เมื่อเอ่ยถึง Triumph Bonneville Bobber แหม่! บอกได้เลยว่า ภาพของ Triumph ที่ผ่านๆมา แทบจะไม่เคยเห็นความเป็น Bob-Job เท่าไหร่นัก และในปัจจุบัน เจ้า Bobber ลำนี้จะมาผลิกโฉมความคลาสสิค ให้กับวงการ มันคือผลผลิตงานศิลป์ ที่ควรครอบครอง และ ผู้ที่มามอบสินสอดแก่ผลงานชิ้นนี้นั้น แทบจะไม่ต้องไปสัมผัส แงะ แกะ แต่ง กันแต่อย่างใด
Triumph Bonneville Bobber จัดอยู่ในส่วนของ Modern Classics เป็นความคลาสสิคสมัยใหม่ที่ลงตัวสุดๆ และใช้เครื่องยนต์ SOHC 8 วาล์ว High Torque ที่สุดโคตรจะ "เถื่อน" ยัดเครื่องยนต์มาขนาด 1200cc มันคือพี่ใหญ่ที่จัดว่า "ดุดัน" และเจ้า Bonneville Bobber นี้ ได้รับการปรับแต่ง mapping กล่องควบคุมเครื่องยนต์ให้แตกต่างไปจาก T120 ในเรื่องของการส่งกำลังเครื่องและแรงบิดในช่วงรอบต่ำให้มีกำลังส่งที่สูงขึ้น เพิ่มแรงม้าให้มากขึ้นถึง 10% ในช่วง 4500 รอบ/นาที ในขณะแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 106Nm ที่ 4000 รอบ/นาที และแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 76 แรงม้าที่ 6100 รอบ/นาที
นักคัสตอมรถมือฉกาจทั้งหลาย ในยุคสมัยก่อนและหลัง world war 2 มักจะชอบเอารถยี่ห้อต่างๆ รวมถึง Triumph มาแต่งโดยการ แงะๆ แกะๆ ถอดนั้นนิด ทิ้งนี่หน่อย ปลดไปเรื่อยเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบา เหลือแต่ของที่จำเป็น และเปลือยรถกันเล็กๆ จึงทำให้ดู sexy และ ดุดัน // Bob-job นั้นมักจะมีเบาะคนขี่ที่เดียวเท่านั้น และเป็นแบบ Springer Seat และเจ้ากรรม มันไม่มีโช๊คหลัง ให้ตายเถอะพ่อ!!! ดิบ สึส! Hardtail เอวร้าวราน!! แต่สุดท้ายไม่วาย Bobber 2017 ได้แอบซ่อนโช้คนอนไว้ใต้เบาะ เพื่อไว้ซับแรงกระแทกและขับขี่เข้าโค้งได้ดีเกินกว่ารถที่เป็นเฟรม Hardtail เดิม! ขอบพระคุณ พระเจ้า! ความฮิตแบบยั่งยืนของความเป็น Bob-job หรือ Bobber นั้น ต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน ทำให้ Triumph เล็งเห็นจุดนี้ และได้จัดการลงมือสรรสร้างคลอดมาจากโรงงานผลิตกันเลย
Triumph Bobber นี้มาในความดุดัน โค้งมน โฉบเฉี่ยวลงตัวในทุกมิติ ท่อไอเสียทรง Peashooter ที่ให้เสียง บาดใจทุกครั้งที่บิดคันเร่ง มาพร้อมกับแคทตาไลติก ที่เก็บอยู่ใต้รถอย่างมิดชิด ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น Triumph Bobber ยกเครื่องมาจาก T120 เลยก็ว่าได้ซึ่งเป็นเครื่องขนาด 1200cc แบบ High Torque ที่ให้แรงบิดที่จัดจ้าน พร้อมด้วยการปรับแต่งให้ได้แรงบิดให้มากขึ้น ซึ่งได้อารมณ์ กระชาก ดุ ดิบ เถื่อน ตามสไตล์ Bobber ขุมพลังขนาด 1200 cc ที่ส่งแรงบิดออกมาตั้งแต่รอบต่ำๆ นั้น ทำให้การควบคุมคันเร่งในสภาวะการจราจรที่ติดขัดเป็นไปได้ง่ายมาก แม้ว่า Triumph Bobber จะมากับน้ำหนักตัวถึง 228 kg ศูนย์ถ่วงรถที่ต่ำ ก็ตาม และในเรื่องของระยะฐานล้อ ตำแหน่งแฮนด์ องศาโช้คต่างๆ ก็ส่งผลให้การขับขี่สามาารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว
