HOW TO (back)pack ?? or How to pack your backpack for holiday??
-- Based on Real International Experiences.--
สวัสดีค่ะ ชาวนักเที่ยวสไตล์แบ๊คแพ๊คทั้งในและนอกประเทศทุกท่าน
สมัยนี้คงพูดยาก ว่าไม่มีใครไม่อยากได้งานที่ดี ที่สามารถเก็บเงินก้อนนำไปเที่ยวรอบโลกได้ โดยเฉพาะประเทศที่เราอยากที่จะไปเองแบบไม่ง้อทัวร์ แต่พอออกเที่ยวทีไร ก็ดันลืมนู้นลืมนี้ทุกที … ไม่ว่าจะเป็นของส่วนตัว ของสำคัญ ของกันเผื่อ หรือของที่คิดว่า
“รู้งี้” พกเอาไว้ดีกว่า หรือ “รู้งี้” ทำไว้แต่แรกก็จบ ... จริงไหมคะ?
ก่อนเริ่มกระทู้ ขออนุญาติแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการเลยละกันนะคะ
เป็นเด็กกรุงเทพฯ อดีตสาวออฟฟิศคนหนึ่งที่ชื่อเล่นว่า “ไหม” ชอบเที่ยว ชอบตะลุย และชอบกิน จุดแปรผันของชีวิตคือ เมื่อปี 2015 เริ่มเที่ยวเองก่อน จนกลายมาเป็นโอกาสได้เริ่มใช้ชีวิตและทำงานที่ต่างประเทศ และเริ่มดำเนินชีวิตแบบอิสระนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งการเที่ยวเดี่ยวในขณะที่ทำงานไปด้วยนั้น นับว่ายาก(มาก) เพราะทำให้เราต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา มันเลยเป็นประสบการณ์ How to ที่อยากจะนำมาแชร์ให้กับคนอื่นๆได้นำไปปรับใช้ในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองกันค่ะ
-- บอกเล่าประวัติการเที่ยวของตัวเองคร่าวๆหลังชีวิตเด็กกรุงก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาจัดของลงกระเป๋ากัน --
จริงๆเริ่มใช้ชีวิตการเที่ยวแบบลุยเดี่ยว(Solo Traveller) มาได้ประมาณ 2 ปี ณ ประเทศธรรมชาติมากๆแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนเข้าประเทศนั้น เราก็เป็นคนกรุงจ๋า รักความสะดวกสบาย ง่ายๆ และถ้าขาดแคลนอะไรก็คือ ไปหาเอาดาบหน้า และเราก็ลิมิตตัวเองระดับหนึ่งด้วยการใช้แค่กระเป๋าลากใบเดียว15 กิโลกรัม ไซส์กลางประเดิมทริปแรกเลย และมีกระเป๋าสะพายไหล่ไว้ใส่ของจำเป็นระหว่างบินข้ามประเทศ
ทุกวันนี้ถึงจะมีรถยนต์ที่ต่างประเทศ มันทำให้เราสะดวกขึ้นมากก็จริง แต่มันทำให้เรานิสัยเสียเรื่องความโลภต่างๆค่ะ เลยต้องมาทิ้งของระหว่างทางกันไป แต่ทริปล่าสุดเดือน7ผ่านมา มีโอกาสได้ออกเที่ยวแบบ Backpacker จริงๆ 1 เดือนเต็ม ผ่านการใช้บริการสายการบิน และขึ้นไฟล์ทนับไม่ถ้วนไปพร้อมกับสัมภาระที่ต้องแบกตลอดทริปถึง 25 kg.! (โหดมากๆค่ะ) เพราะไหมเที่ยวตั้งแต่เมืองที่มีอากาศติดลบถึง -13 - 28 องศา เลยทำให้ตัดใจทิ้งอะไรกลางทางไม่ได้จริงๆ ตอนนี้เลยไฟแรงมากๆที่อยากจะสร้างกระทู้นี้ขึ้นมา อยากให้คนเที่ยวมีความสุขไปตลอดทริปแบบไม่ลำบากนะคะ
เริ่มกันเลยดีกว่า กับสัมภาระที่ต้องเตรียมโดยอิงจากของใช้จริงในชีวิตประจำวันของไหมค่ะ
คำเตือน กระทู้นี้อาจจะไม่เหมาะ หรือไม่แนะนำสำหรับ …
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-แบ็คแพ็คเกอร์จ๋า เพราะไม่ใช่สายลุย 100% ที่ปีนเขา จุดไฟนอนเต๊นท์ สะพายเป้ใบใหญ่กลางหลัง
-เที่ยวในประเทศระยะสั้น เพราะของใช้ส่วนมากจะเป็นการเที่ยวต่างประเทศระยะยาว
-เที่ยวยกกรุ๊ป เพราะของใช้ต่างๆจะเป็นแบบ Solo Traveller
