ทีมสำรวจพบซากเรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนถูกเรือดำน้ำญี่ปุ่นยิงจนจมทะเลเมื่อ 72 ปีก่อนแล้ว ....
นักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมสำรวจค้นพบเรือที่เชื่อว่าคือเรือลาดตระเวนหนัก ‘ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส’ ของสหรัฐฯ ซึ่งจมทะเลหายไปหลังจากถูกเรือดำน้ำของกองทัพญี่ปุ่นยิงตอร์ปีโดใส่ ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อราว 72 ปีก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐฯ
สมอเรือที่มีคำว่า ‘U.S. Navy’ และ ‘Norfolk Navy Yard’ สลักอยู่
ทั้งนี้ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส ถูกตอร์ปีโดยิงจมภายในระยะเวลาเพียง 12 นาที เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 โดยเรือลำนี้เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจลับสุดยอดในการขนส่งส่วนประกอบของระเบิดปรมาณู ‘ลิตเติล บอย’ ที่ถูกใช้ในการโจมตีเมืองฮิโรชิมา ไปยังฐานทัพบนเกาะทีเนียนซึ่งเป็นหนึ่งในระเบิดปรมาณู 1 ใน 2 ลูก ที่นำไปสู่การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามในทะเลแปซิฟิก
การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ส.ค. โดยทีมนักวิจัยพลเรือน นำโดย นาย พอล อัลเลน หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ ใช้เรือวิจัย ‘เพเทรล' ซึ่งมียานดำน้ำที่สามารถดำได้ลึงถึง 6,000 ฟุต เจอซากเรือลำนี้อยู่ที่ก้นมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ ที่ความลึก 18,000 ฟุต หรือราว 5,500 เมตร
ชิ้นส่วนที่เชื่อว่าเป็นลำเรือมีหมายเลข 35 เขียนกำกับอยู่
“การที่เชิดชูเกียรติแก่ผู้กล้าของเรือยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส และครอบครัวของพวกเขาผ่านการค้นพบเรือลำนี้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในการยุติสงครามโลกครั้งที่2 ถือเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก” นายอัลเลน กล่าว
“ในฐานะชาวอเมริกัน พวกเราทุกคนติดค้างคำขอบคุณต่อเหล่าลูกเรือ สำหรับความกล้าหาร, ความวิริยะ และความเสียสละของพวกเขาในสถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นในขณะที่การค้นหาซากเรือส่วนที่เหลือของเรายังคงดำเนินต่อไป ผมหวังว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรือประวัติศาสตร์ลำนี้จะรู้สึกได้ว่า จุดสิ้นสุดของการค้นหาอันยาวนานกำลังจะมาถึงแล้ว”
กล่องอะไหล่จากเรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส
อนึ่ง เรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส มีลูกเรือทั้งหมด 1,196 คน โดยผู้ที่รอดชีวิตจากการจมของเรือส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะการถูกแสงแดดเป็นเวลานานขาดน้ำ หรือเป็นเหยื่อของฉลาม ในท้ายที่สุดมีผู้รอดชีวิตเพียง 316 คนเท่านั้น และมี 22 คนที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
ที่มา :
https://www.thairath.co.th/content/1044050
พบแล้ว! ซาก ’ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส’ เรือภารกิจลับปิดฉากสงครามโลก 2
ทีมสำรวจพบซากเรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนถูกเรือดำน้ำญี่ปุ่นยิงจนจมทะเลเมื่อ 72 ปีก่อนแล้ว ....
นักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมสำรวจค้นพบเรือที่เชื่อว่าคือเรือลาดตระเวนหนัก ‘ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส’ ของสหรัฐฯ ซึ่งจมทะเลหายไปหลังจากถูกเรือดำน้ำของกองทัพญี่ปุ่นยิงตอร์ปีโดใส่ ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อราว 72 ปีก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐฯ
สมอเรือที่มีคำว่า ‘U.S. Navy’ และ ‘Norfolk Navy Yard’ สลักอยู่
ทั้งนี้ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส ถูกตอร์ปีโดยิงจมภายในระยะเวลาเพียง 12 นาที เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 โดยเรือลำนี้เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจลับสุดยอดในการขนส่งส่วนประกอบของระเบิดปรมาณู ‘ลิตเติล บอย’ ที่ถูกใช้ในการโจมตีเมืองฮิโรชิมา ไปยังฐานทัพบนเกาะทีเนียนซึ่งเป็นหนึ่งในระเบิดปรมาณู 1 ใน 2 ลูก ที่นำไปสู่การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามในทะเลแปซิฟิก
การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ส.ค. โดยทีมนักวิจัยพลเรือน นำโดย นาย พอล อัลเลน หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ ใช้เรือวิจัย ‘เพเทรล' ซึ่งมียานดำน้ำที่สามารถดำได้ลึงถึง 6,000 ฟุต เจอซากเรือลำนี้อยู่ที่ก้นมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ ที่ความลึก 18,000 ฟุต หรือราว 5,500 เมตร
ชิ้นส่วนที่เชื่อว่าเป็นลำเรือมีหมายเลข 35 เขียนกำกับอยู่
“การที่เชิดชูเกียรติแก่ผู้กล้าของเรือยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส และครอบครัวของพวกเขาผ่านการค้นพบเรือลำนี้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในการยุติสงครามโลกครั้งที่2 ถือเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก” นายอัลเลน กล่าว
“ในฐานะชาวอเมริกัน พวกเราทุกคนติดค้างคำขอบคุณต่อเหล่าลูกเรือ สำหรับความกล้าหาร, ความวิริยะ และความเสียสละของพวกเขาในสถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นในขณะที่การค้นหาซากเรือส่วนที่เหลือของเรายังคงดำเนินต่อไป ผมหวังว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรือประวัติศาสตร์ลำนี้จะรู้สึกได้ว่า จุดสิ้นสุดของการค้นหาอันยาวนานกำลังจะมาถึงแล้ว”
กล่องอะไหล่จากเรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส
อนึ่ง เรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโพลิส มีลูกเรือทั้งหมด 1,196 คน โดยผู้ที่รอดชีวิตจากการจมของเรือส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะการถูกแสงแดดเป็นเวลานานขาดน้ำ หรือเป็นเหยื่อของฉลาม ในท้ายที่สุดมีผู้รอดชีวิตเพียง 316 คนเท่านั้น และมี 22 คนที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/1044050