[CR] รีวิวเที่ยวชิลๆ โบรโม่ - คาวาอิเจี้ยน - บาหลี 5 คืน 6 วัน #LADY AROUND THE WORLD

สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกที่รีวิวเลยค่า พอดีประทับใจมากเลยอยากแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ หากผิดพลาดยังไง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หากชอบขอกำลังใจหน่อยนะค้าาา ยิ้ม อยากสอบถามเพิ่มเติมตรงไหน ถามได้เลยค่ะ ถ้าเพื่อนๆชอบกัน เด๋วจะทยอยเอาที่เที่ยวไปแล้ว กับที่จะไปต่อไปมารีวิวอีกค่า เพราะทริปต่อไปเราคือ "จอร์แดน" ค่า

ปกติจะเป็นคนชอบท่องเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ปีๆนึงจะมีทริปใหญ่ประมาณ 2 ทริป เพราะถ้ามากกว่านี้กลัวที่ทำงานไล่ออกค่ะ เพราะทริปเล็กๆอีกนับไม่ถ้วน รูปของเรามาจากกล้อง Iphone ไม่ก็ mirrorless แบบ auto นะคะ ไม่มีกล้องใหญ่ๆค่ะ ถ่ายไม่เป็น พูดง่ายๆเราก็เที่ยวกันชิลๆ กระโหลกกระลาอ่าคะ ถ้าใครสายชิลก็ตามกันมาเลยนะคะ

ทริปนี้ ไปที่อินโดนีเซียมาช่วงปลายเดือน มิย. ค่ะ เพราะเป็นหน้า High Season ของทางโบรโม่ คาวาอิเจี้ยนค่ะ เป็นแพลนตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว

== ตั๋ว ==
จองตั๋วเป็นการบินไทยค่ะ BKK-Denpasar ราคาประมาณ 11,000 บาท
Flight ออกจากสุวรรณภูมิ ไปถึง เดนปาซาร์ประมาณ 15.00 ค่ะ (เวลาที่บาหลีเร็วกว่าไทย 1 ชม.ค่ะ)
จากนั้นต่อ NAM air จาก Denpasar - Surabaya 16.45 ตอนแรกก็กลัวจะลงเครื่องแล้วไปต่อ domestic ไม่ทัน แต่เครื่องเราดีเลย์ค่า กว่าจะถึงสุราบายาก็ 18.00 ค่ะ (เวลาที่สุราบายาเท่ากับที่ไทยค่ะ)

== เส้นทาง ==
เรียงจากทางตะวันตกไปตะวันออก สุราบายา โบรโม่ คาวาอีเจี้ยน ท่าเรือกิลมานุก บาหลี
เราลงเครื่องที่บาหลีแล้วนั่งเครื่องบินย้อนกลับไปที่สุราบายาค่ะ เพราะว่าตอนถาม Local guide ไม่มีใครมารับที่บาหลี หรือท่าเรือเลย มีแต่รอรับที่สุราบายาค่ะ

==internet==
ซื้อซิมที่สนามบินสุราบายาเลยค่ะ สัญญาณดี ไม่แพง น่าจะประมาณ 300 นะคะ ถ้าจำไม่ผิด บนเขา บนดอยอะไรมีสัญาณหมด เอาไปใช้ที่บาหลีก็ได้ ได้เนต 10 GB เพื่อนที่ไปด้วยกันเปิดโรมมิ่งไป ใบ้รับประทานเลยค่ะ เนตไม่ไป

== อุปกรณ์ ==
กล้อง เสื้อกันหนาวเตรียมไว้ประมาณ 5-10 องศานะคะ บนเขาหนาว แต่ลงเขามาร้อนค่ะ ค่อยถอดออก
หมวกกันหนาว ผ้าบัฟ

==การเดินทางที่เกาะชวา สุราบายา โบรโม่ คาวาอีเจี้ยน==
เราไปกับเพื่อน 3 คน รวมเราเป็น 4 ค่ะ จ้าง local guide คุยกันผ่านทาง Whatsapp ค่ะ Local guide ของเราชื่อ Cholis ซึ่งพวกเราเรียกเค้าว่า ชวลิต 555 ไม่งั้นจำชื่อเค้าไม่ได้สักที ไกด์เราดีมากค่ะ ขับรถดี ตามใจเราทุกอย่าง ดูซื่อๆ ขายของก็ไม่เป็น เราอยากแวะกินนุ่นนี่ก็บอกว่ามีให้แล้ว แต่เราเป็นคนชอบลองอ่าคะ ก้อลองนุ่นนี่ไปเรื่อย ถ้าใครจะไปแนะนำเลยนะคะ คนนี้ดี้ดีค่ะ แต่ข้อเสียคือพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มากมายขนาดนั้น ได้พอสื่อสารได้ค่ะ แต่สำหรับเรา เราโอเค เวลาเค้าคิดไม่ออกเค้าจะเปิด Google translate แปลให้ค่ะ
ราคาอยู่ที่ประมาณ 9500 รวมที่พักและอาหารบางมื้อนะคะ รวม Local guide สถานที่ต่างๆที่เราไป รวมมอไซค์ที่น้ำตก รวมม้าที่ีขี่ รวมค่าเข้าค่ะ

