เมื่อพูดถึงเชียงคาน นักท่องเที่ยวหลายๆ คนก็คงจะนึกถึง “ถนนคนเดินเชียงคาน” เท่านั้น แต่ยังไม่มีใครที่ไปเที่ยวแล้วออกมาบอกว่า ที่เชียงคานนั้นมันไม่ได้มีเพียงแค่ถนนคนเดินเพียงอย่างเดียวนะ มันเลยทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนไม่คิดที่อยากจะไป และในครั้งนี้พวกเราเลยตั้งจะไปเที่ยวที่เชียงคาน เพื่อนำเอาเรื่องราวและแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีเพียงแค่ถนนคนเดินมาบอกเล่าให้ได้รู้กัน
การเดินทางไปเชียงคานจังหวัดเลยในครั้งนี้ พวกเราได้ยานพาหนะที่เต็มเปี่ยมและอัดแน่นไปด้วยสมรรถนะอย่าง Ford Everest 2.2 Titanium Plus เป็นเพื่อนคู่การเดินทาง รถคันที่ได้มาเป็นสีขาวดูสะอาดตา รูปโฉมภายนอกโอ่อ่าสวยงาม ภายในห้องผู้โดยสารกว้างขวางหรูหราเช่นกัน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้มาอย่างครบถ้วน รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อโลกโซเชี่ยลก็ให้มาแบบสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ก็ประมาณช่วงห้าโมงเย็น เพราะเราไม่ต้องการที่จะขับยาวไปยังเชียงคานแบบม้วนเดียวจบ มันหักโหมและเหนื่อยจนเกินไป เพราะระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงคานก็เกือบๆ 600 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงได้ ถือว่าเอาเรื่องอยู่พอสมควร ดังนั้นพวกเราก็เลยค่อยๆ ขับ ค่อยๆ ไป กันแบบชิลล์ๆ กันดีกว่า
พวกเราเดินทางถึงเชียงคานเมื่อตอนพลบค่ำของอีกวัน ก็ขับกันไปแบบเพลินๆ ไม่เร่งรีบมากนัก ถึงแม้ว่าเราจะได้รถที่มีสมรรถนะทีดีเยี่ยมอย่าง Ford Everest ก็ตาม ความเร็วที่ใช้ก็อยู่ที่ประมาณ 80-100 กม./ชม. เท่านั้นเอง มีบางครั้งที่ถนเป็นทางตรงก็อาจจะมีเร่งความเร็วไปถึง 120 กม./ชม.
เสียงทักทายกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของเกสต์เฮาส์ “แม่น้ำมีแก่ง” ดังขึ้นด้วยความดีใจ หลังจากนั้นก็พากันยกกระเป๋าสัมภาระเดินหายเข้าไปด้านในที่พัก ปิดประตูพร้อมกับทำการล็อครถแล้วก็เดินเข้าไปนั่งพูดคุยสนทนากัน ค่ำคืนนี้เราสามคนจะพักค้างคืนกันที่เกสต์เฮาส์ของเพื่อน
แสงสุดท้ายลาลับไปนานมากแล้ว แสงไฟตามถนนของเชียงคานในเวลานี้เปิดส่องสว่างขึ้น ผู้คนในค่ำคืนนี้ยังมีไม่มากนัก อาจเป็นเพราะว่ายังไม่ใช่วันหยุด พวกเราทั้งหมดสี่คนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน ไถ่ถามเรื่องราวต่างๆ มากมาย เพราะเราไม่ได้เจอกันมานานหลายปีเหมือนกัน
สำหรับเกสต์เฮาส์ “แม่น้ำมีแก่ง” ถือเป็นอีกหนึ่งที่พักที่แนะนำได้เลย ตัวอาคารที่พักทั้งหลังจะเป็นสีขาวออกควันบุหรี่ ตกแต่งสไตล์วินเทจเรโทร ของตกแต่งก็จะออกแนวอาร์ตๆ มีภาพถ่ายของเพื่อนที่เป็นเจ้าของเกสต์เฮาส์จำนวนหลายภาพ ถูกใส่กรอบนำไปแขวนตกแต่งไว้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอย่างลงตัว มีมุมเล็กๆ ให้นั่งจิบกาแฟหรือนั่งเขียนหนังสืออยู่หลายมุม ที่นี่นอกจากจะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีของที่ระลึกไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด เสื้อผ้า และอื่นเล็กๆ น้อยๆ ไว้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
พวกเราทั้งสี่คนนั่งคุยกันอยู่นานมากพอสมควร จิบเบียร์ไป ก็คุยกันไปแบบเพลินๆ เหน็ดหเนื่อยกับเดินทางมาก็พอสมควร หลังจากนั้นก็ได้เวลาเข้าห้องพักของตัวเองที่อยู่ชั้นบน คืนนี้ก็คงไม่มีอะไรมากนัก หลังจากอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวกันแล้ว ก็ออกไปหาอาหารอร่อยๆ ที่เชียงคานรับประทานกันในมื้อค่ำ เดินเล่นตามถนนคนเดินเพื่อย่อยอาหารกันเสร็จก็เข้าห้องพักกัน คืนนี้ก็ขอนอนพักผ่อนเพื่อเก็บพลังงานเอาไว้เที่ยวในวันรุ่งเช้ากันต่อไป
สนใจติดต่อขอจองห้องพักได้ที่เบอร์โทร 081-824-4274
..................The End..................
