ใครบ้างที่อยู่ดีๆ ก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ! เคยเป็นกันไหม เวลาเจออะไรที่ถูกกดดันมากๆ พร้อมจะระเบิดและด่าคนนั้นที่ทำอะไรไม่ได้อย่างใจเรา
ช่วงเกริ่นนำ....อาจจะดูน่ากลัวไปนิสนึงนะ แต่เราจะมาแชร์ชีวิตส่วนหนึ่งของเราให้ฟังในกระทู้นี้ เรื่องมีอยู่ว่า
เราเริ่มต้นการทำงานในอายุยังน้อย ก็คือทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั่งแต่ มัธยมปีที่ 4 ช่วงปิดเทอมงานแรกที่เราทำโหดมาก ค่าแรงวันละ 220 บาท เป็นงานเกี่ยวกับการทำด้าย (ด้ายเย็บผ้า) ซึ่งทำจากนุ่น เราต้องคอยเข็นถังนุ่นใส่เครื่องจักร เพื่อให้มันกลองออกมาเป็นเส้นใหญ่ๆแล้วนำไปแยกอีกที ซึ่งการทำงานต้องใส่ผ้าปิดปากไม่มีอากาศหายใจ วันนึงต้องทำตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ เราถูกกดดันจากหัวหน้างาน และเพื่อนๆรอบข้างซึ่งกลับบ้านมาทีไรแอบร้องไห้ตลอด บางครั้งแอบร้องไห้ในห้องน้ำ น้อยใจตัวเองที่ครอบครัวทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เราเรียนเราต้องหาเงินเรียนเอง ตอนอายุยังน้อย! งานต่อมา เมื่อเราจบมัธยมปลายแล้ว ทางบ้านก็กดดันอยากให้เราทำงานเลยไม่ให้เรียนต่อ ซึ่งเราไม่ยอม ครอบครัวเลยให้หาเงินเลี้ยงตัวเอง ให้เงินบ้างในช่วงที่ลำบากจริงๆ เราจึงตัดสินใจเรียนต่อ ป.ตรี ก็สมัครเรียนร้อยแล้ว ระหว่างรอมหาลัยเปิดเราได้สมัครงานกับเพื่อนไว้ ทำเกี่ยวกับ พนักงานเติมของ (เติมชุดนักเรียน) เป็นชุดนักเรียนยี่ห้อถูกๆในห้างดังถูกลูกค้าต่อว่าบ้างของหมดไม่พอบ้าง โดนเพื่อนร่วมงานต่อว่าเป็นเรื่องเป็นราว สรุปรวมๆก็โอเครอยู่ ซึ่งเขาจ้างเป็นระยะแค่ 1 เดือน ครึ่ง ได้เงินประมาณ 9,825 บาท ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็ถือว่าเยอะอยู่สำหรับเรา ตอนนั้นเอาไปจ่ายค่ากิจกรรมค่าเสื้อคณะและอื่นๆเกือบหมด!!!!!
งานต่อมาเราก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน เพราะหยุดได้แค่ 5-6 วันก็เดินสายสมัครงานต่อเพราะตั่งใจว่าระหว่างเรียนมหาลัยจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งเราเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานที่ห้างในจังหวัดกรุงเก่าแห่งหนึ่งเป็นร้านไอศกรีมชื่อดังที่ทุกคนรู้จักมีทั่วประเทศไทย เราก็ลองเขียนใบสมัครดูและไปยื่นให้กับผู้จัดการร้าน ปรากฎว่า ร้านต้องการคนเพิ่มพอดี เราโชคดีมากที่ได้งานพาสทามทำต่อเลย จากนั้นก็ทำ ทำ ทำ ทำ มาตลอดในระยะเวลา 4 ปีกว่าๆ ทำไปด้วยเรียนไปด้วย ถูกเพื่อนๆว่าบ้างบางครั้งว่าไม่ไปเรียนทำแต่งาน ซึ่งงานมีลักษณะที่ต้องบริการลูกค้าขายไอศกรีม ถูกลูกค้าชี้หน้าด่าบ้าง ถูกเพื่อนร่วมงานแย่ๆทำตัวไม่ดีใส่บ้าง มันทั้งเคลียดและสนุก บางครั้งแอบทดไม่ไหวร้องไห้ก็มี(ประมาณว่าน้อยใจตัวเองเวลาเห็นเด็กคนอื่นที่มีพ่อและแม่คอยให้เงิน) เราทำงานเต็มทุกวัน เสาร์อาทิตย์วันหยุดสำคัญต่างๆก็ไม่ได้หยุด ทำแบบนี้มา4 ปี.................