-กระทู้ขายของ เพราะของที่แนะนำนั้น อิงจากประสบการณ์ตรง ใช้จริง จ่ายจริง และไม่ได้รับการจ้างให้โฆษณาแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
A : Passport / หนังสือเดินทาง
_____________________________
ห้ามขาด ห้ามหาย ห้ามลืม และต้องค่อยหมั่นตรวจเอกสารทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เช่น
-หนังสือเดินทางไม่ควรหมดอายุก่อนเข้าประเทศใดๆขั้นต่ำ(แบบปลอดภัย) 6 เดือน
-ตรวจสอบวีซ่า วันเข้า-ออกประเทศ
-ตรวจสอบเวลาเข้าสนามบิน เพื่อความปลอดภัยควรถึงก่อนเวลาเดินทางล่วงหน้า 2.5-2 ชั่วโมง/ต่างประเทศ และ 1.5-1 ชั่วโมง/ในประเทศ
-เช็ค Broading Pass อยู่เสมอว่า Broading ที่ Gate ไหน เวลาใด
ประสบการณ์ตรง ไหมเป็นคนที่พก Passport Holder หรือ กระเป๋าใส่หนังสือเดินทาง ก่อน-หลังใช้งานเสร็จค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วใส่พร้อมยื่นให้พนักงานสายการบิน หรือพนักงานคนตรวจเข้าเมืองได้นะคะ แต่ถอดก่อนยืนเล่มจะดีกว่าค่ะ มันยากต่อการสแกนข้อมูล
B: กระเป๋าเดินทาง / Back Pack
______________________________
จากรูปอ้างอิงไหมจะใช้เดินทางตลอดทริป และสามารถนำไปใช้ในส่วนของ Carry ขึ้นเครื่องบินได้เช่นกันโดย …
-น้ำหนักต้องไม่เกิน 7 kg.
-ห้ามของเหลวเกิน 100 ml.
-ห้ามของมีคมทุกชนิด
-แบตตอรี่สำรองควรนำขึ้นเครื่อง
-อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ควรนำขึ้นเครื่อง
แนะนำส่วนตัว เลือกกระเป๋าที่เราสบายไหล่ ไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป และสามารถบรรจุสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ครบ
ประสบการณ์ตรง
-อย่าละเลยสิ่งของเปราะบางที่คิดว่าโหลดใต้เครื่องบินแล้วจะปลอดภัยไม่แตกหัก … มันแตกนะคะ เพราะกระบวนการโหลดกระเป๋าหลังจากที่เรา Check-in เรียบร้อยแล้ว จะถูกการโยน กระแทก หล่น ต่างๆนานา เพราะฉะนั้น ไม่แตกก็ร้าวค่ะ จะสังเกตแผลได้จากการรับกระเป๋าแล้ว คนถึงคิดว่าการ Wrap กระเป๋ารอบใบจะช่วยได้ แต่มันคือการถนอมกระเป๋ารอบนอก แต่ด้านในก็อย่าละเลยเช่นกันค่ะ
-เวลาจัดกระเป๋าสะพายไหล่ทุกเช้า คิดเสมอว่าเราออก Hostel แล้วเราจะไม่ย้อนกลับเข้ามาระหว่างวัน จะกลับอีกทีก็มืด เพราะฉะนั้นของต้องครบ เบา ไม่พะรุงพะรัง ตัดของไม่จำเป็นในทริปวันนั้นออกซะ มิฉะนั้นจะถ่วงเราไปตลอดทริปวันนั้น
C : กระเป๋าสตางค์ / บัตร
_________________________
ไม่ควรพกบัตรไปเยอะ เอาแค่ที่จำเป็นใช้จริงๆ เช่น
-บัตรประจำตัวประชาชน
-บัตรขับขี่ หรือบัตรขับขี่สากล (ใช้ในกรณีเช่ารถ หรือตรวจยืนยันบุคคล)
-บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตแบบVISA (ที่มีวงเงินสำรองตลอดทริป)
ประสบการณ์ตรง
-บัตร YHA ใช้ในกรณีพัก Hostel ที่มีสาขาทั่วโลก และยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดต่างๆของแต่ละประเทศได้อีกด้วย
-บัตร Duty Free ใช้สำหรับซื้อสินค้าปลอดภาษี และยังสามารถเข้าไปใช้บริการ Lounge ได้ก่อนบินข้ามประเทศ
D : อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ
____________________________
ส่วนตัวมีปัญหากับข้อนี้มากเป็นพิเศษ เพราะกลับไทยปีละครั้ง และเดินทางตลอดเวลา เลยค่อนข้างจะพะรุงพะรังกับตัวเองนิดหน่อยแต่แนะนำว่า !!