D1 วันแห่งการเดินทาง นั่งเครื่องบินมา ต่อบินในประเทศ และนั่งรถต่อค่ะ
เอาเป็นว่าเรื่องทางเราไม่รู้อะไรเลยค่ะ นั่งหลับกินแค่นั้น คุณชวลิตก็ขับรถพาเราไปที่แรกที่ให้แวะคือ KFC ค่ะ หิวมากกกจริงๆ ระยะทางจากสุราบายา เข้าไปที่โบรโม่ประมาณ 4-5 ชม ค่ะ แต่วันนั้นรถติดเพราะเป็นวันหยุดยาวของคนอินโด (แอบขอเตือนว่าคนอินโดหยุดบ่อยมาก เชคก่อนไปก็ดีนะคะ เพราะรถจะติดค่ะ) กว่าเราจะไปถึงก็ 5 ทุ่ม คุณชวลิตก็บอกว่า เด๋วตื่นตี 3 นะ จะพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่พักที่นุ่นก็ดิบๆหน่อยค่ะ ไปคืนแรกเราก็เปิดน้ำอุ่นไม่เป็น ก็ล้างแค่เฉพาะบริเวณอันอ่าค้าาา หนาวมากประมาณ 10 องศาได้ ไม่มีฮีทเตอร์ มีให้แค่ผ้าห่ม ก็รีบอาบน้ำเฉพาะส่วนกับเพื่อน รีบกินยานอนหลับ แล้วนอนเพราะว่ากลัวไม่หลับอะคะ เวลาน้อยนิด กว่าจะได้นอนก้อเที่ยงคืนแล้ว คืนนี้เพียง 3 ชม เท่านั้น T.T

