทบไม่พอใช้ ในบ้านเลย หนูกับแม่ต้องย้ายไปจังหวัดต่างๆเพื่อหนีหนี้ของพ่อที่แม่ไม่รับรู้เลย หนูย้ายโรงเรียนเป็นว่าเล่น ชุดนักเรียนนี้มีหลายสถาบัน ย้ายไปจังหวัดนู้นบ้างนี้บ้าง พ่อทำงานมาเท่าไหร่เอาไปติดผู้หญิง เล่นการพนัน แม่ก็ทำงานเดือนๆนึงก็ไม่พอใช้เพราะต้องมาใช้จ่ายในบ้าน แถมยังต้องมาใช้หนี้พ่ออีก แม่ตั้งใจจะเลิกหลายครั้งแต่ก็เพราะรัก เพราะหนู
จนหนูอยู่ ป.5 ก็ย้ายหนีหนี้จากต่างจังหวัดมา กทม. ตั้งใจจะมาเริ่มต้นใหม่ที่นี้มาขออาศัยบ้านยายอยู่
ตอนแรกทุกอย่างในชีวิตหนูดีมาก แม่ก็ท้องคือน้องชายหนูเอง แม่ทำงานพ่อทำงานหนูเรียนหนังสือ
แล้วนิสัยพ่อก็กลับมา พ่อขอออกรถโดยใช้ชื่อแม่ ทำบัตรเครดิตใช้ชื่อแม่ แต่พ่อบอกจะส่งผ่อนเองซึ่งตอนแรกพ่อก็ส่ง ก็อย่างเคยพ่อเอาเงินไปเล่นพนัน ติดผู้หญิง หน้าใหญ่ใจโตเลี้ยงเพื่อน เงินก็หมด หมดจนเงินในบ้านเหลือแค่ 200 ต้องแบ่งใช้กัน 3 คน หนูกับแม่อด แต่พ่อแอบไปกู้เงินใช้จ่ายส่วนตัวไม่นึกถึงแม่กับหนูและน้องที่อยู่ในท้อง แม่ต้องหายืมเงินญาติพี่น้องมาให้หนูใช้เพื่อไม่ให้อด
จนน้องชายคลอดออกมา จนวันที่พ่อก็ยังให้หนูพาแม่ไป รพ. ตอนนั้นคือหนูอยู่ ม.1 อย่างที่ทุกคนคิดพ่อติดการพนันไม่สนใจอะไรเลย ความคิดตอนนั้นหนูตัดพ่อไปเลยไม่มีพ่ออยู่ในหัวเลย จนน้องคลอดมา 6 เดือนแม่จับได้พ่อมีเมียน้อยที่ทำงานด้วยกัน เวลาบ้านเราไม่มีตังพอก็ไปอาศัยบ้านเมียน้อยแต่โกหกแม่ว่าไปทำงาน ทิ้งในหนูกับแม่นั้นลำบาก แม่ตัดสินใจหย่ากับพ่อ ตัดสินใจเลี้ยงหนูและน้องชายวัย 6 เดือนด้วยตัวเอง เลิกไปพ่อไม่เคยโทรมาหา ไม่เคยส่งเสียงเลี้ยงดู ไม่ว่าจะค่าเล่าเรียนค่าเทอมอะไรเลยแม่ทำงานเป็นแม่บ้านเดือนนึงได้ 6,000 บาทต้องมาแบ่งค่าเทอมหนู ค่านมน้อง ค่ากับข้าว บางมื้อหนูกับแม่ยอมอดเอาเงินไปซื้อนมให้น้องก็มี
จนหนูอยู่ ม.4 หนูเริ่มทำงานหาเงินเข้าบ้านทำงานจนถึง ม.6 เรียนเสร็จก็ไปทำงาน แต่แล้วแม่ก็มาเป็นกระดูกทับเส้นประสาทยกของหนักไม่ได้ แม่ก็ต้องเลิกทำงานไป ญาติๆก็สงสารเลยจ่ายให้ทำความสะอาดบ้านเดือนละ 2000 หนูก็ทำงานได้เดือนๆนึงก็ 6-7 พันถามว่าพอไหมเดือนๆนึง ตอบเลยว่าไม่พอ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถ ค่าเทอม ค่าไปโรงเรียนน้องและหนูอีก
จนบางทีหนูไม่ไหวจริง ติดต่อหาพ่อตัวเองที่เงินเดือน 30,000 มีทองมีรถขับเพื่อขอเงินพ่อมาใช้จ่ายบ้าง พ่อก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรขนาดนั้น โอนตังมาให้ 500 ฟังไม่ผิดค่ะ 500 ซึ่งมันก็ไม่พอแต่ทำไงได้ก็พอประทังชีวิตต่อไปได้อีก