-เครื่องมือสื่อสาร อันนี้ไม่น่าเป็นกังวล แทบทุกรุ่นถ่ายรูปชัด อัพโหลดกันระดับ HD เอาที่สะดวกขนาดจับแล้วถนัดมือเป็นพอ
-คอมพิวเตอร์ หากเป็นไปได้และไม่ทะเลาะกับเงินทุน ควรมีติดตัวดีๆสักเครื่องเวลาเดินทางข้ามประเทศ ยิ่งเบาและครบทุกฟังชั่นจะน่ารักเป็นพิเศษ
ประสบการณ์ตรง จะใช้ก็ต่อเมื่อจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก เขียนบทความ แต่งภาพ และทำเอกสารต่างๆ
-อุปกรณ์ถ่ายภาพ ไม่ควรพกกล้องโปร ถ้าไม่ได้มาสายกล้อง หรือถ้ามาสายเน้นภาพสวยหลังจบทริป กล้องรุ่นเล็กแต่คุณภาพเท่ากล้องโปรก็มีให้ตัดสินใจมากมาย เอาที่สะดวกตามไลฟ์สไตล์การเที่ยวของแต่ละคนดีกว่าค่ะ
แนะนำส่วนตัว ของเทคโนโลยีทั้งปวง มันเบาที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่มันหนักตอนที่เราต้องพกอุปกรณ์การช๊าตค่ะ เฉพาะฉะนั้น น้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญ น้อยชิ้น แต่เน้นครบและใช้งานได้จริงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเที่ยวระยะสั้น/ยาว
E : ยาสามัญประจำตัว
______________________
ยาเป็นสิ่งเดียวที่เผื่อได้(ในความเห็นส่วนตัวนะคะ) เผื่อตามความเหมาะสม ซึ่งสาเหตุที่ต้องพกนั้น เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างเดินทาง เช่นตอนกลางดึกที่ร้านสะดวกซื้อปิดให้บริการแล้ว หรือในกรณีที่เราป่วยมากจนไม่สามารถออกไปซื้อยาได้ด้วยตัวเอง
แนะนำส่วนตัว ยาแก้ปวด ลดไข้ แก้แพ้ ลูกอมเจ็บคอ พาสเตอร์ยา อย่างละ 1 ชุด
ประสบการณ์ตรง ควรพกขวดน้ำส่วนตัวติดตัวไว้ เพราะต่างประเทศส่วนใหญ่ให้บริการน้ำดื่มฟรีตามสถานที่สาธารณะ และควรพกวิตามินเสริม อุ่นใจ ไร้ไข้ สบายใจตลอดทริป
F : เครื่องนุ่งห่ม
__________________
ส่วนตัวก็มีปัญหากับข้อนี้มากเป็นพิเศษอีกเช่นกัน เพราะต้องตุนเสื้อผ้าถึง 4 ฤดู เลยค่อนข้างจะสงสารกระเป๋าเดินทางและตัวเองนิดหน่อยแต่แนะนำว่า !!
-เดินทางระยะสั้น ควรศึกษาสภาพอากาศของแต่ละประเทศให้ชัวร์ หน้าหนาวก็เอา Jacket/Jean ตัวเก่งไปสัก 2 ตัว เสื้อยืด 3-5 ตัว และรองเท้าที่ใส่สบาย เดินได้ไม่ร้องโอ๊ยระหว่างวัน
-เดินทางระยะยาว ควรมีเสื้อผ้าตัวเก่งของแต่ละชนิด หลากหลายแต่ไม่มากมาย
ประสบการณ์ตรง ทุกสายการบินเข้มงวดเรื่องกระเป๋าเดินทางมาก
-Low Cost คิดราคาตามน้ำหนักจริงที่โหลด
-Full Service จำกัดน้ำหนักกระเป๋าเดินทางตั้งแต่ 23-50 kg.