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 2
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 3
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 4
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 5
>
เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 6
ติดตามต่อได้ที่ >
เที่ยว ฟิน กิน ช้อป ไปกับ จอยน์ อะ ไลฟ์ และ >
จอยน์ อะ ไลฟ์ ไทยแลนด์ ดอท คอม
[SR] เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 1
เมื่อพูดถึงเชียงคาน นักท่องเที่ยวหลายๆ คนก็คงจะนึกถึง “ถนนคนเดินเชียงคาน” เท่านั้น แต่ยังไม่มีใครที่ไปเที่ยวแล้วออกมาบอกว่า ที่เชียงคานนั้นมันไม่ได้มีเพียงแค่ถนนคนเดินเพียงอย่างเดียวนะ มันเลยทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนไม่คิดที่อยากจะไป และในครั้งนี้พวกเราเลยตั้งจะไปเที่ยวที่เชียงคาน เพื่อนำเอาเรื่องราวและแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีเพียงแค่ถนนคนเดินมาบอกเล่าให้ได้รู้กัน
การเดินทางไปเชียงคานจังหวัดเลยในครั้งนี้ พวกเราได้ยานพาหนะที่เต็มเปี่ยมและอัดแน่นไปด้วยสมรรถนะอย่าง Ford Everest 2.2 Titanium Plus เป็นเพื่อนคู่การเดินทาง รถคันที่ได้มาเป็นสีขาวดูสะอาดตา รูปโฉมภายนอกโอ่อ่าสวยงาม ภายในห้องผู้โดยสารกว้างขวางหรูหราเช่นกัน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้มาอย่างครบถ้วน รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อโลกโซเชี่ยลก็ให้มาแบบสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ก็ประมาณช่วงห้าโมงเย็น เพราะเราไม่ต้องการที่จะขับยาวไปยังเชียงคานแบบม้วนเดียวจบ มันหักโหมและเหนื่อยจนเกินไป เพราะระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงคานก็เกือบๆ 600 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงได้ ถือว่าเอาเรื่องอยู่พอสมควร ดังนั้นพวกเราก็เลยค่อยๆ ขับ ค่อยๆ ไป กันแบบชิลล์ๆ กันดีกว่า
พวกเราเดินทางถึงเชียงคานเมื่อตอนพลบค่ำของอีกวัน ก็ขับกันไปแบบเพลินๆ ไม่เร่งรีบมากนัก ถึงแม้ว่าเราจะได้รถที่มีสมรรถนะทีดีเยี่ยมอย่าง Ford Everest ก็ตาม ความเร็วที่ใช้ก็อยู่ที่ประมาณ 80-100 กม./ชม. เท่านั้นเอง มีบางครั้งที่ถนเป็นทางตรงก็อาจจะมีเร่งความเร็วไปถึง 120 กม./ชม.
เสียงทักทายกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของเกสต์เฮาส์ “แม่น้ำมีแก่ง” ดังขึ้นด้วยความดีใจ หลังจากนั้นก็พากันยกกระเป๋าสัมภาระเดินหายเข้าไปด้านในที่พัก ปิดประตูพร้อมกับทำการล็อครถแล้วก็เดินเข้าไปนั่งพูดคุยสนทนากัน ค่ำคืนนี้เราสามคนจะพักค้างคืนกันที่เกสต์เฮาส์ของเพื่อน
แสงสุดท้ายลาลับไปนานมากแล้ว แสงไฟตามถนนของเชียงคานในเวลานี้เปิดส่องสว่างขึ้น ผู้คนในค่ำคืนนี้ยังมีไม่มากนัก อาจเป็นเพราะว่ายังไม่ใช่วันหยุด พวกเราทั้งหมดสี่คนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน ไถ่ถามเรื่องราวต่างๆ มากมาย เพราะเราไม่ได้เจอกันมานานหลายปีเหมือนกัน
สำหรับเกสต์เฮาส์ “แม่น้ำมีแก่ง” ถือเป็นอีกหนึ่งที่พักที่แนะนำได้เลย ตัวอาคารที่พักทั้งหลังจะเป็นสีขาวออกควันบุหรี่ ตกแต่งสไตล์วินเทจเรโทร ของตกแต่งก็จะออกแนวอาร์ตๆ มีภาพถ่ายของเพื่อนที่เป็นเจ้าของเกสต์เฮาส์จำนวนหลายภาพ ถูกใส่กรอบนำไปแขวนตกแต่งไว้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอย่างลงตัว มีมุมเล็กๆ ให้นั่งจิบกาแฟหรือนั่งเขียนหนังสืออยู่หลายมุม ที่นี่นอกจากจะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีของที่ระลึกไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด เสื้อผ้า และอื่นเล็กๆ น้อยๆ ไว้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
พวกเราทั้งสี่คนนั่งคุยกันอยู่นานมากพอสมควร จิบเบียร์ไป ก็คุยกันไปแบบเพลินๆ เหน็ดหเนื่อยกับเดินทางมาก็พอสมควร หลังจากนั้นก็ได้เวลาเข้าห้องพักของตัวเองที่อยู่ชั้นบน คืนนี้ก็คงไม่มีอะไรมากนัก หลังจากอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวกันแล้ว ก็ออกไปหาอาหารอร่อยๆ ที่เชียงคานรับประทานกันในมื้อค่ำ เดินเล่นตามถนนคนเดินเพื่อย่อยอาหารกันเสร็จก็เข้าห้องพักกัน คืนนี้ก็ขอนอนพักผ่อนเพื่อเก็บพลังงานเอาไว้เที่ยวในวันรุ่งเช้ากันต่อไป
สนใจติดต่อขอจองห้องพักได้ที่เบอร์โทร 081-824-4274
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 2
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 3
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 4
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 5
> เชียงคานไม่ได้มีแค่ "ถนนคนเดิน...นะ" | เที่ยว ฟิน กิน ช้อป | Part 6
ติดตามต่อได้ที่ > เที่ยว ฟิน กิน ช้อป ไปกับ จอยน์ อะ ไลฟ์ และ > จอยน์ อะ ไลฟ์ ไทยแลนด์ ดอท คอม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น