จนหนูเข้ามหาลัยแม่ต้องไปแบกหน้าขอเงินยืมคนอื่นมาเผื่อจ่ายค่าเทอมหนูแต่หนูก็ยังทำงานอยู่นะ แต่ใช้จ่ายเดือนๆนึงก็ไม่พอเพราะแม่ร่างกายไม่ไหว ไหนจะต้องดูแลไปรับ - ส่งน้องไปโรงเรียนอีก เท่ากับหนูหาเงินเข้าบ้านคนเดียว เรียนเสร็จไปทำงาน ถือว่าเป็นเสาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้ จนพอเข้ามหาลัยปัญหาเงินนั้นก็เพิ่มขึ้นมา หนูเลยตัดสินใจออกมหาลัยมาทำงานแบบเต็มตัว เงินเดือนก็ได้ 8-9 พันพอบ้างไม่บ้าง แต่แล้วรถบัตรเครดิตต่างๆนานาที่พ่อขอยืมชื่อแม่ไปใช้ในตอนนั้นนั้น ก็กลับมาตามท้วงหนี้
รถยนต์ทั้งหมด 27x,xxx บัตรเครดิตอีกเป็นหนี้มีพ่อก่อขึ้นมาทั้งนั้น หนูต้องมาตามใช้หนี้แทนพ่อ ขึ้นโรงขึ้นศาลทั้งที่อายุ 19 ปีเพราะเรื่องหนี้ที่พ่อสร้างที่อย่างที่ว่ามันเป็นชื่อแม่ หนูเคยโทรไปหาพ่อให้มารับใช้หนี้ส่วนนี้ หนูก็ได้คำตอบจากพ่อนะว่า " ชื่อแม่ไม่ใช่ชื่อพ่อ อะไรปัญหาเยอะแยะวะจะอะไรกันหนักหนากับพ่อเนี้ย " นั้นแหละคือคำตอบที่หนูได้
แม่มีสามีใหม่เมื่อไม่นานมานี้ สามีใหม่มองเห็นว่าอยู่ กทม. ค่าใช้จ่ายมันเยอะให้ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดกับเขาอย่างน้อยก็ลดค่าเช่าบ้านไปได้อีก
ทุกวันนี้แม่กับสามีใหม่ทำงานรับจ้างทั่วไปวันละ 300 มีงานบ้างไม่มีงานบ้าง และเงินส่วนนึงจากรานได้สามีใหม่กับแม่นั้นก็หมดไปกับการผ่อนจ่ายหนี้รถยนต์ของพ่อหนู ซึ่งผ่อนเดือนละ 2000 หมดกว่าจะถึง 27x,xxx หนูกับแม่ตัดสินใจจะกู้เงินมาลงทุนค้าขายจากธนาคาร ธกส. ก็ติดที่หนี้เดิมของพ่ออีก 80,000 บาทซึ่งตอนนี้หนูมืดแปดด้านมาก ท้อใจมาก หนูไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว งานที่นี้หาทำก็ไกลมาก หนูก็ห่างจากแม่ก็ไม่ได้เพราะแม่ร่างกายไม่ดี แถมไหนต้องมีน้องที่ดูแลอีก ตอนนี้แม่กับสามีใหม่พยายามหาเงิน 80,000 มาใช้หนี้ ธกส. ที่พ่อสร้างไว้ เผื่อแม่กับหนูจะได้กู้เงินมาลงทุนกัน หนูท้อมากเลยค่ะตั้งแต่เล็กจนโตหนูต้องมารับใช้หนี้แทนพ่อตลอด หนูท้อใจมาก แอบร้องไห้แทบทุกวันเพราะบางทีที่รายจ่ายมันมากกว่ารายได้ ไม่มีเงินทุน
ปล. ทุกวันนี้แม่กับสามีใหม่ทำงานแค่สองคนรับจ้างทั่วไปมีงานบ้างไม่มีบ้าง ส่วนหนูดูแลความสะอาดบ้าน ดูแปู่กับย่า และดูแลน้อง เดือนๆนึงเหลือใช้ในบ้านก็ไม่เกิน 500 บ้าน
ส่วนพ่อแท้ๆของหนูนั้นอย่าได้พูดถึงเลย ก็แค่โทรมาถามไถ่สบายดีมั้ยแค่นั้น หนูท้อแท้จังเลยค่ะ ครอบครัวตอนนี้ถึงขั้นลำบากเลยก็ว่าได้ หนูขอระบายหน่อยนะค่ะรู้สึกท้อแท้ใจ มืดไปแปดด้าน
ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย :(
ตั้งแต่อนุบาลยัน ป.4