เพราะฉะนั้น หากใครโหลดกระเป๋าเกิน ก็อย่าไปเสียตังให้กับ Extra Charge หน้าเคาเตอร์นะคะ เด่วจะมา “รู้งี้” ทีหลังน้า
แนะะนำส่วนตัว ถ้ามันจะต้องโดน Extra Charge หน้าเคาเตอร์จริงๆ ถอยเลยค่ะ ถอยกลับมาตั้งหลัก เอาเสื้อผ้าที่หนัก/Jean ออกมาเปลี่ยนใส่เลยค่ะ ที่ช๊าตต่างๆนานา ถือ Carry ขึ้นเครื่อง และถ้าจะเอาแบบปลอดภัยเข้าไป Check-in รอบสองแล้วหน้าไม่แตก ก็ถือ Jacket อีกตัวขึ้นเครื่องสวยๆ แต่ป่าวนะ น้ำหนักกระเป๋าเราเกินตังหาก หุหุ
G : อุปกรณ์กันแดด ลม ฝน
__________________________
หมวกแก๊ป หมวกกันหนาว แว่นกันแดด อย่าละเลยนะคะ อาจจะไม่ได้ใช้จริงมากมายในไทย แต่ต่างประเทศมีไว้ชีวิตจะสะดวกสบายขึ้นเยอะค่ะ
ประสบการณ์ตรง เลือกหมวกตัวเก่งไว้ประเภทละใบ แว่นกันแดดควรเป็นแว่นเลนส์ที่ถนอมสายตาและใช้งานได้จริง ไม่แนะนำแว่นตาแฟชั่นทั่วไปนะคะ มันไม่ดีและส่งผลต่อตาเราในระยะยาวได้ค่ะ
H : เครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ
__________________________
แชมพู ครีมอาบน้ำ เครื่องสำรอง คอนแทคเลนส์ อุปกรณ์ป้องกันเสียง และอื่นๆ
-เดินทางระยะสั้น-ยาว ควรซื้ออุปกรณการอาบน้ำชิดพกพา หรือไปซื้อที่ต่างประเทศหากคิดว่ากระเป๋าน้ำหนักเกินแล้ว ก็ลดน้ำหนักที่ตัวของเหลวจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ประสบการณ์ตรง
-แนะนำซื้ออุปกรณ์การอาบน้ำที่เป็น Body Wash & Shampoo 2in1จะลดปริมาณน้ำหนักไปได้ 50% เลยทีเดียว
-อุปกรณ์ป้องกันเสียง (Earplug) และ ที่ปิดตาเวลานอน สำคัญมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจพัก Backpacker/Hostel เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเรา จะร้องอะไรขึ้นมาตอนกลางคืน และเปิดไฟจัดของกันจนดึกดื่นขนาดไหน
I : กุญแจล็อค
_________________
ใช้ในกรณีที่เราล็อคกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบิน และทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องพัก อีกทั้งยังสามารถนำไปล็อคตู้ Locker ส่วนตัวได้อีกเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ย้าย Backpacker/Hostel บ่อยๆ ควรมีพกติดทริปไว้ประมาณ 2 ชุด
และนี้คือการใช้งานจริงจากประสบการณ์ตรงในการแพ๊คเป้และกระเป๋าเดินทางค่ะ
ไหมเชื่อว่าปัจจุบันคนที่ตัดสินใจออกเที่ยวเองแบบไม่ง้อทัวร์เริ่มเยอะขึ้นมาก ไม่ว่าจะหญิง/ชายลุยเดี่ยว ออกกรุ๊ป หรือยกครัว ก็ล้วนต้องมีการวางแผนทั้งสิ้น ซึ่งการจัดของลงกระเป๋าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้ามไป ไหมอาจจะไม่ใช้นักท่องเที่ยวตัวจริงที่ซื้อ Outdoor Gear ทุกชนิด แต่สุดท้ายการลองก็คือการเรียนรู้ ทำให้เราเลือกจับปรับเปลี่ยนตามความสามารถ และแนวการท่องเที่ยวในแบบของเราอยู่ดี จนทุกวันนี้มองย้อนมาดูตัวเองเสมอว่าเราก็ออกมาจาก Comfort Zone ค่อนข้างไกลมาก ใครที่กำลังมองหาตัวเอง หรืออยากออกเที่ยวหลบไปพักใจ ทำเลยค่ะ เวลาไม่คอยใครหรอกนะคะ มาเริ่มจัดของกันเถอะ เย่!