D2-- ณ โบรโม่ --
ตี 3 คุณชวลิตเดินมาเคาะห้องปลุกค่ะ 555 เราก็รีบๆออกมากัน หนาวมากอยากเตือนทุกคนว่า กรุณาเอาอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อมนะคะ เรานี่พลาดคะ เพราะถามเพื่อนมาว่าหนาวแรกๆ เดินไปก็ไม่หนาว ซึ่ง..ไม่จริงค่ะ 555 หนาวมาก
         วันนี้มีคุณขับรถคนใหม่เป็นรถจี้บ ไว้ลุยเลยค่ะ นั่งรถไปไม่นานน่าจะ 20 นาทีได้ ก็ถึง คุณชวลิตก็พาเดินค่ะ ตอนแรกเราก็งงๆไปไหนกัน ก็เดินไปกินมาม่าใส่ไข่ของคนอินโด อร่อยดีนะคะ ต้องกินเลยอันนี้ ดีงาม ส่วนกล้วยทอด ไม่โอเคค่ะ แล้วก้อมีชา กาแฟ โกโก้ ตามแต่สะดวกเลยคะ ของเราราคารวมอยู่ในทริปอยู่แล้วค่ะ ตอนนั้นง่วงๆอึนๆยังไม่ตื่นดี และด้วยความไม่ได้เอาอะไรไปกันหนาว ก็ซื้อใหม่เอาตรงนั้นอ่าคะ หมวก ผ้าบั้ฟ เค้ามีเสื้อกันหนาวให้เช่าด้วยนะคะ แต่ไม่ทราบราคาค่ะ พอกินเสร็จคุณชวลิตก็พาไปจองที่นั่งดูวิวค่ะ ได้หน้าสุด...เจ๋งมั้ยล่ะ คุณชวลิต แต่จุดพีคคือระหว่างรอนั้นหนาวมาก นั่งดูดาวไปสั่นไป แต่ดาวสวยมากนะคะ เห็นเป็นทางช้างเผือกเลยค่ะ ที่เค้าให้มารอตรงนี้จะเป็นวิวที่พระอาทิตย์ขึ้นนะคะ จะเห็นเป็นเมฆสีทองๆ สลับกับบ้านเรือนค่ะ แต่เราไม่เห็น หมอกลง 555 แล้วตรงนั้นก็มีแต่นักท่องเที่ยวเยอะมากๆค่ะ คุณชวลิตก็เลยชวนไปที่ Exclusive แบบไม่มีคน วิวเทพมากๆจริงๆค่ะ พวกเราโพสแล้วโพสต์อีก 38 แอคชั่น 555  กว่าจะได้ลงไปที่ Bromo crater ชวลิตมาลากเราอยู่หลายรอบเลยค่ะ เค้าก็กลัวไม่ทันเวลา แม่นางทั้งหลายก็แอคชั่นไป พอเสร็จจากที่ view point เราก็ไปต่อกันที่ crater ค่ะ ที่ crater ก็นั่งรถจี้บลงเขามาเรื่อยๆนะคะ ประมาณ 30 นาทีก็ถึงละค่ะ จะผ่าน black sand มา แล้วก็มาที่ crater ตรง crater จะมีทั้งให้ขี่ม้าไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ และเดินไป แต่ถึงขี่ม้าก็ต้องเดินขึ้นบันไดอยู่ดีค่ะ ส่วนคนขยันอย่างเราอะหรอคะ ขี่ม้าค่ะ แน่นอน ใครจะเดิน 555 แต่เพื่อนเราที่ไปด้วยกันก็เดินนะคะ ค่าขี่ม้าเราก็รวมในทริปเลยไม่รู้ว่าเท่าไหร่อ่าคะ อันนี้รูปครึ่งทางที่ม้ามาส่งค่ะ
จากนั้นเราก็เดินขึ้นไปอีกเป็นบันไดนะคะ เดินไม่ยาก แต่ จขกท ปวดเข่าอ่าคะ แก่แล้ว 555 ไม่เหนื่อยนะคะ แต่เจ็บเข่าค่ะ พอขึ้นไปถึงก็จะได้ยินเสียงจากปล่องภูเขาไฟเป็นช่วงๆ มีกลิ่นซัลเฟอร์ตลอดค่ะ ใครคิดไม่ออกก็คล้ายกลิ่นตดน่านแหละค่า 555 จริงๆจากตรงนี้สามารถเดินลัดเลาะไปรอบๆปากปล่องได้นะคะ แต่ระวังกันด้วยค่ะ เพราะว่ามีราวฝั่งเดียว ค่อนข้างอันตรายค่ะ เราอยู่ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ ง่วงนอน 555 เลยรีบลงไป ระหว่างทางลงก็มีวิวสวยๆตลอดทาง แวะถ่ายกันมันส์เลยค่ะ พอลงมาม้าตัวเดิมเค้าจะรอเราพาเรากลับนะคะ เค้าจะให้บัตรชื่อม้ากับเราไว้ค่ะ พอกลับไปถึงรถ เราก็กินค่ะ 555 เค้ามีรถขายก๋วยเตี๋ยวอยุ่ เค้าเรียกว่า บะโซ (baso) เราก็ลองสิคะ รออะไร พบว่าอร่อยค่ะ แต่ที่สะวันน่าอร่อยกว่า อันนี้เพื่อนร่วมทริปบอกมาค่ะ 555 ชวลิตของเรา คือวงแดงๆค่ะ เพื่อนร่วมทริปของเราหม่ำกันอร่อยเลย ขออนุญาตเบลอหน้าสักนิดนะคะ
ต่อไปเราก็ไปกันที่ทุ่งหญ้าสะวันน่าค่ะ ซึ่งสำหรับเรามันไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายอะไรมามาก ได้แค่แวะกินบะโซ อร่อยค่ะ 555 ต้องกินค่ะ พอกินเสร็จก็ไปถ่ายรูปที่ Black sand พร้อมรถจี้บที่ทุกๆคนชอบถ่ายค่ะ จากนั้นเราก็กลับไปกินข้าวที่ โรงแรมกันค่ะ เป็นข้าวผัดใส่แม้กกี้ ไข่ดาวคะ อร่อยค่ะ คือเราไปที่ Leh-Ladakh กันมาแล้วจึงมีความเตรียมพร้อมว่าอาหารที่นี่จะกินไม่ได้ เสบียงเราเยอะมาก ได้แก่ ปลาสลิดทอดกรอบ หมูฝอย หมูหวาน แกงกระป๋อง แต่ผิดคาดค่ะ อาหารที่นี่โอเคเลย อร่อยดี แต่มีให้เลือกน้อย แต่ทานได้นะคะ จากนั้นก็เก็บของ อาบน้ำ ออกเดินทางค่ะ ไปต่อกันที่น้ำตก

-- madakaripura waterfall --
สั้นๆ คือ "สวยมาก ต้องมา" ทางเข้าน้ำตกคือต้องนั่งมอไซค์เข้าไปก่อนค่ะ แล้วค่อยเดินไปต่อ (อีกแล้ว) Local giude ประจำน้ำตกบอกว่า เดิน 1 กม. แต่เราว่าเกิน น้ำตกนี้ เราต้องเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วยนะคะ โชคดีค่ะ เราเตรียมมา เพราะทางเข้าไป "เปียก แน่ นอน" ค่ะ ขอแนะนำใครมีเวลาก็เล่นน้ำตกเลยนะคะ สวยค่ะ น้ำใส ลึกลับ ดูรูปกันเลยละกัน ข้างบนจะเป็นวงกลมแล้วน้ำก็ตกลงมาค่ะ สวยมากกกก ขอใช้คำว่าสวยฟุ่มเฟือยนิดนึง แต่ระหว่างทางต้องปีนป่ายเลยค่ะ ต้องมีโลคัลไกด์นะคะ ไม่งั้นอันตรายค่ะ จบที่โบรโม่ค่า เด๋วเราไปต่อที่อิเจี้ยนนะคะ นั่งรถไปอีก 6 ชม. ค่ะ ออกจากที่น้ำตก 15.00 จะบอกว่ามันทรหดอดทนมากจริงๆ ง่วงมากตลอดทาง กว่าจะถึงอิเจี้ยนก็ 3 ทุ่มค่ะ เด๋วมาต่อนะคะ ^^
ชื่อสินค้า:   โบรโม่ - คาวาอิเจี้ยน - บาหลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่