เที่ยวเขาใหญ่หน้าฝน Part 1 นอนเต้นท์หน้าฝน ช้างป่า และพายุ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราขอมาแชร์ประสบการณ์ กางเต้นท์นอนหน้าฝนที่เขาใหญ่ค่ะ ทริปนี้ฉุกละหุกพอสมควร เจอเรื่องไม่คาดคิดตลอด แต่เป็นทริปที่เราประทับใจมากๆ ทริปหนึ่งเลยค่ะ ขอออกตัวก่อนว่า เราเป็นคนที่ชอบป่าเขามาก ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับป่า เพชรพระอุมา ล่องไพร เวลาอ่านเราก็ได้แต่จินตาการเอา ไม่เคยได้เห็นของจริง เดินป่า ดูรอยสัตว์ ส่วนใหญ่เดินเองก็เดินๆๆๆ ดูแต่ต้นไม้ ฟังเสียงป่า แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นรอยสัตว์จริงๆ แบบในหนังสือที่เราเคยอ่าน เราค่อนข้างตื่นเต้นมาก มีความอินสุดๆ 5555

     เริ่มจากที่เราคุยกันเล่นๆ ว่าอยากไปนอนเต้นท์ คุยไปคุยมาเลยตกลงกันว่าจะไปเขาใหญ่เพราะสะดวก ใกล้ ใช้เงินไม่เยอะ และอีก 2 วันจะถึงวันหยุด ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน โอโห้...คนจะมหาศาลขนาดไหนจะมีที่นอนไหม แต่ก็ยังเบาใจอยู่ค่ะ เพราะเป็นหน้าฝนคนคงไม่เยอะมาก ข้าวของก็ไม่ได้เตรียม ที่เที่ยวก็ไม่ได้หาแต่เราสองคนเคยไปเขาใหญ่ 3-4 ครั้งแล้ว (แต่ยังไม่เคยนอนเต้นท์ที่นี่นะ) ที่เที่ยวส่วนใหญ่เราเที่ยวหมดแล้ว เลยไม่ซีเรียสมาก เน้นไปนอน ทำอาหารกิน และอยากไปเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติมากๆ ค่ะ หลังจากที่ตกลงกันเสร็จเรียบร้อยเราก็เก็บของ อาศัยที่เราเคยเที่ยวอยู่พอสมควร ก็มีของใช้ที่เตรียมไว้เป็นประจำอยู่บ้างค่ะ เพี้ยนออกทริป

สิ่งที่ต้องเตรียม คร่าวๆก็
- เต้นท์ ถุงนอน หมอน ผ้าห่ม (หมอนกับผ้าห่มเราเอาไปเองค่ะ เต้นท์เช่าของอุทยาน)
- เสื้อผ้า ชุดชั้นใน ถุงเท้ารองเท้า ลองจอน เสื้อกันหนาว(เผื่อหนาว) ผ้าเช็ดตัว
- ครีมอาบน้ำ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า ครีมทาหน้า ทาตัวแล้วแต่สะดวก
- หมวดยา ยาแก้ปวดหัว ปวดท้อง ท้องเสีย พลาสเตอร์ ยากันทาก ยาประจำตัว
- ไฟฉาย มีดเล่มเล็กๆ เทียนไข ไฟแช็ก เชือก เสื่อ
- เตาแก๊สหรือเตาถ่าน (ที่เขาใหญ่มีเตาให้เช่า มีถ่านขาย แต่ไม่มีไม้เชื้อเพลิง ทางที่ดีเตรียมกระดาษหรือไม้ติดไปด้วยดีกว่าค่ะ) กระทะ หม้อ จาน ชาม ช้อนส้อม
- อาหาร ของกิน ขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม (ซื้อจากข้างล่างไปให้พร้อมค่ะ ราคาถูกกว่า ขาดอะไรค่อยไปซื้อข้างบน น้ำเปล่าสำหรับทำอาหารและกิน เราเอาไปประมาณ 6 ลิตรค่ะ)

ค่าธรรมเนียมผ่านเข้าอุทยานฯ
- ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท
- เด็ก 20 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ 50 บาท

** ทริปนี้เตรียมกล้องไปพร้อมมาก แต่!!!!เราลืมเมมกล้องภาพนิ่งค่ะ รูปเป็นรูปที่แคปจากวิดีโอ รูปไม่ค่อยชัดต้องขอโทษด้วยนะคะ ร้องไห้