ขอบคุณที่ไล่ลงอ่านจนจบกระทู้นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับใครบางคนที่กำลังตั้งคำถาม หรือเข้ามาอ่านแบบงงๆไม่มากก็น้อยค่ะ
Subscribe
https://instagram.com/mai28mai28
*ข้อมูลทั้งหมดหากมีความผิดพลาด หรือไม่เหมาะสมประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้
และพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับแก้หากมีความจำเป็นค่ะ*
จัดกระเป๋าอย่างไรไม่ให้ “รู้งี้” HOW TO (back)pack: Based on Real International Experiences.
-- Based on Real International Experiences.--
สวัสดีค่ะ ชาวนักเที่ยวสไตล์แบ๊คแพ๊คทั้งในและนอกประเทศทุกท่าน
สมัยนี้คงพูดยาก ว่าไม่มีใครไม่อยากได้งานที่ดี ที่สามารถเก็บเงินก้อนนำไปเที่ยวรอบโลกได้ โดยเฉพาะประเทศที่เราอยากที่จะไปเองแบบไม่ง้อทัวร์ แต่พอออกเที่ยวทีไร ก็ดันลืมนู้นลืมนี้ทุกที … ไม่ว่าจะเป็นของส่วนตัว ของสำคัญ ของกันเผื่อ หรือของที่คิดว่า
“รู้งี้” พกเอาไว้ดีกว่า หรือ “รู้งี้” ทำไว้แต่แรกก็จบ ... จริงไหมคะ?
ก่อนเริ่มกระทู้ ขออนุญาติแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการเลยละกันนะคะ
เป็นเด็กกรุงเทพฯ อดีตสาวออฟฟิศคนหนึ่งที่ชื่อเล่นว่า “ไหม” ชอบเที่ยว ชอบตะลุย และชอบกิน จุดแปรผันของชีวิตคือ เมื่อปี 2015 เริ่มเที่ยวเองก่อน จนกลายมาเป็นโอกาสได้เริ่มใช้ชีวิตและทำงานที่ต่างประเทศ และเริ่มดำเนินชีวิตแบบอิสระนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งการเที่ยวเดี่ยวในขณะที่ทำงานไปด้วยนั้น นับว่ายาก(มาก) เพราะทำให้เราต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา มันเลยเป็นประสบการณ์ How to ที่อยากจะนำมาแชร์ให้กับคนอื่นๆได้นำไปปรับใช้ในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองกันค่ะ
-- บอกเล่าประวัติการเที่ยวของตัวเองคร่าวๆหลังชีวิตเด็กกรุงก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาจัดของลงกระเป๋ากัน --
จริงๆเริ่มใช้ชีวิตการเที่ยวแบบลุยเดี่ยว(Solo Traveller) มาได้ประมาณ 2 ปี ณ ประเทศธรรมชาติมากๆแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนเข้าประเทศนั้น เราก็เป็นคนกรุงจ๋า รักความสะดวกสบาย ง่ายๆ และถ้าขาดแคลนอะไรก็คือ ไปหาเอาดาบหน้า และเราก็ลิมิตตัวเองระดับหนึ่งด้วยการใช้แค่กระเป๋าลากใบเดียว15 กิโลกรัม ไซส์กลางประเดิมทริปแรกเลย และมีกระเป๋าสะพายไหล่ไว้ใส่ของจำเป็นระหว่างบินข้ามประเทศ
ทุกวันนี้ถึงจะมีรถยนต์ที่ต่างประเทศ มันทำให้เราสะดวกขึ้นมากก็จริง แต่มันทำให้เรานิสัยเสียเรื่องความโลภต่างๆค่ะ เลยต้องมาทิ้งของระหว่างทางกันไป แต่ทริปล่าสุดเดือน7ผ่านมา มีโอกาสได้ออกเที่ยวแบบ Backpacker จริงๆ 1 เดือนเต็ม ผ่านการใช้บริการสายการบิน และขึ้นไฟล์ทนับไม่ถ้วนไปพร้อมกับสัมภาระที่ต้องแบกตลอดทริปถึง 25 kg.! (โหดมากๆค่ะ) เพราะไหมเที่ยวตั้งแต่เมืองที่มีอากาศติดลบถึง -13 - 28 องศา เลยทำให้ตัดใจทิ้งอะไรกลางทางไม่ได้จริงๆ ตอนนี้เลยไฟแรงมากๆที่อยากจะสร้างกระทู้นี้ขึ้นมา อยากให้คนเที่ยวมีความสุขไปตลอดทริปแบบไม่ลำบากนะคะ
เริ่มกันเลยดีกว่า กับสัมภาระที่ต้องเตรียมโดยอิงจากของใช้จริงในชีวิตประจำวันของไหมค่ะ