สัดส่วนในการตกแต่ง แอนด์ทั้ง 2 ข้าง จัดได้ว่า เรียบ และ เงียบเฉี๊ยบ จริงๆ 555 ไม่มีอะไรเลยให้ตายเถอะ มีแค่นี้นะ! แต่ในความเรียบและโล่งของประกับไฟ มันช่างแตกต่างจาก เรือนไมล์ ที่อัดมาแน่นจนแถบจะก่ายคอเสนอหน้ากันออกมาทำหน้าที่ของๆมัน โดยสามารถเข้าถึงได้ด้วยปุ่ม “i” เพียงปุ่มเดียว
และส่วนสำำคัญอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ ปุ่มควบคุมโหมดการขับขี่ของตัวรถซึ่งมีมาด้วยกัน 2 โหมดคือ Rain และ Road ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกการตอบสนองที่เหมาะสมกับสภาพถนนได้ตามต้องการ
ถ้ดมาในส่วนของเรือนไมล์ โดยมีหน้าจอ LCD เล็กๆที่สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ ระยะทาง, เกียร์, น้ำมัน, ระยะทางที่วิ่งได้ต่อน้ำมันที่เหลืออยู่, ไฟเตือนเซอร์วิส, นาฬิกา, Trip, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ไฟแสดงสถานะของ Traction Control ลามมาถึง Torque-Assist Clutch เมื่อเราเปลี่ยนเกียร์หนักๆ มันจะช่วยให้ไม่ดิ้น น่ะ ง่ายๆ
มาด้อมๆมองๆกันต่อที่ช่วงล่างเจ้า Bonneville Bobber กันเถอะ! เบรคที่จัดมาให้เป็นจานเดี่ยวแบบ Floating ทั้งหน้าและหลัง จานหน้ามีขนาด 310 มม. ใช้คาลิปเปอร์ Nissin สูบคู่ ส่วนจานหลังขนาด 255 มม. คาลิปเปอร์ Nissin สูบเดี่ยว ซึ่งทั้งคู่มี ABS และในส่วนของโช้คนั้น เจ้า Bobber มากับ โช้คคู่หน้า KYB ขนาด 41 มม. ระยะยุบ 90 มม. และโช้คหลัง KYB กระบอกเดี่ยว ระยะยุบ 76.9 มม. และรูปทรงที่ยาวแต่เตี้ยแถมศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้การควบเจ้า Bobber แตกต่างไปจาก T120 อย่างสิ้นเชิง ล้อที่ให้มาเป็นซี่ลวด ด้านหน้ามีขนาด 19” และด้านหลัง 16” ใช้ยางขนาด 100/90-19 และ 150/60-16
Triumph Bonneville Bobber นั้นได้เปิดตัวในงาน EICMA 2016 ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มากับเครื่องยนต์ขนาด 1200 CC จาก T120 ที่ได้รับการปรับแต่งให้ ดุ ดิบ เถื่อน ตามแบบฉบับ Bobber ให้การตอบสนองที่ดีในการขับขี่ สนุกสนาน เร้าใจ แต่แฝงไว้ในความนุ่นนวลครั้งการสัมผัสคันเร่งเบาๆ การเข้าโค้งที่ไม่คิดว่าจะง่ายดาย แต่กลับทำได้ง่ายจนน่าแปลกใจ แต่สุดท้ายผมก็ตะขิดตะขวงใจกับปริมาตรความจุถังน้ำมันที่ให้มาเพียง 9.1 ลิตร ซึ่งมันช่างน้อยไม่สาแก่ใจกับการเดินทางไกลๆ เอาซะเลย ทำให้ต้องแวะพักกันถี่ยิ๊บ แต่โดยรวมแล้วพพูดได้คำเดียวสั้นๆว่า "เถื่อน"
............................