การเดินทาง
     ออกจากบ้านประมาณ 7:15 น. ไปทางฉะเชิงเทราขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีนบุรีเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวจึงเลือกเส้นทางนี้ (ขากลับใช้เส้นมีนบุรี ทั้งสองเส้นรถน้อยไม่มีรถติดสะดวกดีค่ะ) ก่อนขึ้นเขาใหญ่จะมี 7-11 อยู่ เราแวะซื้อเสบียงกันก่อน เนื่องจากว่าเราไปกันสองคน อาหารที่ทำก็จะเป็นง่ายๆ ต้มมาม่า ไส้กรอกไปปิ้ง อกไก่ ซื้อข้าวใน 7-11 เอาไปอุ่นเองค่ะ ซื้อของเสร็จก็เดินทางกันต่อ ถึงเขาใหญ่ประมาณ 10:30 น. สำหรับใครที่ติดต่อเรื่องกางเต้นท์ให้ไปติดต่อได้ที่ลานกางเต้นท์ทั้งลำตะคองและลานกล้วยไม้ได้เลยค่ะ

หน้าฝนก็จะครึ้มๆหน่อย แต่ป่าเขียวสดชื่นมาก


     พอถึงก็ต้องหาที่นอนก่อน ไปติดต่อเช่าเต้นท์เสร็จสรรพ เซอร์ไพร์สมาก ที่นี่ให้กางเต้นท์เอง!! ตอนแรกเข้าใจว่าจะมีกางไว้ให้เหมือนที่ภูกระดึง เราสองคนได้แต่มองตากันปริบๆ เพราะไม่เคยกางเต้นท์เองมาก่อน เอาค่ะ..มั่วก็มั่ว งมไปกันนานอยู่เหมือนกันกว่าจะสำเร็จ แต่ก็สนุกดีค่ะได้หัดไปในตัว แม้จะทุลักทุเลนิดหน่อย

ฝรั่งข้างหลัง มาทีหลังค่ะแต่กางเต้นท์เสร็จก่อนเราอีกกก

หน้าตาเต้นท์ก็จะเบี้ยวๆหน่อย ไม่เปะปังเหมือนของคนอื่นเท่าไหร่ 5555

บรรยากาศหน้าเต้น ชิวมาก

ลานกางเต้นท์ลำตะคอง หน้าฝน อากาศดีมากๆค่ะ


     เสร็จแล้วก็ไปหามื้อเที่ยงกินกัน ก่อนจะไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ แวะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่นั่นจะมีทั้งร้านขายอาหาร มินิมาร์ท จังหวะที่จะซื้อข้าวเราเปิดกระเป๋าเงิน ปรากฏว่า....เงินหมดค่ะ เพราะก่อนขึ้นมาเรากดเงินไป 1,000 บาท กะว่าจะเป็นทริปประหยัดๆ ไม่ใช้เงินเยอะ แต่แค่แวะ 7-11 ซื้อของกินก็ปาไป 300 กว่าบาทแล้วค่ะ (นี่ประหยัดแล้ว - -') ขึ้นมาถึงก็จ่ายค่าเช่าเต้นท์ ที่นอน 400 กว่าบาท ทำให้เงินหมด สองคนรวมกันเหลือเงินอยู่ 100 บาทถ้วน!!! ที่สำคัญบนนี้ไม่มีตู้ ATM ค่ะ (แล้วจะอยู่ยังไง??) เม่าตกอับ

ข้าวราดแกงบนนี้ 1 อย่าง 40 บาท 2 อย่าง 50 บาท

เราสองคนข้าวแกงคนละจาน 100 บาทพอดี โชคดีเราซื้อน้ำ น้ำแข็งมาพร้อม มีน้ำกินแล้ว ไม่ต้องซื้อ