คำเตือน กระทู้นี้อาจจะไม่เหมาะ หรือไม่แนะนำสำหรับ …
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
A : Passport / หนังสือเดินทาง
_____________________________
ห้ามขาด ห้ามหาย ห้ามลืม และต้องค่อยหมั่นตรวจเอกสารทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เช่น
-หนังสือเดินทางไม่ควรหมดอายุก่อนเข้าประเทศใดๆขั้นต่ำ(แบบปลอดภัย) 6 เดือน
-ตรวจสอบวีซ่า วันเข้า-ออกประเทศ
-ตรวจสอบเวลาเข้าสนามบิน เพื่อความปลอดภัยควรถึงก่อนเวลาเดินทางล่วงหน้า 2.5-2 ชั่วโมง/ต่างประเทศ และ 1.5-1 ชั่วโมง/ในประเทศ
-เช็ค Broading Pass อยู่เสมอว่า Broading ที่ Gate ไหน เวลาใด
ประสบการณ์ตรง ไหมเป็นคนที่พก Passport Holder หรือ กระเป๋าใส่หนังสือเดินทาง ก่อน-หลังใช้งานเสร็จค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วใส่พร้อมยื่นให้พนักงานสายการบิน หรือพนักงานคนตรวจเข้าเมืองได้นะคะ แต่ถอดก่อนยืนเล่มจะดีกว่าค่ะ มันยากต่อการสแกนข้อมูล
B: กระเป๋าเดินทาง / Back Pack
______________________________
จากรูปอ้างอิงไหมจะใช้เดินทางตลอดทริป และสามารถนำไปใช้ในส่วนของ Carry ขึ้นเครื่องบินได้เช่นกันโดย …
-น้ำหนักต้องไม่เกิน 7 kg.
-ห้ามของเหลวเกิน 100 ml.
-ห้ามของมีคมทุกชนิด
-แบตตอรี่สำรองควรนำขึ้นเครื่อง
-อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ควรนำขึ้นเครื่อง
แนะนำส่วนตัว เลือกกระเป๋าที่เราสบายไหล่ ไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป และสามารถบรรจุสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ครบ
ประสบการณ์ตรง
-อย่าละเลยสิ่งของเปราะบางที่คิดว่าโหลดใต้เครื่องบินแล้วจะปลอดภัยไม่แตกหัก … มันแตกนะคะ เพราะกระบวนการโหลดกระเป๋าหลังจากที่เรา Check-in เรียบร้อยแล้ว จะถูกการโยน กระแทก หล่น ต่างๆนานา เพราะฉะนั้น ไม่แตกก็ร้าวค่ะ จะสังเกตแผลได้จากการรับกระเป๋าแล้ว คนถึงคิดว่าการ Wrap กระเป๋ารอบใบจะช่วยได้ แต่มันคือการถนอมกระเป๋ารอบนอก แต่ด้านในก็อย่าละเลยเช่นกันค่ะ
-เวลาจัดกระเป๋าสะพายไหล่ทุกเช้า คิดเสมอว่าเราออก Hostel แล้วเราจะไม่ย้อนกลับเข้ามาระหว่างวัน จะกลับอีกทีก็มืด เพราะฉะนั้นของต้องครบ เบา ไม่พะรุงพะรัง ตัดของไม่จำเป็นในทริปวันนั้นออกซะ มิฉะนั้นจะถ่วงเราไปตลอดทริปวันนั้น
C : กระเป๋าสตางค์ / บัตร
_________________________
ไม่ควรพกบัตรไปเยอะ เอาแค่ที่จำเป็นใช้จริงๆ เช่น
-บัตรประจำตัวประชาชน
-บัตรขับขี่ หรือบัตรขับขี่สากล (ใช้ในกรณีเช่ารถ หรือตรวจยืนยันบุคคล)
-บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตแบบVISA (ที่มีวงเงินสำรองตลอดทริป)
ประสบการณ์ตรง
-บัตร YHA ใช้ในกรณีพัก Hostel ที่มีสาขาทั่วโลก และยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดต่างๆของแต่ละประเทศได้อีกด้วย
-บัตร Duty Free ใช้สำหรับซื้อสินค้าปลอดภาษี และยังสามารถเข้าไปใช้บริการ Lounge ได้ก่อนบินข้ามประเทศ
D : อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ
____________________________
ส่วนตัวมีปัญหากับข้อนี้มากเป็นพิเศษ เพราะกลับไทยปีละครั้ง และเดินทางตลอดเวลา เลยค่อนข้างจะพะรุงพะรังกับตัวเองนิดหน่อยแต่แนะนำว่า !!