ยังไม่จบ ...... จากนั้นเราเริ่มมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ คือขี้โมโห เหวี่ยงเพื่อนร่วมงาน อารมณ์แปรปรวนไม่เป็นตัวของตัวเองถูกเพื่อนร่วมงานกดดันให้ออก จากนั้น เราก็ลาออกแล้วเว้นระยะห่างของการทำงาน 1 เดือนกว่าๆ ตอนนั้นเรายังเรียนอยู่ต้องใช้เงิน และตอนออกมาก็ได้เงินเดือนไม่ค่อยเยอะไม่พอใช้ จึงตัดสินใจยืมเงินพี่ที่สนิทคนหนึ่งเขาใจดีมากให้ยืมที เป็นหมื่นๆ เขาไว้ใจเรา เขาให้เรายืมเงินเพราะสงสารและเพื่อไปตั่งตัวใหม่
ต่อมาเราไม่หยุดจริงๆ เว้นระยะการทำงานได้แค่ 1-2 เดือนก็กลับมาทำงานเก่า แต่ที่ใหม่ เงินเดือนดีกว่าเดิม และทำจนเรียนจบ ป.ตรี เราภูมิใจในตัวเองมาก และที่ทำงานเสนอปรับให้เราเป็นพนักงานประจำ เงินเดือนเริ่มต้น 15000 บวกกับค่าตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการอีก 1200 บาทต่อเดือนและค่าคอมมิสชั่นอีก 2000 บาทต่อเดือนถ้าเป้าหมายผ่าน เราดีใจมากและ มันมาพร้อมกับความกดดันที่สูงขึ้น เขาวัดผลการทำงานด้วยการไม่ขาดลามาสายและการทำงานในร้านต้องละเอียดรันงานเองได้ เราเคลียดทุกวันทุกวันนี้ นอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายเดือน มันทำให้อาการเก่ากำเริบ คือควบคุมตัวเองไม่อยู่ อารมณ์แปรปรวน และไม่เป็นตัวของตัวเอง เรากลัวตัวเองมาก บางครั้งก็เป็นคนปกติ และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ จึงมาเล่าให้ฟัง ว่าควรทำไงดี!!!!!
มีปัญหากับสุขภาพจิต ควบคุมตัวเองไม่ได้ เนื่องจากทำงานตั่งแต่อายุยังน้อย และทำงานมากเกินไป
ช่วงเกริ่นนำ....อาจจะดูน่ากลัวไปนิสนึงนะ แต่เราจะมาแชร์ชีวิตส่วนหนึ่งของเราให้ฟังในกระทู้นี้ เรื่องมีอยู่ว่า
เราเริ่มต้นการทำงานในอายุยังน้อย ก็คือทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั่งแต่ มัธยมปีที่ 4 ช่วงปิดเทอมงานแรกที่เราทำโหดมาก ค่าแรงวันละ 220 บาท เป็นงานเกี่ยวกับการทำด้าย (ด้ายเย็บผ้า) ซึ่งทำจากนุ่น เราต้องคอยเข็นถังนุ่นใส่เครื่องจักร เพื่อให้มันกลองออกมาเป็นเส้นใหญ่ๆแล้วนำไปแยกอีกที ซึ่งการทำงานต้องใส่ผ้าปิดปากไม่มีอากาศหายใจ วันนึงต้องทำตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ เราถูกกดดันจากหัวหน้างาน และเพื่อนๆรอบข้างซึ่งกลับบ้านมาทีไรแอบร้องไห้ตลอด บางครั้งแอบร้องไห้ในห้องน้ำ น้อยใจตัวเองที่ครอบครัวทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เราเรียนเราต้องหาเงินเรียนเอง ตอนอายุยังน้อย! งานต่อมา เมื่อเราจบมัธยมปลายแล้ว ทางบ้านก็กดดันอยากให้เราทำงานเลยไม่ให้เรียนต่อ ซึ่งเราไม่ยอม ครอบครัวเลยให้หาเงินเลี้ยงตัวเอง ให้เงินบ้างในช่วงที่ลำบากจริงๆ เราจึงตัดสินใจเรียนต่อ ป.ตรี ก็สมัครเรียนร้อยแล้ว ระหว่างรอมหาลัยเปิดเราได้สมัครงานกับเพื่อนไว้ ทำเกี่ยวกับ พนักงานเติมของ (เติมชุดนักเรียน) เป็นชุดนักเรียนยี่ห้อถูกๆในห้างดังถูกลูกค้าต่อว่าบ้างของหมดไม่พอบ้าง โดนเพื่อนร่วมงานต่อว่าเป็นเรื่องเป็นราว สรุปรวมๆก็โอเครอยู่ ซึ่งเขาจ้างเป็นระยะแค่ 1 เดือน ครึ่ง ได้เงินประมาณ 9,825 บาท ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็ถือว่าเยอะอยู่สำหรับเรา ตอนนั้นเอาไปจ่ายค่ากิจกรรมค่าเสื้อคณะและอื่นๆเกือบหมด!!!!!