พ่อหนูติดการพนันมาก แอบขโมยเอาทอง เอาเงินที่พี่ป้าน้าอาให้หนูมา ไปลงกับการพนันทั้งหมดจนหมดตัว แม่หนูขายอาหารตามสั่งต้องมาเจอเจ้าหนี้มายืนท้วงหนี้หน้าบ้านที่มาจากพ่อทั้งนั้น แม่ทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ของพ่อ เดือนๆนึงเงินแทบไม่พอใช้ ในบ้านเลย หนูกับแม่ต้องย้ายไปจังหวัดต่างๆเพื่อหนีหนี้ของพ่อที่แม่ไม่รับรู้เลย หนูย้ายโรงเรียนเป็นว่าเล่น ชุดนักเรียนนี้มีหลายสถาบัน ย้ายไปจังหวัดนู้นบ้างนี้บ้าง พ่อทำงานมาเท่าไหร่เอาไปติดผู้หญิง เล่นการพนัน แม่ก็ทำงานเดือนๆนึงก็ไม่พอใช้เพราะต้องมาใช้จ่ายในบ้าน แถมยังต้องมาใช้หนี้พ่ออีก แม่ตั้งใจจะเลิกหลายครั้งแต่ก็เพราะรัก เพราะหนู
จนหนูอยู่ ป.5 ก็ย้ายหนีหนี้จากต่างจังหวัดมา กทม. ตั้งใจจะมาเริ่มต้นใหม่ที่นี้มาขออาศัยบ้านยายอยู่
ตอนแรกทุกอย่างในชีวิตหนูดีมาก แม่ก็ท้องคือน้องชายหนูเอง แม่ทำงานพ่อทำงานหนูเรียนหนังสือ
แล้วนิสัยพ่อก็กลับมา พ่อขอออกรถโดยใช้ชื่อแม่ ทำบัตรเครดิตใช้ชื่อแม่ แต่พ่อบอกจะส่งผ่อนเองซึ่งตอนแรกพ่อก็ส่ง ก็อย่างเคยพ่อเอาเงินไปเล่นพนัน ติดผู้หญิง หน้าใหญ่ใจโตเลี้ยงเพื่อน เงินก็หมด หมดจนเงินในบ้านเหลือแค่ 200 ต้องแบ่งใช้กัน 3 คน หนูกับแม่อด แต่พ่อแอบไปกู้เงินใช้จ่ายส่วนตัวไม่นึกถึงแม่กับหนูและน้องที่อยู่ในท้อง แม่ต้องหายืมเงินญาติพี่น้องมาให้หนูใช้เพื่อไม่ให้อด
จนน้องชายคลอดออกมา จนวันที่พ่อก็ยังให้หนูพาแม่ไป รพ. ตอนนั้นคือหนูอยู่ ม.1 อย่างที่ทุกคนคิดพ่อติดการพนันไม่สนใจอะไรเลย ความคิดตอนนั้นหนูตัดพ่อไปเลยไม่มีพ่ออยู่ในหัวเลย จนน้องคลอดมา 6 เดือนแม่จับได้พ่อมีเมียน้อยที่ทำงานด้วยกัน เวลาบ้านเราไม่มีตังพอก็ไปอาศัยบ้านเมียน้อยแต่โกหกแม่ว่าไปทำงาน ทิ้งในหนูกับแม่นั้นลำบาก แม่ตัดสินใจหย่ากับพ่อ ตัดสินใจเลี้ยงหนูและน้องชายวัย 6 เดือนด้วยตัวเอง เลิกไปพ่อไม่เคยโทรมาหา ไม่เคยส่งเสียงเลี้ยงดู ไม่ว่าจะค่าเล่าเรียนค่าเทอมอะไรเลยแม่ทำงานเป็นแม่บ้านเดือนนึงได้ 6,000 บาทต้องมาแบ่งค่าเทอมหนู ค่านมน้อง ค่ากับข้าว บางมื้อหนูกับแม่ยอมอดเอาเงินไปซื้อนมให้น้องก็มี
จนหนูอยู่ ม.4 หนูเริ่มทำงานหาเงินเข้าบ้านทำงานจนถึง ม.6 เรียนเสร็จก็ไปทำงาน แต่แล้วแม่ก็มาเป็นกระดูกทับเส้นประสาทยกของหนักไม่ได้ แม่ก็ต้องเลิกทำงานไป ญาติๆก็สงสารเลยจ่ายให้ทำความสะอาดบ้านเดือนละ 2000 หนูก็ทำงานได้เดือนๆนึงก็ 6-7 พันถามว่าพอไหมเดือนๆนึง ตอบเลยว่าไม่พอ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถ ค่าเทอม ค่าไปโรงเรียนน้องและหนูอีก
จนบางทีหนูไม่ไหวจริง ติดต่อหาพ่อตัวเองที่เงินเดือน 30,000 มีทองมีรถขับเพื่อขอเงินพ่อมาใช้จ่ายบ้าง พ่อก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรขนาดนั้น โอนตังมาให้ 500 ฟังไม่ผิดค่ะ 500 ซึ่งมันก็ไม่พอแต่ทำไงได้ก็พอประทังชีวิตต่อไปได้อีก