-เครื่องมือสื่อสาร อันนี้ไม่น่าเป็นกังวล แทบทุกรุ่นถ่ายรูปชัด อัพโหลดกันระดับ HD เอาที่สะดวกขนาดจับแล้วถนัดมือเป็นพอ
-คอมพิวเตอร์ หากเป็นไปได้และไม่ทะเลาะกับเงินทุน ควรมีติดตัวดีๆสักเครื่องเวลาเดินทางข้ามประเทศ ยิ่งเบาและครบทุกฟังชั่นจะน่ารักเป็นพิเศษ
ประสบการณ์ตรง จะใช้ก็ต่อเมื่อจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก เขียนบทความ แต่งภาพ และทำเอกสารต่างๆ
-อุปกรณ์ถ่ายภาพ ไม่ควรพกกล้องโปร ถ้าไม่ได้มาสายกล้อง หรือถ้ามาสายเน้นภาพสวยหลังจบทริป กล้องรุ่นเล็กแต่คุณภาพเท่ากล้องโปรก็มีให้ตัดสินใจมากมาย เอาที่สะดวกตามไลฟ์สไตล์การเที่ยวของแต่ละคนดีกว่าค่ะ
แนะนำส่วนตัว ของเทคโนโลยีทั้งปวง มันเบาที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่มันหนักตอนที่เราต้องพกอุปกรณ์การช๊าตค่ะ เฉพาะฉะนั้น น้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญ น้อยชิ้น แต่เน้นครบและใช้งานได้จริงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเที่ยวระยะสั้น/ยาว
E : ยาสามัญประจำตัว
______________________
ยาเป็นสิ่งเดียวที่เผื่อได้(ในความเห็นส่วนตัวนะคะ) เผื่อตามความเหมาะสม ซึ่งสาเหตุที่ต้องพกนั้น เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างเดินทาง เช่นตอนกลางดึกที่ร้านสะดวกซื้อปิดให้บริการแล้ว หรือในกรณีที่เราป่วยมากจนไม่สามารถออกไปซื้อยาได้ด้วยตัวเอง
แนะนำส่วนตัว ยาแก้ปวด ลดไข้ แก้แพ้ ลูกอมเจ็บคอ พาสเตอร์ยา อย่างละ 1 ชุด
ประสบการณ์ตรง ควรพกขวดน้ำส่วนตัวติดตัวไว้ เพราะต่างประเทศส่วนใหญ่ให้บริการน้ำดื่มฟรีตามสถานที่สาธารณะ และควรพกวิตามินเสริม อุ่นใจ ไร้ไข้ สบายใจตลอดทริป
F : เครื่องนุ่งห่ม
__________________
ส่วนตัวก็มีปัญหากับข้อนี้มากเป็นพิเศษอีกเช่นกัน เพราะต้องตุนเสื้อผ้าถึง 4 ฤดู เลยค่อนข้างจะสงสารกระเป๋าเดินทางและตัวเองนิดหน่อยแต่แนะนำว่า !!
-เดินทางระยะสั้น ควรศึกษาสภาพอากาศของแต่ละประเทศให้ชัวร์ หน้าหนาวก็เอา Jacket/Jean ตัวเก่งไปสัก 2 ตัว เสื้อยืด 3-5 ตัว และรองเท้าที่ใส่สบาย เดินได้ไม่ร้องโอ๊ยระหว่างวัน
-เดินทางระยะยาว ควรมีเสื้อผ้าตัวเก่งของแต่ละชนิด หลากหลายแต่ไม่มากมาย
ประสบการณ์ตรง ทุกสายการบินเข้มงวดเรื่องกระเป๋าเดินทางมาก
-Low Cost คิดราคาตามน้ำหนักจริงที่โหลด
-Full Service จำกัดน้ำหนักกระเป๋าเดินทางตั้งแต่ 23-50 kg.