     สรุปเราสองคนต้องลงไปอีกรอบ (ทั้งๆที่เพิ่งขึ้นมา) เพื่อไปกดเงิน ครั้งนี้เราลงฝั่งโคราชเพราะมีตู้กดเงินอยู่ใกล้ๆประมาณ 12-15 กิโล ระหว่างทางก็เห็นรถติด งงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยถามเจ้าหน้าที่บอกว่า ข้างหน้ามีช้างป่า!!! เจ้าหน้าที่บอกให้จอดรถรอก่อน เราก็จอดรถรอ พอเห็นรถเริ่มไหลไปได้ เราก็เลยออกรถตามคันอื่นไป เพราะคิดว่าช้างคงเข้าป่าไปแล้ว ตามไปได้สักพัก รถข้างหน้าก็ชะลอๆ เราถึงได้รู้ว่าช้างยังไม่ได้ไปไหน อยู่ที่เดิมเลยจ้า ตอนนั้นตื่นเต้นมากกกกกก กลัวด้วย ไม่เคยเห็นช้างป่ามาก่อน กลัวจะดุเหมือนที่เห็นในข่าว เราก็รออยู่ในรถสักพัก จนเจ้าหน้าที่โบกให้ไปได้ก็ขับตามไป

เห็นช้างไหมคะ นั่นไง!เค้าอยู่ตรงนั้น

ยิ่งใกล้ช้างยิ่งกลัว ช้างตัวใหญ่มากกกก โชคดีเราเจอช้างไม่ดุร้าย อารมณ์เค้ายังดีอยู่ แค่ออกมายืนกินหญ้าเท่านั้น

กดเงินเสร็จเขาก็ยังอยู่ (สงสัยหญ้าตรงนั้นจะอร่อยมาก) เมื่อกี้หันก้นให้ตอนนี้หันหน้าให้....เต็มๆเลยจ้า


เจอช้างตื่นเต้นมาก 555 Video
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


     ด้วยความที่ยังอยากเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติอยู่ แล้วเวลาก็ยังเหลือเยอะ (เพิ่งจะบ่าย 2 เองกลับเต้นท์ก็ไม่มีอะไรทำ) เลยคิดว่าเราจะไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติกัน เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเขาใหญ่มีหลายเส้นทางทั้งแบบที่สามารถเดินได้เองและไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง



     เราเลือกไปเส้นทางที่ 1 เพราะใกล้ที่สุด ประมาณ 1 กิโลเมตร ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เวลาตอนนั้นแม้เพิ่งจะบ่าย 2 แต่มันครึ้มฝน เหมือนจะเย็นแล้วไปไกลมากไม่ได้ค่ะ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นที่ 1 ไม่ได้มีอะไรมาก เป็นการเดินดูป่า ดูต้นไม้ ฟังเสียงธรรมชาติมากกว่า แต่เราสองคนไม่รู้เรื่องป่ามาก ไม่ได้สังเกตว่ามีรอยสัตว์อะไรหรือเปล่า เราก็เดินดุ่มๆไปเรื่อย ฟังเสียงนก ดูต้นไม้ ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกชนิดของต้นไม้และลักษณะของต้นไม้เป็นระยะๆ ลักษณะเป็นทางลาดปูนซีเมนต์ตลอดทาง มีขึ้นลงเนินต่ำๆ เดินสะดวก ง่ายๆ ไม่หลงแน่นอนค่ะ


พร้อมแล้วก็ลุยค่ะ!!

ทางเดินราดซีเมนต์เดินสบายๆค่ะ

อาจต้องก้มต้องมุดนิดหน่อย


มีสะพานข้ามเล็กๆ

ระหว่างทางจะมีป้ายบอกลักษณะป่าและต้นไม้อยู่เป็นระยะ

ต้นไม้ขนาดใหญ่ 2-3 คนโอบพบเห็นได้ทั่วไปเลยค่ะ

เดินไปด้วย แวะถ่ายรูปธรรมชาติไปด้วย ชิวๆค่ะ


เห็ดอะไรก็ไม่รู้ค่ะ เพิ่มความสวยงามให้ป่าได้เยอะเลย

ต้นไม้สู๊งสูง

ขากลับออกมาจากป่า ก็เจอลิงและกวาง 2 ตัว


     ระหว่างเดินกลับไปที่รถปรากฏว่าฝนตกลงมาหนักเลย เราสองคนต้องวิ่งกลับรถ เปียกกันไปตามๆกัน แต่ที่สำคัญคือเตาถ่านและเต้นท์ของเรา ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง???? พอถึงรถเราก็ต้องรีบกลับไปที่เต้นท์โดยด่วนค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่