งานต่อมาเราก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน เพราะหยุดได้แค่ 5-6 วันก็เดินสายสมัครงานต่อเพราะตั่งใจว่าระหว่างเรียนมหาลัยจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งเราเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานที่ห้างในจังหวัดกรุงเก่าแห่งหนึ่งเป็นร้านไอศกรีมชื่อดังที่ทุกคนรู้จักมีทั่วประเทศไทย เราก็ลองเขียนใบสมัครดูและไปยื่นให้กับผู้จัดการร้าน ปรากฎว่า ร้านต้องการคนเพิ่มพอดี เราโชคดีมากที่ได้งานพาสทามทำต่อเลย จากนั้นก็ทำ ทำ ทำ ทำ มาตลอดในระยะเวลา 4 ปีกว่าๆ ทำไปด้วยเรียนไปด้วย ถูกเพื่อนๆว่าบ้างบางครั้งว่าไม่ไปเรียนทำแต่งาน ซึ่งงานมีลักษณะที่ต้องบริการลูกค้าขายไอศกรีม ถูกลูกค้าชี้หน้าด่าบ้าง ถูกเพื่อนร่วมงานแย่ๆทำตัวไม่ดีใส่บ้าง มันทั้งเคลียดและสนุก บางครั้งแอบทดไม่ไหวร้องไห้ก็มี(ประมาณว่าน้อยใจตัวเองเวลาเห็นเด็กคนอื่นที่มีพ่อและแม่คอยให้เงิน) เราทำงานเต็มทุกวัน เสาร์อาทิตย์วันหยุดสำคัญต่างๆก็ไม่ได้หยุด ทำแบบนี้มา4 ปี.................
ยังไม่จบ ...... จากนั้นเราเริ่มมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ คือขี้โมโห เหวี่ยงเพื่อนร่วมงาน อารมณ์แปรปรวนไม่เป็นตัวของตัวเองถูกเพื่อนร่วมงานกดดันให้ออก จากนั้น เราก็ลาออกแล้วเว้นระยะห่างของการทำงาน 1 เดือนกว่าๆ ตอนนั้นเรายังเรียนอยู่ต้องใช้เงิน และตอนออกมาก็ได้เงินเดือนไม่ค่อยเยอะไม่พอใช้ จึงตัดสินใจยืมเงินพี่ที่สนิทคนหนึ่งเขาใจดีมากให้ยืมที เป็นหมื่นๆ เขาไว้ใจเรา เขาให้เรายืมเงินเพราะสงสารและเพื่อไปตั่งตัวใหม่
ต่อมาเราไม่หยุดจริงๆ เว้นระยะการทำงานได้แค่ 1-2 เดือนก็กลับมาทำงานเก่า แต่ที่ใหม่ เงินเดือนดีกว่าเดิม และทำจนเรียนจบ ป.ตรี เราภูมิใจในตัวเองมาก และที่ทำงานเสนอปรับให้เราเป็นพนักงานประจำ เงินเดือนเริ่มต้น 15000 บวกกับค่าตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการอีก 1200 บาทต่อเดือนและค่าคอมมิสชั่นอีก 2000 บาทต่อเดือนถ้าเป้าหมายผ่าน เราดีใจมากและ มันมาพร้อมกับความกดดันที่สูงขึ้น เขาวัดผลการทำงานด้วยการไม่ขาดลามาสายและการทำงานในร้านต้องละเอียดรันงานเองได้ เราเคลียดทุกวันทุกวันนี้ นอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายเดือน มันทำให้อาการเก่ากำเริบ คือควบคุมตัวเองไม่อยู่ อารมณ์แปรปรวน และไม่เป็นตัวของตัวเอง เรากลัวตัวเองมาก บางครั้งก็เป็นคนปกติ และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ จึงมาเล่าให้ฟัง ว่าควรทำไงดี!!!!!