เพราะฉะนั้น หากใครโหลดกระเป๋าเกิน ก็อย่าไปเสียตังให้กับ Extra Charge หน้าเคาเตอร์นะคะ เด่วจะมา “รู้งี้” ทีหลังน้า
แนะะนำส่วนตัว ถ้ามันจะต้องโดน Extra Charge หน้าเคาเตอร์จริงๆ ถอยเลยค่ะ ถอยกลับมาตั้งหลัก เอาเสื้อผ้าที่หนัก/Jean ออกมาเปลี่ยนใส่เลยค่ะ ที่ช๊าตต่างๆนานา ถือ Carry ขึ้นเครื่อง และถ้าจะเอาแบบปลอดภัยเข้าไป Check-in รอบสองแล้วหน้าไม่แตก ก็ถือ Jacket อีกตัวขึ้นเครื่องสวยๆ แต่ป่าวนะ น้ำหนักกระเป๋าเราเกินตังหาก หุหุ
G : อุปกรณ์กันแดด ลม ฝน
__________________________
หมวกแก๊ป หมวกกันหนาว แว่นกันแดด อย่าละเลยนะคะ อาจจะไม่ได้ใช้จริงมากมายในไทย แต่ต่างประเทศมีไว้ชีวิตจะสะดวกสบายขึ้นเยอะค่ะ
ประสบการณ์ตรง เลือกหมวกตัวเก่งไว้ประเภทละใบ แว่นกันแดดควรเป็นแว่นเลนส์ที่ถนอมสายตาและใช้งานได้จริง ไม่แนะนำแว่นตาแฟชั่นทั่วไปนะคะ มันไม่ดีและส่งผลต่อตาเราในระยะยาวได้ค่ะ
H : เครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ
__________________________
แชมพู ครีมอาบน้ำ เครื่องสำรอง คอนแทคเลนส์ อุปกรณ์ป้องกันเสียง และอื่นๆ
-เดินทางระยะสั้น-ยาว ควรซื้ออุปกรณการอาบน้ำชิดพกพา หรือไปซื้อที่ต่างประเทศหากคิดว่ากระเป๋าน้ำหนักเกินแล้ว ก็ลดน้ำหนักที่ตัวของเหลวจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ประสบการณ์ตรง
-แนะนำซื้ออุปกรณ์การอาบน้ำที่เป็น Body Wash & Shampoo 2in1จะลดปริมาณน้ำหนักไปได้ 50% เลยทีเดียว
-อุปกรณ์ป้องกันเสียง (Earplug) และ ที่ปิดตาเวลานอน สำคัญมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจพัก Backpacker/Hostel เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเรา จะร้องอะไรขึ้นมาตอนกลางคืน และเปิดไฟจัดของกันจนดึกดื่นขนาดไหน
I : กุญแจล็อค
_________________
ใช้ในกรณีที่เราล็อคกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบิน และทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องพัก อีกทั้งยังสามารถนำไปล็อคตู้ Locker ส่วนตัวได้อีกเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ย้าย Backpacker/Hostel บ่อยๆ ควรมีพกติดทริปไว้ประมาณ 2 ชุด
ไหมเชื่อว่าปัจจุบันคนที่ตัดสินใจออกเที่ยวเองแบบไม่ง้อทัวร์เริ่มเยอะขึ้นมาก ไม่ว่าจะหญิง/ชายลุยเดี่ยว ออกกรุ๊ป หรือยกครัว ก็ล้วนต้องมีการวางแผนทั้งสิ้น ซึ่งการจัดของลงกระเป๋าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้ามไป ไหมอาจจะไม่ใช้นักท่องเที่ยวตัวจริงที่ซื้อ Outdoor Gear ทุกชนิด แต่สุดท้ายการลองก็คือการเรียนรู้ ทำให้เราเลือกจับปรับเปลี่ยนตามความสามารถ และแนวการท่องเที่ยวในแบบของเราอยู่ดี จนทุกวันนี้มองย้อนมาดูตัวเองเสมอว่าเราก็ออกมาจาก Comfort Zone ค่อนข้างไกลมาก ใครที่กำลังมองหาตัวเอง หรืออยากออกเที่ยวหลบไปพักใจ ทำเลยค่ะ เวลาไม่คอยใครหรอกนะคะ มาเริ่มจัดของกันเถอะ เย่!
ขอบคุณที่ไล่ลงอ่านจนจบกระทู้นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับใครบางคนที่กำลังตั้งคำถาม หรือเข้ามาอ่านแบบงงๆไม่มากก็น้อยค่ะ
Subscribe https://instagram.com/mai28mai28
*ข้อมูลทั้งหมดหากมีความผิดพลาด หรือไม่เหมาะสมประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้
และพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับแก้หากมีความจำเป็นค่ะ*