จนหนูเข้ามหาลัยแม่ต้องไปแบกหน้าขอเงินยืมคนอื่นมาเผื่อจ่ายค่าเทอมหนูแต่หนูก็ยังทำงานอยู่นะ แต่ใช้จ่ายเดือนๆนึงก็ไม่พอเพราะแม่ร่างกายไม่ไหว ไหนจะต้องดูแลไปรับ - ส่งน้องไปโรงเรียนอีก เท่ากับหนูหาเงินเข้าบ้านคนเดียว เรียนเสร็จไปทำงาน ถือว่าเป็นเสาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้ จนพอเข้ามหาลัยปัญหาเงินนั้นก็เพิ่มขึ้นมา หนูเลยตัดสินใจออกมหาลัยมาทำงานแบบเต็มตัว เงินเดือนก็ได้ 8-9 พันพอบ้างไม่บ้าง แต่แล้วรถบัตรเครดิตต่างๆนานาที่พ่อขอยืมชื่อแม่ไปใช้ในตอนนั้นนั้น ก็กลับมาตามท้วงหนี้
รถยนต์ทั้งหมด 27x,xxx บัตรเครดิตอีกเป็นหนี้มีพ่อก่อขึ้นมาทั้งนั้น หนูต้องมาตามใช้หนี้แทนพ่อ ขึ้นโรงขึ้นศาลทั้งที่อายุ 19 ปีเพราะเรื่องหนี้ที่พ่อสร้างที่อย่างที่ว่ามันเป็นชื่อแม่ หนูเคยโทรไปหาพ่อให้มารับใช้หนี้ส่วนนี้ หนูก็ได้คำตอบจากพ่อนะว่า " ชื่อแม่ไม่ใช่ชื่อพ่อ อะไรปัญหาเยอะแยะวะจะอะไรกันหนักหนากับพ่อเนี้ย " นั้นแหละคือคำตอบที่หนูได้
แม่มีสามีใหม่เมื่อไม่นานมานี้ สามีใหม่มองเห็นว่าอยู่ กทม. ค่าใช้จ่ายมันเยอะให้ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดกับเขาอย่างน้อยก็ลดค่าเช่าบ้านไปได้อีก
ทุกวันนี้แม่กับสามีใหม่ทำงานรับจ้างทั่วไปวันละ 300 มีงานบ้างไม่มีงานบ้าง และเงินส่วนนึงจากรานได้สามีใหม่กับแม่นั้นก็หมดไปกับการผ่อนจ่ายหนี้รถยนต์ของพ่อหนู ซึ่งผ่อนเดือนละ 2000 หมดกว่าจะถึง 27x,xxx หนูกับแม่ตัดสินใจจะกู้เงินมาลงทุนค้าขายจากธนาคาร ธกส. ก็ติดที่หนี้เดิมของพ่ออีก 80,000 บาทซึ่งตอนนี้หนูมืดแปดด้านมาก ท้อใจมาก หนูไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว งานที่นี้หาทำก็ไกลมาก หนูก็ห่างจากแม่ก็ไม่ได้เพราะแม่ร่างกายไม่ดี แถมไหนต้องมีน้องที่ดูแลอีก ตอนนี้แม่กับสามีใหม่พยายามหาเงิน 80,000 มาใช้หนี้ ธกส. ที่พ่อสร้างไว้ เผื่อแม่กับหนูจะได้กู้เงินมาลงทุนกัน หนูท้อมากเลยค่ะตั้งแต่เล็กจนโตหนูต้องมารับใช้หนี้แทนพ่อตลอด หนูท้อใจมาก แอบร้องไห้แทบทุกวันเพราะบางทีที่รายจ่ายมันมากกว่ารายได้ ไม่มีเงินทุน
ปล. ทุกวันนี้แม่กับสามีใหม่ทำงานแค่สองคนรับจ้างทั่วไปมีงานบ้างไม่มีบ้าง ส่วนหนูดูแลความสะอาดบ้าน ดูแปู่กับย่า และดูแลน้อง เดือนๆนึงเหลือใช้ในบ้านก็ไม่เกิน 500 บ้าน
ส่วนพ่อแท้ๆของหนูนั้นอย่าได้พูดถึงเลย ก็แค่โทรมาถามไถ่สบายดีมั้ยแค่นั้น หนูท้อแท้จังเลยค่ะ ครอบครัวตอนนี้ถึงขั้นลำบากเลยก็ว่าได้ หนูขอระบายหน่อยนะค่ะรู้สึกท้อแท้ใจ มืดไปแปดด้าน