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับข้อมูลที่เอามาแบ่งปันกันอ่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆท่าน ที่กำลังจะตัดสินใจ หามาครอบครองกันนะครับ
*ไม่ได้สปอนเซอร์ ไม่ได้ค่าจ้างจากแบรนด์รถใดๆทั้งสิ้น แค่มีข้อมูลในมือ เอามาแบ่งปันกันอ่าน แชร์กันเยอะๆนะจ๊ะ จะได้มีกำลังใจทำต่อ ^^*
อย่าลืม follow facebook fanpage ของพวกเรา ทีมรายการ ขับขี่เด๊ะ กันเยอะๆน้าาา ><
www.facebook.com/kubkeedeh/
และอย่าลืมกับ Youtube Channel ของพวกเรา เข้าไปกด Subscribe กันเยอะๆนะครับ มีอะไรให้ดูกันเพียบ!
www.youtube.com/ride2bros
[SR] รีวิว เผื่อลืม กับ Triumph Bobber นักเลงเมืองผู้ดี "โหด ดิบ เถื่อน" ที่คุณต้องลอง
Triumph Bonneville Bobber จัดอยู่ในส่วนของ Modern Classics เป็นความคลาสสิคสมัยใหม่ที่ลงตัวสุดๆ และใช้เครื่องยนต์ SOHC 8 วาล์ว High Torque ที่สุดโคตรจะ "เถื่อน" ยัดเครื่องยนต์มาขนาด 1200cc มันคือพี่ใหญ่ที่จัดว่า "ดุดัน" และเจ้า Bonneville Bobber นี้ ได้รับการปรับแต่ง mapping กล่องควบคุมเครื่องยนต์ให้แตกต่างไปจาก T120 ในเรื่องของการส่งกำลังเครื่องและแรงบิดในช่วงรอบต่ำให้มีกำลังส่งที่สูงขึ้น เพิ่มแรงม้าให้มากขึ้นถึง 10% ในช่วง 4500 รอบ/นาที ในขณะแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 106Nm ที่ 4000 รอบ/นาที และแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 76 แรงม้าที่ 6100 รอบ/นาที
นักคัสตอมรถมือฉกาจทั้งหลาย ในยุคสมัยก่อนและหลัง world war 2 มักจะชอบเอารถยี่ห้อต่างๆ รวมถึง Triumph มาแต่งโดยการ แงะๆ แกะๆ ถอดนั้นนิด ทิ้งนี่หน่อย ปลดไปเรื่อยเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบา เหลือแต่ของที่จำเป็น และเปลือยรถกันเล็กๆ จึงทำให้ดู sexy และ ดุดัน // Bob-job นั้นมักจะมีเบาะคนขี่ที่เดียวเท่านั้น และเป็นแบบ Springer Seat และเจ้ากรรม มันไม่มีโช๊คหลัง ให้ตายเถอะพ่อ!!! ดิบ สึส! Hardtail เอวร้าวราน!! แต่สุดท้ายไม่วาย Bobber 2017 ได้แอบซ่อนโช้คนอนไว้ใต้เบาะ เพื่อไว้ซับแรงกระแทกและขับขี่เข้าโค้งได้ดีเกินกว่ารถที่เป็นเฟรม Hardtail เดิม! ขอบพระคุณ พระเจ้า! ความฮิตแบบยั่งยืนของความเป็น Bob-job หรือ Bobber นั้น ต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน ทำให้ Triumph เล็งเห็นจุดนี้ และได้จัดการลงมือสรรสร้างคลอดมาจากโรงงานผลิตกันเลย
Triumph Bobber นี้มาในความดุดัน โค้งมน โฉบเฉี่ยวลงตัวในทุกมิติ ท่อไอเสียทรง Peashooter ที่ให้เสียง บาดใจทุกครั้งที่บิดคันเร่ง มาพร้อมกับแคทตาไลติก ที่เก็บอยู่ใต้รถอย่างมิดชิด ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น Triumph Bobber ยกเครื่องมาจาก T120 เลยก็ว่าได้ซึ่งเป็นเครื่องขนาด 1200cc แบบ High Torque ที่ให้แรงบิดที่จัดจ้าน พร้อมด้วยการปรับแต่งให้ได้แรงบิดให้มากขึ้น ซึ่งได้อารมณ์ กระชาก ดุ ดิบ เถื่อน ตามสไตล์ Bobber ขุมพลังขนาด 1200 cc ที่ส่งแรงบิดออกมาตั้งแต่รอบต่ำๆ นั้น ทำให้การควบคุมคันเร่งในสภาวะการจราจรที่ติดขัดเป็นไปได้ง่ายมาก แม้ว่า Triumph Bobber จะมากับน้ำหนักตัวถึง 228 kg ศูนย์ถ่วงรถที่ต่ำ ก็ตาม และในเรื่องของระยะฐานล้อ ตำแหน่งแฮนด์ องศาโช้คต่างๆ ก็ส่งผลให้การขับขี่สามาารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว
สัดส่วนในการตกแต่ง แอนด์ทั้ง 2 ข้าง จัดได้ว่า เรียบ และ เงียบเฉี๊ยบ จริงๆ 555 ไม่มีอะไรเลยให้ตายเถอะ มีแค่นี้นะ! แต่ในความเรียบและโล่งของประกับไฟ มันช่างแตกต่างจาก เรือนไมล์ ที่อัดมาแน่นจนแถบจะก่ายคอเสนอหน้ากันออกมาทำหน้าที่ของๆมัน โดยสามารถเข้าถึงได้ด้วยปุ่ม “i” เพียงปุ่มเดียว
และส่วนสำำคัญอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ ปุ่มควบคุมโหมดการขับขี่ของตัวรถซึ่งมีมาด้วยกัน 2 โหมดคือ Rain และ Road ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกการตอบสนองที่เหมาะสมกับสภาพถนนได้ตามต้องการ
ถ้ดมาในส่วนของเรือนไมล์ โดยมีหน้าจอ LCD เล็กๆที่สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ ระยะทาง, เกียร์, น้ำมัน, ระยะทางที่วิ่งได้ต่อน้ำมันที่เหลืออยู่, ไฟเตือนเซอร์วิส, นาฬิกา, Trip, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ไฟแสดงสถานะของ Traction Control ลามมาถึง Torque-Assist Clutch เมื่อเราเปลี่ยนเกียร์หนักๆ มันจะช่วยให้ไม่ดิ้น น่ะ ง่ายๆ
มาด้อมๆมองๆกันต่อที่ช่วงล่างเจ้า Bonneville Bobber กันเถอะ! เบรคที่จัดมาให้เป็นจานเดี่ยวแบบ Floating ทั้งหน้าและหลัง จานหน้ามีขนาด 310 มม. ใช้คาลิปเปอร์ Nissin สูบคู่ ส่วนจานหลังขนาด 255 มม. คาลิปเปอร์ Nissin สูบเดี่ยว ซึ่งทั้งคู่มี ABS และในส่วนของโช้คนั้น เจ้า Bobber มากับ โช้คคู่หน้า KYB ขนาด 41 มม. ระยะยุบ 90 มม. และโช้คหลัง KYB กระบอกเดี่ยว ระยะยุบ 76.9 มม. และรูปทรงที่ยาวแต่เตี้ยแถมศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้การควบเจ้า Bobber แตกต่างไปจาก T120 อย่างสิ้นเชิง ล้อที่ให้มาเป็นซี่ลวด ด้านหน้ามีขนาด 19” และด้านหลัง 16” ใช้ยางขนาด 100/90-19 และ 150/60-16
Triumph Bonneville Bobber นั้นได้เปิดตัวในงาน EICMA 2016 ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มากับเครื่องยนต์ขนาด 1200 CC จาก T120 ที่ได้รับการปรับแต่งให้ ดุ ดิบ เถื่อน ตามแบบฉบับ Bobber ให้การตอบสนองที่ดีในการขับขี่ สนุกสนาน เร้าใจ แต่แฝงไว้ในความนุ่นนวลครั้งการสัมผัสคันเร่งเบาๆ การเข้าโค้งที่ไม่คิดว่าจะง่ายดาย แต่กลับทำได้ง่ายจนน่าแปลกใจ แต่สุดท้ายผมก็ตะขิดตะขวงใจกับปริมาตรความจุถังน้ำมันที่ให้มาเพียง 9.1 ลิตร ซึ่งมันช่างน้อยไม่สาแก่ใจกับการเดินทางไกลๆ เอาซะเลย ทำให้ต้องแวะพักกันถี่ยิ๊บ แต่โดยรวมแล้วพพูดได้คำเดียวสั้นๆว่า "เถื่อน"
............................
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับข้อมูลที่เอามาแบ่งปันกันอ่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆท่าน ที่กำลังจะตัดสินใจ หามาครอบครองกันนะครับ
*ไม่ได้สปอนเซอร์ ไม่ได้ค่าจ้างจากแบรนด์รถใดๆทั้งสิ้น แค่มีข้อมูลในมือ เอามาแบ่งปันกันอ่าน แชร์กันเยอะๆนะจ๊ะ จะได้มีกำลังใจทำต่อ ^^*
อย่าลืม follow facebook fanpage ของพวกเรา ทีมรายการ ขับขี่เด๊ะ กันเยอะๆน้าาา ><
www.facebook.com/kubkeedeh/
และอย่าลืมกับ Youtube Channel ของพวกเรา เข้าไปกด Subscribe กันเยอะๆนะครับ มีอะไรให้ดูกันเพียบ!
www.youtube.com/ride2bros